ตั้งแต่จบมา เราทำงานที่กรุงเทพ 1 ปี ซึ่งเป็นบริษัทที่ดีมาก ส่วนแฟนเราทำธุรกิจส่วนตัวตั้งแต่จบ โดยเราตกลงกันว่า หากแฟนสามารถทำธุรกิจได้ครบ 1 ล้าน เราจะต้องออกจากงานตัวเองมาช่วยธุรกิจแฟน โดยตอนที่เรากลับมาช่วย เรามีมรดกที่ได้มาจากพ่อที่เสียรวมเงินเก็บเราเองประมาณ 7 แสนบาท หลังจากกลับมาเราคุยกันว่าจะใช้เงินรวมกันทั้งหมด และก็เก็บรวมกันมาตลอด จนตอนนี้เรากับแฟนมีสมบัติที่สร้างร่วมกันมาคือ บ้าน 3 หลังกับเงินอีกจำนวนหนึ่ง มูลค่ารวมๆน่าจะอยู่ที่ประมาณ 12 ล้าน (โดยประมาณ)
ทีนี้ปัญหามันเกิดตอนมานั่งคุยกันว่า จะต้องตกลงแบ่งมรดก เผื่อวันข้างหน้าเกิดอะไรขึ้น จะได้ไม่มีปัญหาทิ้งไว้ให้คนด้านหลัง ซึ่งหากใครเป็นอะไรไปคนนึง จะแบ่งครึ่งนึงให้คนที่อยู่ อีกครึ่งให้ครอบครัวคนที่จากไป ก็จบไป แต่มามีปัญหากันตอนตกลงกันว่าหากเป็นอะไรพร้อมกันทั้งคู่ควรจะแบ่งยังไง
แต่ขอเกริ่นก่อนว่า แม่เรามีเราเหลือแค่คนเดียว เราจึงพาแม่มาอยู่ด้วย และให้เงินเดือนแม่ 3,000 บาท และเนื่องจากแม่ช่วยทำงานบ้านทั้งหมด เราก็ออกค่าใช้จ่ายการกินให้แม่เพิ่มเติม โดยแฟนให้เราตั้งเงินให้แม่กินตลอดอย่าให้ขาด ส่วนพ่อแม่แฟนมีลูก 3 คน แฟนเราให้เงินเดือนพ่อแม่รวม 5,000 บาท มาตลอด แต่มาช่วงเดือนหลังนี้ แฟนอยากให้พ่อแม่เท่ากับแม่เราคือคนละ 3,000 ก็เลยเป็น 6,000 บาท โดยไม่ได้ให้อะไรเพิ่มเติมระหว่างเดือน ยกเว้นพ่อแม่มาช่วยหาช่าง คุมงานให้ หรือลงมือทำงานเอง แฟนเราก็จะให้เงินพ่อแม่เพิ่มไป โดยที่พ่อแม่พูดตลอดว่าจะไม่เอา แต่แฟนก็ให้ไปตลอด ตอนที่แม่เราย้ายมาบ้านเรา พ่อแม่แฟนก็ช่วยขนของมาให้ ส่วนแม่เรา ทุกครั้งที่พ่อแม่แฟนมา แม่เราจะหาข้าว ขนม ของกินมาตั้งให้พ่อแม่แฟนตลอด เพราะความคิดแม่เราคือเห็นอะไรน่ากินก็จะนึกถึง อยากให้ลองกินตลอด
ประเด็นตอนนี้คือ ทั้ง 3 คน (พ่อแม่แฟนและแม่เรา) ทะเลาะกัน ตอนนี้คือแฟนเราก็พยายามเชื่อมให้ทุกคนดีกัน จนพ่อแม่แฟนเริ่มพยายามลดทิฐิ ชวนแม่เราคุยได้ 2 ครั้ง แต่หลังจากนั้นแม่เราก็ไม่ได้มาชวนพ่อแม่แฟนคุยเลยและก็อยู่แต่ในห้องนอนตัวเองตลอด สำหรับแฟนคือมองแม่เราว่าพยายามหลบหน้าพ่อแม่เค้า แต่มุมมองเราคิดว่าแม่คงยังโกรธอยู่ ซึ่งปกติแม่เราเป็นคนดื้ออยู่แล้ว เราก็คิดว่าเราจะพยายามคุยกับแม่เรื่อยๆ แต่มันก็ต้องใช้เวลา เพราะเรามองว่านิสัยแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน บางคนหายไว บางคนก็โกรธนาน มันเลยทำให้เรากับแฟนทะเลาะกันตลอด
ทีนี้เรากับแฟนมานั่งคุยกันเรื่องการแบ่งมรดก ในกรณีที่เรากับแฟนเสียชีวิตพร้อมกัน (อันนี้คุยไว้เผื่ออนาคตเพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง)
เราคิดว่า เราทำงานร่วมกับแฟนมา ความคิดเราคือ แม้แฟนจะทำงานมากกว่าและเป็นคนเริ่มต้นธุรกิจ แต่เรามองว่าเราอุตส่าทิ้งงานด้านที่เราเรียนมา และมันก็สามารถเติบโตได้ แล้วกลับมาช่วยเค้าทำงาน และคอยซัพพอร์ตงานหลังบ้านทุกอย่าง แล้วพอแฟนบอกว่าให้รวมเงินกัน เราก็มองมาตลอดว่า มันคือการแบ่งกันคนละครึ่ง ดังนั้น หากเป็นอะไรขึ้นมา เราก็อยากให้แม่ได้ส่วนของเราไปครึ่งหนึ่ง เพราะแม่เรามีแค่เราคนเดียว ไม่มีสมบัติส่วนตัวใดๆเลย อีกทั้งพ่อแม่แฟนยังมีสมบัติส่วนตัวและยังมีพี่อีก 2 คนที่สามารถดูแลต่อได้
แต่ความคิดแฟนคือ การที่เราแบ่งเงินให้ สมมติว่ามี 12 ล้าน แล้วเราให้แม่ 6 ล้าน ให้พ่อเค้า 3 ล้าน แม่เค้า 3 ล้าน มันไม่แฟร์สำหรับเค้า
แฟนบอกว่าอยากให้แบ่งเท่าเทียมกัน คือหาร 3 โดยมี พ่อแฟน แม่แฟน และแม่เรา เพราะไม่รู้ว่าในอนาคตพ่อแม่แฟนอาจจะแยกทางกันรึป่าว
ทุกคนจะได้มีศักดิ์เท่ากันหมด แฟนบอกว่าควรแบ่งให้เท่ากัน ต้องมองเป็นคนๆ ไม่ใช่มองแค่เรากับเค้า เพราะถ้าเราไม่อยู่ทั้งคู่ ต้องไม่มองเป็น 2 คนแล้ว ต้องมองคนที่เหลือว่ามีกี่คน อีกทั้งแฟนยังมองว่าแม่เราเคยมีปัญหาหนี้สิน เก็บเงินไม่อยู่เลยไม่อยากให้แม่เราเยอะ
สุดท้ายเราเลยตกลงไปตามแฟน แต่เราก็อยากรู้ว่าปกติมันควรจะเป็นแบบไหน เป็นทุกคนๆจะแบ่งยังไงกันคะ
ทะเลาะกับแฟนเรื่องแบ่งมรดกหลังเสียชีวิต
ทีนี้ปัญหามันเกิดตอนมานั่งคุยกันว่า จะต้องตกลงแบ่งมรดก เผื่อวันข้างหน้าเกิดอะไรขึ้น จะได้ไม่มีปัญหาทิ้งไว้ให้คนด้านหลัง ซึ่งหากใครเป็นอะไรไปคนนึง จะแบ่งครึ่งนึงให้คนที่อยู่ อีกครึ่งให้ครอบครัวคนที่จากไป ก็จบไป แต่มามีปัญหากันตอนตกลงกันว่าหากเป็นอะไรพร้อมกันทั้งคู่ควรจะแบ่งยังไง
แต่ขอเกริ่นก่อนว่า แม่เรามีเราเหลือแค่คนเดียว เราจึงพาแม่มาอยู่ด้วย และให้เงินเดือนแม่ 3,000 บาท และเนื่องจากแม่ช่วยทำงานบ้านทั้งหมด เราก็ออกค่าใช้จ่ายการกินให้แม่เพิ่มเติม โดยแฟนให้เราตั้งเงินให้แม่กินตลอดอย่าให้ขาด ส่วนพ่อแม่แฟนมีลูก 3 คน แฟนเราให้เงินเดือนพ่อแม่รวม 5,000 บาท มาตลอด แต่มาช่วงเดือนหลังนี้ แฟนอยากให้พ่อแม่เท่ากับแม่เราคือคนละ 3,000 ก็เลยเป็น 6,000 บาท โดยไม่ได้ให้อะไรเพิ่มเติมระหว่างเดือน ยกเว้นพ่อแม่มาช่วยหาช่าง คุมงานให้ หรือลงมือทำงานเอง แฟนเราก็จะให้เงินพ่อแม่เพิ่มไป โดยที่พ่อแม่พูดตลอดว่าจะไม่เอา แต่แฟนก็ให้ไปตลอด ตอนที่แม่เราย้ายมาบ้านเรา พ่อแม่แฟนก็ช่วยขนของมาให้ ส่วนแม่เรา ทุกครั้งที่พ่อแม่แฟนมา แม่เราจะหาข้าว ขนม ของกินมาตั้งให้พ่อแม่แฟนตลอด เพราะความคิดแม่เราคือเห็นอะไรน่ากินก็จะนึกถึง อยากให้ลองกินตลอด
ประเด็นตอนนี้คือ ทั้ง 3 คน (พ่อแม่แฟนและแม่เรา) ทะเลาะกัน ตอนนี้คือแฟนเราก็พยายามเชื่อมให้ทุกคนดีกัน จนพ่อแม่แฟนเริ่มพยายามลดทิฐิ ชวนแม่เราคุยได้ 2 ครั้ง แต่หลังจากนั้นแม่เราก็ไม่ได้มาชวนพ่อแม่แฟนคุยเลยและก็อยู่แต่ในห้องนอนตัวเองตลอด สำหรับแฟนคือมองแม่เราว่าพยายามหลบหน้าพ่อแม่เค้า แต่มุมมองเราคิดว่าแม่คงยังโกรธอยู่ ซึ่งปกติแม่เราเป็นคนดื้ออยู่แล้ว เราก็คิดว่าเราจะพยายามคุยกับแม่เรื่อยๆ แต่มันก็ต้องใช้เวลา เพราะเรามองว่านิสัยแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน บางคนหายไว บางคนก็โกรธนาน มันเลยทำให้เรากับแฟนทะเลาะกันตลอด
ทีนี้เรากับแฟนมานั่งคุยกันเรื่องการแบ่งมรดก ในกรณีที่เรากับแฟนเสียชีวิตพร้อมกัน (อันนี้คุยไว้เผื่ออนาคตเพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง)
เราคิดว่า เราทำงานร่วมกับแฟนมา ความคิดเราคือ แม้แฟนจะทำงานมากกว่าและเป็นคนเริ่มต้นธุรกิจ แต่เรามองว่าเราอุตส่าทิ้งงานด้านที่เราเรียนมา และมันก็สามารถเติบโตได้ แล้วกลับมาช่วยเค้าทำงาน และคอยซัพพอร์ตงานหลังบ้านทุกอย่าง แล้วพอแฟนบอกว่าให้รวมเงินกัน เราก็มองมาตลอดว่า มันคือการแบ่งกันคนละครึ่ง ดังนั้น หากเป็นอะไรขึ้นมา เราก็อยากให้แม่ได้ส่วนของเราไปครึ่งหนึ่ง เพราะแม่เรามีแค่เราคนเดียว ไม่มีสมบัติส่วนตัวใดๆเลย อีกทั้งพ่อแม่แฟนยังมีสมบัติส่วนตัวและยังมีพี่อีก 2 คนที่สามารถดูแลต่อได้
แต่ความคิดแฟนคือ การที่เราแบ่งเงินให้ สมมติว่ามี 12 ล้าน แล้วเราให้แม่ 6 ล้าน ให้พ่อเค้า 3 ล้าน แม่เค้า 3 ล้าน มันไม่แฟร์สำหรับเค้า
แฟนบอกว่าอยากให้แบ่งเท่าเทียมกัน คือหาร 3 โดยมี พ่อแฟน แม่แฟน และแม่เรา เพราะไม่รู้ว่าในอนาคตพ่อแม่แฟนอาจจะแยกทางกันรึป่าว
ทุกคนจะได้มีศักดิ์เท่ากันหมด แฟนบอกว่าควรแบ่งให้เท่ากัน ต้องมองเป็นคนๆ ไม่ใช่มองแค่เรากับเค้า เพราะถ้าเราไม่อยู่ทั้งคู่ ต้องไม่มองเป็น 2 คนแล้ว ต้องมองคนที่เหลือว่ามีกี่คน อีกทั้งแฟนยังมองว่าแม่เราเคยมีปัญหาหนี้สิน เก็บเงินไม่อยู่เลยไม่อยากให้แม่เราเยอะ
สุดท้ายเราเลยตกลงไปตามแฟน แต่เราก็อยากรู้ว่าปกติมันควรจะเป็นแบบไหน เป็นทุกคนๆจะแบ่งยังไงกันคะ