คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 34
อันนี้คอมเม้นเผื่อใครที่กำลังสงสัยในตัวเอง แล้วบังเอิญผ่านมาอ่านเจอคอมเม้นเรานะคะ
เราเชื่อว่าถ้าคุณตั้งใจอ่านคอมเม้นเราจนจบแล้ว คุณจะไม่สงสัยในตัวเองแบบนี้ต่อไปแน่นอนค่ะ
จริงๆแล้วคำตอบที่ถูกต้องของคำถามที่ว่ามีเงินเก็บเท่านี้พอไหม ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดไม่ใช่บรรทัดฐานของสังคม แต่เป็นเป้าหมายในชีวิตคุณเองค่ะ
คุณต้องมองตัวเองให้ออกก่อนว่าท้ายที่สุดแล้วคุณต้องการมีชีวิตในรูปแบบไหน แล้วจึงค่อยๆวางแผนแบบ reverse กลับหลังมาเรื่อยๆ
เช่น ในกรณีที่คุณต้องการมีชีวิตที่ราบเรียบแต่เป็นปกติสุข เกษียณที่อายุ 60 ตามมาตรฐาน กินบ้าง เที่ยวบ้าง แต่ไม่หวือหวา ตายตอนอายุ 85 ปี
คุณก็ต้องคิดแล้วว่าการจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยไลฟ์สไตล์แบบนี้เป็นเวลาทั้งหมด 25 ปีโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกแล้ว ต้องมีทุนเท่าไหร่?
แล้วค่อยๆคิดย้อนกลับมาว่า การจะมีชีวิตแบบนี้ได้ ต้องใช้เงินเดือนละเท่าไหร่กันนะ?
สมมติตั้งงบไว้ที่ 30,000 บาท/เดือน (คิดแบบต่ำๆเลยนะคะ) 30,000/เดือน x 12 เดือน x 25 ปี = 9,000,000 บาท
ทีนี้ก็ค่อยมาคิดหาทางว่าจะทำยังไงให้หลังจากอายุครบ 60 ปีแล้วนั้น จะมีทุน 9M (M = 1 ล้าน) บาทในการดำรงชีวิตต่อไป
หรือถ้าอาจจะไม่ต้องมีทุนทั้งหมด 9M เก็บไว้ทั้งก้อนก็ได้ แต่ก็ต้องหาทางทำให้ตัวเองมีรายรับเข้ามาเดือนละ 30,000 บาทแทน
สมมติว่าเจ้าของกระทู้นี้มักน้อยสุดๆ ต้องการมีชีวิตเรียบแบบนี้พอดีเลย ไม่มีครอบครัวด้วย หลังจาก 60 ปุ๊บ จะไม่ทำอะไรทั้งนั้น กินเงินฝากจนตาย
- ถ้าเริ่มเก็บเงินได้ 20,000 บาท/เดือน ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆเลย ตอน 60 ก็จะมีเงินทั้งหมด 9,120,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ยในทุกรูปแบบ)
- ถ้าเริ่มเก็บเงินได้ 20,000 บาท/เดือน ตั้งแต่อายุ 29 งั้นตอน 60 ก็จะมีเงินทั้งหมด 7,440,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ยในทุกรูปแบบ)
มาถึงตรงนี้คิดว่าเจ้าของกระทู้น่าจะมองภาพออกว่าถ้าคุณเก็บเงินได้เท่าที่เก็บอยู่ทุกวันนี้ ตอนเกษียณจะเพียงพอไหม
ถ้าคิดว่าไม่พอ อย่าเพิ่งเครียด อย่าลืมว่าจำนวนเงินที่บอกไปนั้นยังไม่นับรวมพลังของดอกเบี้ยทบต้นเลยนะคะ
แล้วถ้าเจ้าของกระทู้ลงทุนในรูปแบบอื่นๆที่ให้ผลตอบแทนได้มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากขึ้นไปอีก ลองคำนวณเล่นๆดูก็ได้ค่ะ แล้วจะยิ้มออก
หรือดีไปกว่านั้น ถ้าไม่อยากกินเงินฝากรอวันตาย งั้นหลังอายุครบ 60 แล้ว เจ้าของกระทู้ก็หันมาลงทุนกับเงินเก็บของตัวเองแทน เหนื่อยขึ้นนิดนึง
ถ้าคิดที่เงินต้น 7,440,000 บาทเลยนะ แบ่งกระจายลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยสัก 5% ต่อปีก็พอ
คุณจะได้เงินใช้เดือนละ 31,000 บาทไปจนตาย โดยที่เงินต้นคุณยังอยู่ครบถ้วนที่ 7,440,000 บาทด้วยซ้ำ
สมมติไม่มีบ้าน ไม่มีรถ แต่การมีเงินใช้เดือนละ 31,000 บาทโดยไม่ต้องทำงานนี่ไม่ได้แย่เลยนะ (สำหรับชีวิตโสดและเรียบง่ายน่ะนะ)
best option คือคุณเริ่มเอาเงินออม 20,000 ต่อเดือนมาแบ่งลงทุนแบบไหนก็ได้ ตั้งแต่วันนี้ แล้วได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5%/ปีเท่านั้น
ทบต้นทบดอกไปเรื่อยๆ พอครบอายุ 60 ปี คุณจะมีเงินงอกมาถึง 17,831,719.05 ล้านเลยค่ะ... คุณตอบตัวเองได้หรือยังว่าพอไหม?
แต่... กลับกัน ถ้าเจ้าของกระทู้ต้องการมีชีวิตที่สุขสบายเกินมาตรฐาน มีครอบครัว เที่ยวหรู กินโอมากาเสะ บินต่างประเทศ ส่งลูกเรียนเอกชน
คิดต่ำๆเลยต้องมีเดือนละไม่ต่ำกว่า 150,000 แน่ๆ (อันนี้ต่ำมากแล้วด้วย) ก็ลองคำนวณดูแบบเดียวกับด้านบนนั่นแหละ
ถ้าเห็นตัวเลขแล้วก็จะรู้เลยว่า เงินเก็บแค่เดือนละ 20,000 บาทคงไม่สามารถพาให้คุณเข้าใกล้ชีวิตแบบนี้ได้
แต่ก็ถ้าคนมันอยากใช้ชีวิตแบบนี้อะ สิ่งที่ต้องทำก็คือหาทางเพิ่มเงินเก็บ งั้นก็คงต้องเพิ่มรายได้(อีกเยอะเลย) ก็ค่อยๆวางแผนกันไป
สรุปคือ มีแค่คุณเท่านั้นแหละค่ะ ที่จะตอบตัวคุณเองได้ว่าไอ้เงินเก็บ 20,000 บาท/เดือนนี่มันเยอะหรือน้อย มันเพียงพอไหม
บางครั้งมันอาจจะดูเพียงพอในสายตาคุณ แต่สำหรับบางคน เงิน 20,000 บาทซื้อรองเท้ายังไม่ได้ถึงข้างนึงเลยด้วยซ้ำค่ะ
หรือกลับกัน คุณอาจจะมองว่า 20,000 บาท/เดือน มันเหมือนเก็บเศษเงิน แต่บางคนเขาตายไปพร้อมกับ 20,000 บาทสุดท้ายในชีวิตก็มีค่ะ
ทิ้งท้ายไว้สำหรับใครที่ทุกวันนี้เห็นชีวิตคนอื่นที่เขาแชร์กันผ่าน social media ในทุกๆ platform แล้วกลับมาสมเพชตัวเอง กดดันตัวเอง
ว่าที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ ที่มีอยู่ทุกวันนี้ มันดีพอสำหรับสังคมหรือยัง เราอยากให้เปลี่ยน mindset ในเรื่องการเงินใหม่ ให้มัน healthy ขึ้นค่ะ
อย่าวางแผนการเงินด้วยความคิดตั้งต้นที่ว่า สังคมเขากำหนดมาว่าจำนวนเงินเท่านี้คือมากหรือน้อย เราก็ต้องทำตามนั้น
พอมีคนมาบอกว่าเรามีเยอะหน่อย ก็ลำพองใจ แต่อีกวันนึงพอมีคนมาบอกว่าเรามีน้อยจังเลย ก็มานั่ง panic กับตัวเองโดยไร้ประโยชน์
อย่าทำแบบนั้นค่ะ อยากให้วางแผนการเงิน วางแผนชีวิตตัวเอง ด้วยเป้าหมายของตัวคุณเองเป็นสารตั้งต้น แล้วจะประสบความสำเร็จพร้อมความสุข
เราเชื่อว่าถ้าคุณตั้งใจอ่านคอมเม้นเราจนจบแล้ว คุณจะไม่สงสัยในตัวเองแบบนี้ต่อไปแน่นอนค่ะ
จริงๆแล้วคำตอบที่ถูกต้องของคำถามที่ว่ามีเงินเก็บเท่านี้พอไหม ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดไม่ใช่บรรทัดฐานของสังคม แต่เป็นเป้าหมายในชีวิตคุณเองค่ะ
คุณต้องมองตัวเองให้ออกก่อนว่าท้ายที่สุดแล้วคุณต้องการมีชีวิตในรูปแบบไหน แล้วจึงค่อยๆวางแผนแบบ reverse กลับหลังมาเรื่อยๆ
เช่น ในกรณีที่คุณต้องการมีชีวิตที่ราบเรียบแต่เป็นปกติสุข เกษียณที่อายุ 60 ตามมาตรฐาน กินบ้าง เที่ยวบ้าง แต่ไม่หวือหวา ตายตอนอายุ 85 ปี
คุณก็ต้องคิดแล้วว่าการจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยไลฟ์สไตล์แบบนี้เป็นเวลาทั้งหมด 25 ปีโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกแล้ว ต้องมีทุนเท่าไหร่?
แล้วค่อยๆคิดย้อนกลับมาว่า การจะมีชีวิตแบบนี้ได้ ต้องใช้เงินเดือนละเท่าไหร่กันนะ?
สมมติตั้งงบไว้ที่ 30,000 บาท/เดือน (คิดแบบต่ำๆเลยนะคะ) 30,000/เดือน x 12 เดือน x 25 ปี = 9,000,000 บาท
ทีนี้ก็ค่อยมาคิดหาทางว่าจะทำยังไงให้หลังจากอายุครบ 60 ปีแล้วนั้น จะมีทุน 9M (M = 1 ล้าน) บาทในการดำรงชีวิตต่อไป
หรือถ้าอาจจะไม่ต้องมีทุนทั้งหมด 9M เก็บไว้ทั้งก้อนก็ได้ แต่ก็ต้องหาทางทำให้ตัวเองมีรายรับเข้ามาเดือนละ 30,000 บาทแทน
สมมติว่าเจ้าของกระทู้นี้มักน้อยสุดๆ ต้องการมีชีวิตเรียบแบบนี้พอดีเลย ไม่มีครอบครัวด้วย หลังจาก 60 ปุ๊บ จะไม่ทำอะไรทั้งนั้น กินเงินฝากจนตาย
- ถ้าเริ่มเก็บเงินได้ 20,000 บาท/เดือน ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆเลย ตอน 60 ก็จะมีเงินทั้งหมด 9,120,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ยในทุกรูปแบบ)
- ถ้าเริ่มเก็บเงินได้ 20,000 บาท/เดือน ตั้งแต่อายุ 29 งั้นตอน 60 ก็จะมีเงินทั้งหมด 7,440,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ยในทุกรูปแบบ)
มาถึงตรงนี้คิดว่าเจ้าของกระทู้น่าจะมองภาพออกว่าถ้าคุณเก็บเงินได้เท่าที่เก็บอยู่ทุกวันนี้ ตอนเกษียณจะเพียงพอไหม
ถ้าคิดว่าไม่พอ อย่าเพิ่งเครียด อย่าลืมว่าจำนวนเงินที่บอกไปนั้นยังไม่นับรวมพลังของดอกเบี้ยทบต้นเลยนะคะ
แล้วถ้าเจ้าของกระทู้ลงทุนในรูปแบบอื่นๆที่ให้ผลตอบแทนได้มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากขึ้นไปอีก ลองคำนวณเล่นๆดูก็ได้ค่ะ แล้วจะยิ้มออก
หรือดีไปกว่านั้น ถ้าไม่อยากกินเงินฝากรอวันตาย งั้นหลังอายุครบ 60 แล้ว เจ้าของกระทู้ก็หันมาลงทุนกับเงินเก็บของตัวเองแทน เหนื่อยขึ้นนิดนึง
ถ้าคิดที่เงินต้น 7,440,000 บาทเลยนะ แบ่งกระจายลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยสัก 5% ต่อปีก็พอ
คุณจะได้เงินใช้เดือนละ 31,000 บาทไปจนตาย โดยที่เงินต้นคุณยังอยู่ครบถ้วนที่ 7,440,000 บาทด้วยซ้ำ
สมมติไม่มีบ้าน ไม่มีรถ แต่การมีเงินใช้เดือนละ 31,000 บาทโดยไม่ต้องทำงานนี่ไม่ได้แย่เลยนะ (สำหรับชีวิตโสดและเรียบง่ายน่ะนะ)
best option คือคุณเริ่มเอาเงินออม 20,000 ต่อเดือนมาแบ่งลงทุนแบบไหนก็ได้ ตั้งแต่วันนี้ แล้วได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5%/ปีเท่านั้น
ทบต้นทบดอกไปเรื่อยๆ พอครบอายุ 60 ปี คุณจะมีเงินงอกมาถึง 17,831,719.05 ล้านเลยค่ะ... คุณตอบตัวเองได้หรือยังว่าพอไหม?
แต่... กลับกัน ถ้าเจ้าของกระทู้ต้องการมีชีวิตที่สุขสบายเกินมาตรฐาน มีครอบครัว เที่ยวหรู กินโอมากาเสะ บินต่างประเทศ ส่งลูกเรียนเอกชน
คิดต่ำๆเลยต้องมีเดือนละไม่ต่ำกว่า 150,000 แน่ๆ (อันนี้ต่ำมากแล้วด้วย) ก็ลองคำนวณดูแบบเดียวกับด้านบนนั่นแหละ
ถ้าเห็นตัวเลขแล้วก็จะรู้เลยว่า เงินเก็บแค่เดือนละ 20,000 บาทคงไม่สามารถพาให้คุณเข้าใกล้ชีวิตแบบนี้ได้
แต่ก็ถ้าคนมันอยากใช้ชีวิตแบบนี้อะ สิ่งที่ต้องทำก็คือหาทางเพิ่มเงินเก็บ งั้นก็คงต้องเพิ่มรายได้(อีกเยอะเลย) ก็ค่อยๆวางแผนกันไป
สรุปคือ มีแค่คุณเท่านั้นแหละค่ะ ที่จะตอบตัวคุณเองได้ว่าไอ้เงินเก็บ 20,000 บาท/เดือนนี่มันเยอะหรือน้อย มันเพียงพอไหม
บางครั้งมันอาจจะดูเพียงพอในสายตาคุณ แต่สำหรับบางคน เงิน 20,000 บาทซื้อรองเท้ายังไม่ได้ถึงข้างนึงเลยด้วยซ้ำค่ะ
หรือกลับกัน คุณอาจจะมองว่า 20,000 บาท/เดือน มันเหมือนเก็บเศษเงิน แต่บางคนเขาตายไปพร้อมกับ 20,000 บาทสุดท้ายในชีวิตก็มีค่ะ
ทิ้งท้ายไว้สำหรับใครที่ทุกวันนี้เห็นชีวิตคนอื่นที่เขาแชร์กันผ่าน social media ในทุกๆ platform แล้วกลับมาสมเพชตัวเอง กดดันตัวเอง
ว่าที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ ที่มีอยู่ทุกวันนี้ มันดีพอสำหรับสังคมหรือยัง เราอยากให้เปลี่ยน mindset ในเรื่องการเงินใหม่ ให้มัน healthy ขึ้นค่ะ
อย่าวางแผนการเงินด้วยความคิดตั้งต้นที่ว่า สังคมเขากำหนดมาว่าจำนวนเงินเท่านี้คือมากหรือน้อย เราก็ต้องทำตามนั้น
พอมีคนมาบอกว่าเรามีเยอะหน่อย ก็ลำพองใจ แต่อีกวันนึงพอมีคนมาบอกว่าเรามีน้อยจังเลย ก็มานั่ง panic กับตัวเองโดยไร้ประโยชน์
อย่าทำแบบนั้นค่ะ อยากให้วางแผนการเงิน วางแผนชีวิตตัวเอง ด้วยเป้าหมายของตัวคุณเองเป็นสารตั้งต้น แล้วจะประสบความสำเร็จพร้อมความสุข
แสดงความคิดเห็น
ณ ปัจจุบัน เงินเก็บต่อเดือน เดือนละ 20,000 บาท เพียงพอมั้ย?
ทำงานโรงงาน+งานเสริม หลังจากหักค่าใช้จ่ายในเดือนนั้นๆ ค่ารถยนต์
ค่าน้ำไฟ ค่าอาหารเครื่องเดิม+สังสรรค์ ค่าจัดฟัน ให้ย่าเดืนอละ2-3พัน
เหลือเงินเก็บต่อเดือนขั้นต่ำ 20,000บาท ต่อเดือน ถือว่าพอถูๆไถๆ
กับยุคปัจจุบันนี้ได้มั้ยครับ