ชีวิตที่ “ตกขอบ” ในวัย 25 ปี

..เกริ่นก่อนนะครับว่าผมมีงานทำอยู่ 2 ที่ คือ 1.งานประจำที่ทำ จ-ศ แปดโมงถึงสี่โมงเย็นและงานเสริมที่ทำนอกเวลา (แต่งานทั้งสองอยู่คนละที่กันนะครับ) ซึ่งผมจะเป็นคนที่มีเวลาทำงานต่อสัปดาห์เยอะมาก ทั้งจำนวนวันที่ทำงานและชั่วโมงที่ทำต่อวัน (บางวันออกงานประจำมาก็ไปรับงานเสริมต่อจนถึงเช้าอีกวัน แล้วก็ไปเข้างานประจำต่อ 🥲) บางสัปดาห์ก็ไม่มีวันหยุดเลย ซึ่งผมใช้ชีวิตหนักขวาแบบนี้มาเกือบ 2 ปีแล้วครับ..

เหตุผลที่ต้องทำงานเสริมนอกเวลาเพราะมีภาระหนี้สินตัวเองและผมก็เป็นเสาหลักของครอบครัวด้วยครับ เงินที่ได้รับจากงานเสริมก็ช่วยได้มาก แต่ในทางกลับกันเราเริ่มรู้สึกถึงชีวิตที่ “ตกขอบ” ไปเรื่อยๆ ผมแทบจะไม่มีวันหยุดยาวติดกัน ผมแทบจะไม่ได้ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือค้างคืนที่ไหนนานๆ ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบสังสรรค์มาก สังคมเพื่อนฝูงแคบลง ความสัมพันธ์กับแฟนเริ่มสั่นคลอน เวลาดูแลครอบครัวก็น้อย หากมีวันหยุดส่วนใหญ่ก็หมดไปกับการนอนและทำงานบ้าน

บางทีผมก็มีความคิดอยากหางานใหม่ทำที่ได้ค่าตอบแทนสูงๆหรือว่ายกเลิกงานเสริมที่ทำอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วย Condition หลายอย่างจึงทำให้ไม่สามารถทำได้ ณ ตอนนี้

สุขภาพกายยังไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลง แต่สุขภาพจิตเริ่มแสดงอาการ ผมเริ่มเป็นคนขี้หงุดหงิด ความอดทนต่ำลง ทำอะไรเร่งรีบตลอดเวลา เริ่มหมด Passion ในการใช้ชีวิต สมองมัวแต่คิดเรื่องงาน-เงิน ปัญหาชีวิตตลอดเวลา แม้กระทั่งช่วงก่อนนอน เริ่มรู้สึกด้านชากับทุกสิ่ง ไม่ยินดียินร้าย เหมือนใช้ชีวิตให้ผ่านๆไป

เมื่อย้อนถามตัวเองถึงความสุขในชีวิต เชื่อไหมครับว่าผมตอบไม่ได้ว่าตอนนี้เรามีความสุขไหม? มันว่างเปล่า ไม่มีคำว่าสุขหรือทุกข์ ไม่รู้ว่าแบบนี้เรียก Dead inside หรือเปล่า แต่ผมว่าคงใกล้เคียงแล้วล่ะ

..ผมอยากให้ทุกคน มาช่วยแชร์ประสบการณ์และบทเรียนที่ได้รับจากการใช้ชีวิตการทำงานแบบสุดโต่งของแต่ละคน หากใครมีความเห็น สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ ผมจะได้นำกลับไปปรับ เพิ่ม-ลด เพื่อให้ชีวิตของผมไม่ “ตกขอบ” ไปมากกว่านี้ จนวันหนึ่งมันอาจจะถึงขั้น “ตกเหว” ..

ขอบคุณครับ 🙏🏻
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่