ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ

สวัสดีดีค่ะ
หนูอายุ14จะ15แล้ว(ม.3นะคะ)
เมื่อเดือนก่อนหนูได้นั่งคุยปรึกษาเพื่อนเกี่ยวกับอาการต่างๆที่หนูเป็นอยู่ให้เพื่อนฟัง แล้วเพื่อนที่เป็นโรคซึมเศร้าก็บอกหนูว่าหนูอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าก็ได้ หนูก็เคยคิดว่าหนูอาจจะเป็นก็ได้เพราะหนูมีอาการแบบนี้ตั้งแต่ตอนป.4แล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้หนักเหมือนตอนนี้นะคะ ตอนป.4จะมีช่วงหนึ่งที่มีคุณหมอมาที่รร.แล้วเขาพูดถึงอาการของโรคซึมเศร้า หนูเห็นว่ามันตรงกับอาการของหนู หนูก็เลยไปปรึกษากับคนในครอบครัวแต่เขาไม่ค่อยสนใจ เขาบอกว่าคนที่ร่าเริงแบบหนูไม่มีทางเป็นหรอก ตอนนั้นหนูเลยคิดว่าหนูคงคิดไปเอง แต่อาการก็เริ่มหนักขึ้นตอนม.1 หนูเริ่มจะหลงๆลืมๆ อารมณ์แปรปรวนขึ้น พักผ่อนมากเกินไปบางครั้งก็10ชม.ขึ้นหรือพักผ่อนน้อยเกินไปน้อยสุดคือ3ชม.ค่ะร่างกายเริ่มรู้สึกอ่อนเพลียไม่ค่อยมีแรงจะทำอะไร ความสนใจในเรื่องต่างๆก็ลดลง ไม่มีสมาธิเวลาทำอะไร รู้สึกว่าทุกอย่างมันช้าไปหมดรวมถึงตัวหนูเองด้วยหนูเริ่มทำอะไรก็ช้าไปหมดจนโดนพ่อกับแม่ว่าอยู่บ่อยครั้ง จากที่กินเยอะก็กินได้น้อยลงหรือไม่กินอะไรเลยทั้งวันนอกจากนํ้า หนูมักคิดสั้นอยู่บ่อยครั้งแต่หนูก็ไม่อยากให้ความรู้สึกสุดท้ายในชีวิตคือความเจ็บทรมาณ หนูแค่อยากหลับแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกไม่ต้องมีความรู้สึกอะไร แล้วหนูก็มีเป่าหมายว่าอยากเรียนแพทย์ด้วยค่ะ ถึงที่บ้านจะไม่อยากให้หนูเรียนแพทย์ก็ตาม พอขึ้นม.2หนูเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆบางครั้งก็เป็นเสียงวี๊ดๆหรือเสียงชีพจรตัวเอง แต่ก็ไม่บ่อยนัก แต่พอขึ้นม.3อาการก็ยิ่งแย่กว่าเดิมหนูเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆมากขึ้น ทุกอย่างมันดูน่าเบื่อไปหมด แล้วก็มีอาการปวดหัวทุกเย็นเพิ่มเข้ามา หนูไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี หนูอยากไปพบแพทย์เพื่อความมั่นใจว่าหนูเป็นโรคซึมเศร้าหรือป่าว แต่หนูก็ไม่รู้ว่าจะไปอย่างไง เพราะถ้าบอกพ่อกับแม่ละก็พวกเขาก็คงจะบอกว่าหนูคิดไปเองเพ้อเจ้อ แต่ถ้าแอบไปสักวันเขาก็ต้องรู้แล้วดุหนูว่าไปทำไม อีกเหตุผลที่หนูไม่กล้าบอกพวกเขาคือเวลาหนูป่วยพวกเขาชอบว่าหนู หนูรู้ว่าเขาเป็นห่วงหนูแต่ทุกครั้งที่ได้ยินมันทำให้หนูรู้สึกแย่เหมือนหนูเป็นภาระเขา แล้วหนูก็กินยาเม็ดไม่ได้ด้วยไม่รู้ทำไมแต่ทุกครั้งที่กินมันเหมือนมีอะไรติดคอจนอาเจียนออกมา หนูควรทำอย่างไงดีค่ะ หนูคิดมากเรื่องนี้มาหลายวันแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ไปเองเลยค่ะ เดาว่าหากไปคลินิคน่าจะง่ายกว่าไป รพ. จขกท เตรียมเงินไปสักหน่อย อย่างน้อย 500 บาท หากค่าใช้จ่ายมากกว่านี้ ขอคุณหมอมาจ่ายครบในภายหลัง

วัยของ จขกท คือวัยที่มีความสุข สดใส สมองปราดเปรื่อง น่าเสียดายหากมีความขุ่นมัวทั้งที่เกิดจากร่างกายและเกิดจากสภาพแวดล้อมรอบตัว พบหมอเพื่อรับการวินิจฉัย หากป่วยจะได้รักษา หากไม่ป่วยก็ต้องหาสาเหตุต่อไปว่าอะไรที่ทำให้ดูเหมือนจะป่วยเช่นนี้ เมื่อพบต้องแก้ไข ช่วงเวลานี้สำคัญต่อชีวิตของ จขกท ในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีเป้าหมายว่า จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ ความสามารถ มีความสุข และมีความดี ไม่ว่าโรคหรืออะไรที่เป็นอยู่ หาทางรักษาหรือแก้ไขจริงจังค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่