สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคน หนูมีนามว่า เคธี่ (นามสมมุตินะคะ) อยากจะขอความเห็นจากเพื่อน ๆ พี่ๆ ชาว pantip ทุกคนค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อกลางปี 64 ลาออกจากที่ทำงานเก่าค่ะ และหลังจากนั้น ว่างงานอยู่ประมาณ 1 เดือน และได้เริ่มงานใหม่กับบริษัทที่ทำอยู่ปัจจุบันนี้ค่ะ
ตัวธี่เอง มีวุฒิการศึกษา คือ ปวส. ชั้นสูง สาขา บริหารธุรกิจ วิชาเอก คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ค่ะ
มาสมัครตำแหน่งนี้คือ แอดมินเพจ และ พนักงานขายสินค้าหน้าร้าน แนะนำสินค้า เพราะงานเดิมเราเป็นแบบนั้นมา และตัวธี่เองเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางค่ะ
ธี่ได้เริ่มงานกับ บ. นี้ตั้งแต่เดือน 6.6.64 ค่ะ ช่วง 6 เดือนแรกทำงานอยู่ office (ระหว่างรอสร้างshowroom)ก็โดนกดดัน โดนแกล้งอยู่เรื่อยๆ แต่ก็อดทนมาโดยตลอด ค่ะ
พอปลายปี 64 (เดือน ธค .) เริ่มได้ย้ายมาอยู้หน้า Showroom เพราะสร้างเสร็จแล้ว โดยเมื่อย้ายมาอยู่หน้า Showroom จะมีข้อตกลงว่า หากทำยอดได้ 1 ล้านบาทขึ้นไป จะมีค่าคอมฯให้ประมาณ 1.5 % ค่ะ แต่ช่วงแรกธี่เข้าใจค่ะ ว่าร้านใหม่ลูกค้ายังไม่รู้ที่ตั้ง บวกกับ มันดันไปตั้งอยู่ในที่ ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน ดูเหมือนเหตุการณ์มันปกติมากใช่ไหมคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ
ในเดือนแรกที่ไปหน้าร้าน มีลูกค้ามาใช้บริการค่อนข้างมากค่ะ และตัวธี่เองก็เต็มที่กับการทำงาน คือ บริการลูกค้าด้วยใจ จนเป็นดหตุให้ลูกค้าหลายๆ ท่านไปรีวิวหน้าเพจให้ พร้อทแท็กชื่อเราไป จนทางผู้ใหญ่หลายๆท่านเห็นถึงความตั้งใจและความเป็นมืออาชีพของเราค่ะ
หลังจากนั้นทางผู้ใหญ่ และ ผู้บริหารได้นัดพบกับธี่ และเจราจาร่างสัญญาใหม่ โดยจะให้เงินพืเศษจำนวนนี้ในทุกๆเดือน โดยมีข้อแม้ว่า เราจะต้องรักษามาตรฐานการทำงาน การบริการแบบนี้ไว้ตลอด ซึ่งธี่ก็ทำแบบบนั้นตลอดมาไม่เคยขาดตกบกพร่องเลยค่ะ
ทีนี้ปัญหามันเริ่มเกิดขึ้นค่ะ ยิ่งนานวันลูกค้าเริ่มทยอยรู้จักที่ตั้ง showroom ลูกค้าเพิ่มขึ้น สินค้าในร้านเพิ่มขึ้น ......
ขอบอกก่อนนะคะ Showroom ของธี่ค่อนข้างใหญ่ หากเปรียบกับตึกแถวก็ประมาณ 2 คูหาได้ กว้างๆเลย และของเยอะมากหลายพันรายการ
แต่..... ที่พีคคือ ธี่อยู่คนเดียวค่ะ ไม่มีคนคอยผลัดเปลี่ยน ไม่มีแม่บ้าน ธี่ต้อง
ทำเองทุกอย่าง
ธี่เลยขอร้องให้ทางทีม HR จัดหาคนมาหน้าShowroom ให้ 1 คนค่ะ เพื่อที่จะมาช่วยธี่ทุกอย่าง ปรากฏว่าจัดหามาจริงค่ะ แต่เอาเขามาเป็น ผจก. ร้าน ทั้งที่คนผู้นี้คือ ไม่มีประสบห์การณ์ด้านนี้ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าอะไรอยู่ในร้านอะไร อยู่ตรงไหน สินค้านี้คือ อะไร แต่จะเอามาเป็น ผจก. และใช่ค่ะ
รับคนมาช่วยใช้งานธี่นั้นเอง จากงานหนักอยู่แล้ว กลายเป็นหนักๆๆๆๆๆ เข้าไปอีกค่ะ
ธี่เริ่มไม่โอเค กับการพูด สื่อสารของ ผจก คนนนี้ค่ะ เพราะว่านางจะถามหาแต่เราได้เงินเดือน เท่าไร ค่าคอมฯ เท่าไร เพราะถ้านางมาอยู่ นางจะต้องมีส่วนหาร (ธี่อยากจะบอกธี่ไม่เคยได้ค่าคอมเลยค่ะ แต่ธี่มารู้ทีหลังเมื่อ2วันที่ผ่านมาว่าธี่ทำยอดได้ 1.5 ล้านทุกเดือน และยอดพึ่งมาตก 2 เดือนให้หลัง)
ธี่เลยไม่ค่อยชอบ ผจก คนนี้ และ ธี่ได้เรียนแจ้งทาง HR ไปแล้วค่ะ อยากเปลี่ยนคน เพราะนางอยู่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยค่ะ
และในที่สุดนางโดนย้ายกลับ head office ค่ะ และธี่ก็อยู่คนเดียวเหมือนเดิม
การอยู่คนเดียวในร้านใหญ่ๆ แม้ลูกค้าผ่านไป มา ทุกคนก็ถามว่าทำไมอยู่คนเดียวไม่มีคนมาผลัดเปลี่ยนหรือ ธี่ได้แต่ยิ้มแห้งๆค่ะ
ทุกๆวันธี่ต้องรอให้คนมาเปลี่ยนเพื่อที่จะไปพักค่ะ บางวันมา บ่าย 2 บางวันมา บ่าย4 โมง ซึ่งธี่มีทักท้วงไปแล้วค่ะ ไม่มีผล
ทุกวันนี้ธี่ต้องทำสต้อกจัดเรียงสินค้าเองคนเดียว ทำความสะอาดคนเดียว รับลูกค้าคนนึงก็ปาไป 3 ชม แล้วค่ะ
ปัยหามันเกิดตรงที่ว่า อยู่มาวันหนึ่ง บอส(เจ้าของร้าน) เข้ามาถ่ายงายหน้าร้าน และมาเจอว่าชั้นมันว่าง และไม่มีสินค้าไปเติมตรงจุดนั้น
แต่ใน ณ ขณะนั้น คือวันหยุด นักขัตฯ ไม่มีพนักงานออนไลน์ทำงาน (ธี่ลืมบอกไป ธี่เป็นแอดมินออนไลน์ด้วยนะคะ)
สิ่งแรกของวันหยุดนักขัตฯคือ ที่ต้องดูช่องทางออนไลน์ก่อนค่ะ ลูกค้าท่านนั้นรีบจะเอาของด่วน ท่านนี้ส่ง grab ท่านนี้พบปัญหา ธี่ต้องรีบแก้ไข
และมันเป็นจุดบกพร่องของธี่ ที่ตอบออนไลน์ไป แล้วทำไม ไม่เรียงของไปด้วย (คนนะเอ้ยย มี 2 มือ แล้วทำอยู่คนเดียว) นั่นเลยเป็นจุดเปลี่ยน ที่ธี่คิดอยากจะเปลี่ยนงานและลาออกค่ะ ธี่โดนจัดไปชุดใหญ่เลยค่ะ แต่ก็พยายามอธิบายว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคืออะไร ทำไมถึงมีเหตุณ์การร์แบบนี้เกิดขึ้นได้ภายในร้าน
แต่ถ้า ผู้บริหารคิดสักนิด ใช้เหตุและผล ชั่งใจสักนิด มองดูสักนิด ว่าพนักงานมีอยู่คนเดียวก้จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นค่ะ
จากนั้น ธี่ก็โดนเรียกเตือนซึ่งคำพูดของเขา แรงมากนะคะ ธี่น้ำตาคลอ
เรื่องที่ว่าเขาดูถูก
เรื่มแรกที่จะมาอยู่ showroom ที่เป็นหัวหน้าพนักงานขายมาก่อน และเป็นหัวหน้าแอดมิน ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ ดังนั้นที่เดิมจะมีหน้าร้านให้จัดเรียงสินค้าและออกแบบการวางสินค้าหน้าร้าน รวมถึงต้องคิดโปรโมชั่นด้วยค่ะ
ธี่เสนอ ขอส่วนลดให้หน้าร้าน เพราะต้องการให้ลูกค้า walk in มาหน้าร้านด้วย การทำการตลาดออนไลน์ และ หน้าร้าน มันจะต้องเป็นราย
ได้ที่ควบคู่กันไปได้ ธี่คิดแบบนั้น แต่ผู้บริหาระี่ไม่เห็นด้วยค่ะ เพราะเขาแจ้งธี่มาว่าเขาโตมาจากขายออนไลน์ เพราะงั้นหน้าร้านไม่สำคัญ เขาจะเปิดหน้าร้านเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือเท่านั้นเอง
ธี่อึ้งค่ะ เบิดคำสิเว้าเลยนะคะ และหลังจากวลีนี้ ผู้บริหารของธี่พูดกับธี่ทำนองว่า ธี่สามารถเสนอมาได้เลยนะอยากให้ทำไร ทำโปรไร จะเอาแบบไหน พี่จัดให้ได้หมด ถึงธี่จะเรียนมานอน พี่ก็ไม่เคย คิดแบบนั้นเลยนะ ทุกคนสามารถเสนอความคิดเห็นของตนเองได้ แต่จะอยู่ที่ว่าพี่จะรับพิจารณาหรือไม่
...... หลังจากนั้น ธี่ไม่เคยเอ่ยไรออกจากปากอีกเลยค่ะ
*** ธี่มีไปออกบูธจัดงานตามงานใหญ่ๆนะคะ ไปที 4 วัน เลย ไม่มีค่าคอมฯหรือพิเศษ หรือ OT ให้ค่ะ ที่ได้คือข้าวฟรี 3 มื้อ ยืนจนปวดส้นทั้งวัน ไม่สามารถนั่งได้แม้แต่นิดเดียว ****
สิ่งที่รับกลับมาคือ รีวิวจากลูกค้าว่าบริการดี ร้านได้หน้าค่ะ
แต่พยักงานอย่างเราได้เหนื่อยแทบลากเลือด
เราควรลาออกจากที่ทำงาน ที่มีทางทีมผู้บริหารดูถูกวุฒการศึกษาและความสามารถของเราหรือไม่?
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อกลางปี 64 ลาออกจากที่ทำงานเก่าค่ะ และหลังจากนั้น ว่างงานอยู่ประมาณ 1 เดือน และได้เริ่มงานใหม่กับบริษัทที่ทำอยู่ปัจจุบันนี้ค่ะ
ตัวธี่เอง มีวุฒิการศึกษา คือ ปวส. ชั้นสูง สาขา บริหารธุรกิจ วิชาเอก คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ค่ะ
มาสมัครตำแหน่งนี้คือ แอดมินเพจ และ พนักงานขายสินค้าหน้าร้าน แนะนำสินค้า เพราะงานเดิมเราเป็นแบบนั้นมา และตัวธี่เองเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางค่ะ
ธี่ได้เริ่มงานกับ บ. นี้ตั้งแต่เดือน 6.6.64 ค่ะ ช่วง 6 เดือนแรกทำงานอยู่ office (ระหว่างรอสร้างshowroom)ก็โดนกดดัน โดนแกล้งอยู่เรื่อยๆ แต่ก็อดทนมาโดยตลอด ค่ะ
พอปลายปี 64 (เดือน ธค .) เริ่มได้ย้ายมาอยู้หน้า Showroom เพราะสร้างเสร็จแล้ว โดยเมื่อย้ายมาอยู่หน้า Showroom จะมีข้อตกลงว่า หากทำยอดได้ 1 ล้านบาทขึ้นไป จะมีค่าคอมฯให้ประมาณ 1.5 % ค่ะ แต่ช่วงแรกธี่เข้าใจค่ะ ว่าร้านใหม่ลูกค้ายังไม่รู้ที่ตั้ง บวกกับ มันดันไปตั้งอยู่ในที่ ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน ดูเหมือนเหตุการณ์มันปกติมากใช่ไหมคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในเดือนแรกที่ไปหน้าร้าน มีลูกค้ามาใช้บริการค่อนข้างมากค่ะ และตัวธี่เองก็เต็มที่กับการทำงาน คือ บริการลูกค้าด้วยใจ จนเป็นดหตุให้ลูกค้าหลายๆ ท่านไปรีวิวหน้าเพจให้ พร้อทแท็กชื่อเราไป จนทางผู้ใหญ่หลายๆท่านเห็นถึงความตั้งใจและความเป็นมืออาชีพของเราค่ะ
หลังจากนั้นทางผู้ใหญ่ และ ผู้บริหารได้นัดพบกับธี่ และเจราจาร่างสัญญาใหม่ โดยจะให้เงินพืเศษจำนวนนี้ในทุกๆเดือน โดยมีข้อแม้ว่า เราจะต้องรักษามาตรฐานการทำงาน การบริการแบบนี้ไว้ตลอด ซึ่งธี่ก็ทำแบบบนั้นตลอดมาไม่เคยขาดตกบกพร่องเลยค่ะ
ทีนี้ปัญหามันเริ่มเกิดขึ้นค่ะ ยิ่งนานวันลูกค้าเริ่มทยอยรู้จักที่ตั้ง showroom ลูกค้าเพิ่มขึ้น สินค้าในร้านเพิ่มขึ้น ......
ขอบอกก่อนนะคะ Showroom ของธี่ค่อนข้างใหญ่ หากเปรียบกับตึกแถวก็ประมาณ 2 คูหาได้ กว้างๆเลย และของเยอะมากหลายพันรายการ
แต่..... ที่พีคคือ ธี่อยู่คนเดียวค่ะ ไม่มีคนคอยผลัดเปลี่ยน ไม่มีแม่บ้าน ธี่ต้อง
ทำเองทุกอย่าง
ธี่เลยขอร้องให้ทางทีม HR จัดหาคนมาหน้าShowroom ให้ 1 คนค่ะ เพื่อที่จะมาช่วยธี่ทุกอย่าง ปรากฏว่าจัดหามาจริงค่ะ แต่เอาเขามาเป็น ผจก. ร้าน ทั้งที่คนผู้นี้คือ ไม่มีประสบห์การณ์ด้านนี้ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าอะไรอยู่ในร้านอะไร อยู่ตรงไหน สินค้านี้คือ อะไร แต่จะเอามาเป็น ผจก. และใช่ค่ะ
รับคนมาช่วยใช้งานธี่นั้นเอง จากงานหนักอยู่แล้ว กลายเป็นหนักๆๆๆๆๆ เข้าไปอีกค่ะ
ธี่เริ่มไม่โอเค กับการพูด สื่อสารของ ผจก คนนนี้ค่ะ เพราะว่านางจะถามหาแต่เราได้เงินเดือน เท่าไร ค่าคอมฯ เท่าไร เพราะถ้านางมาอยู่ นางจะต้องมีส่วนหาร (ธี่อยากจะบอกธี่ไม่เคยได้ค่าคอมเลยค่ะ แต่ธี่มารู้ทีหลังเมื่อ2วันที่ผ่านมาว่าธี่ทำยอดได้ 1.5 ล้านทุกเดือน และยอดพึ่งมาตก 2 เดือนให้หลัง)
ธี่เลยไม่ค่อยชอบ ผจก คนนี้ และ ธี่ได้เรียนแจ้งทาง HR ไปแล้วค่ะ อยากเปลี่ยนคน เพราะนางอยู่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยค่ะ
และในที่สุดนางโดนย้ายกลับ head office ค่ะ และธี่ก็อยู่คนเดียวเหมือนเดิม
การอยู่คนเดียวในร้านใหญ่ๆ แม้ลูกค้าผ่านไป มา ทุกคนก็ถามว่าทำไมอยู่คนเดียวไม่มีคนมาผลัดเปลี่ยนหรือ ธี่ได้แต่ยิ้มแห้งๆค่ะ
ทุกๆวันธี่ต้องรอให้คนมาเปลี่ยนเพื่อที่จะไปพักค่ะ บางวันมา บ่าย 2 บางวันมา บ่าย4 โมง ซึ่งธี่มีทักท้วงไปแล้วค่ะ ไม่มีผล
ทุกวันนี้ธี่ต้องทำสต้อกจัดเรียงสินค้าเองคนเดียว ทำความสะอาดคนเดียว รับลูกค้าคนนึงก็ปาไป 3 ชม แล้วค่ะ
ปัยหามันเกิดตรงที่ว่า อยู่มาวันหนึ่ง บอส(เจ้าของร้าน) เข้ามาถ่ายงายหน้าร้าน และมาเจอว่าชั้นมันว่าง และไม่มีสินค้าไปเติมตรงจุดนั้น
แต่ใน ณ ขณะนั้น คือวันหยุด นักขัตฯ ไม่มีพนักงานออนไลน์ทำงาน (ธี่ลืมบอกไป ธี่เป็นแอดมินออนไลน์ด้วยนะคะ)
สิ่งแรกของวันหยุดนักขัตฯคือ ที่ต้องดูช่องทางออนไลน์ก่อนค่ะ ลูกค้าท่านนั้นรีบจะเอาของด่วน ท่านนี้ส่ง grab ท่านนี้พบปัญหา ธี่ต้องรีบแก้ไข
และมันเป็นจุดบกพร่องของธี่ ที่ตอบออนไลน์ไป แล้วทำไม ไม่เรียงของไปด้วย (คนนะเอ้ยย มี 2 มือ แล้วทำอยู่คนเดียว) นั่นเลยเป็นจุดเปลี่ยน ที่ธี่คิดอยากจะเปลี่ยนงานและลาออกค่ะ ธี่โดนจัดไปชุดใหญ่เลยค่ะ แต่ก็พยายามอธิบายว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคืออะไร ทำไมถึงมีเหตุณ์การร์แบบนี้เกิดขึ้นได้ภายในร้าน
แต่ถ้า ผู้บริหารคิดสักนิด ใช้เหตุและผล ชั่งใจสักนิด มองดูสักนิด ว่าพนักงานมีอยู่คนเดียวก้จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นค่ะ
จากนั้น ธี่ก็โดนเรียกเตือนซึ่งคำพูดของเขา แรงมากนะคะ ธี่น้ำตาคลอ
เรื่องที่ว่าเขาดูถูก
เรื่มแรกที่จะมาอยู่ showroom ที่เป็นหัวหน้าพนักงานขายมาก่อน และเป็นหัวหน้าแอดมิน ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ ดังนั้นที่เดิมจะมีหน้าร้านให้จัดเรียงสินค้าและออกแบบการวางสินค้าหน้าร้าน รวมถึงต้องคิดโปรโมชั่นด้วยค่ะ
ธี่เสนอ ขอส่วนลดให้หน้าร้าน เพราะต้องการให้ลูกค้า walk in มาหน้าร้านด้วย การทำการตลาดออนไลน์ และ หน้าร้าน มันจะต้องเป็นราย
ได้ที่ควบคู่กันไปได้ ธี่คิดแบบนั้น แต่ผู้บริหาระี่ไม่เห็นด้วยค่ะ เพราะเขาแจ้งธี่มาว่าเขาโตมาจากขายออนไลน์ เพราะงั้นหน้าร้านไม่สำคัญ เขาจะเปิดหน้าร้านเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือเท่านั้นเอง
ธี่อึ้งค่ะ เบิดคำสิเว้าเลยนะคะ และหลังจากวลีนี้ ผู้บริหารของธี่พูดกับธี่ทำนองว่า ธี่สามารถเสนอมาได้เลยนะอยากให้ทำไร ทำโปรไร จะเอาแบบไหน พี่จัดให้ได้หมด ถึงธี่จะเรียนมานอน พี่ก็ไม่เคย คิดแบบนั้นเลยนะ ทุกคนสามารถเสนอความคิดเห็นของตนเองได้ แต่จะอยู่ที่ว่าพี่จะรับพิจารณาหรือไม่
...... หลังจากนั้น ธี่ไม่เคยเอ่ยไรออกจากปากอีกเลยค่ะ
*** ธี่มีไปออกบูธจัดงานตามงานใหญ่ๆนะคะ ไปที 4 วัน เลย ไม่มีค่าคอมฯหรือพิเศษ หรือ OT ให้ค่ะ ที่ได้คือข้าวฟรี 3 มื้อ ยืนจนปวดส้นทั้งวัน ไม่สามารถนั่งได้แม้แต่นิดเดียว ****
สิ่งที่รับกลับมาคือ รีวิวจากลูกค้าว่าบริการดี ร้านได้หน้าค่ะ
แต่พยักงานอย่างเราได้เหนื่อยแทบลากเลือด