tag ภาษาอังกฤษเพราะมีการค้นข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ และมีการแปล clip ภาษาอังกฤษ
เราเขียนกระทู้นี้เพราะได้รับแรงดลใจจากกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/41429633
แม่กับเราป่วยเป็น OCD (ย้ำคิดย้ำทำ) แล้วทั้งสองคนไปหาหมอ แต่เราไม่ยอมกินยาหมอ แล้วตอนอยู่ต่างแดนไปค้นตำราเรียนวิธีรักษา OCD ด้วยตนเอง แล้วไปเจอตำรา wuxing (ปัญจธาตุ) จึงเรียนรู้ว่า เราป่วยเป็น OCD เพราะไตอ่อนแอ ก็เลยพยายามทำให้ไตตนเองแข็งแรงขึ้นมา ตามที่เล่าให้ฟังในกระทู้นี้ของเรา
https://ppantip.com/topic/41452582
พอกลับมาเมืองไทย OCD เราดีขึ้นแทบไม่ทำอะไรซ้ำๆอีกเลย แต่ในบางครั้งก็มี relapse (การที่โรคกำเริบอีก) บ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่รุนแรงนัก มันคงเป็นเพราะไตเรายังไม่แข็งแรงเต็มที่ 100% หรอก และเราก็ยังมีอาการป่วยเป็น hyponatremia (โซเดียมระดับต่ำในเลือด) อยู่บ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งต้นตอน่าจะเกิดจาก secondary adrenal insufficiency (อะดรีนาลพร่องทุติยภูมิ) ซึ่ง "เป็นปัญหาของต่อมหมวกไต" ตามข้อมูลอันนี้ที่เราไปค้นมาเจอ
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4330026/#:~:text=Hyponatremia%20is%20often%20seen%20in,inability%20to%20excrete%20free%20water.
สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราบ่อยๆก็คือทุกครั้งที่กินน้ำผึ้งเราจะเป็นตะคริวทันทีแบบเดินไม่ได้เลย ต้องรีบกินเกลือเข้าไปตะคริวถึงจะหาย จำได้ว่าตอนอายุ 50 ไปเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนที่เชียงใหม่ เราขึ้นไปอยู่ชั้นบนสุดเล่นเน็ตอยู่กินชา Lipton ใส่น้ำเต้าหู้จืดเติมน้ำผึ้งเข้าไป (ไม่เติมน้ำตาลทรายขาวเพราะหลงโง่คิดว่าน้ำผึ้งไม่อันตรายเท่าน้ำตาลทรายขาว) กินเข้าไปแป๊บเดียวตะคริวเล่นงานล้มลงไปนอนกองกับพื้น จะลงไปเอาเกลือก็ไม่ได้ บันไดสูงเหลือเกิน นอนดิ้นพราดๆอยู่พักใหญ่ พอได้ยินเสียงเพื่อนไขกุญแจเข้าบ้าน เราใจชื้นแหกปากตะโกนว่า "เฮ้ยเอาซีอิ๊วญี่ปุ่นขึ้นมาให้ ด่วน!" เพราะว่าดื่มซีอิ๊วญี่ปุ่นซัก 1-2 ช้อนโต๊ะร่างกายน่าจะดูดซึม sodium ได้เร็วกว่ากินเกลือเป็นเม็ดๆ
^
ภาพนั้นยังหลอนตาอยู่จนกระทั่งกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่นนทบุรี
วันหนึ่งคุยกับแม่ แม่บอกว่า "เพื่อนแม่จากระยองเอาน้ำผึ้งป่ามาให้ ดูสิ (แม่ยกขวดน้ำผึ้งให้ดู) ของแท้ แม่จะทำกล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง ตามภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เค้าบอกว่ามันเป็นยาอายุวัฒนะทำให้แก่ช้า"
เรามองแม่ตาปริบๆแล้วบอกว่า "เหรอคะ แม่?"
พอกล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้งของแม่ได้ที่ แม่ก็กิน "ยาอายุวัฒนะ" เข้าไปอย่างมั่นใจในสรรพคุณของมัน แล้วก็ล้มลงไปนอนดิ้นพราดๆบนพื้น! คนในบ้านวิ่งพล่านหาทางช่วย พ่อบอก "เอาน้ำมันกวางลุ้งมานวดให้แม่ เร้ว!"
เราส่ายหน้าบอกว่า "เอาเกลือให้กินสิ!"
พ่อกับหลานก็ไม่เชื่อ เอาน้ำมันกวางลุ้งมานวดขาแม่ เปิดพัดลมเป่าแม่ แถมเอาพัดมาพัดให้แม่อีก
เหตุการณ์สยองขวัญนี้เกิดขึ้นซ้ำๆกันหลายรอบ เราบอกว่าน้ำผึ้งเป็นต้นเหตุ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเราซักคน! เรารู้แต่ว่าน้ำผึ้งเป็นต้นเหตุแต่เราอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์ไม่ได้ ในตอนนั้น แต่ตอนนี้ (คืออีก 14 ปีให้หลัง ซึ่งพ่อแม่เราตายไปหมดแล้ว) เรารู้เหตุผลแล้วว่าเพราะอะไร อ่านต่อไปแล้วจะรู้เหตุผล
หลังจากนั้นเราอยู่คนเดียวเรื่อยมา เราชอบกินอินทผาลัมตากแห้ง กินบ่อยมากๆ คราวนี้ก็เป็นตะคริวเหมือนกัน ถึงจะไม่เป็นตะคริวทันทีเหมือนกับที่กินน้ำผึ้ง แต่ก็ต้องกินเกลือแก้ตะคริวอยู่เรื่อยๆ พอมาเจอ clip นี้เข้า โห ตาสว่าง!
นี่คือ clip ของ Dr. Paul Saladino เค้าสลายความเชื่อผิดๆ ที่พวกเราถูกหลอกมาหลายสิบปี ว่าอะไรคือสาเหตุของ gout แต่เผอิญมันมีเนื้อหาเรื่อง น้ำตาล fructose ที่ทำอันตรายไต!
และผลไม้มีน้ำตาล fructose (ยิ่งน้ำผึ้งกับผลไม้แห้งยิ่งมีน้ำตาล fructose สูงมากๆ) ดังนั้นกินผลไม้มีโอกาสจะป่วยเป็น gout มากกว่ากินเนื้อสัตว์กับเครื่องใน!
นี่คือเนื้อหาที่เราแปลสรุปให้
Dr. Paul บอกว่า การกินสัตว์ปีก กินเนื้อสัตว์ กินเครื่องใน ไม่ได้ทำให้เป็น gout (พวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนยุค baby boomer generation โดนหลอกให้เชื่อผิดๆ ซึ่งเด็กรุ่นหลังก็โดนหลอกให้เชื่อผิดๆไปด้วย)
2 ใน 3 ของ uric acid ร่างกายเราสร้างขึ้นเอง
1 ใน 3 ของ uric acid กินเข้าไป นั่นก็คือกินอาหารที่ที purine เข้าไปแล้วร่างกาย breaks down (เปลี่ยนแปลง) purine ให้เป็น uric acid
เวลากิน purine rich foods (อาหารที่มี purine สูง) เช่นเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก เครื่องใน พอมันเปลี่ยนเป็น uric acid ในปริมาณที่สูง ไตก็จะขับ uric acid ส่วนเกินออกไปได้ตามธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์ทำสิ่งนี้ได้มาหลายหมื่นปีแล้ว ตั้งแต่ยุคล่าสัตว์กินเป็นอาหารหลัก!
แต่อยู่ดีๆไตขับ uric acid ส่วนเกินออกไปไม่ได้ ผู้คนถึงป่วยเป็น gout
สาเหตุที่ไตผิดปกติ ก็เพราะสาเหตุ 3 ประการคือ
1 insulin resistance (ภาวะดื้ออินซูลิน) อันนี้เกิดจากกินน้ำตาลและ carb สูง
2 กินน้ำตาล fructose มากเกินไป อันนี้หละสำคัญมากๆ เพราะ ผลไม้มีน้ำตาล fructose
3 ดื่มแอลกอฮอล์มากไป
สรุปแล้วคนยุค baby boomer generation โดนหลอกว่ากินผลไม้แล้วดีต่อสุขภาพ แล้วโดนหลอกว่า กินสัตว์ปีก เนื้อสัตว์ และเครื่องใน จะทำให้เป็น gout แต่ที่ไหนได้ กินผลไม้กลายเป็นป่วยเป็น gout 555
โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน ใครค้นข้อมูลใหม่ๆเป็นภาษาอังกฤษไม่เป็น จะตามโลกไม่ทัน!
สรุปแล้วที่ทั้งแม่เราและทั้งเรา พอกินน้ำผึ้ง และผลไม้แห้งเข้าไป น้ำตาล fructose ไปทำร้ายไต ทำให้เกิดอาการ hyponatremia (โซเดียมระดับต่ำในเลือด) เลยเป็นตะคริวยังไงล่ะ จึงต้องกินเกลือเข้าไปเพื่อเพิ่ม sodium นั่นเอง!
และถึงไม่เป็นตะคริวเราก็กินเกลือเพิ่ม เพราะไปเจอ clips หมอฝรั่งยุคใหม่แนะนำว่า ให้กินเกลือเพิ่ม ซึ่งเราแปะ clips พวกนั้นไว้ในกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/41468648
ตั้งแต่นั้นมาเราหยุดกินผลไม้ตลอดชีวิตไปเลย เพราะเจอ clips พวกนี้ (หยุดกินผลไม้ตั้งแต่อายุ 69 ถึงตนนี้อายุเกือบ 72) แล้วไม่เป็นตะคริวอีกเลย แล้วที่แปลกมากๆก็คือ เราเคยมีก้อนแข็งๆที่บริเวณไตข้างขวามาตั้งแต่อายุ 50 จนถึงอายุ 69 แล้วไม่แน่ใจว่าเป็นไขมันพอกตับหรือมีนิ่วที่ไตข้างขวา ไม่กล้าไปหาหมออะ แต่พอหยุดกินผลไม้ไปได้ซักพัก ไอ้ก้อนแข็งๆที่บริเวณไตข้างขวาอยู่ดีๆมันยุบหายไปหมดได้เอง! เท่านั้นไม่พออาการ OCD (ย้ำคิดย้ำทำ) ที่เคยรักษาหายไปแล้ว แต่ในบางครั้งมี relapse (การที่โรคกำเริบอีก) เป็นครั้งคราว แต่ไม่รุนแรงนัก ก็กลายเป็นไม่มี relapse อีกเลย นั่นก็หมายความว่า "การหยุดกินผลไม้แล้วกินเกลือเพิ่ม (ตามคำแนะนำของหมอฝรั่งยุคใหม่) กลายเป็นทำให้ไตเราแข็งแรงขึ้นมาได้อย่างน่ามหัศจรรย์!"
ข้างล่างนี้ ใน คคห 1 เรารวบรวม clips หมอฝรั่งยุคใหม่ ที่บอกว่า "ผลไม้ทำอันตรายสุขภาพ" เอาไว้ ซึ่งพอเราเอา clips พวกนี้ไปแปะไว้ในกระทู้ไหนใน pantip ก็มักจะมีคนมากด "สยอง" กับกด "ขำกลิ้ง" ให้55555+++
^
ไม่ว่ากัน "ตัวใครตัวมัน"
แต่แนะนำว่า ถ้าอยากกด "สยอง" หรือ "ขำกลิ้ง" ให้ไปที่ clips ต้นสังกัดบน youtube แล้วพิมพ์คำว่า "สยอง" หรือ "ขำกลิ้ง" เป็นภาษาอังกฤษ แต่ทางที่ดีควรพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษยาวๆอธิบายว่าไม่เชื่อหมอฝรั่งยุคใหม่ที่ทำ clips เหล่านี้ เพราะอะไร จะได้โต้ตอบกันได้อย่างสร้างสรรค์ว่าใครผิดใครถูก55555+++
อ่านกระทู้ประโยชน์ของกล้วยดองน้ำผึ้งตามหลักการแพทย์แผนไทยแล้วคิดถึงแม่อย่างจับใจ
เราเขียนกระทู้นี้เพราะได้รับแรงดลใจจากกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/41429633
แม่กับเราป่วยเป็น OCD (ย้ำคิดย้ำทำ) แล้วทั้งสองคนไปหาหมอ แต่เราไม่ยอมกินยาหมอ แล้วตอนอยู่ต่างแดนไปค้นตำราเรียนวิธีรักษา OCD ด้วยตนเอง แล้วไปเจอตำรา wuxing (ปัญจธาตุ) จึงเรียนรู้ว่า เราป่วยเป็น OCD เพราะไตอ่อนแอ ก็เลยพยายามทำให้ไตตนเองแข็งแรงขึ้นมา ตามที่เล่าให้ฟังในกระทู้นี้ของเรา
https://ppantip.com/topic/41452582
พอกลับมาเมืองไทย OCD เราดีขึ้นแทบไม่ทำอะไรซ้ำๆอีกเลย แต่ในบางครั้งก็มี relapse (การที่โรคกำเริบอีก) บ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่รุนแรงนัก มันคงเป็นเพราะไตเรายังไม่แข็งแรงเต็มที่ 100% หรอก และเราก็ยังมีอาการป่วยเป็น hyponatremia (โซเดียมระดับต่ำในเลือด) อยู่บ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งต้นตอน่าจะเกิดจาก secondary adrenal insufficiency (อะดรีนาลพร่องทุติยภูมิ) ซึ่ง "เป็นปัญหาของต่อมหมวกไต" ตามข้อมูลอันนี้ที่เราไปค้นมาเจอ
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4330026/#:~:text=Hyponatremia%20is%20often%20seen%20in,inability%20to%20excrete%20free%20water.
สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราบ่อยๆก็คือทุกครั้งที่กินน้ำผึ้งเราจะเป็นตะคริวทันทีแบบเดินไม่ได้เลย ต้องรีบกินเกลือเข้าไปตะคริวถึงจะหาย จำได้ว่าตอนอายุ 50 ไปเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนที่เชียงใหม่ เราขึ้นไปอยู่ชั้นบนสุดเล่นเน็ตอยู่กินชา Lipton ใส่น้ำเต้าหู้จืดเติมน้ำผึ้งเข้าไป (ไม่เติมน้ำตาลทรายขาวเพราะหลงโง่คิดว่าน้ำผึ้งไม่อันตรายเท่าน้ำตาลทรายขาว) กินเข้าไปแป๊บเดียวตะคริวเล่นงานล้มลงไปนอนกองกับพื้น จะลงไปเอาเกลือก็ไม่ได้ บันไดสูงเหลือเกิน นอนดิ้นพราดๆอยู่พักใหญ่ พอได้ยินเสียงเพื่อนไขกุญแจเข้าบ้าน เราใจชื้นแหกปากตะโกนว่า "เฮ้ยเอาซีอิ๊วญี่ปุ่นขึ้นมาให้ ด่วน!" เพราะว่าดื่มซีอิ๊วญี่ปุ่นซัก 1-2 ช้อนโต๊ะร่างกายน่าจะดูดซึม sodium ได้เร็วกว่ากินเกลือเป็นเม็ดๆ
^
ภาพนั้นยังหลอนตาอยู่จนกระทั่งกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่นนทบุรี
วันหนึ่งคุยกับแม่ แม่บอกว่า "เพื่อนแม่จากระยองเอาน้ำผึ้งป่ามาให้ ดูสิ (แม่ยกขวดน้ำผึ้งให้ดู) ของแท้ แม่จะทำกล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง ตามภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เค้าบอกว่ามันเป็นยาอายุวัฒนะทำให้แก่ช้า"
เรามองแม่ตาปริบๆแล้วบอกว่า "เหรอคะ แม่?"
พอกล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้งของแม่ได้ที่ แม่ก็กิน "ยาอายุวัฒนะ" เข้าไปอย่างมั่นใจในสรรพคุณของมัน แล้วก็ล้มลงไปนอนดิ้นพราดๆบนพื้น! คนในบ้านวิ่งพล่านหาทางช่วย พ่อบอก "เอาน้ำมันกวางลุ้งมานวดให้แม่ เร้ว!"
เราส่ายหน้าบอกว่า "เอาเกลือให้กินสิ!"
พ่อกับหลานก็ไม่เชื่อ เอาน้ำมันกวางลุ้งมานวดขาแม่ เปิดพัดลมเป่าแม่ แถมเอาพัดมาพัดให้แม่อีก
เหตุการณ์สยองขวัญนี้เกิดขึ้นซ้ำๆกันหลายรอบ เราบอกว่าน้ำผึ้งเป็นต้นเหตุ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเราซักคน! เรารู้แต่ว่าน้ำผึ้งเป็นต้นเหตุแต่เราอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์ไม่ได้ ในตอนนั้น แต่ตอนนี้ (คืออีก 14 ปีให้หลัง ซึ่งพ่อแม่เราตายไปหมดแล้ว) เรารู้เหตุผลแล้วว่าเพราะอะไร อ่านต่อไปแล้วจะรู้เหตุผล
หลังจากนั้นเราอยู่คนเดียวเรื่อยมา เราชอบกินอินทผาลัมตากแห้ง กินบ่อยมากๆ คราวนี้ก็เป็นตะคริวเหมือนกัน ถึงจะไม่เป็นตะคริวทันทีเหมือนกับที่กินน้ำผึ้ง แต่ก็ต้องกินเกลือแก้ตะคริวอยู่เรื่อยๆ พอมาเจอ clip นี้เข้า โห ตาสว่าง!
นี่คือ clip ของ Dr. Paul Saladino เค้าสลายความเชื่อผิดๆ ที่พวกเราถูกหลอกมาหลายสิบปี ว่าอะไรคือสาเหตุของ gout แต่เผอิญมันมีเนื้อหาเรื่อง น้ำตาล fructose ที่ทำอันตรายไต!
และผลไม้มีน้ำตาล fructose (ยิ่งน้ำผึ้งกับผลไม้แห้งยิ่งมีน้ำตาล fructose สูงมากๆ) ดังนั้นกินผลไม้มีโอกาสจะป่วยเป็น gout มากกว่ากินเนื้อสัตว์กับเครื่องใน!
นี่คือเนื้อหาที่เราแปลสรุปให้
Dr. Paul บอกว่า การกินสัตว์ปีก กินเนื้อสัตว์ กินเครื่องใน ไม่ได้ทำให้เป็น gout (พวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนยุค baby boomer generation โดนหลอกให้เชื่อผิดๆ ซึ่งเด็กรุ่นหลังก็โดนหลอกให้เชื่อผิดๆไปด้วย)
2 ใน 3 ของ uric acid ร่างกายเราสร้างขึ้นเอง
1 ใน 3 ของ uric acid กินเข้าไป นั่นก็คือกินอาหารที่ที purine เข้าไปแล้วร่างกาย breaks down (เปลี่ยนแปลง) purine ให้เป็น uric acid
เวลากิน purine rich foods (อาหารที่มี purine สูง) เช่นเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก เครื่องใน พอมันเปลี่ยนเป็น uric acid ในปริมาณที่สูง ไตก็จะขับ uric acid ส่วนเกินออกไปได้ตามธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์ทำสิ่งนี้ได้มาหลายหมื่นปีแล้ว ตั้งแต่ยุคล่าสัตว์กินเป็นอาหารหลัก!
แต่อยู่ดีๆไตขับ uric acid ส่วนเกินออกไปไม่ได้ ผู้คนถึงป่วยเป็น gout
สาเหตุที่ไตผิดปกติ ก็เพราะสาเหตุ 3 ประการคือ
1 insulin resistance (ภาวะดื้ออินซูลิน) อันนี้เกิดจากกินน้ำตาลและ carb สูง
2 กินน้ำตาล fructose มากเกินไป อันนี้หละสำคัญมากๆ เพราะ ผลไม้มีน้ำตาล fructose
3 ดื่มแอลกอฮอล์มากไป
สรุปแล้วคนยุค baby boomer generation โดนหลอกว่ากินผลไม้แล้วดีต่อสุขภาพ แล้วโดนหลอกว่า กินสัตว์ปีก เนื้อสัตว์ และเครื่องใน จะทำให้เป็น gout แต่ที่ไหนได้ กินผลไม้กลายเป็นป่วยเป็น gout 555
โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน ใครค้นข้อมูลใหม่ๆเป็นภาษาอังกฤษไม่เป็น จะตามโลกไม่ทัน!
สรุปแล้วที่ทั้งแม่เราและทั้งเรา พอกินน้ำผึ้ง และผลไม้แห้งเข้าไป น้ำตาล fructose ไปทำร้ายไต ทำให้เกิดอาการ hyponatremia (โซเดียมระดับต่ำในเลือด) เลยเป็นตะคริวยังไงล่ะ จึงต้องกินเกลือเข้าไปเพื่อเพิ่ม sodium นั่นเอง!
และถึงไม่เป็นตะคริวเราก็กินเกลือเพิ่ม เพราะไปเจอ clips หมอฝรั่งยุคใหม่แนะนำว่า ให้กินเกลือเพิ่ม ซึ่งเราแปะ clips พวกนั้นไว้ในกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/41468648
ตั้งแต่นั้นมาเราหยุดกินผลไม้ตลอดชีวิตไปเลย เพราะเจอ clips พวกนี้ (หยุดกินผลไม้ตั้งแต่อายุ 69 ถึงตนนี้อายุเกือบ 72) แล้วไม่เป็นตะคริวอีกเลย แล้วที่แปลกมากๆก็คือ เราเคยมีก้อนแข็งๆที่บริเวณไตข้างขวามาตั้งแต่อายุ 50 จนถึงอายุ 69 แล้วไม่แน่ใจว่าเป็นไขมันพอกตับหรือมีนิ่วที่ไตข้างขวา ไม่กล้าไปหาหมออะ แต่พอหยุดกินผลไม้ไปได้ซักพัก ไอ้ก้อนแข็งๆที่บริเวณไตข้างขวาอยู่ดีๆมันยุบหายไปหมดได้เอง! เท่านั้นไม่พออาการ OCD (ย้ำคิดย้ำทำ) ที่เคยรักษาหายไปแล้ว แต่ในบางครั้งมี relapse (การที่โรคกำเริบอีก) เป็นครั้งคราว แต่ไม่รุนแรงนัก ก็กลายเป็นไม่มี relapse อีกเลย นั่นก็หมายความว่า "การหยุดกินผลไม้แล้วกินเกลือเพิ่ม (ตามคำแนะนำของหมอฝรั่งยุคใหม่) กลายเป็นทำให้ไตเราแข็งแรงขึ้นมาได้อย่างน่ามหัศจรรย์!"
ข้างล่างนี้ ใน คคห 1 เรารวบรวม clips หมอฝรั่งยุคใหม่ ที่บอกว่า "ผลไม้ทำอันตรายสุขภาพ" เอาไว้ ซึ่งพอเราเอา clips พวกนี้ไปแปะไว้ในกระทู้ไหนใน pantip ก็มักจะมีคนมากด "สยอง" กับกด "ขำกลิ้ง" ให้55555+++
^
ไม่ว่ากัน "ตัวใครตัวมัน"
แต่แนะนำว่า ถ้าอยากกด "สยอง" หรือ "ขำกลิ้ง" ให้ไปที่ clips ต้นสังกัดบน youtube แล้วพิมพ์คำว่า "สยอง" หรือ "ขำกลิ้ง" เป็นภาษาอังกฤษ แต่ทางที่ดีควรพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษยาวๆอธิบายว่าไม่เชื่อหมอฝรั่งยุคใหม่ที่ทำ clips เหล่านี้ เพราะอะไร จะได้โต้ตอบกันได้อย่างสร้างสรรค์ว่าใครผิดใครถูก55555+++