ติดเชื้อใหม่ 1,955 ดับ 33 ปอดอักเสบ 935
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3496664
ติดเชื้อใหม่ 1,955 ดับ 33 ปอดอักเสบ 935
วันที่ 9 สิงหาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันอังคารที่ 9 สิงหาคม 2565
ผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 1,955 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยในประเทศ 1,954 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 1 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,385,971 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 2,294 ราย หายป่วยสะสม 2,388,302 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 20,947 ราย
เสียชีวิต 33 ราย เสียชีวิตสะสม 9,965 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 935 ราย
เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 65 เป็นต้นมา มีการปรับระบบรายงาน โดยรายงานเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล จึงทำให้รายงานยอดผู้ป่วยสะสม มีจำนวนที่น้อยกว่ายอดผู้หายป่วยสะสม
ค่าไฟขึ้นแน่ 4.72 บาทต่อยูนิต มีผลแล้ว ไร้ทบทวน
https://www.matichon.co.th/economy/news_3496695
ค่าไฟขึ้นแน่ 4.72 บาทต่อยูนิต มีผลแล้ว ไร้ทบทวน
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม นาย
กุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) งวดเดือนกันยายน-ธันวาคม ตามมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐาน ส่งผลให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟในงวดดังกล่าว รวม 4.72 บาทต่อหน่วย ว่าเรื่องนี้ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วง สั่งให้กระทรวงพลังงานเร่งหามาตรการรองรับเพื่อช่วยเหลือ ดังนั้น กระทรวงจะเร่งหารือกับ กกพ.ว่าจะยังคงยืนยันตามมติเดิมหรือไม่ แล้วจะมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนเป็นอย่างไร เพราะ กกพ.เป็นหน่วยงานกำกับและดูเรื่องนี้โดยเฉพาะ ส่วนการจะทบทวนหรือปรับเปลี่ยนมติบอร์ด กกพ.ที่ออกไปแล้วหรือไม่นั้น กระทรวงพลังงานจะไม่ก้าวล่วง
แหล่งข่าวจาก กกพ.กล่าวว่า มติของ กกพ.เรื่องการปรับค่าเอฟทีดังกล่าวถือว่ามีผลทางกฎหมายไปแล้ว ไม่สามารถทบทวนเปลี่ยนได้ หากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถออกเป็นมาตรการเยียวยาประชาชนเฉพาะกลุ่มแยกส่วนออกมาเหมือนทุกครั้ง ไม่จำเป็นต้องกลับมติการปรับขึ้นค่าไฟครั้งนี้
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า ที่ผ่านมามีมาตรการช่วยเหลือประชาชนบรรเทาค่าเอฟทีในงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม สำหรับผู้ใช้ไฟที่ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็กได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าเอฟทีที่ 0.2338 บาทต่อหน่วย ใช้งบกลางดูแลประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่งวดใหม่เดือนกันยายน-ธันวาคม งบกลางแทบจะไม่เหลือแล้ว และหากใช้เงินสนับสนุนในงวดนี้อาจเป็นวงเงินถึง 8,000 ล้านบาท จึงเป็นโจทย์สำคัญว่ารัฐบาลจะหาเงินจากไหน
“นพดล” เตือนรัฐอย่ากังวลเกินไปจัดประชุมเอเปค
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_388455/
“นพดล” เตือนรัฐอย่ากังวลเกินไป เชื่อคนไทยพร้อมร่วมเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปคที่ดี ไม่มีใครอยากทำวุ่นวาย
นาย
นพดล ปัทมะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงท่าทีของรัฐบาลที่ขอให้คนไทยเป็นเจ้าภาพที่ดี และอย่าทำให้ชาติเสียหายในช่วงการประชุมเอเปคปลายปีนี้ ว่า เชื่อว่าคนไทยพร้อมร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นรัฐบาลในเวลานั้น และคงไม่มีใครจะทำอะไรวุ่นวายในช่วงเวลาดังกล่าว
จึงไม่อยากให้รัฐบาลกังวลจนเกินเหตุ แต่ที่ประชาชนคาดหมายจากรัฐบาลคือการใช้ศักยภาพในฐานะเจ้าภาพว่า จะทำให้การประชุมสำเร็จแค่ไหน ได้คะแนนเกรดไหน แค่ผ่านหรือดีเลิศ
ซึ่งคงจะดูได้จากการ เตรียมการและการดำเนินการในเรื่องธุรการและเนื้อหาสาระในการประชุมว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องใดที่เป็นประโยชน์ มีผลในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่มีความท้าทายอย่างมากในโลกอย่างไม่เคยมีมาก่อนทั้งด้านการเมือง และเศรษฐกิจโลก สงครามในยูเครน ปัญหาเงินเฟ้อ การค้าระหว่างประเทศ และความตึงเครียดในภูมิภาคเอเชีย
ถามว่าไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคครั้งนี้จะสามารถฟื้นฟูเกียรติภูมิของประเทศ รวมทั้งจะทำให้การประชุมครั้งนี้ช่วยคลี่คลาย ผ่อนคลายปัญหาการค้าและการลงทุนของโลก ผลพวงจากสถานการณ์สงครามในยุโรป และจะช่วยสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียได้อย่างไรบ้าง
การประชุมเอเปคครั้งนี้อยู่ในช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์โลก และไทยในฐานะเจ้าภาพก็ถือว่ามีภารกิจสำคัญ และความสำเร็จของการประชุมส่วนหนึ่งก็จะมาจากศักยภาพของประธานที่ประชุม และนี่คงเป็นอีกครั้งที่ประชาชนคาดหวังศักยภาพของรัฐบาล และผู้นำในการเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งสำคัญนี้ อย่าห่วงปัจจัยภายนอกเรื่องบุคคลอื่น ควรห่วงปัจจัยภายในเรื่องศักยภาพของรัฐบาลเอง
JJNY : ติดเชื้อใหม่ 1,955 ดับ 33│ค่าไฟขึ้นแน่ 4.72 บ│“นพดล”เตือนรัฐอย่ากังวลเกินไปจัดประชุมเอเปค│กรุงโซลอ่วม!น้ำท่วมหนัก
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3496664
ติดเชื้อใหม่ 1,955 ดับ 33 ปอดอักเสบ 935
วันที่ 9 สิงหาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันอังคารที่ 9 สิงหาคม 2565
ผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 1,955 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยในประเทศ 1,954 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 1 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,385,971 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 2,294 ราย หายป่วยสะสม 2,388,302 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 20,947 ราย
เสียชีวิต 33 ราย เสียชีวิตสะสม 9,965 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 935 ราย
เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 65 เป็นต้นมา มีการปรับระบบรายงาน โดยรายงานเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล จึงทำให้รายงานยอดผู้ป่วยสะสม มีจำนวนที่น้อยกว่ายอดผู้หายป่วยสะสม
ค่าไฟขึ้นแน่ 4.72 บาทต่อยูนิต มีผลแล้ว ไร้ทบทวน
https://www.matichon.co.th/economy/news_3496695
ค่าไฟขึ้นแน่ 4.72 บาทต่อยูนิต มีผลแล้ว ไร้ทบทวน
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) งวดเดือนกันยายน-ธันวาคม ตามมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐาน ส่งผลให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟในงวดดังกล่าว รวม 4.72 บาทต่อหน่วย ว่าเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วง สั่งให้กระทรวงพลังงานเร่งหามาตรการรองรับเพื่อช่วยเหลือ ดังนั้น กระทรวงจะเร่งหารือกับ กกพ.ว่าจะยังคงยืนยันตามมติเดิมหรือไม่ แล้วจะมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนเป็นอย่างไร เพราะ กกพ.เป็นหน่วยงานกำกับและดูเรื่องนี้โดยเฉพาะ ส่วนการจะทบทวนหรือปรับเปลี่ยนมติบอร์ด กกพ.ที่ออกไปแล้วหรือไม่นั้น กระทรวงพลังงานจะไม่ก้าวล่วง
แหล่งข่าวจาก กกพ.กล่าวว่า มติของ กกพ.เรื่องการปรับค่าเอฟทีดังกล่าวถือว่ามีผลทางกฎหมายไปแล้ว ไม่สามารถทบทวนเปลี่ยนได้ หากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถออกเป็นมาตรการเยียวยาประชาชนเฉพาะกลุ่มแยกส่วนออกมาเหมือนทุกครั้ง ไม่จำเป็นต้องกลับมติการปรับขึ้นค่าไฟครั้งนี้
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า ที่ผ่านมามีมาตรการช่วยเหลือประชาชนบรรเทาค่าเอฟทีในงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม สำหรับผู้ใช้ไฟที่ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็กได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าเอฟทีที่ 0.2338 บาทต่อหน่วย ใช้งบกลางดูแลประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่งวดใหม่เดือนกันยายน-ธันวาคม งบกลางแทบจะไม่เหลือแล้ว และหากใช้เงินสนับสนุนในงวดนี้อาจเป็นวงเงินถึง 8,000 ล้านบาท จึงเป็นโจทย์สำคัญว่ารัฐบาลจะหาเงินจากไหน
“นพดล” เตือนรัฐอย่ากังวลเกินไปจัดประชุมเอเปค
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_388455/
“นพดล” เตือนรัฐอย่ากังวลเกินไป เชื่อคนไทยพร้อมร่วมเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปคที่ดี ไม่มีใครอยากทำวุ่นวาย
นายนพดล ปัทมะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงท่าทีของรัฐบาลที่ขอให้คนไทยเป็นเจ้าภาพที่ดี และอย่าทำให้ชาติเสียหายในช่วงการประชุมเอเปคปลายปีนี้ ว่า เชื่อว่าคนไทยพร้อมร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นรัฐบาลในเวลานั้น และคงไม่มีใครจะทำอะไรวุ่นวายในช่วงเวลาดังกล่าว
จึงไม่อยากให้รัฐบาลกังวลจนเกินเหตุ แต่ที่ประชาชนคาดหมายจากรัฐบาลคือการใช้ศักยภาพในฐานะเจ้าภาพว่า จะทำให้การประชุมสำเร็จแค่ไหน ได้คะแนนเกรดไหน แค่ผ่านหรือดีเลิศ
ซึ่งคงจะดูได้จากการ เตรียมการและการดำเนินการในเรื่องธุรการและเนื้อหาสาระในการประชุมว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องใดที่เป็นประโยชน์ มีผลในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่มีความท้าทายอย่างมากในโลกอย่างไม่เคยมีมาก่อนทั้งด้านการเมือง และเศรษฐกิจโลก สงครามในยูเครน ปัญหาเงินเฟ้อ การค้าระหว่างประเทศ และความตึงเครียดในภูมิภาคเอเชีย
ถามว่าไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคครั้งนี้จะสามารถฟื้นฟูเกียรติภูมิของประเทศ รวมทั้งจะทำให้การประชุมครั้งนี้ช่วยคลี่คลาย ผ่อนคลายปัญหาการค้าและการลงทุนของโลก ผลพวงจากสถานการณ์สงครามในยุโรป และจะช่วยสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียได้อย่างไรบ้าง
การประชุมเอเปคครั้งนี้อยู่ในช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์โลก และไทยในฐานะเจ้าภาพก็ถือว่ามีภารกิจสำคัญ และความสำเร็จของการประชุมส่วนหนึ่งก็จะมาจากศักยภาพของประธานที่ประชุม และนี่คงเป็นอีกครั้งที่ประชาชนคาดหวังศักยภาพของรัฐบาล และผู้นำในการเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งสำคัญนี้ อย่าห่วงปัจจัยภายนอกเรื่องบุคคลอื่น ควรห่วงปัจจัยภายในเรื่องศักยภาพของรัฐบาลเอง