ตอนนี้อายุ 27 สูง 163 น้ำหนัก 58 ครับ
มีประวัติสูบบุหรี่เป็นเวลา 4-5 ปี ตั้งแต่ ม.ปลาย เพิ่งเลิกตอนอายุ 23 หลังจากนั้นก็มีแต่แอลกอฮอร์เดือนละ 1-3 ครั้ง
เนื่องจากช่วงก่อนเลิกบุหรี่ เริ่มมีอาการแน่นหน้าอก ใจหวิว ๆ เลย หันมาวิ่งออกกำลังกายแทนครับ
ตอนนี้ก็ 4-5 ปีแล้วที่ออกกำลังกายมาตลอด เฉลี่ยแล้วเดือนละ 5-7 ครั้ง บางช่วงก็มีหยุดไปบ้างเนื่องจากสภาพอากาศและภาระหน้าที่
ปกติจะวิ่งอยู่ที่ 5-10 กิโลตลอดครับ ช่วงฤดูหนาวจะวิ่งได้เร็วขึ้นเพราะอากาศเย็น
ปกติแล้วเวลาวิ่งเสร็จ ใช้เวลาพักเพียงแค่ 5-10 นาที ก็กลับมาปกติครับ
เหนื่อยแค่ไหนปกติก็คุมให้หายใจทางจมูกอย่างเดียวได้ ไม่ถึงกับพงาบ ๆ
ปกติผมเป็นคนนอนดึก บางช่วงถ้านอนไม่พอ ก็วิ่งได้นิดเดียว เพราะรู้สึกหายใจไม่ทัน กล้ามเนื้อไม่ฟิต
แต่เมื่อคืนมีอาการแปลก ๆ อย่างหนึ่งคือ ช่วงกิโลเมตรที่ 5 (ปกติผมวิ่ง pace 6.30-7.30 ตลอด)
ผมมีอาการแน่นที่กลางอก ปกติมันจะมีบ้างเพราะผมกินข้าวเย็นก่อน แล้วพักสองชั่วโมง บางทีมันจะมีลมตี พอเรอออกอาการก็หายไป
แต่ครั้งนี้เรอยังไงก็ไม่ออก มันจุก และแน่น แถมต้องใช้ปากช่วยหายใจ พอเรอได้ ก็ดีขึ้นนิดหน่อย
ผมไม่ได้เอะใจอะไร ก็เลยวิ่งต่อ ในใจคิดว่าอาจเป็นเพราะหยุดมาเป็นสัปดาห์ เลยอาจไม่ฟิต
ผมพยายามลากถึง 10 กิโล แต่ช่วง 8-9 กิโล รู้สึกว่ายิ่งเร่งยิ่งแน่น เลยหยุดเดินสัก 1-2 นาที แล้ววิ่งต่อด้วยความเร็วลดลง (ปกติ 2 กิโลเมตรสุดท้ายผมจะเพิ่มความเร็วราว ๆ pace 5.30-6.30)
พอครบ 10 โล ก็เดินเข้าบ้าน นั่งพัก และดื่มน้ำ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผมยังรู้สึกแน่นหน้าอกอยู่ เหมือนมีอะไรมากดทับ ผ่านไปเกือบชั่วโมงก็ยังรู้สึกจุด ๆ ในใจคิดแล้วว่าไม่ปกติแน่ เพราะอาการใจสั่น ใจหวิว หรืออะไรที่เคยเป็นมาตลอด มันไม่เคยเป็นหลังออกกำลังกายเลย เลยตัดสินใจไปอาบน้ำ จากนั้นลองนั่งนิ่ง ๆ วัดชีพจรดู ยังคงเต้นที่ 100-110
ทั้ง ๆ ที่หยุดวิ่งมาร่วมชั่วโมงแล้ว
ผมเลยตัดสินใจไปโรงพยาบาล ด่านแรกความดันผมพุ่งไปที่ 139/90 ซึ่งสูงมาก เพราะปกติผมอยู่ที่ 110/60
(Hr ช่วงไหนออกกำลังกาย ตอนพัก 65-70 ถ้าช่วงไหนไม่ได้ออกอยู่ที่ 75-85)
คุณหมอเลยให้ทำ EKG
คุณหมออ่านผลแล้วมันไม่ได้เต้นผิดจังหวะ แล้วอายุของคุณก็ไม่น่าจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือด อาจเป็นเพราะอาหารที่กินไปตอนเย็นตีขึ้นมา
ผมเลยขอผลกลับมาด้วย ที่ผมติดใจคือ Assumed to be 50 years old และมันขึ้นว่า consider LVH ไปเสิชดูมันคือกล้ามเนื้อหัวใจหนาใช่มั้ยครับ
จริง ๆ ปี 2018 ช่วงที่ผมเริ่มมีอาการใจสั่น ใจหวิว เคยหาคุณหมอ cardio มาแกก็บอกมีหัวใจโตนิดหน่อย แต่ไม่มีผลอะไร อาจเป็นเพราะว่าผมออกกำลังกาย
และช่วงปี 2019 ผมก็เคยทั้ง echo, stress test, ABI ก็เคย แต่ผลก็ออกมาปกติตลอด
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมขอผลมานั่งหาข้อมูลเอง และมันก็ขึ้นแบบนี้ครับ
เลยทราบว่าควร Follow up กับหมอเฉพาะทางต่อไหมครับ จริง ๆ ผมพยายามไปหาหมอตลอดนะ
แต่ปกติหมอหลาย ๆ ท่านรู้ว่าผมวิ่งได้ 10 โล คือเขาก็จะบอกว่างั้นไม่น่ามีปัญหาอะไร
แต่ผลตรงนี้มัน Lead ไปเป็นอะไรได้บ้างครับ เพราะความดันก็สูงมาก ตอนทำ EKG คือหลังจากออกกำลังกาย 2 ชั่วโมงเลยครับ
ปล.ผมเคยมีอาการประมาณนี้ ตอนปีที่แล้ว อาการแบบเดียวกันคือแน่นหน้าอก หายใจไม่ค่อยออก 2-3 ชั่วโมงหลังจากจากเล่นเวทครับ
พอไปโรงพยาบาล ความดันตัวบน 150+ คุณหมอก็จับ EKG แล้วบอกว่าผลปกติ พอตอนจ่ายเงินรู้สึกดีขึ้นซะงั้น
รบกวนผู้มีความรู้แนะนำด้วยครับผม
รบกวนช่วยอ่านผล EKG ทีครับ มันขึ้นว่าเป็น LVH แต่หมอบอกปกติ
มีประวัติสูบบุหรี่เป็นเวลา 4-5 ปี ตั้งแต่ ม.ปลาย เพิ่งเลิกตอนอายุ 23 หลังจากนั้นก็มีแต่แอลกอฮอร์เดือนละ 1-3 ครั้ง
เนื่องจากช่วงก่อนเลิกบุหรี่ เริ่มมีอาการแน่นหน้าอก ใจหวิว ๆ เลย หันมาวิ่งออกกำลังกายแทนครับ
ตอนนี้ก็ 4-5 ปีแล้วที่ออกกำลังกายมาตลอด เฉลี่ยแล้วเดือนละ 5-7 ครั้ง บางช่วงก็มีหยุดไปบ้างเนื่องจากสภาพอากาศและภาระหน้าที่
ปกติจะวิ่งอยู่ที่ 5-10 กิโลตลอดครับ ช่วงฤดูหนาวจะวิ่งได้เร็วขึ้นเพราะอากาศเย็น
ปกติแล้วเวลาวิ่งเสร็จ ใช้เวลาพักเพียงแค่ 5-10 นาที ก็กลับมาปกติครับ
เหนื่อยแค่ไหนปกติก็คุมให้หายใจทางจมูกอย่างเดียวได้ ไม่ถึงกับพงาบ ๆ
ปกติผมเป็นคนนอนดึก บางช่วงถ้านอนไม่พอ ก็วิ่งได้นิดเดียว เพราะรู้สึกหายใจไม่ทัน กล้ามเนื้อไม่ฟิต
แต่เมื่อคืนมีอาการแปลก ๆ อย่างหนึ่งคือ ช่วงกิโลเมตรที่ 5 (ปกติผมวิ่ง pace 6.30-7.30 ตลอด)
ผมมีอาการแน่นที่กลางอก ปกติมันจะมีบ้างเพราะผมกินข้าวเย็นก่อน แล้วพักสองชั่วโมง บางทีมันจะมีลมตี พอเรอออกอาการก็หายไป
แต่ครั้งนี้เรอยังไงก็ไม่ออก มันจุก และแน่น แถมต้องใช้ปากช่วยหายใจ พอเรอได้ ก็ดีขึ้นนิดหน่อย
ผมไม่ได้เอะใจอะไร ก็เลยวิ่งต่อ ในใจคิดว่าอาจเป็นเพราะหยุดมาเป็นสัปดาห์ เลยอาจไม่ฟิต
ผมพยายามลากถึง 10 กิโล แต่ช่วง 8-9 กิโล รู้สึกว่ายิ่งเร่งยิ่งแน่น เลยหยุดเดินสัก 1-2 นาที แล้ววิ่งต่อด้วยความเร็วลดลง (ปกติ 2 กิโลเมตรสุดท้ายผมจะเพิ่มความเร็วราว ๆ pace 5.30-6.30)
พอครบ 10 โล ก็เดินเข้าบ้าน นั่งพัก และดื่มน้ำ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผมยังรู้สึกแน่นหน้าอกอยู่ เหมือนมีอะไรมากดทับ ผ่านไปเกือบชั่วโมงก็ยังรู้สึกจุด ๆ ในใจคิดแล้วว่าไม่ปกติแน่ เพราะอาการใจสั่น ใจหวิว หรืออะไรที่เคยเป็นมาตลอด มันไม่เคยเป็นหลังออกกำลังกายเลย เลยตัดสินใจไปอาบน้ำ จากนั้นลองนั่งนิ่ง ๆ วัดชีพจรดู ยังคงเต้นที่ 100-110
ทั้ง ๆ ที่หยุดวิ่งมาร่วมชั่วโมงแล้ว
ผมเลยตัดสินใจไปโรงพยาบาล ด่านแรกความดันผมพุ่งไปที่ 139/90 ซึ่งสูงมาก เพราะปกติผมอยู่ที่ 110/60
(Hr ช่วงไหนออกกำลังกาย ตอนพัก 65-70 ถ้าช่วงไหนไม่ได้ออกอยู่ที่ 75-85)
คุณหมอเลยให้ทำ EKG
คุณหมออ่านผลแล้วมันไม่ได้เต้นผิดจังหวะ แล้วอายุของคุณก็ไม่น่าจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือด อาจเป็นเพราะอาหารที่กินไปตอนเย็นตีขึ้นมา
ผมเลยขอผลกลับมาด้วย ที่ผมติดใจคือ Assumed to be 50 years old และมันขึ้นว่า consider LVH ไปเสิชดูมันคือกล้ามเนื้อหัวใจหนาใช่มั้ยครับ
จริง ๆ ปี 2018 ช่วงที่ผมเริ่มมีอาการใจสั่น ใจหวิว เคยหาคุณหมอ cardio มาแกก็บอกมีหัวใจโตนิดหน่อย แต่ไม่มีผลอะไร อาจเป็นเพราะว่าผมออกกำลังกาย
และช่วงปี 2019 ผมก็เคยทั้ง echo, stress test, ABI ก็เคย แต่ผลก็ออกมาปกติตลอด
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมขอผลมานั่งหาข้อมูลเอง และมันก็ขึ้นแบบนี้ครับ
เลยทราบว่าควร Follow up กับหมอเฉพาะทางต่อไหมครับ จริง ๆ ผมพยายามไปหาหมอตลอดนะ
แต่ปกติหมอหลาย ๆ ท่านรู้ว่าผมวิ่งได้ 10 โล คือเขาก็จะบอกว่างั้นไม่น่ามีปัญหาอะไร
แต่ผลตรงนี้มัน Lead ไปเป็นอะไรได้บ้างครับ เพราะความดันก็สูงมาก ตอนทำ EKG คือหลังจากออกกำลังกาย 2 ชั่วโมงเลยครับ
ปล.ผมเคยมีอาการประมาณนี้ ตอนปีที่แล้ว อาการแบบเดียวกันคือแน่นหน้าอก หายใจไม่ค่อยออก 2-3 ชั่วโมงหลังจากจากเล่นเวทครับ
พอไปโรงพยาบาล ความดันตัวบน 150+ คุณหมอก็จับ EKG แล้วบอกว่าผลปกติ พอตอนจ่ายเงินรู้สึกดีขึ้นซะงั้น
รบกวนผู้มีความรู้แนะนำด้วยครับผม