เขี้ยวมรณะกลางดง
ล. วิลิศมาหรา
เรื่องราวอาถรรพ์ของป่าที่มีสรรพสัตว์มากมายหลายชนิด รวมทั้งสิ่งที่เรียกว่าอมนุษย์
สถานที่ทุกแห่งมีอดีต รวมทั้งผู้ซึ่งเคยอยู่มาก่อน เรื่องของเจ้าที่เจ้าทาง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
หมู่บ้านหินแผ่อยู่ติดกับชายแดนไทยและกัมพูชา ระยะนี้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านอยู่เนือง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัวควายเป็ดไก่ ไม่รู้มีตัวอะไรมากัดกินในคืนพระจันทร์เต็มดวง
ผู้ใหญ่สินเป็นคนมีอิทธิพลในหมู่บ้าน ด้วยความที่ตนเองนึกอยากจะได้ที่ทำกินของคำตัน ซึ่งเป็นผู้ชายรูปร่างหน้าตาดีปลูกบ้านอยู่กับเมียชื่อแสงดาอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน เพราะที่นาของคำตันอยู่ติดกับที่นาของตนเอง ในวันหนึ่ง ผู้ใหญ่สินจึงยกโขยงพาลูกน้องไปที่บ้านของคำตัน เพื่อข่มขู่ให้แสงดารับสารภาพว่าเป็นผีปอบที่แอบมาลักกัดกินสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน เนื่องจากแสงดาเป็นคนจากถิ่นอื่น ไม่มีคนรู้จักหัวนอนปลายเท้า และยังกล่าวหาว่าคำตันเป็นปีศาจหมาป่า ผัวของนางผีปอบ
“อำภามันเห็นกับตาว่า เมื่อคืนก่อน แสงดามันไปที่เล้าไก่ของยายจ่อย เช้ามาไก่ของยายจ่อยก็นอนตายกันเกลื่อนเล้า ใช่ไหมล่ะ! อำภา เอ็งพูดมาซิ”
“ใช่จ้ะพ่อผู้ใหญ่”
อำภารีบรับคำอย่างแข็งขัน เพราะตัวเองไม่ชอบหน้าแสงดาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากแสงดาได้แต่งงานกับคำตัน ผู้ชายที่ตัวเองแอบชอบ เมื่อคำตันหันไปแต่งงานกับแสงดา อำภาจึงเกิดความคับแค้นใจ และนึกอิจฉาแสงดามาโดยตลอด จ้องคิดจะทำลายครอบครัวของคนทั้งสอง ในคืนนั้น เมื่อเห็นแสงดาไปที่บ้านของยายจ่อย จึงฉวยโอกาสใส่ไฟเธอเสียเลย
“ยายจ่อยแกขอให้ฉันช่วยจับไก่ให้แก แกจะเอาไปต้มกินเท่านั้นเองนะ ผู้ใหญ่” แสงดาพยายามเถียงเสียงแข็ง แต่มองดูแล้ว เธอคิดว่าไม่มีประโยชน์ เพราะท่าทางของผู้ใหญ่สินมันฟ้องอยู่แล้วว่า ตั้งใจจะมาหาเรื่องครอบครัวของตน และฟันธงมาแต่ไก่โห่ หาเรื่องแสงดาว่าคือผีปอบที่มาลักกัดกินไก่ แถมยังมีผัวเป็นปีศาจหมาป่า เพื่อให้สมกับข้อหาที่สัตว์เลี้ยงของชาวบ้านมักถูกตัวอะไรมากัดตายในคืนเดือนเพ็ญ
“ถ้างั้นเศษเนื้อลูกวัวเกิดใหม่ของตาผา ที่ไปเจอหลังบ้านของพวกเอ็งล่ะ เอ็งจะว่ายังไง ไอ้ผีหมาป่า”
ไอ้ชิด ลูกน้องมือขวาของผู้ใหญ่สินพูดขึ้น คำตันถึงกับต้องอึ้ง เพราะไม่รู้จริง ๆ ว่าเนื้อวัวกองนั้นมาตกอยู่หลังบ้านของตนได้อย่างไร
“เห็นแก่เอ็งเป็นลูกบ้านของข้า ก่อนคืนวันเพ็ญที่จะถึงนี้ เอ็งพาเมียย้ายไปอยู่ที่อื่นซะ ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
ผู้ใหญ่สินฝากคำขู่เอาไว้ ก่อนจะพาพรรคพวกเดินทางกลับ
หลังพวกของผู้ใหญ่สินกลับไปแล้ว คำตันซึ่งเห็นท่าไม่ดี ผู้ใหญ่บ้านอันธพาลคนนี้จะต้องมาหาเรื่องกับเขาอีกเป็นแน่ นึกเป็นห่วงแต่เมียสาว จะพลอยมาได้รับอันตราย ในคืนวันพระจันทร์เต็มดวงที่กำลังจะมาถึง เขาจึงขอร้องให้แสงดาไปซ่อนตัวอยู่ในป่าเสียก่อน ส่วนตัวเขาจะซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ที่พุ่มไม้ข้างบ้าน
“ไม่จ้ะ ฉันจะอยู่กับพี่ที่นี่แหละ”
“เอ็งอยู่ไม่ได้นะแสงดา ไม่รู้ว่าไอ้สินมันจะเล่นงานเราด้วยวิธีไหน ไปหลบอยู่ในป่าก่อน พอพ้นคืนนั้นไปพี่จะไปรับเอ็งกลับมาบ้าน”
“ไม่ ฉันเป็นห่วงพี่ ให้ฉันตายเสียดีกว่าจะทิ้งพี่ไว้ที่นี่คนเดียว ฉันไม่ไว้ใจไอ้ผู้ใหญ่สิน ถึงมันจะพิสูจน์ได้ว่าฉันไม่ใช่ปอบ มันก็จะต้องหาเรื่องมาว่าพี่เป็นผีหมาป่าจนได้นั่นแหละ มันต้องการที่นาของเรา”
แสงดาไม่ยอมทิ้งผัวไป ถึงคำตันจะขอร้องอย่างไร หัวเด็ดตีนขาดเธอก็ไม่ยอมทิ้งผัว คำตันซึ้งในน้ำใจเมีย ขณะเดียวกันก็นึกหนักใจในความละโมบโลภมาก และความโหดร้ายของผู้ใหญ่บ้านจอมอันธพาล
เขี้ยวมรณะกลางดง
เรื่องราวอาถรรพ์ของป่าที่มีสรรพสัตว์มากมายหลายชนิด รวมทั้งสิ่งที่เรียกว่าอมนุษย์
สถานที่ทุกแห่งมีอดีต รวมทั้งผู้ซึ่งเคยอยู่มาก่อน เรื่องของเจ้าที่เจ้าทาง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
หมู่บ้านหินแผ่อยู่ติดกับชายแดนไทยและกัมพูชา ระยะนี้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านอยู่เนือง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัวควายเป็ดไก่ ไม่รู้มีตัวอะไรมากัดกินในคืนพระจันทร์เต็มดวง
ผู้ใหญ่สินเป็นคนมีอิทธิพลในหมู่บ้าน ด้วยความที่ตนเองนึกอยากจะได้ที่ทำกินของคำตัน ซึ่งเป็นผู้ชายรูปร่างหน้าตาดีปลูกบ้านอยู่กับเมียชื่อแสงดาอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน เพราะที่นาของคำตันอยู่ติดกับที่นาของตนเอง ในวันหนึ่ง ผู้ใหญ่สินจึงยกโขยงพาลูกน้องไปที่บ้านของคำตัน เพื่อข่มขู่ให้แสงดารับสารภาพว่าเป็นผีปอบที่แอบมาลักกัดกินสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน เนื่องจากแสงดาเป็นคนจากถิ่นอื่น ไม่มีคนรู้จักหัวนอนปลายเท้า และยังกล่าวหาว่าคำตันเป็นปีศาจหมาป่า ผัวของนางผีปอบ
“อำภามันเห็นกับตาว่า เมื่อคืนก่อน แสงดามันไปที่เล้าไก่ของยายจ่อย เช้ามาไก่ของยายจ่อยก็นอนตายกันเกลื่อนเล้า ใช่ไหมล่ะ! อำภา เอ็งพูดมาซิ”
“ใช่จ้ะพ่อผู้ใหญ่”
อำภารีบรับคำอย่างแข็งขัน เพราะตัวเองไม่ชอบหน้าแสงดาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากแสงดาได้แต่งงานกับคำตัน ผู้ชายที่ตัวเองแอบชอบ เมื่อคำตันหันไปแต่งงานกับแสงดา อำภาจึงเกิดความคับแค้นใจ และนึกอิจฉาแสงดามาโดยตลอด จ้องคิดจะทำลายครอบครัวของคนทั้งสอง ในคืนนั้น เมื่อเห็นแสงดาไปที่บ้านของยายจ่อย จึงฉวยโอกาสใส่ไฟเธอเสียเลย
“ยายจ่อยแกขอให้ฉันช่วยจับไก่ให้แก แกจะเอาไปต้มกินเท่านั้นเองนะ ผู้ใหญ่” แสงดาพยายามเถียงเสียงแข็ง แต่มองดูแล้ว เธอคิดว่าไม่มีประโยชน์ เพราะท่าทางของผู้ใหญ่สินมันฟ้องอยู่แล้วว่า ตั้งใจจะมาหาเรื่องครอบครัวของตน และฟันธงมาแต่ไก่โห่ หาเรื่องแสงดาว่าคือผีปอบที่มาลักกัดกินไก่ แถมยังมีผัวเป็นปีศาจหมาป่า เพื่อให้สมกับข้อหาที่สัตว์เลี้ยงของชาวบ้านมักถูกตัวอะไรมากัดตายในคืนเดือนเพ็ญ
“ถ้างั้นเศษเนื้อลูกวัวเกิดใหม่ของตาผา ที่ไปเจอหลังบ้านของพวกเอ็งล่ะ เอ็งจะว่ายังไง ไอ้ผีหมาป่า”
ไอ้ชิด ลูกน้องมือขวาของผู้ใหญ่สินพูดขึ้น คำตันถึงกับต้องอึ้ง เพราะไม่รู้จริง ๆ ว่าเนื้อวัวกองนั้นมาตกอยู่หลังบ้านของตนได้อย่างไร
“เห็นแก่เอ็งเป็นลูกบ้านของข้า ก่อนคืนวันเพ็ญที่จะถึงนี้ เอ็งพาเมียย้ายไปอยู่ที่อื่นซะ ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
ผู้ใหญ่สินฝากคำขู่เอาไว้ ก่อนจะพาพรรคพวกเดินทางกลับ
หลังพวกของผู้ใหญ่สินกลับไปแล้ว คำตันซึ่งเห็นท่าไม่ดี ผู้ใหญ่บ้านอันธพาลคนนี้จะต้องมาหาเรื่องกับเขาอีกเป็นแน่ นึกเป็นห่วงแต่เมียสาว จะพลอยมาได้รับอันตราย ในคืนวันพระจันทร์เต็มดวงที่กำลังจะมาถึง เขาจึงขอร้องให้แสงดาไปซ่อนตัวอยู่ในป่าเสียก่อน ส่วนตัวเขาจะซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ที่พุ่มไม้ข้างบ้าน
“ไม่จ้ะ ฉันจะอยู่กับพี่ที่นี่แหละ”
“เอ็งอยู่ไม่ได้นะแสงดา ไม่รู้ว่าไอ้สินมันจะเล่นงานเราด้วยวิธีไหน ไปหลบอยู่ในป่าก่อน พอพ้นคืนนั้นไปพี่จะไปรับเอ็งกลับมาบ้าน”
“ไม่ ฉันเป็นห่วงพี่ ให้ฉันตายเสียดีกว่าจะทิ้งพี่ไว้ที่นี่คนเดียว ฉันไม่ไว้ใจไอ้ผู้ใหญ่สิน ถึงมันจะพิสูจน์ได้ว่าฉันไม่ใช่ปอบ มันก็จะต้องหาเรื่องมาว่าพี่เป็นผีหมาป่าจนได้นั่นแหละ มันต้องการที่นาของเรา”
แสงดาไม่ยอมทิ้งผัวไป ถึงคำตันจะขอร้องอย่างไร หัวเด็ดตีนขาดเธอก็ไม่ยอมทิ้งผัว คำตันซึ้งในน้ำใจเมีย ขณะเดียวกันก็นึกหนักใจในความละโมบโลภมาก และความโหดร้ายของผู้ใหญ่บ้านจอมอันธพาล