คุณเป็นคนที่กลัวความรักหรือความสัมพันธ์หรือเปล่า?

ตามหัวข้อค่ะ 
คือเราเพิ่งมารู้สึกตัวเองว่าตัวเองนั้นเป็นคนที่กลัวความสัมพันธ์ หรือกลัวการมีความรัก (Philophobia) มากค่ะ 
สาเหตุอาจจะมาจากสถานะทางครอบครัวที่เรามักจะเห็นพ่อและแม่นั้นทะเลาะกันตั้งแต่เรายังเรียนอยู่ชั้นม.ต้น และสุดท้ายพ่อเราก็เลิกกับแม่ไปมีครอบครัวใหม่ เราเห็นแม่เสียใจและเลี้ยงเราและน้องเพียงลำพัง เราเห็นแม่ลำบากและเริ่มไม่ชอบพ่อที่พ่อทำให้แม่เราเป็นแบบนั้น

สาเหตุต่อมาเกิดตอนเราเข้ามหาลัย อาจจะมาจากที่เรานั้นเห็นเพื่อนสนิทที่เขามีแฟนและมักจะทะเลาะกันตลอดเวลา สุดท้ายก็จบกันแบบที่เพื่อนเรามักจะร้องไห้เสียใจ เราก็ไม่รู้จะปลอบใจยังไงจึงได้แต่นั่งอยู่ข้าง ๆ เงียบ ๆ จนมีคำถามในใจว่า "ถ้าคบกันแล้วเจ็บปวดแบบนี้ทำไมถึงไม่เลิกกันนะ?" แต่ก็ไม่ได้ถามออกไป และวันต่อมาก็เห็นเพื่อนเรากลับไปพูดจาดีกับแฟนต่อ และวันต่อมาก็ทะเลาะกัน ร้องไห้ วนลูปอยู่อย่างนั้น เราจึงคิดในใจว่าทำไมความรักถึงยากอย่างนี้ มันดูทุกข์จังเลย

กระทั่งเรามาทำงาน เราได้รู้จักกับรุ่นพี่ที่ทำงานสองคน (เป็นผู้หญิง) เนื่องจากเราเป็นเด็กบ้านนอกที่บังเอิญได้เข้ามาทำงานในองค์กรที่ส่วนใหญ่เป็นสังคมแบ่งชนชั้น (ทหารนั่นแหละ) เราที่เป็นเด็กเด๋อด๋าดูใสซื่อและตอนนั้นมองโลกในแง่บวกมาก (เกินไป) รุ่นพี่สองคนนี้จึงเข้ามาดูแลเรา ช่วงแรก ๆ พวกพี่เขาดูแลเราดีมาก จนเราเชื่อใจและนับถือ กระทั่งผ่านไปเราก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับพวกพี่เขา เพราะพวกเขาเริ่มจะเข้ามาก้าวก่ายในชีวิตเรามากเกินไป (เป็นพวกสุดโต่ง...แบบปฏิบัติธรรมสุดโต่ง) ต้องเดินจงกรม นั่งสมาธิ ไปวัดกับเขา จนเราไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว พอเราตั้งใจจะเฟดตัวออกมา ก็ถูกข่มขู่ คุกคาม เคาะประตูด่า บุกเข้ามาในบ้านเอานิ้วผลักศีรษะจนหน้าหงาย ซึ่งเราไม่คิดเลยว่าคนที่เราไว้ใจและเคารพจะทำกันแบบนี้ได้

เหตุการณ์นั้นมันทำให้เรานั้นกลายเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง และเป็นโรคแพนิก รวมถึงเป็นโรคไฟโบรมัยอัลเจีย (เป็นออฟฟิศซินโดรมบวกกับโรคซึมเศร้าจนทำให้กล้ามเนื้อเกิดพังพืดและสารเคมีในสมองผิดปกติ คือรับรู้ความเจ็บปวดมากกว่าปกติหลายร้อยเท่า) ต้องเข้ากายภาพบำบัดเป็นเดือน 

มันจึงทำให้เราเริ่มที่จะสร้างกำแพงขึ้นมา ไม่เชื่อใจใครง่ายเกินไป จนกลายเป็นแข็งกระด้าง (เพราะสังคมที่เราอยู่นั้นมักจะมีคนจ้องจะเอาเปรียบตลอดเวลา เราจึงต้องป้องกันตัวเอง) 
 
ทั้งหมดทั้งมวลจึงทำให้เราโสดมาจนถึงปัจจุบัน (55555) ซึ่งตอนนี้อายุ 29 ปีแล้ว และไม่เคยมีแฟนมาเลย เราจึงอยากจะถามเพื่อน ๆ หรือใครที่เป็นแบบนี้หรือเคยเป็นแบบนี้ ว่าคุณปรับตัวอย่างไรหรือทำอย่างไรถึงจะพ้นสภาวะนี้หรืออยู่กับมันอย่างมีความสุขคะ

ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
___ คุณปรับตัวอย่างไรหรือทำอย่างไรถึงจะพ้นสภาวะนี้หรืออยู่กับมันอย่างมีความสุขคะ ? ___


กลัวมากกกกกกกก (ก ไก่ 38 ตัว)

และคิดว่า ควรจะกลัวต่อไปเรื่อยๆค่ะ เผลอเมื่อไหร่ ลืมกลัวเมื่อไหร่ ก็ตกหลุมพรางทุกทีสิน่า เม่าในกองไฟ

เราเห็นโทษของความรักทั้งจาก ประสบการณ์ตรง และ จากเรื่องราวของบุคคลอื่นๆ

ที่น่ากลัวที่สุด คือ ความรัก มันไม่เที่ยง มันไม่ยอมให้ใครเป็นเจ้าของมันอย่างแท้จริงค่ะ
(เผลอนึกว่า รักเป็นของเราเมื่อไหร่ กฏอนิจจังจะทำงาน กฏอนัตตาจะริบคืน)

มันจะมาล่อหลอก ให้เราตายใจ  เมื่อเราวางใจ จนหมดใจ เราจะถูกทรยศหักหลัง
มันจะมาในคราบของพลังใจที่แสนหวาน เมื่อเราพึ่งพิงเต็มที่ มันจะทำให้เราสิ้นหวัง

โทษ และ ภัย เจียระไน สามวันยังไม่จบ

แต่ทว่า …

รักมักจะมา แบบ ไม่ทันตั้งตัว
เมื่อขาดสติ ก็จะรัก แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
กว่าจะตาสว่าง บางคนก็แทบสิ้นเนื้อประดาตัว

ความสุข ความเคลิบเคลิ้ม ความหวานซึ้ง แรงดึงดูดแรงๆ
เป็นเพียงกับดัก … เป็นเพียงเหยื่อล่อ ให้เราติดกับ  เมื่อเราดิ้นไม่หลุด
ก็จะทรมานเราอย่างทารุณที่สุด

สรุป เรามองว่า การเห็นโทษภัย ในรัก ระมัดระวังใจไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับตัณหา ราคะ
แล้วเพิ่มพูนเมตตาพิสุทธิ์ ขึ้นในใจเนืองๆ คือ ทางสู่ความสุขค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่