สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
__กับผู้หญิงบางคน ที่มีสามีไว้เป็นพรอพเฉยๆ
เรื่องนี้ จะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยค่ะ
ขอเพียง เขายังจ่าย ในส่วนที่เขารับผิดชอบได้อยู่ ส่วนที่เหลือ จะเอาไปช่วยเหลือเกื้อกูลครอบครัวพี่ชาย ก็คงไม่แปลกอะไร
เพราะเขาเอง ก็ไม่ได้ให้เงินคุณใช้อยู่แล้ว _ ถ้าทำใจตรงนี้ได้ ก็อยู่ต่อได้ค่ะ
แต่ทว่า …
__กับผู้หญิงบางคน คงไม่อาจจะทนเรื่องแบบนี้ได้
1 คุยกันแล้ว ก่อนแต่งงาน ว่าถ้าเขายังมีภาระเรื่องหลาน คุณไม่แต่ง
แต่เขา ตระบัดสัตย์ !!!
แต่งกับคุณแล้ว ข้าวสารเป็นข้าวสุกแล้ว วันนี้พูดออกมาหน้าตาเฉย ว่า “ทนไม่ได้ก็ไป” !!!
ปัญหาเรื่องเดิม ที่คุยกันตั้งแต่ต้น มากลับคำแบบนี้ …
คนมีศักดิ์ศรี คนไหนก็ไม่มีใครยอมทนอยู่ฟังเขาไล่เป็นรอบที่สองหรอกค่ะ
2 คุณขอให้สามี มีเวลาให้คุณบ้าง อาทิตย์ละวันก็พอใจ
เขาบอกว่า หลานสำคัญกว่า เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก กับคุณซึ่งมาทีหลัง คบกันแค่ 12 ปี
_แหม … ฟังแล้วแบบนี้แล้ว แม้เวลาอีก 12 นาที ก็ไม่อยากจะเสียให้คนอย่างนี้อีกต่อไป
เฟอร์นิเจอร์ ซื้อมา ตั้งโชว์ไว้ที่บ้าน มองเห็นเมื่อไหร่ ก็ยังชื่นใจ ยังได้ประโยชน์ใช้สอย
เทียบกับ
สามี ที่ไม่เคยมีเวลาให้ เลิกงานติดเพื่อน วันหยุดติดหลาน(ลูกพี่ชาย)
แบบนี้ จะคาทะเบียนสมรส กันโอกาสดีๆ คนดีๆ ไว้ทำซากอะไร เกะกะเปล่าๆ
คนที่เขารู้ว่าตัวเองมีดี มีเป้าหมายชัดในชีวิต มีภาพครอบครัวที่อบอุ่นที่เขาใฝ่ฝัน
เขาจะไม่จมปลัก อยู่กับ สามีกากๆ ที่ไม่อาจเป็นสามีในฝันได้แน่ๆหรอกค่ะ
เวลามีค่า อย่าทิ้งขว้างไว้กับคนที่ไม่เห็นความสำคัญของเราขนาดนั้นเลย
….
เราให้แนวทางไว้คร่าวๆ คุณลองเอากลับไปพิจารณาดูว่า คุณเป็นผู้หญิงแบบไหน
ต้องการอะไรจากผู้ชายคนนี้ และ “อย่าหลอกตัวเอง” ว่าวันหนึ่งข้างหน้า เขาจะเปลี่ยนเขาจะปรับ
หากคุณ “รับสิ่งที่เขาเป็นตอนนี้ได้” ก็อยู่ต่อ
หาก รับความรู้สึกรัก/ผูกพัน และ ภาระความรับผิดชอบที่เขาเต็มใจมีต่อหลานๆเขาไม่ได้ ก็ควรพอแค่นี้ค่ะ
เรื่องนี้ จะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยค่ะ
ขอเพียง เขายังจ่าย ในส่วนที่เขารับผิดชอบได้อยู่ ส่วนที่เหลือ จะเอาไปช่วยเหลือเกื้อกูลครอบครัวพี่ชาย ก็คงไม่แปลกอะไร
เพราะเขาเอง ก็ไม่ได้ให้เงินคุณใช้อยู่แล้ว _ ถ้าทำใจตรงนี้ได้ ก็อยู่ต่อได้ค่ะ
แต่ทว่า …
__กับผู้หญิงบางคน คงไม่อาจจะทนเรื่องแบบนี้ได้
1 คุยกันแล้ว ก่อนแต่งงาน ว่าถ้าเขายังมีภาระเรื่องหลาน คุณไม่แต่ง
แต่เขา ตระบัดสัตย์ !!!
แต่งกับคุณแล้ว ข้าวสารเป็นข้าวสุกแล้ว วันนี้พูดออกมาหน้าตาเฉย ว่า “ทนไม่ได้ก็ไป” !!!
ปัญหาเรื่องเดิม ที่คุยกันตั้งแต่ต้น มากลับคำแบบนี้ …
คนมีศักดิ์ศรี คนไหนก็ไม่มีใครยอมทนอยู่ฟังเขาไล่เป็นรอบที่สองหรอกค่ะ
2 คุณขอให้สามี มีเวลาให้คุณบ้าง อาทิตย์ละวันก็พอใจ
เขาบอกว่า หลานสำคัญกว่า เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก กับคุณซึ่งมาทีหลัง คบกันแค่ 12 ปี
_แหม … ฟังแล้วแบบนี้แล้ว แม้เวลาอีก 12 นาที ก็ไม่อยากจะเสียให้คนอย่างนี้อีกต่อไป
เฟอร์นิเจอร์ ซื้อมา ตั้งโชว์ไว้ที่บ้าน มองเห็นเมื่อไหร่ ก็ยังชื่นใจ ยังได้ประโยชน์ใช้สอย
เทียบกับ
สามี ที่ไม่เคยมีเวลาให้ เลิกงานติดเพื่อน วันหยุดติดหลาน(ลูกพี่ชาย)
แบบนี้ จะคาทะเบียนสมรส กันโอกาสดีๆ คนดีๆ ไว้ทำซากอะไร เกะกะเปล่าๆ
คนที่เขารู้ว่าตัวเองมีดี มีเป้าหมายชัดในชีวิต มีภาพครอบครัวที่อบอุ่นที่เขาใฝ่ฝัน
เขาจะไม่จมปลัก อยู่กับ สามีกากๆ ที่ไม่อาจเป็นสามีในฝันได้แน่ๆหรอกค่ะ
เวลามีค่า อย่าทิ้งขว้างไว้กับคนที่ไม่เห็นความสำคัญของเราขนาดนั้นเลย
….
เราให้แนวทางไว้คร่าวๆ คุณลองเอากลับไปพิจารณาดูว่า คุณเป็นผู้หญิงแบบไหน
ต้องการอะไรจากผู้ชายคนนี้ และ “อย่าหลอกตัวเอง” ว่าวันหนึ่งข้างหน้า เขาจะเปลี่ยนเขาจะปรับ
หากคุณ “รับสิ่งที่เขาเป็นตอนนี้ได้” ก็อยู่ต่อ
หาก รับความรู้สึกรัก/ผูกพัน และ ภาระความรับผิดชอบที่เขาเต็มใจมีต่อหลานๆเขาไม่ได้ ก็ควรพอแค่นี้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 2
อันนี้หลานจริงๆใช่ไหม ไม่ใช่ลูกติดสามีคุณ คืออ่านแล้วมันรู้สึกแบบนั้น เขาก็ชัดเจนอยู่นะว่าจะมีคุณหรือไม่มีคุณก็ได้ แล้วคุณล่ะคะ มีเขาหรือไม่มีเขาได้มั้ย หน้าที่สามีไม่ได้มีแค่ผ่อนบ้าน ผ่อนรถเท่านั้น อ้อ! อย่าได้ไปมีลูกด้วยเป็นอันขาดไม่ไหวเลยค่ะ ไม่งั้นคุณได้หาเงินเลี้ยงลูกคนเดียวแน่ค่ะ เพราะต่อไปหลานเขาต้องเข้ามหาวิทยาลัย ใช้เงินเยอะแน่นอน
ถ้าเป็นเรา ย้ำ!! นะคะ ถ้าเป็นเรา เราขอบายค่ะ จะไปทนหัวเดียวกระเทียมลีบทำไม สามีก็ไม่ใช่ว่าจะดีด้วย เราคงเลิกค่ะ เสียเวลา
* แก้ไขคำผิด
ถ้าเป็นเรา ย้ำ!! นะคะ ถ้าเป็นเรา เราขอบายค่ะ จะไปทนหัวเดียวกระเทียมลีบทำไม สามีก็ไม่ใช่ว่าจะดีด้วย เราคงเลิกค่ะ เสียเวลา
* แก้ไขคำผิด
แสดงความคิดเห็น
อยากเลิกกับสามี แบบนี่เราผิดไหม??
พอเรา 2 คน เรื่มคบกัน ทางพี่สะใภ้ก็พูดกับคนระแวกบ้าน ว่าเราไม่ชอบหลานทั้ง 2 คนของสามี เรากีดกันไม่ให้สามีช่วยเหลือครอบครับพี่ชายสามี ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่เลยค่ะ เพราะด้วยหหน้าที่การงานสามีที่ไม่มั่นคงเหมือนเดิม ทำให้รายได้เขาลดน้อยลงไปด้วย เขาเลยช่วยเหลือได้น้อยลง และมันก็เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆค่ะ ที่พี่สะใภ้เอาเราไปนินทา
ตอนเขาขอเราแต่งงาน ซึ่งเราบอกกับเขาว่า ถ้าเขายังต้องช่วยเหลือ หรือต้องรับภาระหลานอีก เราขอไม่แต่งนะ เราไม่อยากเป็นภาระให้เขาเพิ่ม แต่เขายืนยันและรับปากกับเราว่า เขาจะหยุดช่วยครอบครัวพี่ชายเขาค่ะ ให้เขาดิ้นรนกันเอง ซึ่งเราก็โอเคค่ะ เพราะไม่อยากมีปัญหา เราก็แต่งงานกับเขา ซึ่งปัญหาเดิมๆก็ยังเกิดขึ้นค่ะ คือ พี่สะใภ้ยังเอาเราไปนินทาไม่หยุด หนักสุดคือเอาเราไปพูดกับญาติๆสามี ว่าเรากีดกันสามีกับหลานไม่ให้ติดต่อกัน ซึ่งญาติก็เชื่อพี่สะใภ้ ทำให้ญาติๆของเขาไม่ชอบเรามาก และที่แย่ไปกว่านั้นคือ สามีไม่เคยปกป้องเราเลย และไม่เคยแก้ตัวให้เราเลยค่ะ ทำให้เรากับสามีมีปัญหากันเรื่อง ครอบครัวพี่ชายค่อยบอกมาก แทบจะทุกครั้งที่ทะเลาะกัน สาเหตุจากมาจากครอบครัวพี่ชายเขาค่ะ แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาจะรับปากกับเราว่าาจะช่วยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น แต่สุดท้ายก็๋เหมือนเดิมค่ะ คือเขายังต้องรับผิดชอบเรื่องหลาน
จนมาเมื่อต้นปี ทุกอย่างมันหนักขึ้นเรื่อยๆ ทะเลาะกันจนเรากลับไปนอนบ้านเรา 1 คืน พออีกวันสามีก็มารับกลับไป และเขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยค่ะ และก็ทำเหมือนเดิม คือรับปากว่าจะไม่ช่วยเหมือนเดิม เมื่อไม่นานมานี้เรารู้มาว่าเขายังต้องส่งเงินให้หลานอีก ทำให้เราทะเลาะกันอีก สามีเลยพูดมาว่า ถ้าทนไม่ได้ก็ไป ไม่ได้ไล่นะ แต่เปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว ซึ่งตรงนี้และค่ะ มันทำให้เราลังเล ว่าเราจะเลิกกับเขาดีไหม หรือเราควรทนต่อไป
เพิ่มเติมนะคะ สามีเราค่อยไม่ค่อยสนใจเราสักเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีเวลาให้ ไม่คอ่ยใส่ใจ เขาติดเพื่อน เราเลยตกลงกันว่า เราขอแค่อาทิตย์ละ 1 วัน วันหยุดเราให้อยู่กับเรา อีก 6 วันที่เหลือจะไปไหน ทำอะไรก็ได้ แต่เขาก้ให้ไม่ได้ พอวันอาทิตย์เขาจะรีบกลับบ้านไปหาหลาน ไปใช้ชีวิตกับหลาน (หลานเขาอายุ 16-18 ปี) โดยเขาให้เหตุผลว่าเขาเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เด็กมันผูกพันธ์ หลานมาก่อนเรา เราคบเขามาแค่ 12 ปีเอง (เขามีหน้าที่ผ่อนบ้าน ส่วนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลางและค่าใช้จ่ายอื่นๆจะเป็นเราที่รับผิดชอบค่ะ เขาไม่ให้เงินเราใช้นะคะ)
เราควรไปต่อ หรือ พอแค่นี้คะ