กลับมาอีกครั้งไฟนอลสเต็ปแห่งดวงของการเตรียมตัวไปเรียนต่อที่อังกฤษค่ะ ขอแบ่งหัวข้อย่อยเป็นเรื่อง CAS กับ Visa นะคะ
CAS
พูดเกี่ยวกับ CAS คร่าวๆ CAS หรือที่ย่อมาจาก Confirmation of Acceptance for Studies เป็นเอกสารตอบรับจากมหาลัยที่เราจะไปเรียนเพื่อใช้ยื่นเพื่อทำวีซ่านักเรียนนั่นเอง ก็ตามหัวข้อที่เราเกริ่นไปว่าเกือบไม่ได้ เพราะว่าตอนจะขอ CAS จากมหาลัยเราต้องกรอกฟอร์ม ซึ่งในนั้นมีถามเกี่ยวกับว่าเคยโดนปฏิเสธวีซ่าจากประเทศอื่นหรือไม่ ถ้ามีเพราะอะไร ซึ่งเราเคยมี!!!! เรื่องที่พีคคือมันเป็นความเข้าใจผิดเรามาโดยตลอดว่าเราโดนปฏิเสธเพราะโดนแบนจากประเทศนั้น (ขอไม่ลงรายละเอียดว่าอะไรทำให้คิดอย่างนั้นนะคะ) แล้วเราก็ให้เหตุผลแบบที่เราเข้าใจในตอนนั้นเพราะไม่อยากโกหกอีกอย่างคิดว่าคนละประเทศไม่น่าเกี่ยวกัน แล้วก็ผ่านมาแบบหลายเดือนมากเพราะเรา submit ฟอร์มไปตั้งแต่เนิ่นๆเลย แต่ก็ยังไม่ได้ CAS ในขณะที่คน submit เวลาประมาณเราได้กันหมดแล้ว เลยติดต่อทางมหาลัยไป ปรากฎว่าาา เค้าอยากขอรายละเอียดเพิ่มเติม เค้าก็แบบใจแป่วมาก เพราะมหาลัยบอกประมาณว่าจะพิจารณาใหม่ เราเลยไปขุดทุกอย่างที่เกี่ยวกับตอนที่เคยสมัครวีซ่าจากประเทศนั้นรวมถึงเอกสารที่พูดเกี่ยวกับเหตุผลการปฏิเสธ แล้วก็อ่านรายละเอียด เสิร์ชเพิ่มด้วย ติดต่อหลายที่มากรวมถึงกงสุลประเทศที่เคยโดนปฏิเสธด้วย ปรากฏว่าเราถึงได้รู้ตอนนั้นว่าเราไม่ได้โดนแบน แต่ตอนสมัครวีซ่าเอกสารไม่ครบเฉยๆ ก็เลยเมลกลับไปมหาลัย แบบเมลไปกลับมหาลัยเกือบสองอาทิตย์ได้ ก็คืออาทิตย์แห่งการรอคอยเลยว่าเค้าจะมีทีท่ายังไง ก็ declare ทุกอย่าง จนสุดท้ายมหาลัยเข้าใจว่าเราเข้าใจผิดเอง ในที่สุดก็ออก CAS ให้
สรุป!! ตรงนี้ที่อยากบอกทุกคนที่กำลังวางแผนเตรียมตัวอยู่ก็คือจะให้ข้อมูลอะไรต้องมีเอกสาร+หลักฐานชัดเจน มหาลัยเค้าอิงเอกสารเลย
Visa
วีซ่านักเรียนที่เราทำเป็นระยะยาว ปัจจุบันเรียก Student visa หรือที่เคยเรียกๆกันว่า tier 4 นั่นเอง
เริ่มแรกขอเล่าแบบห้วนๆเลยนะคะ ก็คือกรอกข้อมูลทำวีซ่ากับ IHS (Immigration Health Surcharge) ของเราไปเรียนโท 1 ปี ณ วันนั้น ค่าวีซ่า 16,xxx บาท บวก IHS 31,xxx บาท หลังจากนั้นก็จองวันเวลาได้เลย ตรงนี้แหละที่พีค คือจริงๆหลายๆคนเจอปัญหาล่มไม่เหมือนกัน บางคนเจอตอนจ่ายค่าวีซ่า แต่ของเราคือเจอตอนจ่าย service หลังจองวันเวลา ก็คือในเว็บจะให้จองวันเวลาละก็บริการอื่นๆ ทีนี้เราซื้อบริการสแกน (ก็คือเราไม่ต้องอัพโหลดเอกสารเอง วันยื่นวีซ่าเจ้าหน้าที่จะสแกนให้เรา) แต่เราจ่ายเงินไม่ได้ ขึ้นแบบในรูปเลย
ลองจองใหม่ตอนตี 1 ตี 5 ไรงี้ก็ยังเหมือนเดิม เหมือนระบบล่ม ช่วงนั้นคือคนบ่นเยอะมาก เราลองทั้งเปลี่ยนเบราว์เซอร์ ล้าง cache/cookie รีสตาร์ท เปลี่ยนเครื่องจองก็ไม่ได้ เลยไปสวดมนต์ อันนี้เรื่องจริง กับลองไม่ซื้อ service ก็จองไปใหม่ประมาณสองรอบ ได้เฉย งงมาก แต่ของเราจองวันเวลา ไม่ซื้อ service มันก็เด้งเข้าหน้าอัพโหลดเอกสาร ทีนี้ก็เลยกดข้าม มันก็เด้งมาอีกหน้าว่าซื้อบริการสแกนมั้ย ทีนี้เลยลองกดซื้อ ปรากฎว่าก็จ่ายได้ปกติ ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
พอมาถึงวันยื่นเอกสาร เรามารถส่วนตัว ข้อมูลตรงนี้หาตามพันทิป/ยูทูปไม่เจอเลยขอมาเล่าให้คนที่อยากรู้ข้อมูลพวกนี้เหมือนกัน เราจอดรถที่ตึก Trendy เลย ก็แลกบัตร ครึ่งชม.แรกฟรี คนไม่มีสแตมป์บัตร เสียค่าจอด 1-6 ชม.แรก ชม.ละ 50 บาท (เราไม่รู้ว่าไปทำวีซ่าสแตมป์ได้มั้ย เพราะเราลืมง่า จ่ายเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลย) ก็ชั้นจอดรถคนมาติดต่อวีซ่าคือชั้น 3 ขึ้นอาคารจอดรถมาเรื่อยๆจะมีป้ายบอกอีกที ทางเข้าตึกอยู่คนละชั้นกับชั้นจอดรถนะ จำไม่ได้ว่าขึ้นหรือลงบันได เข้าตึกปุ๊บก็ใช้บันไดเลื่อนกับลิฟต์ไปชั้น 28 เลย มีห้องน้ำ ถ้าห้องน้ำหญิงก็อยู่ขวามือตอนออกจากลิฟต์ ก็อย่างของเราไปถึงก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง ก็เข้าไปรอข้างในได้ เปิดลิฟต์มา vfs อยู่ข้างหน้าเลย ของ กระเป๋า มือถือวางไว้ข้างๆประตูสแกน แล้วตัวเราก็เดินผ่านประตูสแกน แล้วก็นั่งรอข้างในตรงโซนที่มีคอม
(มุมจากโซนคอม)
ทีนี้จะมีคนคอยเรียกคิวเวลา ให้รอฟัง ถึงคิวเมื่อไหรก็ไปต่อแถว ดูแถวดีๆนะ ซ้ายมือคืออังกฤษ ขวามือคือออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่เค้าก็จะเช็คเอกสารเราคร่าวๆ เสร็จก็ให้ใบคิวมา คล้ายๆใบเสร็จ จะมีโค้ดกับเลขคิวอยู่ เสร็จแล้วก็ไปนั่งอีกโซนข้างใน เป็นโซนเช็ค สแกนเอกสาร กับทำ biometric
(ที่มา https://th.foursquare.com/v/vfs-global-%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%B2/524a31df498e49270a97978c/photos)
จะเป็นเหมือนเคาน์เตอร์ธนาคารเป็นช่องๆๆ (คล้ายๆแบบในรูปเลย) คอยฟังเจ้าหน้าที่เรียกกับเสียงระบบบนหน้าจอทีวี เค้าจะพูดชื่อคิวกับช่องที่ต้องไป ของเราไปทำมาวันที่ 30/6/22 ช่วง 10.45 น. ต้องขอบคุณพี่คนที่นั่งข้างหลังกับนั่งข้างๆ เพราะตอนเราฟังคิว ได้ยินว่า 063 ซึ่งเราคิว 064 แต่พี่คนข้างหลังรู้ได้ไงไม่รู้ มาบอกว่า 064 แล้ว แล้วคนข้างๆก็มาเสริมว่าใช่ๆ แล้วพี่สองคนก็ช่วยฟังให้ว่าต้องไปเคาน์เตอร์ไหน คือเหมือนตอนคิวเราเป็นเสียงเจ้าหน้าที่เรียกเลยไม่ค่อยได้ยิน ก็ไปถึงจนท.ก็จะถาม ทวนสอบข้อมูล เสร็จเค้าก็จะเอาซองเอกสารให้เรายื่นตอนทำ biometric รอเรียกคิวอีกรอบ ทีนี้จะเป็นห้องเล็กๆๆๆ เข้าห้องก็จะมีจนท.ถ่ายรูป สแกนลายนิ้วมือ ละก็เซ็น จบ แปบเดียว ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อ้อลืมบอกเห็นเค้าบอกว่าช่วงนี้วีซ่านักเรียนรอ 6 วีค ยื่นด่วนไม่ได้ ฉะนั้นใครจะไปเรียนต้องวางแผนดีๆเลยนะ
วันที่เราไปยื่น ตอนเย็นได้เมลจาก vfs ส่งมาว่าส่งเรื่องแล้ว หลังจากนั้นสองอาทิตย์ วันที่ 13/7/22 ได้เมลที่สองมาว่าพิจารณาเสร็จแล้วมารับเล่มได้ ซึ่งไวมากๆๆๆๆๆ แล้วก็โล่งใจมากๆเช่นกัน สุดท้ายนี้เอาใจช่วยคนที่กำลังเตรียมตัวหรือกำลังรอผลอยู่นะคะ ยังไงใครมีประสบการณ์อะไรมาแชร์กันได้เลยน้า
ประสบการณ์ทำวีซ่านักเรียน UK ครั้งแรก 2022 (เกือบไม่ได้ CAS)
CAS
พูดเกี่ยวกับ CAS คร่าวๆ CAS หรือที่ย่อมาจาก Confirmation of Acceptance for Studies เป็นเอกสารตอบรับจากมหาลัยที่เราจะไปเรียนเพื่อใช้ยื่นเพื่อทำวีซ่านักเรียนนั่นเอง ก็ตามหัวข้อที่เราเกริ่นไปว่าเกือบไม่ได้ เพราะว่าตอนจะขอ CAS จากมหาลัยเราต้องกรอกฟอร์ม ซึ่งในนั้นมีถามเกี่ยวกับว่าเคยโดนปฏิเสธวีซ่าจากประเทศอื่นหรือไม่ ถ้ามีเพราะอะไร ซึ่งเราเคยมี!!!! เรื่องที่พีคคือมันเป็นความเข้าใจผิดเรามาโดยตลอดว่าเราโดนปฏิเสธเพราะโดนแบนจากประเทศนั้น (ขอไม่ลงรายละเอียดว่าอะไรทำให้คิดอย่างนั้นนะคะ) แล้วเราก็ให้เหตุผลแบบที่เราเข้าใจในตอนนั้นเพราะไม่อยากโกหกอีกอย่างคิดว่าคนละประเทศไม่น่าเกี่ยวกัน แล้วก็ผ่านมาแบบหลายเดือนมากเพราะเรา submit ฟอร์มไปตั้งแต่เนิ่นๆเลย แต่ก็ยังไม่ได้ CAS ในขณะที่คน submit เวลาประมาณเราได้กันหมดแล้ว เลยติดต่อทางมหาลัยไป ปรากฎว่าาา เค้าอยากขอรายละเอียดเพิ่มเติม เค้าก็แบบใจแป่วมาก เพราะมหาลัยบอกประมาณว่าจะพิจารณาใหม่ เราเลยไปขุดทุกอย่างที่เกี่ยวกับตอนที่เคยสมัครวีซ่าจากประเทศนั้นรวมถึงเอกสารที่พูดเกี่ยวกับเหตุผลการปฏิเสธ แล้วก็อ่านรายละเอียด เสิร์ชเพิ่มด้วย ติดต่อหลายที่มากรวมถึงกงสุลประเทศที่เคยโดนปฏิเสธด้วย ปรากฏว่าเราถึงได้รู้ตอนนั้นว่าเราไม่ได้โดนแบน แต่ตอนสมัครวีซ่าเอกสารไม่ครบเฉยๆ ก็เลยเมลกลับไปมหาลัย แบบเมลไปกลับมหาลัยเกือบสองอาทิตย์ได้ ก็คืออาทิตย์แห่งการรอคอยเลยว่าเค้าจะมีทีท่ายังไง ก็ declare ทุกอย่าง จนสุดท้ายมหาลัยเข้าใจว่าเราเข้าใจผิดเอง ในที่สุดก็ออก CAS ให้
สรุป!! ตรงนี้ที่อยากบอกทุกคนที่กำลังวางแผนเตรียมตัวอยู่ก็คือจะให้ข้อมูลอะไรต้องมีเอกสาร+หลักฐานชัดเจน มหาลัยเค้าอิงเอกสารเลย
Visa
วีซ่านักเรียนที่เราทำเป็นระยะยาว ปัจจุบันเรียก Student visa หรือที่เคยเรียกๆกันว่า tier 4 นั่นเอง
เริ่มแรกขอเล่าแบบห้วนๆเลยนะคะ ก็คือกรอกข้อมูลทำวีซ่ากับ IHS (Immigration Health Surcharge) ของเราไปเรียนโท 1 ปี ณ วันนั้น ค่าวีซ่า 16,xxx บาท บวก IHS 31,xxx บาท หลังจากนั้นก็จองวันเวลาได้เลย ตรงนี้แหละที่พีค คือจริงๆหลายๆคนเจอปัญหาล่มไม่เหมือนกัน บางคนเจอตอนจ่ายค่าวีซ่า แต่ของเราคือเจอตอนจ่าย service หลังจองวันเวลา ก็คือในเว็บจะให้จองวันเวลาละก็บริการอื่นๆ ทีนี้เราซื้อบริการสแกน (ก็คือเราไม่ต้องอัพโหลดเอกสารเอง วันยื่นวีซ่าเจ้าหน้าที่จะสแกนให้เรา) แต่เราจ่ายเงินไม่ได้ ขึ้นแบบในรูปเลย
ลองจองใหม่ตอนตี 1 ตี 5 ไรงี้ก็ยังเหมือนเดิม เหมือนระบบล่ม ช่วงนั้นคือคนบ่นเยอะมาก เราลองทั้งเปลี่ยนเบราว์เซอร์ ล้าง cache/cookie รีสตาร์ท เปลี่ยนเครื่องจองก็ไม่ได้ เลยไปสวดมนต์ อันนี้เรื่องจริง กับลองไม่ซื้อ service ก็จองไปใหม่ประมาณสองรอบ ได้เฉย งงมาก แต่ของเราจองวันเวลา ไม่ซื้อ service มันก็เด้งเข้าหน้าอัพโหลดเอกสาร ทีนี้ก็เลยกดข้าม มันก็เด้งมาอีกหน้าว่าซื้อบริการสแกนมั้ย ทีนี้เลยลองกดซื้อ ปรากฎว่าก็จ่ายได้ปกติ ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
พอมาถึงวันยื่นเอกสาร เรามารถส่วนตัว ข้อมูลตรงนี้หาตามพันทิป/ยูทูปไม่เจอเลยขอมาเล่าให้คนที่อยากรู้ข้อมูลพวกนี้เหมือนกัน เราจอดรถที่ตึก Trendy เลย ก็แลกบัตร ครึ่งชม.แรกฟรี คนไม่มีสแตมป์บัตร เสียค่าจอด 1-6 ชม.แรก ชม.ละ 50 บาท (เราไม่รู้ว่าไปทำวีซ่าสแตมป์ได้มั้ย เพราะเราลืมง่า จ่ายเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลย) ก็ชั้นจอดรถคนมาติดต่อวีซ่าคือชั้น 3 ขึ้นอาคารจอดรถมาเรื่อยๆจะมีป้ายบอกอีกที ทางเข้าตึกอยู่คนละชั้นกับชั้นจอดรถนะ จำไม่ได้ว่าขึ้นหรือลงบันได เข้าตึกปุ๊บก็ใช้บันไดเลื่อนกับลิฟต์ไปชั้น 28 เลย มีห้องน้ำ ถ้าห้องน้ำหญิงก็อยู่ขวามือตอนออกจากลิฟต์ ก็อย่างของเราไปถึงก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง ก็เข้าไปรอข้างในได้ เปิดลิฟต์มา vfs อยู่ข้างหน้าเลย ของ กระเป๋า มือถือวางไว้ข้างๆประตูสแกน แล้วตัวเราก็เดินผ่านประตูสแกน แล้วก็นั่งรอข้างในตรงโซนที่มีคอม
(มุมจากโซนคอม)
ทีนี้จะมีคนคอยเรียกคิวเวลา ให้รอฟัง ถึงคิวเมื่อไหรก็ไปต่อแถว ดูแถวดีๆนะ ซ้ายมือคืออังกฤษ ขวามือคือออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่เค้าก็จะเช็คเอกสารเราคร่าวๆ เสร็จก็ให้ใบคิวมา คล้ายๆใบเสร็จ จะมีโค้ดกับเลขคิวอยู่ เสร็จแล้วก็ไปนั่งอีกโซนข้างใน เป็นโซนเช็ค สแกนเอกสาร กับทำ biometric
(ที่มา https://th.foursquare.com/v/vfs-global-%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%B2/524a31df498e49270a97978c/photos)
จะเป็นเหมือนเคาน์เตอร์ธนาคารเป็นช่องๆๆ (คล้ายๆแบบในรูปเลย) คอยฟังเจ้าหน้าที่เรียกกับเสียงระบบบนหน้าจอทีวี เค้าจะพูดชื่อคิวกับช่องที่ต้องไป ของเราไปทำมาวันที่ 30/6/22 ช่วง 10.45 น. ต้องขอบคุณพี่คนที่นั่งข้างหลังกับนั่งข้างๆ เพราะตอนเราฟังคิว ได้ยินว่า 063 ซึ่งเราคิว 064 แต่พี่คนข้างหลังรู้ได้ไงไม่รู้ มาบอกว่า 064 แล้ว แล้วคนข้างๆก็มาเสริมว่าใช่ๆ แล้วพี่สองคนก็ช่วยฟังให้ว่าต้องไปเคาน์เตอร์ไหน คือเหมือนตอนคิวเราเป็นเสียงเจ้าหน้าที่เรียกเลยไม่ค่อยได้ยิน ก็ไปถึงจนท.ก็จะถาม ทวนสอบข้อมูล เสร็จเค้าก็จะเอาซองเอกสารให้เรายื่นตอนทำ biometric รอเรียกคิวอีกรอบ ทีนี้จะเป็นห้องเล็กๆๆๆ เข้าห้องก็จะมีจนท.ถ่ายรูป สแกนลายนิ้วมือ ละก็เซ็น จบ แปบเดียว ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อ้อลืมบอกเห็นเค้าบอกว่าช่วงนี้วีซ่านักเรียนรอ 6 วีค ยื่นด่วนไม่ได้ ฉะนั้นใครจะไปเรียนต้องวางแผนดีๆเลยนะ
วันที่เราไปยื่น ตอนเย็นได้เมลจาก vfs ส่งมาว่าส่งเรื่องแล้ว หลังจากนั้นสองอาทิตย์ วันที่ 13/7/22 ได้เมลที่สองมาว่าพิจารณาเสร็จแล้วมารับเล่มได้ ซึ่งไวมากๆๆๆๆๆ แล้วก็โล่งใจมากๆเช่นกัน สุดท้ายนี้เอาใจช่วยคนที่กำลังเตรียมตัวหรือกำลังรอผลอยู่นะคะ ยังไงใครมีประสบการณ์อะไรมาแชร์กันได้เลยน้า