EP.0 เตรียมตัว...เตรียมใจ ไปคนเดียว :
https://ppantip.com/topic/39760021
EP.1 โคลอมเบียที่ไม่ใช่โคลัมเบีย :
https://ppantip.com/topic/41390425
EP.2 เปรูดินแดนอารยธรรมเก่าแก่ของโลก :
https://ppantip.com/topic/41489649
EP.4 บัวโนสไอเรสม อาร์เจนติน่า ปารีสแห่งอเมริกาใต้ :
https://ppantip.com/topic/41621012
EP.5 ชิลี ประเทศที่ยาวที่สุดในโลก :
https://ppantip.com/topic/41770126
EP.6 ออสเตรเลีย ประเทศเดียวในโลกที่เป็นทวีป :
https://ppantip.com/topic/41875571
พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook page :
https://www.facebook.com/Mytravelholicdiary/
Instagram :
https://www.instagram.com/my_travelholic_diary/
Day 17 Copacabana, Bolivia
“ ดินแดนวิหารแห่งดวงอาทิตย์ “
วันนี้จะเป็นการนั่งบัสข้ามประเทศครั้งแรกของทริป เลียบทะเลสาบ Titicaca แล้วก็ได้เห็นว่าเป็นทะเลสาบที่ใหญ่จริงๆ กินพื้นที่ถึง 2 ประเทศเปรูกับโบลิเวียค่ะ
พอรถมาถึงด่านก็ต้องลงไปผ่านกระบวนการออกจากเปรู แล้วต้องเดินข้ามชายแดนเองมาที่ฝั่งโบลิเวียตรวจวีซ่าแสตมป์พาสปอร์ตเข้าประเทศ เวลาที่นี่จะเร็วกว่าเปรู 1 ชม. (ช้ากว่าไทย 11 ชม.) เปลี่ยนสกุลเงินจากโซเลสของเปรู มาเป็นโบลิเวียโน ซึ่งเราสามารถแลกได้ที่ด่านเลย แล้วรถบัสจะมาจอดรอเราฝั่งนี้ค่ะ
บ้ายบายเปรู
สวัสดีโบลิเวีย ประเทศที่ยังคงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบเดิมๆ มีความหลากหลายชาติพันธุ์ เป็นประเทศที่มีชนพื้นเมืองมากที่สุดในทวีปอเมริกา โดย 60% ของประชากรมีเชื้อสายอเมริกันพื้นเมืองแท้ๆ โบลิเวียเป็นประเทศที่สวยงาม มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ เป็นหนึ่งในประเทศที่ห่างไกลที่สุดในซีกโลกตะวันตก นักเดินทางที่ได้มาเหยียบแผ่นดินอเมริกาใต้ จะต้องไม่พลาดที่จะใส่ประเทศโบลิเวียไว้ในแผนการเดินทางอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก อุทยานแห่งชาติที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยแปลกตาเหมือนไม่ใช่บนโลก เมืองหลวงที่ยังคงความดิบอย่าง Lapaz หรือแม้กระทั่งเมืองเล็กๆ ที่เป็นรอยต่อระหว่างประเทศเปรูกับประเทศโบลิเวีย ที่มีทะเลสาบ Titicaca ร่วมกัน ที่เราแวะพักอย่างเมือง Copacabana
ใช้เวลา 3 ชม. เราก็มาถึงเมือง Copacabana เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งโบลิเวียของทะเลสาบ Titicaca เป็นสถานที่ตากอากาศยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนในท้องถิ่น เป้าหมายของเราที่เมืองนี้คือวิวพาโนรามาบนยอดเขา Cerro Calvario ที่เคยเห็นในหนังสือ ก็เลยแวะนอนที่นี่คืนนึง
และที่นี่คือ Copacabana ดั้งเดิม ซึ่งให้ยืมชื่อไปเป็นชื่อหาด Copacabana อันโด่งดังในเมือง Rio ของบราซิล ชื่อนี้มาจากคำว่า Aymara kota kawana ซึ่งหมายถึง “ทิวทัศน์ของทะเลสาบ" ค่ะ
เราจองที่พักชื่อ Hostal La Cúpula เพราะอยู่ใกล้ตีนเขาที่เราจะขึ้นไปและอยู่ใกล้บริษัทรถ Transtiticaca ที่เราโดยสารมา ซึ่งเราต้องกลับมานั่งรถบริษัทนี้ไป Lapaz ต่อวันพรุ่งนี้ ซึ่งที่พักห่างไปแค่ 400 เมตร แต่เป็น 400 เมตรบนเนินแบบไม่รู้ตัวมาก่อน กว่าจะแบกกระเป๋าเดินมาถึงโรงแรมก็แทบแย่
มาถึงที่พัก รีเซฟชั่นต้อนรับอย่างดี เราอยากกินช๊อคโกแลตถามหาว่าซื้อได้ที่ไหนบ้าง ที่โรงแรมไม่มีขายแต่เขาหามาให้เราฟรีๆ น่ารักมาก ห้องพักเราอยู่ห้องแรกด้านหน้า เห็นวิวเมือง Copacabana และทะเลสาบ Titicaca อย่างสวย สำหรับแบคแพคเกอร์อย่างเราห้องแบบนี้คือหรูมากแล้ว ด้านหน้าส่วนของโรงแรมยังมีสนามหญ้า แกะ เก้าอี้ให้นั่งเล่นอาบแดดชมวิวได้อย่างดีอีกด้วย
เก็บของแล้วก็เริ่มออกเดินสำรวจเมืองนี้กันต่อเลยค่ะ อากาศดีมากๆ
เริ่มต้นกันที่มหาวิหาร Basilica de Nuestra Señora de Copacabana เป็นโบสถ์ในยุคอาณานิคมของสเปนในสมัยศตวรรษที่ 17 อาคารปัจจุบันสร้างขึ้นระหว่างปี 1669-1679 โดยสถาปนิกชาวสเปนชื่อ Francisco Jiménez de Siguenza แทนที่โบสถ์หลังเล็กๆ ในอดีต ด้วยโลเคชั่นที่สร้างขึ้นในบริเวณเชิงเขาซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินคาที่รู้จักกันในนามวิหารแห่งดวงอาทิตย์ และเป็นหนึ่งในสองสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญสำหรับชนเผ่าพื้นเมืองและชาวคาทอลิกอีกด้วยค่ะ
ออกจากโบสถ์เราอยากจะลองเดินเลยไปสำรวจอีกทาง แต่ปรากฏว่าเมืองเงียบมาก ไม่มีคนแม้แต่คนเดียว ยืนชั่งใจอยู่สักพัก ก็คิดว่าไม่ไปดีกว่า
เราเลยย้อนกลับมาหาอะไรกินแถวๆ หน้าโบสถ์ เจอร้านรถเข็นอยู่ริมถนนบรรยากาศใช่เลย ก็ไปนั่งแล้วชี้ว่าอยากกินเหมือนคนข้างๆ นี่หล่ะ ได้เป็นข้าวราดแกงเนื้อกับมันฝรั่งอีกหัว อร่อยมากกกก
อิ่มแล้วก็เดินมาเส้นทางตรงข้ามกับโบสถ์ ผ่าน Plaza 2 de febrero ไปอีกด้านค่ะ
ต่อไปเป็นการเดินขึ้นเนินไปที่โบสถ์แดง Capilla del Señor Colquepata Cross (Calvary) ที่อยู่ระหว่างทางขึ้นเขา โบสถ์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางขึ้นเขา Cerro Calvario ค่ะ ทางขึ้นจะอยู่ด้านหลังโบสถ์เลย
ทางขึ้นเขาจะไม้กางเขนอยู่ 14 จุด ที่ให้หวนคิดถึงความเจ็บปวดของพระเยซูในการถูกตรึงไม้กางเขน ชาวบ้านที่นี่ก็จะขึ้นมาเส้นทางนี้เพื่อขอพรและขอขมาพระเจ้าเช่นกัน
วิวเมืองมุมสูงขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงเกือบถึงยอดเขามีจุดชมวิวทะเลสาบ Titicaca สวยมากกกก ไม่มีคนเลย เหมาะกับการนั่งพักเป็นที่สุด
นักเดินทางคนอื่นจะใช้เวลาเดินกันประมาณครึ่งชั่วโมงถึงยอดเขา แต่เราเดินเกือบชั่วโมงเพราะมัวแต่แวะถ่ายรูปมาตลอดทาง ทั้งวิวเมือง Copacabana กับอีกด้านที่เป็นวิวทะเลสาบ Titicaca
วิวพาโนรามาจากบนยอดเขา เป็นวิวอ่าวโค้งที่มีภูเขาและเมืองที่มีมหาวิหารที่สวยงามที่เราเคยเห็นในหนังสือ จนเกิดแรงบันดาลใจให้มาที่นี่ ตอนนี้มันเป็นโมเม้นท์ที่เรามีความสุขมากจริงๆ ค่ะ
33 วัน 6 ประเทศ ใน 2 ทวีป อเมริกาใต้และออสเตรเลีย EP.3 โบลิเวียมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ
EP.1 โคลอมเบียที่ไม่ใช่โคลัมเบีย : https://ppantip.com/topic/41390425
EP.2 เปรูดินแดนอารยธรรมเก่าแก่ของโลก : https://ppantip.com/topic/41489649
EP.4 บัวโนสไอเรสม อาร์เจนติน่า ปารีสแห่งอเมริกาใต้ : https://ppantip.com/topic/41621012
EP.5 ชิลี ประเทศที่ยาวที่สุดในโลก : https://ppantip.com/topic/41770126
EP.6 ออสเตรเลีย ประเทศเดียวในโลกที่เป็นทวีป : https://ppantip.com/topic/41875571
พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook page : https://www.facebook.com/Mytravelholicdiary/
Instagram : https://www.instagram.com/my_travelholic_diary/
ใช้เวลา 3 ชม. เราก็มาถึงเมือง Copacabana เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งโบลิเวียของทะเลสาบ Titicaca เป็นสถานที่ตากอากาศยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนในท้องถิ่น เป้าหมายของเราที่เมืองนี้คือวิวพาโนรามาบนยอดเขา Cerro Calvario ที่เคยเห็นในหนังสือ ก็เลยแวะนอนที่นี่คืนนึง
และที่นี่คือ Copacabana ดั้งเดิม ซึ่งให้ยืมชื่อไปเป็นชื่อหาด Copacabana อันโด่งดังในเมือง Rio ของบราซิล ชื่อนี้มาจากคำว่า Aymara kota kawana ซึ่งหมายถึง “ทิวทัศน์ของทะเลสาบ" ค่ะ
เราจองที่พักชื่อ Hostal La Cúpula เพราะอยู่ใกล้ตีนเขาที่เราจะขึ้นไปและอยู่ใกล้บริษัทรถ Transtiticaca ที่เราโดยสารมา ซึ่งเราต้องกลับมานั่งรถบริษัทนี้ไป Lapaz ต่อวันพรุ่งนี้ ซึ่งที่พักห่างไปแค่ 400 เมตร แต่เป็น 400 เมตรบนเนินแบบไม่รู้ตัวมาก่อน กว่าจะแบกกระเป๋าเดินมาถึงโรงแรมก็แทบแย่