EP.0 เตรียมตัว...เตรียมใจ ไปคนเดียว :
https://ppantip.com/topic/39760021
EP.2 เปรูดินแดนอารยธรรมเก่าแก่ของโลก :
https://ppantip.com/topic/41489649
EP.3 โบลิเวียคือสิ่งมหัศจรรย์ของโลก :
https://ppantip.com/topic/41533989
EP.4 บัวโนสไอเรสม อาร์เจนติน่า ปารีสแห่งอเมริกาใต้ :
https://ppantip.com/topic/41621012
EP.5 ชิลี ประเทศที่ยาวที่สุดในโลก :
https://ppantip.com/topic/41770126
EP.6 ออสเตรเลีย ประเทศเดียวในโลกที่เป็นทวีป :
https://ppantip.com/topic/41875571
พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook page :
https://www.facebook.com/Mytravelholicdiary/
Instagram :
https://www.instagram.com/my_travelholic_diary/
* Day 1-2 จะเป็นรีวิวเมืองลิม่า ประเทศเปรูก่อนนะคะ ส่วนประเทศโคลอมเบียจะเริ่มตั้งแต่ Day 3 ค่ะ
Day 1 เ ม ล เ บิ ร์ น, อ อ ส เ ต ร เ ลี ย - ลิ ม่ า, เ ป รู
“ On The Way “
ออกจากไทย Day 0 EP. ที่แล้ว เราก็มาถึงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียเป็นที่เรียบร้อย มีเวลา 3 ชม.ต่อจากนี้ ในการผ่านตม. รับกระเป๋าที่สายพาน แล้วต้องรีบกลับเข้ามาเช็คอินอีกรอบ ซึ่งปกติถ้าตม.ไม่ถามอะไร เราก็จะไม่พูดอะไร แต่ครั้งนี้ยื่นพาสปอร์ตพร้อมตั๋วเครื่องบินไปเปรู บอกว่าฉันต้องรีบไปขึ้นเครื่องต่อ กลัวว่าจะเลท แล้วยิ้มแห้งๆ ให้ทีนึง ^^”
ตม. ยิ้มกลับ ^^ คืนพาสปอร์ตให้ แล้วรีบวิ่งไปเอากระเป๋า วิ่งขึ้นไปหาเค้าเตอร์เช็คอิน วิ่งมาถึงเกท ปรากฏว่าทันเวลา มาถึงก่อนเกทเปิดครึ่งชม. ผู้โดยสารคนอื่นมานั่งรอเต็มเกทแล้ว เฮ้อ...โล่งอกไปที
บินต่อ...อี ก ย า ว ไ ก ล
เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย - ซานติอาโก้, ชิลี 17 ชม.
รอต่อเครื่องที่ซานติอาโก้อีก 3 ชม.
ซานติอาโก้, ชิลี - ลิม่า, เปรู 2 ชม. 46 นาที
บินออกจากเมลเบิร์นตอน 12:45 ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิคตอนล่างมา 2 ชม. ก็มืดอีกแล้ว ชีวิตบนเครื่องบินสิบกว่าชม.ของเรา นอนไม่หลับ หมดไปกับหนัง Avenger 3 ภาครวด กินอาหารอีก 2 มื้อ ก็มาถึงทวีปอเมริกาใต้ที่เมืองซานติอาโก้ ประเทศชิลีตอนบ่าย 3 กว่า ซึ่งเวลาที่นี่จะช้ากว่าไทย 12 ชม. ตอนเครื่องบินแลนดิ้ง เราได้นั่งชิดขวา ก็จะได้เห็นวิวสวยๆ ของภูเขาแอนดีสที่ยังปกคลุมด้วยหิมะ สวยค่ะ ^^
ในที่สุดเราก็พาตัวเองมาเหยียบแผ่นดินอเมริกาใต้จนได้ > <
อเมริกาใต้ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติคใต้ มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ และทะเลแคริบเบียน มีทั้งหมด 12 ประเทศ มีป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดในโลกและแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุด (แอมะซอน) เทือกเขาที่สูงที่สุดนอกเอเชีย (เทือกเขาแอนดีส) ทะเลทรายกว้าง (อาตากามา) ภูมิประเทศที่เป็นน้ำแข็ง (ปาตาโกเนีย) น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก (น้ำตกแองเจิล) และน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง (น้ำตกอีกวาซู) รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าทึ่งอีกหลายแห่ง
นอกจากนี้ยังมีผลงานของมนุษย์ที่หายากบนทวีปอีกด้วย เช่นซากปรักหักพังของอารยธรรมโบราณ (มาชูปิกชูและเมืองอินคาอื่นๆ) สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่โดดเด่น สถาปัตยกรรมยุโรป (บัวโนสไอเรส) มีชนพื้นเมืองแท้ (Cuzco, Lima, La Paz) ก็เป็นส่วนหนึ่งของทวีปที่มีความหลากหลายและน่าดึงดูดใจนักเดินทางอย่างเราค่ะ
แต่ด้วยเวลาจำกัด เราต้องเลือกเดินทางเฉพาะฝั่งซ้ายของทวีปที่เป็นแนวเทือกเขาแอนดีสที่ทอดยาวกว่า 7 พันกิโลเมตรทั้งหมด 4 ประเทศคือโคลอมเบีย เปรู โบลิเวีย และชิลี แล้วบินข้ามไปทางฝั่งขวาของทวีปที่อาเจนติน่า แล้วกลับมาที่ชิลีก่อนบินออกจากทวีปนี้ตอนจบทริป (ตรงนี้แอบพลาดเพราะจริงๆ แล้วน่าจะลงไปให้ถึงพาตาโกเนียดีกว่า)
เราตื่นเต้นและกังวลอะไรไปเรื่อย เพราะกว่าจะถึงที่พักที่ลิม่า, เปรู ยังอีกหลายชั่วโมง คลายความกังวลไม่ได้เลย > <
ที่สนามบินซานติอาโก้, ชิลี ช่วงที่เดินหาเกทต่อเครื่อง เจอผู้หญิงหน้าเอเชียที่นั่งแถวเดียวกันบนเครื่องจากเมลเบิร์น ก็เลยทัก ซึ่งปกติเราไม่เมคเฟรนกับใครเท่าไรเวลาเดินทาง เพราะคุยไม่เก่ง แต่ตอนนี้ก็พยายามปลดล๊อคตัวเองในหลายๆเรื่อง การมีเพื่อน แม้จะช่วงเวลาสั้นๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีในการเดินทางในทวีปนี้
ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนเชื้อชาติไต้หวันที่ถือสัญชาติออสเตรเลีย กำลังจะบินต่อไปเมืองลิม่า ประเทศเปรูเหมือนเราเลย เย้ๆ แต่ก็ดีใจได้แค่ 10 วินาที ก็รู้ว่าเขาบินคนล่ะไฟล์ทกับเรา อุตสาห์ดีใจจะมีเพื่อนเข้าเมือง T_T
ระหว่างรอไฟล์ทไปเปรู นั่งข้างๆ กับคุณลุงชาวออสซี่ คุณลุงทักว่ายูเป็นผู้หญิงมาเที่ยวคนเดียวระวังตัวมากๆ นะ ฉันเพิ่งคุยกับผู้หญิงที่เป็นนักเดินทางอีกคนเมื่อกี้ เขาเพิ่งเจอเหตุการณ์โดนกระชากกระเป๋ามา...
คือว่าเราโดนเตือนเรื่องแบบนี้มาเยอะมากกกกกก จากคนไทยที่รู้จักกันที่มีประสบการณ์การเดินทางในทวีปนี้ จนตอนแรกทำให้เราไม่คิดที่จะมาคนเดียวเด็ดขาด แต่เมื่อเหตุการณ์มันเป็นอย่างนี้ เราต้องมาคนเดียว การมีสติตลอด ระวังตัวในสิ่งที่ทุกคนเตือน ไม่พาตัวเองไปในที่เสี่ยง ก็คงจะพาให้เรารอดปลอดภัยได้แหละเนาะ ><
หลังจากบินต่อมาอีกเกือบ 3 ชม. ก็มาถึงสนามบินลิม่า ประเทศเปรู ตอน 6 โมงเย็น เราจะแวะที่เมืองลิม่าเป็นเวลา 2 คืน 1 วันก่อนจะบินต่อไปที่ประเทศโคลอมเบียค่ะ
ตรงสายพานรับกระเป๋า มีร้านรับแลกเงิน ก็เลยแลกเงินเปรูไว้ 100usd เผื่อเป็นค่าแท็กซี่ ที่พัก อาหาร ไว้นิดหน่อยก่อน
**การเข้าเมืองจากสนามบินลิม่า มีคำเตือนมาเยอะมากว่าอย่าใช้รถสาธารณะ หรือแท็กซี่ด้านนอกสนามบิน เพราะมีแบบโดนปล้นบนรถแท็กซี่เลย พาไปบังคับกดเงิน โกงค่าแท็กซี่ที่ตอนแรกเขาอาจจะบอกราคาถูกๆ ให้เข้าใจผิดว่าเป็นสกุลเงิน SOL เปรู แต่พอจ่ายจริงก็จะบอกว่าเป็น ดอลลาร์ US ซึ่งก็จะแพงมาก
หรือร้ายแรงหน่อย คือมีคนนอกเปิดประตูรถเข้ามาปล้นเอากระเป๋าไปเลย และมีอีกเคสเป็นคนรู้จักที่เพิ่งคุยกันที่ไทย โดนจี้ตรงสนามบินลิม่านี้เลยจ้า แย่งกระเป๋ากันจนเกือบโดนคนร้ายเอามีดแทง ><
เราหวาดระแวงมากกกกก เพราะต้องออกจากสนามบินเข้าเมืองแรกของทริปนี้ จะโดนปล้นตั้งแต่วันแรกไหมเนี่ย แล้วไฟล์ทก็ดันมาถึงตั้งเกือบค่ำ กว่าจะออกมาจากสนามบินก็มืดแล้ว ดังนั้น Green taxi ที่สนามบินคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เราได้คนขับชื่อมาร์ติน ใส่สูทดูดีมีบัตรประจำตัว แพงกว่าแต่ก็อุ่นใจ ขึ้นรถมาล๊อคประตูให้เรียบร้อย พูดอังกฤษดีมาก เพราะเคยไปอยู่อเมริกาหลายปี คุยกันถูกคอไปอีก เลยบอกให้มารับที่โฮสเทลกลับสนามบินด้วยอีก 2 วันข้างหน้า
แล้วพอออกมาเห็นแท็กซี่ด้านนอกสนามบิน โคตรน่ากลัววว เปิดกระจกขับ ทั้งสภาพรถ ทั้งคนขับ ดูไม่น่าปลอดภัยเลย มาร์ตินก็ชี้ให้ดูว่าแท็กซี่แบบนี้นะอันตราย แล้วก็เล่าให้ฟังเหมือนที่เราได้ข้อมูลมาเป๊ะๆ เลย
มาถึงโฮสเทล Flying Dog ที่จองไว้แถว Miraflores ย่านนี้เป็นแหล่งของพวกนักเดินทาง รู้สึก โล่งอกมาก เหมือนกับว่าได้มาอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ความรู้สึกในวันแรกก็จะเป็นแบบนี้ กลัวไปหมดทุกอย่าง แต่หลังจากผ่านวันแรกไปได้...ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเองค่ะ ^^
จริงๆแล้ว ตามกฏความปลอดภัย (ของตัวเอง) ต้องไม่ออกมาเดินเล่นตอนกลางคืน แต่หน้าโฮสเทลเป็นสวนสาธารณะกลางเมืองที่คึกคักมากคือสวน 7 de Junio ชื่อของสวนนี้มาจากวันที่ 7 มิถุนายน เพื่อรำลึกถึงการต่อสู้ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์เปรูค่ะ
ในสวนมีอัฒจันทร์ Chabuca Granda เป็นสถานที่จัดแสดงของศิลปิน นักเต้น และวงดนตรีรุ่นเยาว์ การแสดงส่วนใหญ่ไม่เสียค่าใช้จ่ายและจะมีผู้คนเข้าร่วมเยอะมาก บรรยากาศสนุกมากๆ ก็เลยขอไปเดินดูนิดนึง 5 นาทีกลับ ฮ่าๆ
ด้วยความที่พรุ่งนี้มีเวลาวันเดียวในลิม่า ก็เลยคิดว่าการไป Walking Tour น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ทางโฮสเทลมีให้ลงทะเบียนไว้ พรุ่งนี้จะมีคนมารับเราตอนเช้าไปเที่ยวในย่านเมืองเก่าของลิม่ากัน
ฉลองให้ตัวเองที่มาถึงอเมริกาใต้อย่างปลอดภัย ด้วยมาม่า 1 ห่อก่อนนอน
จบ Day 1 แบบเพลียมากกกกสุด ข้ามมา 3 ทวีปรวดเดียว 30 กว่าชม. ตั้งแต่เอเชีย ออสเตรเลีย จนมาถึงอเมริกาใต้...ไว้ลุยต่อพรุ่งนี้กันค่ะ Zzz
ค่าใช้จ่าย Day 1
Taxi จากสนามบินลิม่า - โฮสเทล 60SOL
น้ำ 2SOL
Flying Dog โฮสเทล 24USD (2 คืน)
33 วัน 6 ประเทศ ใน 2 ทวีป อเมริกาใต้และออสเตรเลีย EP.1 โคลอมเบียที่ไม่ใช่โคลัมเบีย
EP.2 เปรูดินแดนอารยธรรมเก่าแก่ของโลก : https://ppantip.com/topic/41489649
EP.3 โบลิเวียคือสิ่งมหัศจรรย์ของโลก : https://ppantip.com/topic/41533989
EP.4 บัวโนสไอเรสม อาร์เจนติน่า ปารีสแห่งอเมริกาใต้ : https://ppantip.com/topic/41621012
EP.5 ชิลี ประเทศที่ยาวที่สุดในโลก : https://ppantip.com/topic/41770126
EP.6 ออสเตรเลีย ประเทศเดียวในโลกที่เป็นทวีป : https://ppantip.com/topic/41875571
พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook page : https://www.facebook.com/Mytravelholicdiary/
Instagram : https://www.instagram.com/my_travelholic_diary/
* Day 1-2 จะเป็นรีวิวเมืองลิม่า ประเทศเปรูก่อนนะคะ ส่วนประเทศโคลอมเบียจะเริ่มตั้งแต่ Day 3 ค่ะ
เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย - ซานติอาโก้, ชิลี 17 ชม.
รอต่อเครื่องที่ซานติอาโก้อีก 3 ชม.
ซานติอาโก้, ชิลี - ลิม่า, เปรู 2 ชม. 46 นาที
บินออกจากเมลเบิร์นตอน 12:45 ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิคตอนล่างมา 2 ชม. ก็มืดอีกแล้ว ชีวิตบนเครื่องบินสิบกว่าชม.ของเรา นอนไม่หลับ หมดไปกับหนัง Avenger 3 ภาครวด กินอาหารอีก 2 มื้อ ก็มาถึงทวีปอเมริกาใต้ที่เมืองซานติอาโก้ ประเทศชิลีตอนบ่าย 3 กว่า ซึ่งเวลาที่นี่จะช้ากว่าไทย 12 ชม. ตอนเครื่องบินแลนดิ้ง เราได้นั่งชิดขวา ก็จะได้เห็นวิวสวยๆ ของภูเขาแอนดีสที่ยังปกคลุมด้วยหิมะ สวยค่ะ ^^
ในที่สุดเราก็พาตัวเองมาเหยียบแผ่นดินอเมริกาใต้จนได้ > <
อเมริกาใต้ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติคใต้ มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ และทะเลแคริบเบียน มีทั้งหมด 12 ประเทศ มีป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดในโลกและแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุด (แอมะซอน) เทือกเขาที่สูงที่สุดนอกเอเชีย (เทือกเขาแอนดีส) ทะเลทรายกว้าง (อาตากามา) ภูมิประเทศที่เป็นน้ำแข็ง (ปาตาโกเนีย) น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก (น้ำตกแองเจิล) และน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง (น้ำตกอีกวาซู) รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าทึ่งอีกหลายแห่ง
นอกจากนี้ยังมีผลงานของมนุษย์ที่หายากบนทวีปอีกด้วย เช่นซากปรักหักพังของอารยธรรมโบราณ (มาชูปิกชูและเมืองอินคาอื่นๆ) สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่โดดเด่น สถาปัตยกรรมยุโรป (บัวโนสไอเรส) มีชนพื้นเมืองแท้ (Cuzco, Lima, La Paz) ก็เป็นส่วนหนึ่งของทวีปที่มีความหลากหลายและน่าดึงดูดใจนักเดินทางอย่างเราค่ะ
แต่ด้วยเวลาจำกัด เราต้องเลือกเดินทางเฉพาะฝั่งซ้ายของทวีปที่เป็นแนวเทือกเขาแอนดีสที่ทอดยาวกว่า 7 พันกิโลเมตรทั้งหมด 4 ประเทศคือโคลอมเบีย เปรู โบลิเวีย และชิลี แล้วบินข้ามไปทางฝั่งขวาของทวีปที่อาเจนติน่า แล้วกลับมาที่ชิลีก่อนบินออกจากทวีปนี้ตอนจบทริป (ตรงนี้แอบพลาดเพราะจริงๆ แล้วน่าจะลงไปให้ถึงพาตาโกเนียดีกว่า)
เราตื่นเต้นและกังวลอะไรไปเรื่อย เพราะกว่าจะถึงที่พักที่ลิม่า, เปรู ยังอีกหลายชั่วโมง คลายความกังวลไม่ได้เลย > <
ที่สนามบินซานติอาโก้, ชิลี ช่วงที่เดินหาเกทต่อเครื่อง เจอผู้หญิงหน้าเอเชียที่นั่งแถวเดียวกันบนเครื่องจากเมลเบิร์น ก็เลยทัก ซึ่งปกติเราไม่เมคเฟรนกับใครเท่าไรเวลาเดินทาง เพราะคุยไม่เก่ง แต่ตอนนี้ก็พยายามปลดล๊อคตัวเองในหลายๆเรื่อง การมีเพื่อน แม้จะช่วงเวลาสั้นๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีในการเดินทางในทวีปนี้
ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนเชื้อชาติไต้หวันที่ถือสัญชาติออสเตรเลีย กำลังจะบินต่อไปเมืองลิม่า ประเทศเปรูเหมือนเราเลย เย้ๆ แต่ก็ดีใจได้แค่ 10 วินาที ก็รู้ว่าเขาบินคนล่ะไฟล์ทกับเรา อุตสาห์ดีใจจะมีเพื่อนเข้าเมือง T_T
ระหว่างรอไฟล์ทไปเปรู นั่งข้างๆ กับคุณลุงชาวออสซี่ คุณลุงทักว่ายูเป็นผู้หญิงมาเที่ยวคนเดียวระวังตัวมากๆ นะ ฉันเพิ่งคุยกับผู้หญิงที่เป็นนักเดินทางอีกคนเมื่อกี้ เขาเพิ่งเจอเหตุการณ์โดนกระชากกระเป๋ามา...
คือว่าเราโดนเตือนเรื่องแบบนี้มาเยอะมากกกกกก จากคนไทยที่รู้จักกันที่มีประสบการณ์การเดินทางในทวีปนี้ จนตอนแรกทำให้เราไม่คิดที่จะมาคนเดียวเด็ดขาด แต่เมื่อเหตุการณ์มันเป็นอย่างนี้ เราต้องมาคนเดียว การมีสติตลอด ระวังตัวในสิ่งที่ทุกคนเตือน ไม่พาตัวเองไปในที่เสี่ยง ก็คงจะพาให้เรารอดปลอดภัยได้แหละเนาะ ><
หลังจากบินต่อมาอีกเกือบ 3 ชม. ก็มาถึงสนามบินลิม่า ประเทศเปรู ตอน 6 โมงเย็น เราจะแวะที่เมืองลิม่าเป็นเวลา 2 คืน 1 วันก่อนจะบินต่อไปที่ประเทศโคลอมเบียค่ะ
ตรงสายพานรับกระเป๋า มีร้านรับแลกเงิน ก็เลยแลกเงินเปรูไว้ 100usd เผื่อเป็นค่าแท็กซี่ ที่พัก อาหาร ไว้นิดหน่อยก่อน
**การเข้าเมืองจากสนามบินลิม่า มีคำเตือนมาเยอะมากว่าอย่าใช้รถสาธารณะ หรือแท็กซี่ด้านนอกสนามบิน เพราะมีแบบโดนปล้นบนรถแท็กซี่เลย พาไปบังคับกดเงิน โกงค่าแท็กซี่ที่ตอนแรกเขาอาจจะบอกราคาถูกๆ ให้เข้าใจผิดว่าเป็นสกุลเงิน SOL เปรู แต่พอจ่ายจริงก็จะบอกว่าเป็น ดอลลาร์ US ซึ่งก็จะแพงมาก
หรือร้ายแรงหน่อย คือมีคนนอกเปิดประตูรถเข้ามาปล้นเอากระเป๋าไปเลย และมีอีกเคสเป็นคนรู้จักที่เพิ่งคุยกันที่ไทย โดนจี้ตรงสนามบินลิม่านี้เลยจ้า แย่งกระเป๋ากันจนเกือบโดนคนร้ายเอามีดแทง ><
เราหวาดระแวงมากกกกก เพราะต้องออกจากสนามบินเข้าเมืองแรกของทริปนี้ จะโดนปล้นตั้งแต่วันแรกไหมเนี่ย แล้วไฟล์ทก็ดันมาถึงตั้งเกือบค่ำ กว่าจะออกมาจากสนามบินก็มืดแล้ว ดังนั้น Green taxi ที่สนามบินคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เราได้คนขับชื่อมาร์ติน ใส่สูทดูดีมีบัตรประจำตัว แพงกว่าแต่ก็อุ่นใจ ขึ้นรถมาล๊อคประตูให้เรียบร้อย พูดอังกฤษดีมาก เพราะเคยไปอยู่อเมริกาหลายปี คุยกันถูกคอไปอีก เลยบอกให้มารับที่โฮสเทลกลับสนามบินด้วยอีก 2 วันข้างหน้า
แล้วพอออกมาเห็นแท็กซี่ด้านนอกสนามบิน โคตรน่ากลัววว เปิดกระจกขับ ทั้งสภาพรถ ทั้งคนขับ ดูไม่น่าปลอดภัยเลย มาร์ตินก็ชี้ให้ดูว่าแท็กซี่แบบนี้นะอันตราย แล้วก็เล่าให้ฟังเหมือนที่เราได้ข้อมูลมาเป๊ะๆ เลย
ด้วยความที่พรุ่งนี้มีเวลาวันเดียวในลิม่า ก็เลยคิดว่าการไป Walking Tour น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ทางโฮสเทลมีให้ลงทะเบียนไว้ พรุ่งนี้จะมีคนมารับเราตอนเช้าไปเที่ยวในย่านเมืองเก่าของลิม่ากัน
ฉลองให้ตัวเองที่มาถึงอเมริกาใต้อย่างปลอดภัย ด้วยมาม่า 1 ห่อก่อนนอน
จบ Day 1 แบบเพลียมากกกกสุด ข้ามมา 3 ทวีปรวดเดียว 30 กว่าชม. ตั้งแต่เอเชีย ออสเตรเลีย จนมาถึงอเมริกาใต้...ไว้ลุยต่อพรุ่งนี้กันค่ะ Zzz
ค่าใช้จ่าย Day 1
Taxi จากสนามบินลิม่า - โฮสเทล 60SOL
น้ำ 2SOL
Flying Dog โฮสเทล 24USD (2 คืน)