เลมอน VS มะนาว เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

หลาย ๆ คนคงเคยสงสัยกันใช่ไหมว่า ระหว่าง เลมอน (Lemon) กับ มะนาว (Lime) ต่างกันอย่างไร? แล้วมะนาวเราจะเรียกว่า Lemon หรือ Lime กันนะ บทความนี้ SGE จะพาไปหาคำตอบกันว่าผลไม้ 2 ชนิดนี้ คืออะไร? มีความเหมือน หรือต่างกันอย่างไร? ไปดูกันเลย
เลมอน คืออะไร?
เลมอนเป็นผลไม้ที่จัดอยู่ในตระกูลส้ม มีลักษณะเป็นไม้พุ่ม ปลายยอดมีหนามแหลม ลักษณะของใบเป็นใบเดี่ยว เมื่อนำมาขยี้จะมีกลิ่นหอมแรง ส่วนลักษณะของดอกเลมอน ดอกมีกลิ่นหอม และมีสีขาว ส่วนลักษณะของผลเลมอน เป็นรูปกลมรี ที่ปลายผลจะมีติ่งแหลม ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลือง ในผลมีเมล็ดหลายเมล็ด เนื้อผลฉ่ำน้ำ และมีรสเปรี้ยว
ลักษณะทั่วไปเลมอน เป็นแบบไหน?
👉 ลำต้นเลมอน เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีทรงพุ่ม ลำต้นมีลักษณะทรงกลม เป็นเนื้อไม้แข็งและเหนียว มีผิวเรียบ ลำต้นมีกิ่งมีหนามแหลมยาวที่ปลายยอด กิ่งอ่อนสีเขียว กิ่งแก่มีสีน้ำตาล
👉 ใบเลมอน เป็นใบเดี่ยว มีลักษณะทรงรี พื้นผิวใบเรียบเกลี้ยงเป็นมัน ค่อนข้างหนา มีกลิ่นหอมมาก เพราะมีต่อมน้ำมันอยู่ ใบด้านบนสีเข้ม ใต้ใบสีอ่อนกว่า ใบมีสีเขียว
👉 ดอกเลมอน จะมีดอกออกเดี่ยว อยู่เป็นกระจุก กลีบดอกมีสีขาว มีเกสรสีเหลือง และมีกลิ่นหอม
👉 ผลเลมอน มีลักษณะทรงกลมรี ปลายผลมีติ่งแหลม ขั้วหัวของผลเป็นจุก ผิวเปลือกหนาเรียบมัน ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด ภายในผลจะมีเนื้อฉ่ำน้ำ มีเมล็ดจำนวนมาก ๆ อยู่ข้างใน รสชาติเปรี้ยวจัด นำมาทำน้ำมันหอมระเหยจากผิว
👉 เมล็ดเลมอน มีลักษณะทรงรี มีสีขาวนวล จะมีเมล็ดจำนวนมาก ๆ อยู่ข้างในผล
 
มะนาว คืออะไร?
เชื่อกันว่ามะนาวเป็นพืชพื้นเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพราะผู้ที่อยู่ในภูมิภาคนี้ รู้จักการใช้ประโยชน์จากมะนาวกันเป็นอย่างดีมาตั้งแต่อดีตแล้ว  ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ ประเทศไทย แต่มีการค้นพบอีกชิ้นหนึ่งที่เชื่อว่า มะนาวมีแหล่งกำเนิดในอินเดียตอนเหนือ และเขตเชื่อมต่อกับพม่า รวมถึงทางตอนเหนือของมาเลเซีย แต่น่าแปลกที่ไม่พบมะนาวในป่าของไทย ปัจจุบันมีการปลูกมะนาวทั่วไปในเขตร้อน และเขตอบอุ่นกึ่งร้อนทั่วโลก เพราะมะนาวสามารถขึ้นได้ในที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ และทนต่อดินเนื้อละเอียดได้ดีกว่าส้ม
ลักษณะทั่วไปมะนาว เป็นแบบไหน?
เป็นไม้ผลยืนต้นขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นพุ่มมีความสูงเฉลี่ย 2-5 เมตร ลำต้นมีลักษณะโค้งงอไม่ค่อยแข็งแรง เปลือกของลำต้นมีสีน้ำตาลปนเทา กิ่งอ่อนของมะนาว มีสีเขียวอ่อน เมื่อแก่ สีจะเข้มขึ้นจนเป็นสีน้ำตาล ส่วนกิ่งที่แก่มากจะเป็นสีเทา การออกของกิ่งก้านไม่ค่อยเป็นระเบียบ บนลำต้นและกิ่งก้าน จะมีหนาม หนามมีลักษณะแหลมมีทั้งหนามสั้นและหนามยาว มีสีเขียวเข้มและสีเขียวอมเหลือง ส่วนบริเวณปลายหนามีสีน้ำตาล เมื่อแก่ขึ้นหนามจะแห้งตามไป
👉 ใบของมะนาว มีลักษณะเป็นใบเดี่ยว คือมีแผ่นใบอันเดียว ใบมีขนาดเล็กกว้างประมาณ 3-6 ซม. ยาวประมาณ 6-12 ซม.รูปร่างเป็นแบบรีหรือทรงไข่ ฐานใบมีลักษณะกลม ปลายใบมีรูปแหลม ป้าน ขอบใบเป็นคลื่น หรือเป็นหยักละเอียด ก้านใบสั้นและมีปีกใบแคบหรืออาจไม่มีปีกใบก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์มะนาว ใบอ่อนมีสีเขียวจางเกือบเป็นสีขาว ใบแก่มีสีเขียวเข้ม ผิวใบด้านบนละเอียดเป็นมันส่วนผิวใบด้านล่างค่อนข้างหยาบและมีสีจางกว่า เมื่อทำการขยี้ใบจะมีกลิ่นแรง
👉 ดอกมะนาว อาจเกิดเป็นดอกเดี่ยวหรือช่อก็ได้ มีทั้งที่เป็นดอกสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์ ดอกจะออกบริเวณซอกใบและปลายกิ่ง ดอกมะนาวมีขนาดเล็ก ดอกที่ตูมจะมีขนาดความยาว 1-2 ซม. กลีบเลี้ยงมีสีเขียวเป็นรูปถ้วยมี 4-6 หยัก ส่วนกลีบดอกมีสีขาว และด้านท้องกลีบดอกอาจมีสีม่วงอมแดงเจืออยู่ด้วย กลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปถ้วย มีจำนวน 4-5 อัน จำนวนกลีบในและกลีบนอกมีจำนวนเท่าๆ กัน แต่ละกลีบมีขนาด 0.8-1.2 ซม. ดอกมะนาวมีเกสรตัวผู้มากมายถึง 20-40 อัน เชื่อมติดกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-8 อัน เกสรตัวเมียมีรังไข่รูปร่างเป็นทรงกระบอก ใน 1 ดอก จะมีรังไข่ประมาณ 9-12 อัน
👉 ผลมะนาว มีรูปร่างแตกต่างกันไปตามชนิดของพันธุ์ มีทั้งรูปร่างยาวรี รูปไข่ และรูปร่างกลม ที่ก้นผลมีลักษณะเป็นจุกหรือปุ่มเล็ก ๆ ผลโดยทั่วไปมีขนาดความยาว 3-12 ซม. เปลือกมักษณะขรุขระ และมีต่อมน้ำมันเปลือกผิว ผิวเปลือกเมื่อแหลม บรรจุอยู่เป็นจำนวนมาก เนื้อมะนาวมีสีเหลืองอ่อน มีรสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมเมล็ด ขนาดเล็กคล้ายรูปไข่ ด้านปลายหัวจะแหลม ภายในเมล็ดมีเนื้อเยื่อสีขาว

เลมอนและมะนาว เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
ความคล้ายกันทางด้านสุขภาพ
- มีวิตามินซีสูง : วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารได้มากขึ้น และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นสารสำคัญในการรักษาบาดแผล
- มีสารฟลาโวนอยด์ : ฟลาโวนอยด์ เป็นสารพฤกษเคมี ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ป้องกันโรคหัวใจ และช่วยในการเผาผลาญ การศึกษาในสัตว์ และเซลล์ชี้ให้เห็นว่า ฟลาโวนอยด์ มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ต้านโรคเบาหวาน ต้านมะเร็ง และป้องกันระบบประสาท อย่างไรก็ตาม จำเป็นยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบในมนุษย์ให้มากขึ้น
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ : นอกจากวิตามินซีแล้ว มะนาวและเลมอน ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยปกป้องร่างกายจากความเสียหายของเซลล์ ซึ่งดูเหมือนจะมีบทบาทในภาวะสุขภาพเรื้อรังหลายอย่าง เช่น เบาหวาน มะเร็ง และภาวะสมองเสื่อม
- ช่วยลดน้ำหนัก : แหล่งข้อมูลบางแห่งอ้างว่าการบริโภคมะนาวหรือผลิตภัณฑ์จากมะนาว สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ น่าจะเป็นผลมาจากปริมาณแคลอรี่ที่ลดลง การออกกำลังกายเป็นประจำ และการปรับเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิตที่สำคัญอื่น ๆ ร่วมด้วย

ความคล้ายด้านโภชนาการ
- สารอาหาร : จากผลการวิจัยตัวอย่าง 100 กรัม ในแง่ของปริมาณธาตุอาหารหลัก ได้แก่ ไฟเบอร์ (3 กรัม), โปรตีน (1 กรัม) และไขมัน (0 กรัม) จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่มะนาวจะมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตและแคลอรี่น้อยกว่าเล็กน้อย รวมทั้งให้ปริมาณวิตามินซี (88%) ที่มากกว่าเลมอนอีกด้วย
- ความเป็นกรด : ทั้งมะนาวและเลมอน มีกรดซิตริกสูงในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉลี่ย คือ น้ำมะนาวมีกรดซิตริกประมาณ 48 กรัมต่อลิตร ในขณะที่น้ำเลมอน มีประมาณ 45.8 กรัมต่อลิตร

ความแตกต่างด้านกายภาพ
- สี : มะนาวมักมีสีเขียว ในขณะที่เลมอนมักมีสีเหลืองสดใส อย่างไรก็ตามมะนาวบางชนิด จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เมื่อสุกทำให้การแยกแยะยากขึ้นเล็กน้อย
- ขนาด : มะนาวมีขนาดเล็กและกลมกว่าเลมอน มีขนาดแตกต่างกันไป แต่โดยปกติจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-2 นิ้ว (3-6 เซนติเมตร) ส่วนเลมอน มักจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-4 นิ้ว (7-12 เซนติเมตร) และมีรูปร่างรีมากกว่า

ความแตกต่างของรสชาติ
ทั้งมะนาวและเลมอน จะให้รสเปรี้ยวคล้ายคลึงกัน โดยที่มะนาวจะมีรสขมกว่าเล็กน้อย ในขณะที่เลมอน จะมีรสหวานกว่า แต่การรับรู้นี้แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละบุคคล

การใช้งานที่แตกต่างกันเล็กน้อย
- อาหารและเครื่องดื่มหลายชนิด มีมะนาวหรือเลมอนเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากมีรสเปรี้ยว ซึ่งอาจอยู่ในรูปของน้ำผลไม้สำเร็จรูป คั้นสด หั่นเป็นชิ้น หรือชิ้นเนื้อผลไม้ ใช้ในการปรุงอาหาร การถนอมอาหาร หรือเพียงเพื่อให้ได้รสชาติ
- เปลือกของผลไม้มีรสชาติขมอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เป็นที่นิยมในการปรุงอาหาร เช่น สามารถใช้น้ำผลไม้ หรือเปลือกจากผลไม้ทั้งสองชนิด เพื่อปรุงรส หมักซอส และทำน้ำสลัด
- มะนาวและโหระพา ยังเป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับการหมักไก่และปลา มะนาวเข้ากันได้ดีกับกระเทียม และพริกป่น สำหรับการหมักเนื้อสัตว์
- มะนาวและเลมอน เป็นส่วนเสริมที่ดีสำหรับเครื่องดื่มร้อน หรือเย็นหลายชนิด เช่น น้ำมะนาวคั้นสด หรือชามะนาว 
- เนื่องจากความเป็นกรดสูง ผลไม้รสเปรี้ยวเหล่านี้ จึงมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ด้วยเหตุนี้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของส้ม จึงมีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่สารฟอกขาวไปจนถึงน้ำยาทำความสะอาดพื้นผิว
- นอกจากนี้ การศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า น้ำมันหอมระเหยจากมะนาว และผลไม้รสเปรี้ยวอื่น ๆ สามารถช่วยผ่อนคลายด้วยการสูดดม และอโรมาเทอราพี 
- การใช้คุณสมบัติในการต้านจุลชีพ และลดการอักเสบของผิวหนังผ่านการทาด้วยเปลือก
- ในครัวมักใช้มะนาวและเลมอน ในลักษณะเดียวกัน อย่างไรก็ตาม มะนาวไม่ได้ถูกนำมาใช้ในอาหารหวานบ่อยเท่าเลมอน เนื่องจากความขม
ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
- การบริโภคมะนาว หรือเลมอนในปริมาณปานกลาง โดยทั่วไปมักจะปลอดภัย อย่างไรก็ตามสามารถทำให้เกิดความเจ็บปวด เมื่อสัมผัสกับบาดแผลเปิด เช่น แผลจากหกล้ม หรือแผลในปาก
- ความเป็นกรดสูง อาจทำให้อาการเสียดท้อง หรือปัญหาทางเดินอาหารแย่ลงในผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน (GERD) ได้
- เมื่อใช้ในปริมาณมาก ผลไม้ที่มีกรดสูงสามารถกัดกร่อนสารเคลือบฟัน และทำให้ฟันผุ เมื่อเวลาผ่านไป
- เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของส้ม หรือสารเคมีระคายเคืองอื่น ๆ ให้ใส่ถุงมือ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง

"จะเห็นได้ว่า มะนาวและเลมอน ต่างก็เป็นผลไม้ตระกูลซิตริก ที่มีคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกันมาก อุดมไปด้วยวิตามินซีและมีสารต้านอนุมูลอิสระ และฟลาโวนอยด์อื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ"

เราสามารถใช้ผลไม้ทั้ง 2 ชนิดเป็นส่วนประกอบทั่วไปในอาหารและเครื่องดื่มได้หลายประเภท การทำยา รวมทั้งการใช้งานอื่น ๆ ได้หลากหลาย แต่ก็มีคุณสมบัติบางประการที่แตกต่างกัน เลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณด้วยนะจ๊ะ 😊👌
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่