ระวัง .. ผู้หญิงอ้วนอาจจะอ้วนขึ้นในช่วงรอบเดือน ได้ง่าย 😱
📚 งานนี้เป็นการศึกษาแบบ Cross-sectional เพื่อดูผลของสิ่งต่างๆ ที่เป็นเรื่องพฤติกรรมการกิน (Eating behavior) และการอัตราการเผาผลาญพลังงานขณะพัก (Resting Metabolic Rate)ในช่วงรอบเดือน (Menstrual cycle phases) ของผู้หญิงนะครับ
🌗 ในช่วงรอบเดือนนั้น ก็จะแบ่งเป็นช่วงก่อนการตกไข่ (Follicular phase) และ ช่วงหลังไข่ตก (Luteal phase) เขาก็จะดูว่าการกิน การเผาผลาญในช่วงต่างๆ ของผู้หญิงแต่ละกลุ่มนั้นเป็นยังไงบ้าง โดยแยกเป็นกลุ่มที่ไม่มีภาวะอ้วน (Lean) และกลุ่มที่มีภาวะอ้วน (Obese) นะครับ
👩🏻🔧 กลุ่มตัวอย่างที่เขาศึกษามีจำนวน 30 คน Lean 15 คน และกลุ่ม Obesity 15 คน อายุก็ระหว่าง 18-25 ปี ทุกคนมีรอบเดือนของตัวเองเป็นปกตินะครับ ไม่ได้มีการใช้ยาควบคุมฮอร์โมน ยาลดน้ำหนัก ตั้งท้องหรือให้นมบุตร หรือมีน้ำหนักขึ้นลงผิดปกติในช่วง 3 เดือนล่าสุด
⚖️ โดยเขาก็เก็บผลน้ำหนักตัวในช่วงเช้าหลังปัสสาวะเรียบร้อยแล้ว ในช่วงก่อนตกไข่ ระหว่างวันที่ 6 และ 13 ส่วนช่วงหลังไข่ตก ก็ระหว่างวันที่ 15 และ 18 การชั่งน้ำหนักมีการควบคุมต่างๆเป็นอย่างดีนะครับ ส่วนสัดส่วนมวลกาย (Body composition) นั้นใช้เครื่อง BIA รุ่น Bodystat Quadscan ใครที่ body fat ไม่เกิน 30 ก็คือไม่อ้วน
🍱 แล้วก็มีการเก็บข้อมูลการรับประทานอาหาร โดยใช้สอบถามย้อนหลัง 24 ชั่วโมง วันธรรมดา 2 วันวันหยุด 1 วัน ส่วนการเผาผลาญใช้ Indirect calorimetry วัด CO2 เพื่อมาคำนวณการเผาผลาญขณะพัก (RMR) นะครับ ก็โอเคแหละ ได้มาตรฐานอยู่ หลังจากเก็บค่าต่างๆ ก็นำมาวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ
🔎 ซึ่งเขาก็พบว่าความเปลี่ยนแปลงน้ำหนักตัว ในคนสองกลุ่ม ในช่วงก่อนและหลังตกไข่เนี่ย ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่นะครับก็คล้ายๆกัน กลุ่ม Lean จะมีอุณหภูมิร่างกายในช่วงหลังตกไข่สูงกว่าช่วงก่อน แล้วก็จะกินพลังงานเยอะกว่าโดยที่เยอะเนี่ยจะเป็นอาหารกลุ่มไขมัน ในชณะที่กลุ่ม Obesity ที่มีภาวะอ้วนนั้น จะทานพลังงานสูงขึ้นโดยสูงขึ้นจากอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต
📌 ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ค่าการเผาผลาญพลังงาน RMR ในช่วงที่ทานเยอะขึ้นเนี่ยดันสูงขึ้นเฉพาะในกลุ่ม Lean อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเสียด้วย กลุ่ม Obesity ค่า RMR ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่ากับกลุ่ม Lean
🤔 ตรงนี้อาจจะเป็นจุดนึงที่อธิบายได้ว่าทำไม การควบคุมน้ำหนักของผู้หญิงในช่วงรอบเดือน โดยเฉพาะคนที่มีภาวะอ้วนเนี่ยทำได้ยาก เพราะว่ามันมีผลในเรื่องของระดับการเผาผลาญ รวมถึงฮอร์โมนที่ควบคุมเรื่องความอยากอาหาร เข้ามาเกี่ยวข้อง
📝 ค่า RMR ที่เพิ่มขึ้นในในช่วงตกไข่มีการศึกษาพบว่ามีความสัมพันธ์กับระดับ Estrogen ที่สูงขึ้น แต่ปัญหาก็คือมีการศึกษาพบว่าในกลุ่มคนที่อ้วนนั้นระดับ Progesterone และ Estrogen ดันต่ำ แล้ว Estrogen นี่ก็มีส่วนในการควบคุมการทาน แล้วก็มีผลต่อการแสดงออกของโปรตีน UCP-1 ซึ่งมีบทบาทเพิ่มการเผาผลาญ
📌 จากข้อมูลในการศึกษานี้ก็พบว่ากลุ่ม Lean มีอุณหภูมิร่างกายในช่วงหลังไข่ตกสูงขึ้น ตรงนี้ก็สอดคล้องกับอัตราการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามกลุ่ม Obesity ในงานนี้ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลังไข่ตก ส่วนนึงมาจากปริมาณน้ำภายนอกเซลล์ในร่างกาย หรืออาการบวมน้ำนั่นเอง อ่ะก็สบายใจได้นิดว่าน้ำหนักที่อาจจะเพิ่มขึ้นทั้งหมดอาจจะไม่ใช่ไขมัน
🤔 แต่มันก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดความอ้วนขึ้นได้ในทุกๆ รอบเดือนอยู่นะครับ เพราะว่ามันเกิดการกินเพิ่ม ซึ่งพบทั้งสองกลุ่มแต่กลุ่มที่อ้วนเนี่ย RMR ดันไม่ได้สูงขึ้นตามมาด้วย เหมือนกลุ่มที่เขา Lean 🤣
ซึ่งพอถึงจุดนึง มันอาจจะเป็นงูกินหางได้นะครับ อ้วนขึ้น Estrogen ลดลงการเผาผลาญไม่เพิ่ม กินเพิ่ม อ้วนเพิ่ม ฮอร์โมนเปลี่ยน การเผาผลาญลด กินเพิ่ม อ้วนเพิ่ม อาจจะไม่ได้เพิ่มพรวดพราดหรอก แต่ถ้าเราไม่ได้สังเกตอะไรเลย ผ่านไปหลายๆเดือน ชั่งน้ำหนักดูสุขภาพประจำปี อุ่ย มาจากไหนเยอะแยะ 😳
📌 จากข้อมูลตรงนี้ มันก็นำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการโภชนาการ การออกกำลังกายได้นะครับ จะไปคิดว่าไม่เป็นไรหรอก ฮอร์โมนมันเปลี่ยน มันอยากกินอ่ะ กินๆ เดี๋ยวพ้นช่วงนี้ไป ก็ปกติ บางทีผ่านไปหลายๆรอบ มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด พอถึงเวลาที่มันไปเยอะแล้ว มันก็จัดการยากขึ้น
ที่มาและแหล่งอ้างอิง
https://www.fatfighting.net/article-2022-06-28-obese-women-have-a-high-carbohydrate-intake-without-changes-in-the-resting-metabolic-rate-in-the-luteal-phase/
ผู้หญิงอ้วนอาจจะอ้วนขึ้นในช่วงรอบเดือน ได้ง่าย
ระวัง .. ผู้หญิงอ้วนอาจจะอ้วนขึ้นในช่วงรอบเดือน ได้ง่าย 😱
📚 งานนี้เป็นการศึกษาแบบ Cross-sectional เพื่อดูผลของสิ่งต่างๆ ที่เป็นเรื่องพฤติกรรมการกิน (Eating behavior) และการอัตราการเผาผลาญพลังงานขณะพัก (Resting Metabolic Rate)ในช่วงรอบเดือน (Menstrual cycle phases) ของผู้หญิงนะครับ
🌗 ในช่วงรอบเดือนนั้น ก็จะแบ่งเป็นช่วงก่อนการตกไข่ (Follicular phase) และ ช่วงหลังไข่ตก (Luteal phase) เขาก็จะดูว่าการกิน การเผาผลาญในช่วงต่างๆ ของผู้หญิงแต่ละกลุ่มนั้นเป็นยังไงบ้าง โดยแยกเป็นกลุ่มที่ไม่มีภาวะอ้วน (Lean) และกลุ่มที่มีภาวะอ้วน (Obese) นะครับ
👩🏻🔧 กลุ่มตัวอย่างที่เขาศึกษามีจำนวน 30 คน Lean 15 คน และกลุ่ม Obesity 15 คน อายุก็ระหว่าง 18-25 ปี ทุกคนมีรอบเดือนของตัวเองเป็นปกตินะครับ ไม่ได้มีการใช้ยาควบคุมฮอร์โมน ยาลดน้ำหนัก ตั้งท้องหรือให้นมบุตร หรือมีน้ำหนักขึ้นลงผิดปกติในช่วง 3 เดือนล่าสุด
⚖️ โดยเขาก็เก็บผลน้ำหนักตัวในช่วงเช้าหลังปัสสาวะเรียบร้อยแล้ว ในช่วงก่อนตกไข่ ระหว่างวันที่ 6 และ 13 ส่วนช่วงหลังไข่ตก ก็ระหว่างวันที่ 15 และ 18 การชั่งน้ำหนักมีการควบคุมต่างๆเป็นอย่างดีนะครับ ส่วนสัดส่วนมวลกาย (Body composition) นั้นใช้เครื่อง BIA รุ่น Bodystat Quadscan ใครที่ body fat ไม่เกิน 30 ก็คือไม่อ้วน
🍱 แล้วก็มีการเก็บข้อมูลการรับประทานอาหาร โดยใช้สอบถามย้อนหลัง 24 ชั่วโมง วันธรรมดา 2 วันวันหยุด 1 วัน ส่วนการเผาผลาญใช้ Indirect calorimetry วัด CO2 เพื่อมาคำนวณการเผาผลาญขณะพัก (RMR) นะครับ ก็โอเคแหละ ได้มาตรฐานอยู่ หลังจากเก็บค่าต่างๆ ก็นำมาวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ
🔎 ซึ่งเขาก็พบว่าความเปลี่ยนแปลงน้ำหนักตัว ในคนสองกลุ่ม ในช่วงก่อนและหลังตกไข่เนี่ย ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่นะครับก็คล้ายๆกัน กลุ่ม Lean จะมีอุณหภูมิร่างกายในช่วงหลังตกไข่สูงกว่าช่วงก่อน แล้วก็จะกินพลังงานเยอะกว่าโดยที่เยอะเนี่ยจะเป็นอาหารกลุ่มไขมัน ในชณะที่กลุ่ม Obesity ที่มีภาวะอ้วนนั้น จะทานพลังงานสูงขึ้นโดยสูงขึ้นจากอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต
📌 ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ค่าการเผาผลาญพลังงาน RMR ในช่วงที่ทานเยอะขึ้นเนี่ยดันสูงขึ้นเฉพาะในกลุ่ม Lean อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเสียด้วย กลุ่ม Obesity ค่า RMR ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่ากับกลุ่ม Lean
🤔 ตรงนี้อาจจะเป็นจุดนึงที่อธิบายได้ว่าทำไม การควบคุมน้ำหนักของผู้หญิงในช่วงรอบเดือน โดยเฉพาะคนที่มีภาวะอ้วนเนี่ยทำได้ยาก เพราะว่ามันมีผลในเรื่องของระดับการเผาผลาญ รวมถึงฮอร์โมนที่ควบคุมเรื่องความอยากอาหาร เข้ามาเกี่ยวข้อง
📝 ค่า RMR ที่เพิ่มขึ้นในในช่วงตกไข่มีการศึกษาพบว่ามีความสัมพันธ์กับระดับ Estrogen ที่สูงขึ้น แต่ปัญหาก็คือมีการศึกษาพบว่าในกลุ่มคนที่อ้วนนั้นระดับ Progesterone และ Estrogen ดันต่ำ แล้ว Estrogen นี่ก็มีส่วนในการควบคุมการทาน แล้วก็มีผลต่อการแสดงออกของโปรตีน UCP-1 ซึ่งมีบทบาทเพิ่มการเผาผลาญ
📌 จากข้อมูลในการศึกษานี้ก็พบว่ากลุ่ม Lean มีอุณหภูมิร่างกายในช่วงหลังไข่ตกสูงขึ้น ตรงนี้ก็สอดคล้องกับอัตราการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามกลุ่ม Obesity ในงานนี้ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลังไข่ตก ส่วนนึงมาจากปริมาณน้ำภายนอกเซลล์ในร่างกาย หรืออาการบวมน้ำนั่นเอง อ่ะก็สบายใจได้นิดว่าน้ำหนักที่อาจจะเพิ่มขึ้นทั้งหมดอาจจะไม่ใช่ไขมัน
🤔 แต่มันก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดความอ้วนขึ้นได้ในทุกๆ รอบเดือนอยู่นะครับ เพราะว่ามันเกิดการกินเพิ่ม ซึ่งพบทั้งสองกลุ่มแต่กลุ่มที่อ้วนเนี่ย RMR ดันไม่ได้สูงขึ้นตามมาด้วย เหมือนกลุ่มที่เขา Lean 🤣
ซึ่งพอถึงจุดนึง มันอาจจะเป็นงูกินหางได้นะครับ อ้วนขึ้น Estrogen ลดลงการเผาผลาญไม่เพิ่ม กินเพิ่ม อ้วนเพิ่ม ฮอร์โมนเปลี่ยน การเผาผลาญลด กินเพิ่ม อ้วนเพิ่ม อาจจะไม่ได้เพิ่มพรวดพราดหรอก แต่ถ้าเราไม่ได้สังเกตอะไรเลย ผ่านไปหลายๆเดือน ชั่งน้ำหนักดูสุขภาพประจำปี อุ่ย มาจากไหนเยอะแยะ 😳
📌 จากข้อมูลตรงนี้ มันก็นำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการโภชนาการ การออกกำลังกายได้นะครับ จะไปคิดว่าไม่เป็นไรหรอก ฮอร์โมนมันเปลี่ยน มันอยากกินอ่ะ กินๆ เดี๋ยวพ้นช่วงนี้ไป ก็ปกติ บางทีผ่านไปหลายๆรอบ มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด พอถึงเวลาที่มันไปเยอะแล้ว มันก็จัดการยากขึ้น
ที่มาและแหล่งอ้างอิง
https://www.fatfighting.net/article-2022-06-28-obese-women-have-a-high-carbohydrate-intake-without-changes-in-the-resting-metabolic-rate-in-the-luteal-phase/