สวัสดีค่ะ เราอายุ 20 ปีส่วนน้องชายอายุ 13 ปี จริง ๆ เราสนิทกันมากนะคะ น้องกล้าเปิดใจคุยกับเราบางเรื่องมากกว่าพ่อแม่อีก เราคุยเล่นกันเหมือนไม่มีช่องว่างระหว่างอายุ เราคอยสอนในเรื่องที่น้องมาบอก (แต่ไม่บ่อย) เราสอนในสิ่งที่พอจะสอนไก้ สอนให้เข้าใจคน สอนให้คิด เพราะน้องพึ่งขึ้นมัธยมและยังไม่เคยเจอเพื่อนหรือใช้ชีวิตนอกบ้านเลยเพราะออนไลน์มาตั้งแต่ป.6 เลยทำให้เรากังวลมากเพราะจะอยู่แต่กับเกมมือถือและคอม น้องเราไม่ค่อยแสดงออกว่าแคร์คนอื่น จะมีก็แต่แม่มาเล่าให้ฟังว่าให้ซื้อของไปฝากเจ้ด้วย (แต่ก็นานมาแล้ว)
แต่มันก็จะมีอะไรที่เราเข้ากันไม่ได้ค่ะ เราทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อยมาตลอดจนไม่คุยกันและก็มาคุยกันเหมือนเดิม แล้วก็ทะเลาะกันอีกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนเราเริ่มไม่ไหวกับความคิดน้อง น้องชายเราพื้นเพเป็นคนหัวรั้นค่ะ แม่ตามใจที่สุดจนเราต้องเบรกแล้วกลายเป็นว่าแม่หาว่าเราอิจฉาน้องทั้งที่เราเบรกเพราะไม่อยากให้น้องโตไปเป็นคนเอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องประเคนให้ (ใช้แม่ไปซื้อของและไม่ลุกจากหน้าจอเลย, แม่คลุกข้าวให้เหมือนข้าวหมาให้เอาไปกินหน้าคอม, กับข้าวที่บ้านไม่ถูกปากพ่อแม่ก็ต้องขับมอเตอร์ไซค์ออกไปหาของให้กิน) เราเบรกแม่มาตลอดจนเหนื่อยแล้ว และตอนนี้น้องก็อายุ 13 มีความคิดที่แปลกมากสำหรับเรา ใครเป็นที่อยู่ใน position ของการเป็นน้องยังไงถ้าผ่านมาเห็นหากไม่รบกวนเราก็อยากฟังความเห็นจากฝั่งคนเป็นน้องว่ารู้สึกยังไง เพราะเราก็อยากเข้าใจมัน
เราขอยกตัวเองเรื่องจากวันนี้ที่ทะเลาะกัน ยายเราวานให้น้องเอาลิควิดของเรามาลบปากกาให้หน่อย (ซึ่งตอนไหนก็ไม่รู้เพราะเราอยู่ที่งานศพตาตั้งแต่บ่าย กลับมาถึง 2 ทุ่มแล้วมาช่วยทำสังฆทาน พับเหรียญต่อ เราไม่เห็นเลย) แล้วเราต้องทำบัญชีจากผู้ที่มาร่วมงานแล้วใส่ซองมา เราก็จะหาลิควิดแต่มันไม่มี ยายเลยบอกว่าให้น้องเราหยิบมา น้องเราก็บอกว่าวางไว้บนโต๊ะเราแล้ว ทั้งที่หยิบออกมาจากกระเป๋าแล้วแต่วางบนโต๊ะ เราก็เลยบอกว่าเอามาจากตรงไหนทำไมไม่เก็บเข้าที่เดิม ด้วยความที่เป็นเด็กที่เอาแต่ใจและไม่ยอมใครกลายเป็นว่าเราผิดที่หาไม่เจอ มันบอกว่าก็วางไว้ต้องนี้จะมาโทษมันได้ไงก็วางไว้แล้วหายไปจะไม่รู้เหรอ ซึ่งเราก็งงมากที่คนที่หยิบไปล่าสุดวางไว้แล้วหายแต่กลายเป็นเราที่เป็นเจ้าของไม่รู้เรื่องผิดไปโดยปริยาย โดนปกติแล้วเราก็เป็นคนอารมณ์ร้อนค่ะ ยิ่งน้องใส่เรามาก่อนด้วยน้ำเสียงตะคอก เราก็ไม่ยอมก็สาดไปเหมือนกันว่า ก็หยิบไปล่าสุดทำไมไม่เอามาเก็บที่เดิม ถ้าวางไว้ตรงนี้แล้วมันหายไปไหนล่ะ ตอนนี้มันอยู่ไหม เราก็เดินกลับมานั่งและเราก็ผิดเองค่ะที่ด่าลอยลมไปว่า ปัญญาอ่อน เพราะเราก็งงกับความคิดมันเหมือนกันที่เป็นคนหยิบไปแท้ ๆ แต่ไม่รับผิดชอบอะไรเลย เราเบื่อที่จะต้องเป็นฝ่ายเริ่มคุยก่อนให้เรามาคุยกันเหมือนเดิม และมันก็ด่าเรากลับมาว่า ปากดีนักนะ เราไม่ซีหรอกค่ะที่มันด่าเราเพราะเราด่ามันก่อน แต่ก็อย่างที่บอกค่ะเรางงความคิดมันว่าปากดีนักนะ ว่าเราไปกล่าวหามันไม่หยุดว่ามันไม่เก็บที่เดิม เราเข้าใจนิดนึงว่ามันคงคิดว่ามันไม่ผิดเลยเพราะมันวางไว้ตรงนี้แล้ว แต่จะหายไปไหนไม่ใช่เรื่องของมันแล้ว แต่ของเราคือคนสุดท้ายที่หยิบไปความรับผิดชอบ
รบกวนด้วยนะคะ ยิ่งให้คำแนะนำว่าควรทำยังไงกับน้องในวันข้างหน้าจะดีมาก แต่เรากับน้องก็ปากร้ายพอกันค่ะ คำด่าที่มันพูดก็เอามาจากเราทั้งนั้น เราสอนจนไม่รู้จะสอนยังไงในบางเรื่องพูดซ้ำจนเบื่อ แม่กับพ่อเรายังเอือมที่จะพูดซ้ำกับมันจนปล่อยแล้วค่ะ ควรทำยังไงดีคะที่ทำให้น้องเราคิดวิเคราะห์ได้สักที
ทะเลาะกับน้องชายเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บ่อยมาก ทำยังไงดีคะ
แต่มันก็จะมีอะไรที่เราเข้ากันไม่ได้ค่ะ เราทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อยมาตลอดจนไม่คุยกันและก็มาคุยกันเหมือนเดิม แล้วก็ทะเลาะกันอีกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนเราเริ่มไม่ไหวกับความคิดน้อง น้องชายเราพื้นเพเป็นคนหัวรั้นค่ะ แม่ตามใจที่สุดจนเราต้องเบรกแล้วกลายเป็นว่าแม่หาว่าเราอิจฉาน้องทั้งที่เราเบรกเพราะไม่อยากให้น้องโตไปเป็นคนเอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องประเคนให้ (ใช้แม่ไปซื้อของและไม่ลุกจากหน้าจอเลย, แม่คลุกข้าวให้เหมือนข้าวหมาให้เอาไปกินหน้าคอม, กับข้าวที่บ้านไม่ถูกปากพ่อแม่ก็ต้องขับมอเตอร์ไซค์ออกไปหาของให้กิน) เราเบรกแม่มาตลอดจนเหนื่อยแล้ว และตอนนี้น้องก็อายุ 13 มีความคิดที่แปลกมากสำหรับเรา ใครเป็นที่อยู่ใน position ของการเป็นน้องยังไงถ้าผ่านมาเห็นหากไม่รบกวนเราก็อยากฟังความเห็นจากฝั่งคนเป็นน้องว่ารู้สึกยังไง เพราะเราก็อยากเข้าใจมัน
เราขอยกตัวเองเรื่องจากวันนี้ที่ทะเลาะกัน ยายเราวานให้น้องเอาลิควิดของเรามาลบปากกาให้หน่อย (ซึ่งตอนไหนก็ไม่รู้เพราะเราอยู่ที่งานศพตาตั้งแต่บ่าย กลับมาถึง 2 ทุ่มแล้วมาช่วยทำสังฆทาน พับเหรียญต่อ เราไม่เห็นเลย) แล้วเราต้องทำบัญชีจากผู้ที่มาร่วมงานแล้วใส่ซองมา เราก็จะหาลิควิดแต่มันไม่มี ยายเลยบอกว่าให้น้องเราหยิบมา น้องเราก็บอกว่าวางไว้บนโต๊ะเราแล้ว ทั้งที่หยิบออกมาจากกระเป๋าแล้วแต่วางบนโต๊ะ เราก็เลยบอกว่าเอามาจากตรงไหนทำไมไม่เก็บเข้าที่เดิม ด้วยความที่เป็นเด็กที่เอาแต่ใจและไม่ยอมใครกลายเป็นว่าเราผิดที่หาไม่เจอ มันบอกว่าก็วางไว้ต้องนี้จะมาโทษมันได้ไงก็วางไว้แล้วหายไปจะไม่รู้เหรอ ซึ่งเราก็งงมากที่คนที่หยิบไปล่าสุดวางไว้แล้วหายแต่กลายเป็นเราที่เป็นเจ้าของไม่รู้เรื่องผิดไปโดยปริยาย โดนปกติแล้วเราก็เป็นคนอารมณ์ร้อนค่ะ ยิ่งน้องใส่เรามาก่อนด้วยน้ำเสียงตะคอก เราก็ไม่ยอมก็สาดไปเหมือนกันว่า ก็หยิบไปล่าสุดทำไมไม่เอามาเก็บที่เดิม ถ้าวางไว้ตรงนี้แล้วมันหายไปไหนล่ะ ตอนนี้มันอยู่ไหม เราก็เดินกลับมานั่งและเราก็ผิดเองค่ะที่ด่าลอยลมไปว่า ปัญญาอ่อน เพราะเราก็งงกับความคิดมันเหมือนกันที่เป็นคนหยิบไปแท้ ๆ แต่ไม่รับผิดชอบอะไรเลย เราเบื่อที่จะต้องเป็นฝ่ายเริ่มคุยก่อนให้เรามาคุยกันเหมือนเดิม และมันก็ด่าเรากลับมาว่า ปากดีนักนะ เราไม่ซีหรอกค่ะที่มันด่าเราเพราะเราด่ามันก่อน แต่ก็อย่างที่บอกค่ะเรางงความคิดมันว่าปากดีนักนะ ว่าเราไปกล่าวหามันไม่หยุดว่ามันไม่เก็บที่เดิม เราเข้าใจนิดนึงว่ามันคงคิดว่ามันไม่ผิดเลยเพราะมันวางไว้ตรงนี้แล้ว แต่จะหายไปไหนไม่ใช่เรื่องของมันแล้ว แต่ของเราคือคนสุดท้ายที่หยิบไปความรับผิดชอบ
รบกวนด้วยนะคะ ยิ่งให้คำแนะนำว่าควรทำยังไงกับน้องในวันข้างหน้าจะดีมาก แต่เรากับน้องก็ปากร้ายพอกันค่ะ คำด่าที่มันพูดก็เอามาจากเราทั้งนั้น เราสอนจนไม่รู้จะสอนยังไงในบางเรื่องพูดซ้ำจนเบื่อ แม่กับพ่อเรายังเอือมที่จะพูดซ้ำกับมันจนปล่อยแล้วค่ะ ควรทำยังไงดีคะที่ทำให้น้องเราคิดวิเคราะห์ได้สักที