ตอนนี้เราเรียนอยู่คณะสถาปัตย์ ปีที่4แล้วค่ะ เมื่อปีที่แล้วเรามีอาการที่ตัวเองรับรู้ว่าสภาพจิตใจเราไม่ไหวกับการเรียน ตอนทำโปรเจคก็ไม่สามารถที่จะทำงานได้เลย ในขณะที่คิดแบบน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุดและใจเรามันบีบเจ็บจี๊ดและรู้สึกชา ซึ่งเราไม่สามารถที่จะคิดงานออกต่อได้ รู้สึกไม่ดีและนอนไม่หลับหลายวัน จนเราเข้าไปพบจิตแพทย์ และแพทย์ระบุว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า แล้วแจ้งทางคณะและอาจารย์ที่ดูแลโปรเจค เรียนและทำงานเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ต่างไปจากเดิมคือการทำงานและการคิดแบบของเรา เรารู้สึกไม่ดีกับการคิดงานออกแบบ จากเมื่อก่อนที่เรามีความสุขมากเวลาได้โจทย์งานมา สนุกที่จะคิดและได้สร้างสรรค์งานออกแบบ และเราภูมิใจในงานของตัวเองเสมอ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับกันไปหมด เรารู้สึกแย่ทุกครั้งที่เราโจทย์งาน เวลาเห็นงานที่เราออกแบบก็รู้สึกเจ็บที่ใจทุกครั้งจะมีอาการเจ็บหน้าอกและชาๆตลอด จนเรารักษาไปได้เกือบปี อาการที่เราเห็นงานไม่ได้เริ่มดีขึ้น เราเริ่มที่จะทำงานต่อได้แต่มีปัญหาเรื่องคิดงานไม่ออก ออกแบบยังไงก็รู้สึกไม่ถูกใจเท่าไหร่ ในตอนนั้นเราก็คุยกับคุณหมอว่าเรามีอาการแบบนี้ คุณหมอก็แนะนำมาว่า เหมือนตอนนี้เราโดนคนที่เราไว้ใจเอาปืนมายิง และตอนนี้เรากำลังรักษาบาดแผลอยู่ อย่าไปฟื้นบังคับมากเลย ที่เราทำมาได้ขนาดนี้ก็เก่งมากแล้ว ตอนนั้นเราทำความเข้าใจและก็ใจชื้นขึ้นมา และโชคดีที่หลังส่งโปรเจคเสร็จและผ่านไปได้ แม้ว่าคะแนนจะไม่ได้ดีเท่าที่ควรแต่ก็ถือว่าเป็รอีกหนึ่งก้าวที่เราเริ่มรู้สึกดีกับตัวเอง และโชคดีว่าหลังจบโปรเจคเราปิดเทอม2เดือน ก่อนเตรียมตัวฝึกงาน ตอนนั้นเราไม่ต้องกินยานอนหลับแล้ว รู้สึกเป็นช่วงที่ดีมากๆ และครอบครัวก็ซัพพอร์ตเราดีมากๆ แต่พอเปิดเทอมมา เราฝึกงาน ทั้งที่ออฟิศที่เราฝึกงาน พี่ที่สอนงาน เจ้านาย ทุกคนดีมากและน่ารักกันมากๆ แต่เรากับไม่มีความสุขกับการทำงานเลย ยิ่งได้คิดแบบทุกอย่างในหัวมันตีกันไปหมด ไม่ใช่ว่าเราคิดงานไม่ออก แต่ความสุขกับการออกแบบงานมันหายไปด้วย เราไม่รู้ว่าคณะสถาปัตย์ มออื่นๆจะเป็นแบบเราไหม แต่เรารู้สึกว่า คณะสถาปัตย์สร้างบาดแผลให้เราไว้เยอะมากๆจริงๆ หรือว่าเราไม่เหมาะกับการเรียนคณะนี้ต่อไปแล้ว
เลือกเรียนในสิ่งที่สอบแต่กลับมาเป็นโรคซึมเศร้า หรือเราไม่ไหวกับคณะนี้แล้วจริงๆ