เปิดผลสำรวจชี้ซีอีโอทั่วโลก 60% คาดเศรษฐกิจถดถอยในปี 66
https://ch3plus.com/news/economy/morning/296829
Conference Board บริษัทวิจัยธุรกิจ เปิดเผยผลสำรวจครั้งใหม่บ่งชี้ว่า ซีอีโอส่วนใหญ่ทั่วโลกคาดว่า เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือถดถอยแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองของบรรดาผู้นำธุรกิจที่ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจะซบเซามากขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อยังคงพุ่งขึ้น
ทั้งนี้ ผลสำรวจบ่งชี้ว่า ซีอีโอมากกว่า 60% คาดว่าเศรษฐกิจจะถดถอยในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากสิ้นปี 64 ที่มีซีอีโอเพียง 22% ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะถดถอย
อย่างไรก็ตาม มีซีอีโอราว 15% ที่เชื่อว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคของพวกเขาได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว เว็บไซต์ฟอกซ์บิสิเนส.คอมรายงานว่า ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในเดือนพ.ค.65 ที่ผ่านมา และก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลงมติในวันที่ 15 มิ.ย. ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537
พ่อค้าแม่ค้า ‘ต้นกล้ากัญชา’ โอดไม่คึกคัก สวนกระแส กัญชาฟีเวอร์
https://www.matichon.co.th/region/news_3408599
พ่อค้าแม่ค้า ‘ต้นกล้ากัญชา’ โอดไม่คึกคัก สวนกระแส กัญชาฟีเวอร์
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 19 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตลาดค้าต้นไม้ดอกไม้ประดับ ต้นไม้นำเข้า บุญยง ชื่อดังย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี พบพ่อค้า-แม่ค้า ต่างบ่นโอดให้ฟังว่าช่วงนี้เหมือนกระแสกัญชา จะมาแรงแซงทุกสายพันธุ์ แม้กระทั่งไม้ด่าง กล้วยด่างอิโด หรือมอสเตอร์ล่าด่าง ยอดฮิตที่ขายกันต้นเป็นแสน กิ่งเป็นหมื่นก็ยังเงียบ ช่วงนี้กระแสตก ราคาก็ไม่พุ่งเหมือนแต่ก่อนแล้ว เมื่อก่อนช่วงโควิค ขายได้อย่างต่ำวันละ 10,000-50,000บาท หรือตกเดือนละ 100,000-800,000 บาท
แต่มาช่วงนี้วันธรรดาคนเงียบแทบไม่เดิน ไม่คึกคักเหมือนเก่า เสาร์-อาทิตย์ บางครั้งยังไม่เปิดบิลกันเลย จนพ่อค้า-แม่ค้า เดินวนมานั่งดื่มกาแฟที่ร้าน เจอหน้ากันถามไถ่กันวันนี้ไข่แตกหรือยัง หมายถึงขายได้กันหรือยัง ก็หัวเราะกันไปแก้เครียด
ขณะที่หลังทางรัฐบาลประกาศปลดล็อกพืชกัญชาเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา “ให้ปลูก ใช้ นำเข้า จำหน่าย” ไม่ผิดกฎหมาย และไม่ถือเป็นยาเสพติด เปิดอย่างเสรีแต่ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนเอาไว้ และยังคงจัดระเบียบให้เป็นพืชสมุนไพรควบคุมอยู่ พร้อมยกเลิกความผิดฐานผลิต นำเข้า หรือส่งออก มีไว้ในครอบครอง จำหน่ายมีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ หรือเสพพืชกัญชา
ซึ่งล่าสุด รัฐบาลได้ควบคุมการใช้กัญชา พิจารณาออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 โดยให้กัญชา หรือสารสกัดจากกัญชา ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis เป็นสมุนไพรควบคุม, อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ขึ้นไปสามารถครอบครอง ใช้ประโยชน์ ดูแล เก็บรักษา ขนย้าย จำหน่ายกัญชาได้ แต่ห้ามสูบในที่สาธารณะ ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร ห้ามจำหน่ายแก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร
อนุญาตให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาให้กับผู้ป่วยของตน และอนุญาตให้ผู้ป่วยข้างต้น สามารถครอบครอง ขนย้าย ดูแล เก็บรักษา ใช้ประโยชน์ในปริมาณที่จ่ายให้สำหรับการใช้ประโยชน์เป็นเวลา 30 วัน โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป
นาง
ธวัลรัชช์ หรือ
ป้าดวง เชาวร์เลิศปรีชากุล อายุ 65 ปี ชาวโคราช แม่ค้า เปิดเผยว่า ปลดล็อกมันก็ดี แต่ต้องระมัดระวังในการใช้ เพราะบางคนยังไม่รู้ตัวเองว่าแพ้หรือไม่ ควรลองน้อยๆดูก่อน หากลองใช้เยอะอาจจะมีอาการเวียนหัว หรือน็อกกันไปเลย เพราะร่างกายรับไม่ไหว แต่ละคนภูมิป้องกันการแพ้ไม่เท่ากัน เคยเห็นมาแล้ว นำมาใส่ในอาหารจะได้มีรสชาติอร่อยขึ้น ซึ่งในความอร่อยอาจเป็นพิษร้ายแรงได้
ในส่วนของการขายต้นกล้า ต้นกัญชา กลับเงียบเหงาไม่คึกคัก มีคนมาถาม 4-5 ราย ที่จริงควรจะเยอะกว่านี้ แต่กลับเงียบทุกสิ่ง ขนาดเปิดเสรีแล้ว ซึ่งจะต้องขายดีมีลูกค้ามาเลือกซื้อกันแต่กลับขายได้น้อยมาก การเพาะก็ไม่ยาก แต่จะยากการดูแลรักษา เพราะต้นอ่อนๆ พวกแมลง หนอน หอกทากจะชอบกัดกินทำให้ตายกันหมด ต้องคอยฉีดยาดูแล หากโตมาระยะหนึ่งก็จะแข็งแรง พร้อมขายต่อให้ลูกค้าได้
อย่างการจำหน่ายต้นกล้า ต้นอ่อนกัญชา ทางป้าดวง บอกว่าก็จะมีใบรับรองการจำหน่ายสายพันธุ์ จากทางฟาร์มเพาะพันธุ์ต้นกัญชา ที่เราซื้อมาจำหน่ายต่ออีกที จะมีใบอนุญาตรับรองอย่างถูกต้อง หากมีปัญหาติดต่อทางฟาร์มได้เลย ซึ่งป้านำมาจำหน่ายอยู่ตอนนี้ราคาต้นละ 350 บาท และของก็มีน้อยเพราะทางฟาร์มเพาะพันธุ์ต้นกล้าโตไม่ทันจำหน่าย แต่เราก็ยังขายไม่ออกเลย สวนทางกับกระแสกัญชานิยมในช่วงนี้
ป้าขอฝากต่อถึงกระแสกัญชาฟีเวอร์ช่วงนี้ เรื่องของการนำใบต้น ดอก กัญชา ไปผสมในอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อย ผู้ประกอบการควรติดป้ายแจ้งบอกทางลูกค้าให้ชัดเจน ว่ามีส่วนผสมในอาหารเพราะบางคนอาจมีอาหารแพ้รุนแรงเหมือนในข่าวที่ปรากฏได้ จะเป็นอันตรายหากใช้มากไป โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากให้ศึกษาผลดี ผลเสีย ปริมาณให้เข้าใจกันมากกว่านี้
รถพุ่มพวงเดือดร้อน น้ำมันแพงขายของแทบไม่ได้กำไร
https://www.nationtv.tv/news/378877016
แม่ค้ารถพุ่มพวงที่โคราชเดือดร้อนหนัก หลังราคาก๊าซและน้ำมันแพง ขายของแทบไม่ได้กำไร วอนรัฐแก้ปัญหาด่วน เผยลูกค้าเคยซื้อครั้งละ200-300บาท ก็ซื้อลดลงไปกว่าครึ่ง เหลือเพียงครั้งละ100บาทเท่านั้น
19 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ พาเหรดขึ้นราคาตามไปด้วย อันเนื่องจากมีต้นทุนราคาค่าขนส่งที่แพงขึ้น ขณะเดียวกันประชาชนที่ประกอบอาชีพต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้รถยนต์วิ่ง เช่น พ่อค้าแม่ค้าอาชีพรถพุ่มพวง ที่ต้องใช้รถยนต์วิ่งเร่ขายของไปตามชุมชน หมู่บ้าน ตรอก ซอก ซอย เพื่อบริการลูกค้าถึงหน้าบ้าน ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น หลายคนจึงต้องพยายามปรับตัวด้วยวิธีต่างๆ เพื่อความอยู่รอด
อย่างเช่น นาง
อุทัย ชมพูทีป อายุ47ปี แม่ค้ารถพุ่มพวงรายหนึ่ง ในอำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีอาชีพ รถเร่ขายกับข้าว (รถพุ่มพวง) มานานกว่า13ปี เปิดเผยว่า ปกติจะเร่ขายสินค้าจำพวกกับข้าวเนื้อสด ปลาสด ผัก ผลไม้ ตามหมู่บ้าน ในช่วงเย็น ตั้งแต่ทำอาชีพนี้มา ไม่เคยเจอปัญหาของแพงและน้ำมันแพงเท่านี้มาก่อน แถมล่าสุดราคาก๊าซหุงต้มปรับขึ้นอีก เมื่อก่อนจะขึ้นราคาแค่บางอย่าง ไม่ได้ขึ้นพร้อมๆ กัน แต่ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นราคาหมด ทำให้ต้องประสบกับปัญหาต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ตนเองต้องลงทุนซื้อสินค้า ครั้งละ20,000 บาท มาตุนเอาไว้จำนวนมากๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ เพราะหากซื้อสินค้ามาขายน้อย ลูกค้าก็จะไม่มีตัวเลือก ทำให้ไม่อยากมาซื้อสินค้า
ส่วนราคาขาย ต้องขายในราคาเท่าเดิมแต่ลดปริมาณลงเป็นบางอย่าง ลูกค้าก็ไม่มีกำลังทรัพย์มาซื้อสินค้าเหมือนในอดีต ทำให้ลูกค้าประจำหายหน้าไปหลายรายแล้ว ส่วนบางรายที่ยังมาอุดหนุนอยู่ เคยซื้อครั้งละ200-300บาท ก็ซื้อลดลงไปกว่าครึ่ง เหลือเพียงครั้งละ100บาทเท่านั้น ทำรายได้ลดลงไปกว่าเดิมมาก ตอนนี้ลงทุน20,000 บาท ได้กำไรเพียงแค่1,000บาท หักค่าน้ำมันแล้ว แทบไม่เหลือกำไร อีกทั้งสินค้าก็เหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ต้องตระเวนขายของนานขึ้น จากเดิมเติมน้ำมันวันละ500บาท ปัจจุบันนี้ต้องเติมวันละ1,000บาท เท่ากับว่ารายได้ลดลงแต่ต้องเสียค่าน้ำมันเพิ่มเท่าตัว จึงอยากวิงวอนให้ภาครัฐได้เห็นใจ เร่งแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชนโดยเร็ว
เมื่อสอบถาม นาง
รำไพ แชมเบอร์เลน อายุ49ปี ชาวบ้านรายหนึ่ง ที่มาซื้อสินค้าจากรถพุ่มพวง บอกว่า คนเราต้องกินต้องใช้ทุกวัน สินค้าราคาแพงขึ้นแค่ไหน แต่ก็ยังจำเป็นต้องซื้อต้องใช้แม้ว่าตนเองจะพยายามประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนแล้ว แต่อาหารการกินเป็นเรื่องจำเป็นที่ขาดไม่ได้ ก็ต้องซื้อต้องจ่ายกันทุกวันเหมือนเดิม แต่อาศัยบางวันก็ต้องลดปริมาณการซื้อลงบ้าง จึงอยากให้ทางภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหาข้าวของแพงด้วย
"ภูมิธรรม" ปลื้มเสียงตอบรับจากศรีสะเกษดี หวังแลนด์สไลด์จัดตั้งรบ.พาประเทศหลุดพ้นหลุมดำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3409027
“ภูมิธรรม” ปลื้มเสียงตอบรับจากศรีสะเกษดี หวังแลนด์สไลด์จัดตั้งรบ.พาประเทศหลุดพ้นหลุมดำ
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเพซบุ๊ก โดยระบุว่า
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 มิ.ย. 65) ผมได้ไปร่วมกิจกรรมกับครอบครัวเพื่อไทย ที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งทีมงามตั้งชื่อแคมเปญว่า “ไล่หนูตีงูเห่า”
ครอบครัวเพื่อไทยยังคงได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากพี่น้อง ชาวศรีสะเกษ เสมือนหนึ่งเป็นสัญญาณที่เป็นสัญญาว่า พวกเราจะจับมือร่วมกันเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ผ่านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในครั้งหน้า ให้ “เพื่อไทยแลนด์สไลด์” ได้จัดตั้งรัฐบาลที่มาจากอาณัติของประชาชน เป็นรัฐบาลที่มีความรู้ และประสบการณ์ ที่จะนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากหลุมดำของปัญหาที่รุมเร้าอย่างหนักในวันนี้
นโยบายหนึ่งที่พี่น้องศรีสะเกษส่วนใหญ่ได้บอกกล่าวกับผม “คิดถึงการทำงานของรัฐบาล นายกฯทักษิณ ในการปราบยาเสพติด ทำให้ได้ลูกหลานกลับคืนสู่ครอบครัว”
ในขณะที่สถานการณ์วันนี้ ยาเสพติดหลายประเภทแพร่หลายอยู่ใกล้ตัวลูกหลานเยาวชน ประกอบกับนโยบายกัญชาเสรี ซึ่งก่อให้ปัญหาเป็นที่วิตกกังวลของสังคม เมื่อมีการปลดล็อคกัญชาในขณะที่ยังอยู่ภายใต้ภาวะสุญญากาศทางกฎหมาย
กัญชามีทั้งประโยชน์และโทษ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องในการผลักดันต้องมีความละเอียดรอบคอบ ไม่มองแต่ประโยชน์เฉพาะส่วน โดยเฉพาะประโยชน์เฉพาะตนและพวกพ้อง ซึ่งผมเห็นว่าภาพนี้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 8 ปี หลายเรื่องยังคงเป็นความเจ็บปวดที่อยู่ในใจของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิดที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้ากากอนามัย หรือ เรื่องวัคซีน
ผมคิดว่า วันนี้ สังคมไทยเราต้องการ พรรคการเมืองและนักการเมือง ที่เห็นแก่ประโยชน์ของ next generation มากกว่า next election
และพรรคเพื่อไทยเราพร้อมที่จะร่วมมือกับพี่น้องประชาชน นำพาประเทศไปสู่อนาคตที่ดีของลูกหลาน
ภูมิธรรม เวชยชัย
19 มิถุนายน 2565
https://www.facebook.com/pwechayachai/posts/pfbid02JTZVmVhuNdQk6opLDRN9FRi8pK2QRV1Pt4vJNczJDw98RJf3Kjs4vYrf5NTcHSBql?
JJNY : 5in1 ผลสำรวจซีอีโอทั่วโลก│พ่อค้าแม่ค้า‘ต้นกล้ากัญชา’โอด│รถพุ่มพวงเดือดร้อน│ภูมิธรรมปลื้มเสียงตอบรับ│ก.ก.สวนสุชาติ
https://ch3plus.com/news/economy/morning/296829
Conference Board บริษัทวิจัยธุรกิจ เปิดเผยผลสำรวจครั้งใหม่บ่งชี้ว่า ซีอีโอส่วนใหญ่ทั่วโลกคาดว่า เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือถดถอยแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองของบรรดาผู้นำธุรกิจที่ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจะซบเซามากขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อยังคงพุ่งขึ้น
ทั้งนี้ ผลสำรวจบ่งชี้ว่า ซีอีโอมากกว่า 60% คาดว่าเศรษฐกิจจะถดถอยในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากสิ้นปี 64 ที่มีซีอีโอเพียง 22% ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะถดถอย
อย่างไรก็ตาม มีซีอีโอราว 15% ที่เชื่อว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคของพวกเขาได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว เว็บไซต์ฟอกซ์บิสิเนส.คอมรายงานว่า ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในเดือนพ.ค.65 ที่ผ่านมา และก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลงมติในวันที่ 15 มิ.ย. ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537
พ่อค้าแม่ค้า ‘ต้นกล้ากัญชา’ โอดไม่คึกคัก สวนกระแส กัญชาฟีเวอร์
https://www.matichon.co.th/region/news_3408599
พ่อค้าแม่ค้า ‘ต้นกล้ากัญชา’ โอดไม่คึกคัก สวนกระแส กัญชาฟีเวอร์
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 19 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตลาดค้าต้นไม้ดอกไม้ประดับ ต้นไม้นำเข้า บุญยง ชื่อดังย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี พบพ่อค้า-แม่ค้า ต่างบ่นโอดให้ฟังว่าช่วงนี้เหมือนกระแสกัญชา จะมาแรงแซงทุกสายพันธุ์ แม้กระทั่งไม้ด่าง กล้วยด่างอิโด หรือมอสเตอร์ล่าด่าง ยอดฮิตที่ขายกันต้นเป็นแสน กิ่งเป็นหมื่นก็ยังเงียบ ช่วงนี้กระแสตก ราคาก็ไม่พุ่งเหมือนแต่ก่อนแล้ว เมื่อก่อนช่วงโควิค ขายได้อย่างต่ำวันละ 10,000-50,000บาท หรือตกเดือนละ 100,000-800,000 บาท
แต่มาช่วงนี้วันธรรดาคนเงียบแทบไม่เดิน ไม่คึกคักเหมือนเก่า เสาร์-อาทิตย์ บางครั้งยังไม่เปิดบิลกันเลย จนพ่อค้า-แม่ค้า เดินวนมานั่งดื่มกาแฟที่ร้าน เจอหน้ากันถามไถ่กันวันนี้ไข่แตกหรือยัง หมายถึงขายได้กันหรือยัง ก็หัวเราะกันไปแก้เครียด
ขณะที่หลังทางรัฐบาลประกาศปลดล็อกพืชกัญชาเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา “ให้ปลูก ใช้ นำเข้า จำหน่าย” ไม่ผิดกฎหมาย และไม่ถือเป็นยาเสพติด เปิดอย่างเสรีแต่ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนเอาไว้ และยังคงจัดระเบียบให้เป็นพืชสมุนไพรควบคุมอยู่ พร้อมยกเลิกความผิดฐานผลิต นำเข้า หรือส่งออก มีไว้ในครอบครอง จำหน่ายมีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ หรือเสพพืชกัญชา
ซึ่งล่าสุด รัฐบาลได้ควบคุมการใช้กัญชา พิจารณาออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 โดยให้กัญชา หรือสารสกัดจากกัญชา ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis เป็นสมุนไพรควบคุม, อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ขึ้นไปสามารถครอบครอง ใช้ประโยชน์ ดูแล เก็บรักษา ขนย้าย จำหน่ายกัญชาได้ แต่ห้ามสูบในที่สาธารณะ ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร ห้ามจำหน่ายแก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร
อนุญาตให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาให้กับผู้ป่วยของตน และอนุญาตให้ผู้ป่วยข้างต้น สามารถครอบครอง ขนย้าย ดูแล เก็บรักษา ใช้ประโยชน์ในปริมาณที่จ่ายให้สำหรับการใช้ประโยชน์เป็นเวลา 30 วัน โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป
นางธวัลรัชช์ หรือป้าดวง เชาวร์เลิศปรีชากุล อายุ 65 ปี ชาวโคราช แม่ค้า เปิดเผยว่า ปลดล็อกมันก็ดี แต่ต้องระมัดระวังในการใช้ เพราะบางคนยังไม่รู้ตัวเองว่าแพ้หรือไม่ ควรลองน้อยๆดูก่อน หากลองใช้เยอะอาจจะมีอาการเวียนหัว หรือน็อกกันไปเลย เพราะร่างกายรับไม่ไหว แต่ละคนภูมิป้องกันการแพ้ไม่เท่ากัน เคยเห็นมาแล้ว นำมาใส่ในอาหารจะได้มีรสชาติอร่อยขึ้น ซึ่งในความอร่อยอาจเป็นพิษร้ายแรงได้
ในส่วนของการขายต้นกล้า ต้นกัญชา กลับเงียบเหงาไม่คึกคัก มีคนมาถาม 4-5 ราย ที่จริงควรจะเยอะกว่านี้ แต่กลับเงียบทุกสิ่ง ขนาดเปิดเสรีแล้ว ซึ่งจะต้องขายดีมีลูกค้ามาเลือกซื้อกันแต่กลับขายได้น้อยมาก การเพาะก็ไม่ยาก แต่จะยากการดูแลรักษา เพราะต้นอ่อนๆ พวกแมลง หนอน หอกทากจะชอบกัดกินทำให้ตายกันหมด ต้องคอยฉีดยาดูแล หากโตมาระยะหนึ่งก็จะแข็งแรง พร้อมขายต่อให้ลูกค้าได้
อย่างการจำหน่ายต้นกล้า ต้นอ่อนกัญชา ทางป้าดวง บอกว่าก็จะมีใบรับรองการจำหน่ายสายพันธุ์ จากทางฟาร์มเพาะพันธุ์ต้นกัญชา ที่เราซื้อมาจำหน่ายต่ออีกที จะมีใบอนุญาตรับรองอย่างถูกต้อง หากมีปัญหาติดต่อทางฟาร์มได้เลย ซึ่งป้านำมาจำหน่ายอยู่ตอนนี้ราคาต้นละ 350 บาท และของก็มีน้อยเพราะทางฟาร์มเพาะพันธุ์ต้นกล้าโตไม่ทันจำหน่าย แต่เราก็ยังขายไม่ออกเลย สวนทางกับกระแสกัญชานิยมในช่วงนี้
ป้าขอฝากต่อถึงกระแสกัญชาฟีเวอร์ช่วงนี้ เรื่องของการนำใบต้น ดอก กัญชา ไปผสมในอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อย ผู้ประกอบการควรติดป้ายแจ้งบอกทางลูกค้าให้ชัดเจน ว่ามีส่วนผสมในอาหารเพราะบางคนอาจมีอาหารแพ้รุนแรงเหมือนในข่าวที่ปรากฏได้ จะเป็นอันตรายหากใช้มากไป โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากให้ศึกษาผลดี ผลเสีย ปริมาณให้เข้าใจกันมากกว่านี้
รถพุ่มพวงเดือดร้อน น้ำมันแพงขายของแทบไม่ได้กำไร
https://www.nationtv.tv/news/378877016
แม่ค้ารถพุ่มพวงที่โคราชเดือดร้อนหนัก หลังราคาก๊าซและน้ำมันแพง ขายของแทบไม่ได้กำไร วอนรัฐแก้ปัญหาด่วน เผยลูกค้าเคยซื้อครั้งละ200-300บาท ก็ซื้อลดลงไปกว่าครึ่ง เหลือเพียงครั้งละ100บาทเท่านั้น
19 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ พาเหรดขึ้นราคาตามไปด้วย อันเนื่องจากมีต้นทุนราคาค่าขนส่งที่แพงขึ้น ขณะเดียวกันประชาชนที่ประกอบอาชีพต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้รถยนต์วิ่ง เช่น พ่อค้าแม่ค้าอาชีพรถพุ่มพวง ที่ต้องใช้รถยนต์วิ่งเร่ขายของไปตามชุมชน หมู่บ้าน ตรอก ซอก ซอย เพื่อบริการลูกค้าถึงหน้าบ้าน ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น หลายคนจึงต้องพยายามปรับตัวด้วยวิธีต่างๆ เพื่อความอยู่รอด
อย่างเช่น นางอุทัย ชมพูทีป อายุ47ปี แม่ค้ารถพุ่มพวงรายหนึ่ง ในอำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีอาชีพ รถเร่ขายกับข้าว (รถพุ่มพวง) มานานกว่า13ปี เปิดเผยว่า ปกติจะเร่ขายสินค้าจำพวกกับข้าวเนื้อสด ปลาสด ผัก ผลไม้ ตามหมู่บ้าน ในช่วงเย็น ตั้งแต่ทำอาชีพนี้มา ไม่เคยเจอปัญหาของแพงและน้ำมันแพงเท่านี้มาก่อน แถมล่าสุดราคาก๊าซหุงต้มปรับขึ้นอีก เมื่อก่อนจะขึ้นราคาแค่บางอย่าง ไม่ได้ขึ้นพร้อมๆ กัน แต่ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นราคาหมด ทำให้ต้องประสบกับปัญหาต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ตนเองต้องลงทุนซื้อสินค้า ครั้งละ20,000 บาท มาตุนเอาไว้จำนวนมากๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ เพราะหากซื้อสินค้ามาขายน้อย ลูกค้าก็จะไม่มีตัวเลือก ทำให้ไม่อยากมาซื้อสินค้า
ส่วนราคาขาย ต้องขายในราคาเท่าเดิมแต่ลดปริมาณลงเป็นบางอย่าง ลูกค้าก็ไม่มีกำลังทรัพย์มาซื้อสินค้าเหมือนในอดีต ทำให้ลูกค้าประจำหายหน้าไปหลายรายแล้ว ส่วนบางรายที่ยังมาอุดหนุนอยู่ เคยซื้อครั้งละ200-300บาท ก็ซื้อลดลงไปกว่าครึ่ง เหลือเพียงครั้งละ100บาทเท่านั้น ทำรายได้ลดลงไปกว่าเดิมมาก ตอนนี้ลงทุน20,000 บาท ได้กำไรเพียงแค่1,000บาท หักค่าน้ำมันแล้ว แทบไม่เหลือกำไร อีกทั้งสินค้าก็เหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ต้องตระเวนขายของนานขึ้น จากเดิมเติมน้ำมันวันละ500บาท ปัจจุบันนี้ต้องเติมวันละ1,000บาท เท่ากับว่ารายได้ลดลงแต่ต้องเสียค่าน้ำมันเพิ่มเท่าตัว จึงอยากวิงวอนให้ภาครัฐได้เห็นใจ เร่งแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชนโดยเร็ว
เมื่อสอบถาม นางรำไพ แชมเบอร์เลน อายุ49ปี ชาวบ้านรายหนึ่ง ที่มาซื้อสินค้าจากรถพุ่มพวง บอกว่า คนเราต้องกินต้องใช้ทุกวัน สินค้าราคาแพงขึ้นแค่ไหน แต่ก็ยังจำเป็นต้องซื้อต้องใช้แม้ว่าตนเองจะพยายามประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนแล้ว แต่อาหารการกินเป็นเรื่องจำเป็นที่ขาดไม่ได้ ก็ต้องซื้อต้องจ่ายกันทุกวันเหมือนเดิม แต่อาศัยบางวันก็ต้องลดปริมาณการซื้อลงบ้าง จึงอยากให้ทางภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหาข้าวของแพงด้วย
"ภูมิธรรม" ปลื้มเสียงตอบรับจากศรีสะเกษดี หวังแลนด์สไลด์จัดตั้งรบ.พาประเทศหลุดพ้นหลุมดำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3409027
“ภูมิธรรม” ปลื้มเสียงตอบรับจากศรีสะเกษดี หวังแลนด์สไลด์จัดตั้งรบ.พาประเทศหลุดพ้นหลุมดำ
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเพซบุ๊ก โดยระบุว่า
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 มิ.ย. 65) ผมได้ไปร่วมกิจกรรมกับครอบครัวเพื่อไทย ที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งทีมงามตั้งชื่อแคมเปญว่า “ไล่หนูตีงูเห่า”
ครอบครัวเพื่อไทยยังคงได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากพี่น้อง ชาวศรีสะเกษ เสมือนหนึ่งเป็นสัญญาณที่เป็นสัญญาว่า พวกเราจะจับมือร่วมกันเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ผ่านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในครั้งหน้า ให้ “เพื่อไทยแลนด์สไลด์” ได้จัดตั้งรัฐบาลที่มาจากอาณัติของประชาชน เป็นรัฐบาลที่มีความรู้ และประสบการณ์ ที่จะนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากหลุมดำของปัญหาที่รุมเร้าอย่างหนักในวันนี้
นโยบายหนึ่งที่พี่น้องศรีสะเกษส่วนใหญ่ได้บอกกล่าวกับผม “คิดถึงการทำงานของรัฐบาล นายกฯทักษิณ ในการปราบยาเสพติด ทำให้ได้ลูกหลานกลับคืนสู่ครอบครัว”
ในขณะที่สถานการณ์วันนี้ ยาเสพติดหลายประเภทแพร่หลายอยู่ใกล้ตัวลูกหลานเยาวชน ประกอบกับนโยบายกัญชาเสรี ซึ่งก่อให้ปัญหาเป็นที่วิตกกังวลของสังคม เมื่อมีการปลดล็อคกัญชาในขณะที่ยังอยู่ภายใต้ภาวะสุญญากาศทางกฎหมาย
กัญชามีทั้งประโยชน์และโทษ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องในการผลักดันต้องมีความละเอียดรอบคอบ ไม่มองแต่ประโยชน์เฉพาะส่วน โดยเฉพาะประโยชน์เฉพาะตนและพวกพ้อง ซึ่งผมเห็นว่าภาพนี้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 8 ปี หลายเรื่องยังคงเป็นความเจ็บปวดที่อยู่ในใจของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิดที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้ากากอนามัย หรือ เรื่องวัคซีน
ผมคิดว่า วันนี้ สังคมไทยเราต้องการ พรรคการเมืองและนักการเมือง ที่เห็นแก่ประโยชน์ของ next generation มากกว่า next election
และพรรคเพื่อไทยเราพร้อมที่จะร่วมมือกับพี่น้องประชาชน นำพาประเทศไปสู่อนาคตที่ดีของลูกหลาน
ภูมิธรรม เวชยชัย
19 มิถุนายน 2565
https://www.facebook.com/pwechayachai/posts/pfbid02JTZVmVhuNdQk6opLDRN9FRi8pK2QRV1Pt4vJNczJDw98RJf3Kjs4vYrf5NTcHSBql?