กทม.จับมือสก.เพื่อไทย ฟื้นพื้นที่ว่างฝั่งธน ชวนชุมชนขายของ สร้างรายได้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7117452
กทม.จับมือสก.เพื่อไทย ฟื้นพื้นที่ว่างฝั่งธน ชวนชุมชนขายของ สร้างรายได้
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.65ที่ใต้สะพานบีทีเอสตลาดพลู น.ส.
วิลาวัลย์ ธรรมชาติ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธานเปิดงานส่งเสริมอาชีพและวัฒนธรรม ชาวธนบุรี (ครั้งที่ 1) โดยมีนาย
จิรเสกข์ วัฒนมงคล ส.ก.เขตธนบุรี พรรคเพื่อไทย และนาย
ศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตธนบุรี- คลองสาน พรรคพท. ฐานะผู้ริเริ่มโครงการร่วมกิจกรรม โดยภายในงานมีพ่อค้าแม่ค้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 ซุ้ม โดยเป็นร้านค้าสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน อาทิ ร้านขนมไทย ร้านกาแฟโบราณ ร้านผัดไทย ร้านเครื่องจักสาน ผลิตภัณฑ์ชุมชน มีประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 500 คน
น.ส.
วิลาวัลย์ กล่าวว่า การจัดงานในวันนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายของท่านผู้ว่าฯ กทม.เรื่องของตลาดนัดชุมชน ตลาดนัดเขต เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มอาชีพ กลุ่มสตรีแม่บ้าน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP BANGKOK BRAND วิสาหกิจชุมขน และประชาชนในพื้นที่ได้มีสถานที่จำหน่ายและแสดงสินค้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งการจัดงานในวันนี้เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นไปตามยโยบายของผู้ว่าฯ กทม.ที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ตนขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมให้การสนับสนุนการจัดงานที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
ด้านนาย
จิรเสกข์ กล่าวว่า จุดประสงค์ของการจัดงานในวันนี้ มาจากแนวคิดที่เห็นพื้นที่ว่างเปล่าในชุมชน ซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์ ตนจึงคิดที่จะรวบรวมและชักชวนชาวบ้านที่ประกอบอาชีพค้าขาย มาร่วมกันเปิดร้านขายของ และจัดกิจกรรมดนตรีซึ่งได้รับความร่วมมือจาก ม.ราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา คณะสิงโต คณะกระตั้ว คณะตลก นักดนตรี พร้อมทั้งมีบริการตัดผมฟรีให้กับประชาชนในพื้นที่เขตธนบุรี
นอกจากนี้ยังมีลานกีฬา ซึ่งเรามองเห็นความสำคัญ ดังนั้นจึงได้รวบรวมเยาวชนที่เล่นฟุตซอลให้มาแข่งขันกัน โดยเราได้ปรับปรุงและจัดพื้นที่เพื่อให้เยาวชนสามารถเข้ามาใช้งานได้จริง เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านการกีฬาให้กับเยาวชนในชุมชน ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย 50 เขต 50 ซอฟท์พาวเวอร์ของพรรคพท. ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่ต้องใช้งบประมาณของภาครัฐ แต่ใช้การเชื่อมโยงความร่วมมือของภาคประชาชนชุมชน และประชาสังคมที่อยู่ในเขตธนบุรี หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ เราวางแผนที่จะให้ส.ก.ของพรรคพท.ขยายไปยังพื้นที่ต่างๆ ด้วย
ปิดฉาก 'โพสต์ทูเดย์' ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด มีผลสิ้นเดือนนี้
https://www.matichon.co.th/economy/news_3407315
ปิดฉาก ‘โพสต์ทูเดย์’ ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด มีผลสิ้นเดือนนี้
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โพสต์ทูเดย์ สื่อยักษ์ใหญ่ ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด คาดสาเหตุเพราะแบกภาวะขาดทุนไม่ไหว โดยก่อนหน้านี้มีการปิดในส่วนของสื่อสิ่งพิมพ์มาแล้ว ล่าสุด ประกาศปิดส่วนกิจการออนไลน์ และเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 20 คน มีผล 30 มิถุนายน 2565
สำหรับโพสต์ทูเดย์ได้เปิดดำเนินกิจการมาแล้วประมาณ 20 ปี
ด้านพนักงานเพิ่งได้รับแจ้งประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยบริษัทจะจ่ายเงินชดเชยให้ตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งแต่ละคนจะได้เงินชดเชยตามอายุงาน เช่น อายุงาน 4 ปี ได้เงินชดเชย 6 เดือน
สำหรับสาเหตุที่ประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานนั้น ทางบริษัทแจ้งว่าเกิดจากภาวะขาดทุนเป็นหลัก เพราะปัจจุบันการแข่งขันสูงมาก แม้จะหันมาทำสื่อออนไลน์แล้ว แต่ยังต้านทานการแข่งขันที่ทวีคูณเพิ่มขึ้นไม่ไหว โดยยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมีผู้มาซื้อต่อกิจการหรือไม่
ทั้งนี้ สำหรับหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ได้ยุติการตีพิมพ์ชั่วคราวในวันที่ 31 มีนาคม 2562 หลังจากตีพิมพ์ฉบับแรกเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2546
ประมงภูเก็ต โอด น้ำมันแพงกระทบหนัก แต่ยังต้องออกเรือ ช่วยลูกน้อง พ้อ เสมอตัวคือโชคดี
https://www.matichon.co.th/region/news_3407145
ประมงภูเก็ต โอด น้ำมันแพงกระทบหนัก แต่ยังต้องออกเรือ ช่วยลูกน้อง พ้อ เสมอตัวคือโชคดี
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นาย
สมยศ วงศ์บุญยกุล นายกสมาคมชาวประมงภูเก็ต กล่าวว่า จากปัญหาราคาน้ำมันแพงในขณะนี้ ส่งผลกระทบกับชาวประมงเป็นอย่างมาก ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงมากขึ้น ตอนนี้มีกำไรนิดหน่อย ขาดทุนเป็นส่วนมาก ถ้าใครเสมอตัวตอนนี้ถือว่าโชคดี
“เราออกเรือเพื่อประคองให้ลูกน้องมีรายได้ เลี้ยงลูกน้องให้อยู่กันได้ เพราะว่าถ้าเรือจอดคนงานจะหายหมด และเราต้องจ่ายค่าแรงให้เขา ในส่วนของน้ำมันเขียว ใช้ราคาของตลาดโลกเป็นเกณฑ์ ตั้งแต่น้ำมันราคาถูกรัฐไม่เก็บภาษีให้ไปจ่ายในเขตต่อเนื่อง ตอนนี้ราคาน้ำมันเขียวที่ออกจากหน้าโรงกลั่นแพงกว่าน้ำมันที่ขายประมาณเกือบ 6 บาท”
“ถ้าถามว่าไหวมั้ย เวลาออกเรือมีโชคมั้ยว่าจะได้ปลาหรือไม่ได้ปลา ถ้าไม่ได้ปลายิ่งเข้าไปใหญ่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก พอน้ำมันขึ้นทุกอย่างขึ้นหมด อาหารการกินทุกอย่างปรับตัวขึ้นหมด ทำให้เดือดร้อนกันมาก ตอนนี้ใช้น้ำมันฝั่งอยู่ลิตรละประมาณ เกือบ 35 บาท จากเดิม ประมาณลิตรละ 20-21 บาท”
นาย
สมยศ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลลดราคาน้ำมันลงมา แต่ว่ารัฐจะมีปัญญาลดให้เรามั้ย ซึ่ง ได้แก้ปัญหาเบื้องต้น คือ พยายามลดค่าใช้จ่ายลง โดยมีการใช้จ่ายที่ละเอียดมากขึ้น อยากให้รัฐบาลช่วยแต่เขาจะช่วยอย่างไรในเมื่อเหตุการณ์ตลาดโลกเป็นแบบนี้ เราก็ต้องทน ซึ่ง ถ้าเรือประมงจอดหมด น่ากลัวเหมือนกัน ปัจจุบัน เรือประมงพาณิชย์ในจังหวัดภูเก็ต มีจำนวนประมาณเกือบ 200ลำ ได้รับผลกระทบทั้งหมด ในส่วนเรือประมงพื้นบ้านคาดว่าคงได้รับผลกระทบเช่นกัน
สายซิ่งอย่าร้อง! วินมอ’ไซค์ สุดต้านน้ำมันแพง ส.ค.นี้ ขึ้นค่าโดยสารแน่
https://www.matichon.co.th/economy/news_3406941
สายซิ่งอย่าร้อง! วินมอ’ไซค์ สุดต้านน้ำมันแพง ส.ค.นี้ ขึ้นค่าโดยสารแน่
การปรับตัวสูงขึ้นของ ‘ราคาน้ำมัน’ โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการแปรรูปสู่ผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทต่างๆ ย่อมส่งผลกระทบถึงต้นทุนในการผลิตสินค้าและบริการ ที่เชื่อมโยงถึงราคาสินค้าและบริการที่จะปรับสูงขึ้น จนกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้ ด้วยปัญหาการจราจรที่หนาแน่นในเมืองใหญ่ วินมอเตอร์ไซค์ หรือ วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง เป็นตัวเลือกหนึ่งในการเดินทางช่วงเร่งรีบ ราคาน้ำมันที่ผันผวน จึงส่งผลกระทบโดยตรง ทั้งต่อวินมอเตอร์ไซค์ และผู้โดยสารอย่างเราๆ
นาย
สันติ ปฏิภาณรัตน์ เลขาฯสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ ‘มติชนออนไลน์’ ว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อวินมอเตอร์ไซค์อย่างมาก แต่ด้วยรัฐบาลมี โครงการวินเซฟ หรือโครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินสำหรับวินมอเตอร์ไซค์ รับสิทธิส่วนลดค่าน้ำมัน กลุ่มเบนซินในรูปแบบรัฐร่วมจ่าย 50% ไม่เกิน 50 บาท/คน/วัน และไม่เกิน 250 บาท/คน/เดือน ผ่านแอพพลิเคชันเป๋าตัง เป็นเวลา 3 เดือน (พฤษภาคม-กรกฎาคม 65) ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ทั้งของวินมอเตอร์ไซค์ รวมถึงผู้โดยสารได้อย่างมาก
ดังนั้น ตลอดระยะเวลาโครงการวินเซฟ ค่าโดยสารวินมอเตอร์ไซค์จะยังไม่ปรับขึ้น แต่คาดว่าหลังจากสิ้นสุดโครงการรัฐบาลจะอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสาร เพื่อให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งตามประกาศของกรมการขนส่งทางบก อนุญาตให้เก็บค่าโดยสารในอัตราไม่เกินที่กฎหมายกำหนด โดยให้วินมอเตอร์ไซค์แต่ละพื้นที่เสนออัตราค่าโดยสารใหม่ไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้คณะอนุกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นเลขาธิการ และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นคณะกรรมการ เป็นต้น พิจารณาหลังค่าโดยสารวินมอเตอร์ไซค์ไม่ปรับขึ้นเป็นเวลา 7 ปีแล้ว
“ระหว่างนี้หากมีการปรับขึ้นค่าโดยสาร วินมอเตอร์ไซค์แต่ละพื้นที่ต้องแจ้งให้ผู้โดยสารรับทราบ หรือทำป้ายแจ้งราคาที่ชัดเจน หากไม่แจ้งและมีการปรับขึ้นค่าโดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อยู่ที่ 2 กิโลเมตรไม่เกิน 25 บาท วินมอเตอร์ไซค์ถือว่ามีความผิด ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือวินผี ผู้โดยสารสามารถแจ้งดำเนินคดีได้ทันที ที่สายด่วน ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ 1584 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้กระทำผิดจะถูกสั่งพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาต รวมถึงเจอโทษปรับ” นายสันติกล่าว
ทั้งนี้ กฎกระทรวงการคมนาคม มีการกำหนดอัตราค่าโดยสารตามกฎหมาย ดังนี้
• ระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ต้องไม่เกิน 25 บาท
• ระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร (2 กิโลเมตรแรก คิด 25 บาทเหมือนกัน แต่กิโลเมตรที่ 2-5 กิโลเมตร ต้องคิดไม่เกินกิโลเมตรละ 5 บาท)
• ระยะทางเกินกว่า 5-15 กิโลเมตร ต้องคิดไม่เกินกิโลเมตรละ 10 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 15 กิโลเมตรขึ้นไป ให้เป็นไปตามที่ผู้ขับรถและคนโดยสารตกลงกัน
• ก่อนทําการรับจ้าง หากไม่ตกลงกันก่อนทําการรับจ้าง อัตราค่าจ้างตั้งแต่กิโลเมตรแรกจนสิ้นสุดการรับจ้างต้องไม่เกินกิโลเมตรละ 10 บาท
ส.ภัตตาคาร เผย ผู้ประกอบการ เตรียมประกาศขึ้นราคาเมนูละ 5 บาท เริ่ม ก.ค.นี้
https://ch3plus.com/news/economy/weekend/296666
วานนี้ (วันที่ 17 มิ.ย.) นาง
ฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า หลังกบง.ประกาศปรับขึ้นราคาต้นทุนก๊าซหุงต้ม หรือ LPG เดือนละ 1 บาท ต่อกิโลกรัม 3 เดือนรวด ทำให้กลุ่ม ผู้ประกอบการทั้งที่เป็นร้านอาหารและสตรีทฟู๊ด ประกอบอาชีพอย่างยากลำบาก
และจากการสอบถามสมาชิกพบว่า หลายรายเตรียมประกาศขึ้นราคาขายอีกเฉลี่ยเมนูละ 5 บาทซึ่งจะเริ่มเห็นในเดือนกรกฎาคมนี้ จึงอยากเรียกร้องให้มาตรการที่รัฐบาลจะออกมาช่วยบรรเทาภาระค่าของชีพด้านพลังงาน
ซึ่งจะมีการประชุมในคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า เข้าไปแก้ไขที่ต้นทุนการผลิต ทั้งก๊าซหุงต้ม และถ้าการกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขนส่ง
JJNY : 6in1 กทม.จับมือสก.เพื่อไทย│ปิดฉาก‘โพสต์ทูเดย์’│ประมงภูเก็ตโอด│วินมอ’ไซค์ขึ้นแน่│เตรียมขึ้นเมนูละ5บ.│ปูตินโว สวนธ.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7117452
กทม.จับมือสก.เพื่อไทย ฟื้นพื้นที่ว่างฝั่งธน ชวนชุมชนขายของ สร้างรายได้
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.65ที่ใต้สะพานบีทีเอสตลาดพลู น.ส.วิลาวัลย์ ธรรมชาติ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธานเปิดงานส่งเสริมอาชีพและวัฒนธรรม ชาวธนบุรี (ครั้งที่ 1) โดยมีนายจิรเสกข์ วัฒนมงคล ส.ก.เขตธนบุรี พรรคเพื่อไทย และนายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตธนบุรี- คลองสาน พรรคพท. ฐานะผู้ริเริ่มโครงการร่วมกิจกรรม โดยภายในงานมีพ่อค้าแม่ค้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 ซุ้ม โดยเป็นร้านค้าสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน อาทิ ร้านขนมไทย ร้านกาแฟโบราณ ร้านผัดไทย ร้านเครื่องจักสาน ผลิตภัณฑ์ชุมชน มีประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 500 คน
น.ส.วิลาวัลย์ กล่าวว่า การจัดงานในวันนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายของท่านผู้ว่าฯ กทม.เรื่องของตลาดนัดชุมชน ตลาดนัดเขต เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มอาชีพ กลุ่มสตรีแม่บ้าน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP BANGKOK BRAND วิสาหกิจชุมขน และประชาชนในพื้นที่ได้มีสถานที่จำหน่ายและแสดงสินค้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งการจัดงานในวันนี้เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นไปตามยโยบายของผู้ว่าฯ กทม.ที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ตนขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมให้การสนับสนุนการจัดงานที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
ด้านนายจิรเสกข์ กล่าวว่า จุดประสงค์ของการจัดงานในวันนี้ มาจากแนวคิดที่เห็นพื้นที่ว่างเปล่าในชุมชน ซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์ ตนจึงคิดที่จะรวบรวมและชักชวนชาวบ้านที่ประกอบอาชีพค้าขาย มาร่วมกันเปิดร้านขายของ และจัดกิจกรรมดนตรีซึ่งได้รับความร่วมมือจาก ม.ราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา คณะสิงโต คณะกระตั้ว คณะตลก นักดนตรี พร้อมทั้งมีบริการตัดผมฟรีให้กับประชาชนในพื้นที่เขตธนบุรี
นอกจากนี้ยังมีลานกีฬา ซึ่งเรามองเห็นความสำคัญ ดังนั้นจึงได้รวบรวมเยาวชนที่เล่นฟุตซอลให้มาแข่งขันกัน โดยเราได้ปรับปรุงและจัดพื้นที่เพื่อให้เยาวชนสามารถเข้ามาใช้งานได้จริง เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านการกีฬาให้กับเยาวชนในชุมชน ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย 50 เขต 50 ซอฟท์พาวเวอร์ของพรรคพท. ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่ต้องใช้งบประมาณของภาครัฐ แต่ใช้การเชื่อมโยงความร่วมมือของภาคประชาชนชุมชน และประชาสังคมที่อยู่ในเขตธนบุรี หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ เราวางแผนที่จะให้ส.ก.ของพรรคพท.ขยายไปยังพื้นที่ต่างๆ ด้วย
ปิดฉาก 'โพสต์ทูเดย์' ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด มีผลสิ้นเดือนนี้
https://www.matichon.co.th/economy/news_3407315
ปิดฉาก ‘โพสต์ทูเดย์’ ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด มีผลสิ้นเดือนนี้
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โพสต์ทูเดย์ สื่อยักษ์ใหญ่ ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด คาดสาเหตุเพราะแบกภาวะขาดทุนไม่ไหว โดยก่อนหน้านี้มีการปิดในส่วนของสื่อสิ่งพิมพ์มาแล้ว ล่าสุด ประกาศปิดส่วนกิจการออนไลน์ และเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 20 คน มีผล 30 มิถุนายน 2565
สำหรับโพสต์ทูเดย์ได้เปิดดำเนินกิจการมาแล้วประมาณ 20 ปี
ด้านพนักงานเพิ่งได้รับแจ้งประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยบริษัทจะจ่ายเงินชดเชยให้ตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งแต่ละคนจะได้เงินชดเชยตามอายุงาน เช่น อายุงาน 4 ปี ได้เงินชดเชย 6 เดือน
สำหรับสาเหตุที่ประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานนั้น ทางบริษัทแจ้งว่าเกิดจากภาวะขาดทุนเป็นหลัก เพราะปัจจุบันการแข่งขันสูงมาก แม้จะหันมาทำสื่อออนไลน์แล้ว แต่ยังต้านทานการแข่งขันที่ทวีคูณเพิ่มขึ้นไม่ไหว โดยยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมีผู้มาซื้อต่อกิจการหรือไม่
ทั้งนี้ สำหรับหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ได้ยุติการตีพิมพ์ชั่วคราวในวันที่ 31 มีนาคม 2562 หลังจากตีพิมพ์ฉบับแรกเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2546
ประมงภูเก็ต โอด น้ำมันแพงกระทบหนัก แต่ยังต้องออกเรือ ช่วยลูกน้อง พ้อ เสมอตัวคือโชคดี
https://www.matichon.co.th/region/news_3407145
ประมงภูเก็ต โอด น้ำมันแพงกระทบหนัก แต่ยังต้องออกเรือ ช่วยลูกน้อง พ้อ เสมอตัวคือโชคดี
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นายสมยศ วงศ์บุญยกุล นายกสมาคมชาวประมงภูเก็ต กล่าวว่า จากปัญหาราคาน้ำมันแพงในขณะนี้ ส่งผลกระทบกับชาวประมงเป็นอย่างมาก ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงมากขึ้น ตอนนี้มีกำไรนิดหน่อย ขาดทุนเป็นส่วนมาก ถ้าใครเสมอตัวตอนนี้ถือว่าโชคดี
“เราออกเรือเพื่อประคองให้ลูกน้องมีรายได้ เลี้ยงลูกน้องให้อยู่กันได้ เพราะว่าถ้าเรือจอดคนงานจะหายหมด และเราต้องจ่ายค่าแรงให้เขา ในส่วนของน้ำมันเขียว ใช้ราคาของตลาดโลกเป็นเกณฑ์ ตั้งแต่น้ำมันราคาถูกรัฐไม่เก็บภาษีให้ไปจ่ายในเขตต่อเนื่อง ตอนนี้ราคาน้ำมันเขียวที่ออกจากหน้าโรงกลั่นแพงกว่าน้ำมันที่ขายประมาณเกือบ 6 บาท”
“ถ้าถามว่าไหวมั้ย เวลาออกเรือมีโชคมั้ยว่าจะได้ปลาหรือไม่ได้ปลา ถ้าไม่ได้ปลายิ่งเข้าไปใหญ่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก พอน้ำมันขึ้นทุกอย่างขึ้นหมด อาหารการกินทุกอย่างปรับตัวขึ้นหมด ทำให้เดือดร้อนกันมาก ตอนนี้ใช้น้ำมันฝั่งอยู่ลิตรละประมาณ เกือบ 35 บาท จากเดิม ประมาณลิตรละ 20-21 บาท”
นายสมยศ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลลดราคาน้ำมันลงมา แต่ว่ารัฐจะมีปัญญาลดให้เรามั้ย ซึ่ง ได้แก้ปัญหาเบื้องต้น คือ พยายามลดค่าใช้จ่ายลง โดยมีการใช้จ่ายที่ละเอียดมากขึ้น อยากให้รัฐบาลช่วยแต่เขาจะช่วยอย่างไรในเมื่อเหตุการณ์ตลาดโลกเป็นแบบนี้ เราก็ต้องทน ซึ่ง ถ้าเรือประมงจอดหมด น่ากลัวเหมือนกัน ปัจจุบัน เรือประมงพาณิชย์ในจังหวัดภูเก็ต มีจำนวนประมาณเกือบ 200ลำ ได้รับผลกระทบทั้งหมด ในส่วนเรือประมงพื้นบ้านคาดว่าคงได้รับผลกระทบเช่นกัน
สายซิ่งอย่าร้อง! วินมอ’ไซค์ สุดต้านน้ำมันแพง ส.ค.นี้ ขึ้นค่าโดยสารแน่
https://www.matichon.co.th/economy/news_3406941
สายซิ่งอย่าร้อง! วินมอ’ไซค์ สุดต้านน้ำมันแพง ส.ค.นี้ ขึ้นค่าโดยสารแน่
การปรับตัวสูงขึ้นของ ‘ราคาน้ำมัน’ โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการแปรรูปสู่ผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทต่างๆ ย่อมส่งผลกระทบถึงต้นทุนในการผลิตสินค้าและบริการ ที่เชื่อมโยงถึงราคาสินค้าและบริการที่จะปรับสูงขึ้น จนกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้ ด้วยปัญหาการจราจรที่หนาแน่นในเมืองใหญ่ วินมอเตอร์ไซค์ หรือ วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง เป็นตัวเลือกหนึ่งในการเดินทางช่วงเร่งรีบ ราคาน้ำมันที่ผันผวน จึงส่งผลกระทบโดยตรง ทั้งต่อวินมอเตอร์ไซค์ และผู้โดยสารอย่างเราๆ
นายสันติ ปฏิภาณรัตน์ เลขาฯสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ ‘มติชนออนไลน์’ ว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อวินมอเตอร์ไซค์อย่างมาก แต่ด้วยรัฐบาลมี โครงการวินเซฟ หรือโครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินสำหรับวินมอเตอร์ไซค์ รับสิทธิส่วนลดค่าน้ำมัน กลุ่มเบนซินในรูปแบบรัฐร่วมจ่าย 50% ไม่เกิน 50 บาท/คน/วัน และไม่เกิน 250 บาท/คน/เดือน ผ่านแอพพลิเคชันเป๋าตัง เป็นเวลา 3 เดือน (พฤษภาคม-กรกฎาคม 65) ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ทั้งของวินมอเตอร์ไซค์ รวมถึงผู้โดยสารได้อย่างมาก
ดังนั้น ตลอดระยะเวลาโครงการวินเซฟ ค่าโดยสารวินมอเตอร์ไซค์จะยังไม่ปรับขึ้น แต่คาดว่าหลังจากสิ้นสุดโครงการรัฐบาลจะอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสาร เพื่อให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งตามประกาศของกรมการขนส่งทางบก อนุญาตให้เก็บค่าโดยสารในอัตราไม่เกินที่กฎหมายกำหนด โดยให้วินมอเตอร์ไซค์แต่ละพื้นที่เสนออัตราค่าโดยสารใหม่ไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้คณะอนุกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นเลขาธิการ และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นคณะกรรมการ เป็นต้น พิจารณาหลังค่าโดยสารวินมอเตอร์ไซค์ไม่ปรับขึ้นเป็นเวลา 7 ปีแล้ว
“ระหว่างนี้หากมีการปรับขึ้นค่าโดยสาร วินมอเตอร์ไซค์แต่ละพื้นที่ต้องแจ้งให้ผู้โดยสารรับทราบ หรือทำป้ายแจ้งราคาที่ชัดเจน หากไม่แจ้งและมีการปรับขึ้นค่าโดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อยู่ที่ 2 กิโลเมตรไม่เกิน 25 บาท วินมอเตอร์ไซค์ถือว่ามีความผิด ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือวินผี ผู้โดยสารสามารถแจ้งดำเนินคดีได้ทันที ที่สายด่วน ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ 1584 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้กระทำผิดจะถูกสั่งพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาต รวมถึงเจอโทษปรับ” นายสันติกล่าว
ทั้งนี้ กฎกระทรวงการคมนาคม มีการกำหนดอัตราค่าโดยสารตามกฎหมาย ดังนี้
• ระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ต้องไม่เกิน 25 บาท
• ระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร (2 กิโลเมตรแรก คิด 25 บาทเหมือนกัน แต่กิโลเมตรที่ 2-5 กิโลเมตร ต้องคิดไม่เกินกิโลเมตรละ 5 บาท)
• ระยะทางเกินกว่า 5-15 กิโลเมตร ต้องคิดไม่เกินกิโลเมตรละ 10 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 15 กิโลเมตรขึ้นไป ให้เป็นไปตามที่ผู้ขับรถและคนโดยสารตกลงกัน
• ก่อนทําการรับจ้าง หากไม่ตกลงกันก่อนทําการรับจ้าง อัตราค่าจ้างตั้งแต่กิโลเมตรแรกจนสิ้นสุดการรับจ้างต้องไม่เกินกิโลเมตรละ 10 บาท
ส.ภัตตาคาร เผย ผู้ประกอบการ เตรียมประกาศขึ้นราคาเมนูละ 5 บาท เริ่ม ก.ค.นี้
https://ch3plus.com/news/economy/weekend/296666
วานนี้ (วันที่ 17 มิ.ย.) นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า หลังกบง.ประกาศปรับขึ้นราคาต้นทุนก๊าซหุงต้ม หรือ LPG เดือนละ 1 บาท ต่อกิโลกรัม 3 เดือนรวด ทำให้กลุ่ม ผู้ประกอบการทั้งที่เป็นร้านอาหารและสตรีทฟู๊ด ประกอบอาชีพอย่างยากลำบาก
และจากการสอบถามสมาชิกพบว่า หลายรายเตรียมประกาศขึ้นราคาขายอีกเฉลี่ยเมนูละ 5 บาทซึ่งจะเริ่มเห็นในเดือนกรกฎาคมนี้ จึงอยากเรียกร้องให้มาตรการที่รัฐบาลจะออกมาช่วยบรรเทาภาระค่าของชีพด้านพลังงาน
ซึ่งจะมีการประชุมในคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า เข้าไปแก้ไขที่ต้นทุนการผลิต ทั้งก๊าซหุงต้ม และถ้าการกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขนส่ง