คุณเชื่อเรื่องแฝดปีศาจไหม การเห็นคนคนเดียวกันในสองสถานที่ที่ไกลกันมากอาจเป็นเรื่องน่าขนลุก แต่บ้างก็ว่าคนคล้ายกันโดยบังเอิญ ยังไม่มีใครทราบจนกว่าจะได้เจอกับตัวเอง
ช่วงฤดูหนาวต้นปีที่ผ่านมา อากาศทางเหนือบ้านผมจะหนาวหน่อย คนเฒ่าคนแก่นี่ก็เจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดา ทวดผมก็ด้วย แกอายุ 96 แล้ว แกอยู่ที่บ้านใหญ่(ของตะกูลตาผมนะ)ช่วงนั้นแกกินข้าวไม่ลง หรือถ้ากินก็แค่วันละคำสองคำตากับแม่ก็ไปเยี่ยมแกตลอด จนคืนเกิดเรื่อง พ่อ แม่ผมและก็ตามาทำธุระในเมืองเลยค้างที่บ้านในเมือง ด้านคุณทวด คืนนั้นแกเป็นลมตอนเดินขึ้นบันได แม่พร น้องตาผม(ที่อยู่กับแกสองคน)เห็นเลยมาประคองแกแล้วก็เรียกพี่ๆน้องตามาดูแม่ด้วย ตอนนั้นคุณทวดเพลียมาก(ก็อายุเยอะแล้วนี่)เลยนอนไม่ได้สติ ตาวัน(พี่ของตา)ก็มาเรียกตาที่บ้าน
" นัน นัน อยู่มั้ย มาหาแม่เร็ว แม่จะเป็นจะตายอยู่แล้วเนี่ย "
ตาวันเล่าว่าเห็นตาเปิดประตูมา เลยพากันไปดูแม่ ตาวันเห็นว่าแม่ไม่ไหวเลยจะช่วยกันแบกแม่ขึ้นรถ ตลอดทาง ตาวันบอกว่าตาผมนิ่งไม่พูดไรเลยสักคำ
" ใครเป็นผู้ชาย มาช่วยกันหน่อยแบกแม่ขึ้นรถเร็ว "
ทุกคนนี่ชุลมุนกันหมด พอดีหมู่บ้านอยู่ไกลอำเภอซะเยอะเลย ไปกลับอาจจะนาน
ตาวันบอกตาผมยืนนิ่งไม่พูดไม่จา
" เอ้า! ไอ้นัน มาช่วยกันหน่อย แม่จะตายอยู่แล้วนะ "
ตาผมไม่ตอบแล้วหันหลังเดินกลับบ้านทันที ตาวันเห็นก็โกรธสิครับ
" คนอะไรวะ แม่จะตายทั้งคน "
แล้วตาวันก็วิ่งตามตาผม
" นัน นัน หยุดนะ "
ตาวันเล่าว่าตาผมเดินไปแบบทีละก้าวช้าๆชิวๆ แต่น่าแปลกที่ตาวันวิ่งตามเท่าไหร่ก็ตามไม่ทัน
ทางบ้านผมกับบ้านทวดอยู่ห่างกันประมาณ 1 โล
ตาวันเหนื่อยเลยค่อยๆเดินจนมาถึงหน้าบ้านผม
ตาวันเล่าว่าตาผมเดินเข้าไปในบ้านแถมปิดประตูด้วย
" ไอ้นัน ออกมานะ "
ตาวันตะโกนเรียก
" ใครน่ะ มาเรียกพ่อนัน "
เจ๊ใสร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านข้างๆออกมาตามเสียงเรียก
" ก็ไอนันนี่สิ แม่จะตายอยู่แล้ว เดินหนีกลับบ้านเฉย "
เจ๊ใสหน้าซีด
" ห้ะ เป็นไปได้ไง พ่อนันไปกับยอง(แม่ผมเอง)ไม่ใช่เหรอ อยู่ในเมืองนู่น"
" ก็เมื่อกี้ ข้าเห็นมันมากับข้าอยู่เลย "
" จริงๆนะ รถสักคนในบ้านก็ไม่มีเลย"
เจ๊ใสพูดพลางเดินไปเคาะประตูบ้านผม ไม่มีเสียงตอบกลับเลย เป็นที่แน่ชัดว่าบ้านผมไม่มีใครอยู่
ตาวันเลยยอมกลับไป ตอนเช้าเจ๊ใสโทรมาบอกแม่ผม แม่ผมก็ตกใจสิครับ เมื่อคืนตานอนอยู่ด้วยทั้งคน จะไปอยู่ที่บ้านได้ไง พ่อผมก็ว่า ตาวันอาจจะหาเรื่องแกล้งตาผมก็ได้
แต่ยังไงก็ตามหลังจากนั้นตาผมก็ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์เรียกขวัญเพื่อความสบายใจ ส่วนคุณทวดไม่เป็นไรมาก ถึงมือหมอแล้วแกอาการดีขึ้นมาบ้าง
ทุกวันนี้ทุกคนก็ยังสงสัยอยู่ว่าตาผมที่ไปหาทวดคนนั้นคือใคร
วิ่งตามใคร
ช่วงฤดูหนาวต้นปีที่ผ่านมา อากาศทางเหนือบ้านผมจะหนาวหน่อย คนเฒ่าคนแก่นี่ก็เจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดา ทวดผมก็ด้วย แกอายุ 96 แล้ว แกอยู่ที่บ้านใหญ่(ของตะกูลตาผมนะ)ช่วงนั้นแกกินข้าวไม่ลง หรือถ้ากินก็แค่วันละคำสองคำตากับแม่ก็ไปเยี่ยมแกตลอด จนคืนเกิดเรื่อง พ่อ แม่ผมและก็ตามาทำธุระในเมืองเลยค้างที่บ้านในเมือง ด้านคุณทวด คืนนั้นแกเป็นลมตอนเดินขึ้นบันได แม่พร น้องตาผม(ที่อยู่กับแกสองคน)เห็นเลยมาประคองแกแล้วก็เรียกพี่ๆน้องตามาดูแม่ด้วย ตอนนั้นคุณทวดเพลียมาก(ก็อายุเยอะแล้วนี่)เลยนอนไม่ได้สติ ตาวัน(พี่ของตา)ก็มาเรียกตาที่บ้าน
" นัน นัน อยู่มั้ย มาหาแม่เร็ว แม่จะเป็นจะตายอยู่แล้วเนี่ย "
ตาวันเล่าว่าเห็นตาเปิดประตูมา เลยพากันไปดูแม่ ตาวันเห็นว่าแม่ไม่ไหวเลยจะช่วยกันแบกแม่ขึ้นรถ ตลอดทาง ตาวันบอกว่าตาผมนิ่งไม่พูดไรเลยสักคำ
" ใครเป็นผู้ชาย มาช่วยกันหน่อยแบกแม่ขึ้นรถเร็ว "
ทุกคนนี่ชุลมุนกันหมด พอดีหมู่บ้านอยู่ไกลอำเภอซะเยอะเลย ไปกลับอาจจะนาน
ตาวันบอกตาผมยืนนิ่งไม่พูดไม่จา
" เอ้า! ไอ้นัน มาช่วยกันหน่อย แม่จะตายอยู่แล้วนะ "
ตาผมไม่ตอบแล้วหันหลังเดินกลับบ้านทันที ตาวันเห็นก็โกรธสิครับ
" คนอะไรวะ แม่จะตายทั้งคน "
แล้วตาวันก็วิ่งตามตาผม
" นัน นัน หยุดนะ "
ตาวันเล่าว่าตาผมเดินไปแบบทีละก้าวช้าๆชิวๆ แต่น่าแปลกที่ตาวันวิ่งตามเท่าไหร่ก็ตามไม่ทัน
ทางบ้านผมกับบ้านทวดอยู่ห่างกันประมาณ 1 โล
ตาวันเหนื่อยเลยค่อยๆเดินจนมาถึงหน้าบ้านผม
ตาวันเล่าว่าตาผมเดินเข้าไปในบ้านแถมปิดประตูด้วย
" ไอ้นัน ออกมานะ "
ตาวันตะโกนเรียก
" ใครน่ะ มาเรียกพ่อนัน "
เจ๊ใสร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านข้างๆออกมาตามเสียงเรียก
" ก็ไอนันนี่สิ แม่จะตายอยู่แล้ว เดินหนีกลับบ้านเฉย "
เจ๊ใสหน้าซีด
" ห้ะ เป็นไปได้ไง พ่อนันไปกับยอง(แม่ผมเอง)ไม่ใช่เหรอ อยู่ในเมืองนู่น"
" ก็เมื่อกี้ ข้าเห็นมันมากับข้าอยู่เลย "
" จริงๆนะ รถสักคนในบ้านก็ไม่มีเลย"
เจ๊ใสพูดพลางเดินไปเคาะประตูบ้านผม ไม่มีเสียงตอบกลับเลย เป็นที่แน่ชัดว่าบ้านผมไม่มีใครอยู่
ตาวันเลยยอมกลับไป ตอนเช้าเจ๊ใสโทรมาบอกแม่ผม แม่ผมก็ตกใจสิครับ เมื่อคืนตานอนอยู่ด้วยทั้งคน จะไปอยู่ที่บ้านได้ไง พ่อผมก็ว่า ตาวันอาจจะหาเรื่องแกล้งตาผมก็ได้
แต่ยังไงก็ตามหลังจากนั้นตาผมก็ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์เรียกขวัญเพื่อความสบายใจ ส่วนคุณทวดไม่เป็นไรมาก ถึงมือหมอแล้วแกอาการดีขึ้นมาบ้าง
ทุกวันนี้ทุกคนก็ยังสงสัยอยู่ว่าตาผมที่ไปหาทวดคนนั้นคือใคร