"อย่าเชื่อหากไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง"
"ผีหน้าตาเป็นยังไง ถ่ายรูปมาให้กูดูที"
"ผีหรอ!!!!ฮ่าๆพวกมโน หลอนตัวเอง"
"เพ้อเจ้อ ประสาท เรื่องแต่งหรือเปล่า"
"คนที่เล่าเรื่องนี้ รับยาช่อง2ด่วน"
.....หากจะมีใครสักคน ที่ ((อาจจะ)) เคยเจอผีจริงๆ แล้วมาเล่า รับประกันได้ว่า ต้องเคยเห็นประโยคด้านบนผ่านตาแน่ๆ
ใช่!!! ผมเห็นด้วยกับข้อความเหล่านั้น คุณมีสิทธิ์ในการคิดแบบนั้น ถ้าถามว่าตัวผม เคยเห็นผีหรือเปล่า เคยถ่ายรูปได้บ้างไม๊
จากประสบการณ์เด็กวัด3ปี บวชเณรอยู่วัดทุกปิดเทอม คลุกคลีอยู่กับวงการผีๆมาพอสมควร ผมกล้าพูดได้เลยว่า
V
v
v
v
v
"ไม่เคย"
ผมไม่กล้าพูดเต็มๆปาก ว่าเงาวูบวาบ ที่เคยเห็นยามค่ำคืนนั้นคือผี เพราะผมมีประสบการณ์จากตาหยิบและตาปุ่นในกระทู้ก่อน
หากจะว่าไปแล้ว ผีในความคิดผม ตอนเด็กๆ คือหน้าตาประมาณนี้
เรื่องนี้ เขียนจากประสบการณ์จริง สถานที่ บ้านหนองป่าตอ ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย
.........ความคิดผม ตอนเด็กๆ จิตนาการสำคัญกว่าความรู้ ความที่บ้านผมใกล้วัด วิถีชีวิตจึงผูกพันธ์กับวัดหนองป่าตอ และงานศพ
แล้วผมมีนิสัยเสียอย่างนึงคือ กลัวผี แต่เวลา เปิดโลงหน้าเมรุ ผมจะชอบเบียดแทรกผู้ใหญ่ เข้าไปเกาะขอบโลงเพื่อดูศพ
ยิ่งได้ข่าวว่าศพไหน ตายอนาถ ตายโหง ตายท่ายากมา มันเหมือนยิ่งเร้าใจผมว่า กูต้องดูให้ได้
.....พอดูเสร็จแล้วเป็นไงล่ะ ภาพมันติดตาไปยันตอนกินข้าว กลิ่นฟอร์มาลีนฉีดศพติดจมูก ถ้ากลับบ้าน เจอแกงเนื้อที่ยายแกงทีไร
ผมถึงกับกระเดือกไม่ลง เพราะจิตนาการไปว่า เนื้อในถ้วย คล้ายๆเนื้อศพที่ดูมาตะกี้เลย
.....ผมชอบยืนดูตอนเขาเผาศพนะ เพราะเคยได้ยินความเชื่อกรอกหูมาว่า อยากรู้ว่าใครไปนรก หรือ สวรรค์ ให้ดูที่ควันที่ออกจากปล่องเมรุ
หากควันลอยสูงขึ้นฟ้า แปลว่า วิญญาณนั้นไปสวรรค์
แต่หากควันนั้นลอยต่ำลงพื้น แปลว่า วิญญาณนั้นไปนรก
อีกความเชื่อ "นกแสก" ตอนนั้นผมเองก็ไม่เคยเห็นตัวจริงมันหรอก
แต่ตอนกลางคืน มันชอบบินผ่านหลังคาบ้านผม ส่งเสียกร้อง แซ้กกกก แซ้กกกกก เป็นที่ขนลุกอย่างมาก
ยายผมก็จะพูดกรอกหูผมทุกครั้งแล้วว่า "เอาอีกแล้ว จะมีคนตายอีกแล้ว"
v
v
v
v
แล้วก็ให้แปลกใจ คือ มีคนตายหลังจากนั้นไม่นานจริงๆ
........แต่พอผมยิ่งโต ผมเริ่มสงสัยว่าผีมันมีจริงๆหรอ พอสงสัยก็อยากหาคำตอบให้ตัวเอง ตามประสาคนเรียนมากขึ้น
ผมก็เริ่มไปสอบถาม จากคนแก่ๆ แลคนเฒ่าๆที่พอจะรู้จัก เพราะพวกท่านอยู่มานาน ถ้าผีมีจริง พวกท่านๆต้องเคยเจอบ้างล่ะ
แต่หลายๆเฒ่าที่ผมคุย ต่างก็บอกว่า อยากรู้เรื่องผี มืงก็อยู่ใกล้ๆแหล่งผีแล้ว ทำไมไม่ไปถามทวดมืงดูล่ะ
....ทวดผม ตอนนั้น อายุ80กว่าๆ แต่ยังแข็งแรงยิ้มแย้มแจ่มใส หูตาดี เดินถือไม้เท้าแต่ยังเดินไปวัดทุกวันพระได้สบายๆ
ทวดผู้หญิงของผมบางที แกยังปืนขึ้นไปนั่งสอยละมุดบนคาคบต้นละมุดสูง 3-4เมตรได้หน้าตาเฉย
....ผมก็ให้สงสัยว่า ทำไมผมต้องไปถามทวด เฒ่าที่ผมคุยด้วย ก็บอกว่า ทวดผมน่ะเลี้ยงผีไว้
แกก็เล่าให้ฟังว่า
... "มืงเคยสังเกตบ้างไม๊ ทำไมทวดมืง อายุป่านนี้แล้ว ยังปีนต้นละมุดได้สบายๆ ทั้งๆที่รุ่นเดียวกะทวดมืงถ้าไม่ตายก็นอนพะงาบๆหมดแล้ว"
>>>>>>"เพราะทวดผม ดูแลร่างกายดีหรือเปล่าตา"........"ใช่ที่ไหนล่ะผีที่ทวดมืงเลี้ยงไว้น่ะช่วยดูแลน่ะสิ"
นี่คือความคิดของคนเฒ่าคนแก่รุ่นเก่าๆ ที่เขาเชื่อเรื่องพวกนี้นะครับ
แล้วแกก็เล่าให้ฟังเพิ่มอีกว่า
.... สมัยก่อนน่ะโจรเยอะ บ้านไหนรวยๆ มีทรัพย์สินมาก โดนแทบทุกหลัง จนต้องเอาทรัพย์สินใส่ไหฝังดินหนีโจร
เฒ่าที่เล่าให้ฟังบอกว่า สมัยนั้นแกเองยังรุ่นๆ เพื่อนของแกอยู่ในกลุ่มโจรด้วย ก็เทียวมาชวนแกไปเข้ากลุ่มออกปล้น
แต่แกไม่เอาด้วย ทีนี้เพื่อนคนนี้ ไปปล้นที่ไหนมาในละแวก ท่าทอง คลองกระจง หนองชุมแสง วัดเกาะ
ก็เอาเงินเอาทองมาอวดแก ว่าแกไปปล้นบ้านนั้นบ้านนี้มา .. ข่มขืนลูกสาวบ้านไหนมา มันก็เอามาเล่าให้ฟังหมด
.......ทีนี้ไอ่เพื่อนของเฒ่านี้ก็มาบอกเฒ่าว่า จะเข้าปล้นบ้านทวดผม ด้วยความที่เฒ่าเอง แกก็รู้จักไปมาหาสู่กับทวดผมทั้ง2อยู่ตลอด
ก็เป็นห่วง เพราะตอนนั้นที่บ้านทวดผมก็มีพวกยายๆของผม ที่ยังเป็นเด็กอยู่ เลยแอบไปบอกทวดผมให้ระวังโจรมันจะเข้าปล้น
แกบอกว่า แทนที่ทวดผมจะแสดงอาการวิตก แต่แกกลับหัวเราะ แล้วบอก
"เออ ให้มันมาดู๊"
......พอเฒ่าได้เจอเพื่อนที่เป็นโจร แกก็พูดคุยซักถามว่า เป็นไงบ้าง ไปปล้นบ้านนั้นมา ได้อะไรมาบ้าง
..เพื่อนโจรก็เล่าให้ฟังแหยงๆว่า ได้แต่ผีน่ะสิ ผีเต็มบ้าน หนีกันกระเจิง เสียเสือหมด
.........เพื่อนโจรก็เล่าให้เฒ่าฟังว่า......
ไปซุ่มดูกันอยู่ในป่าข้างบ้าน ตั้งแต่4ทุ่ม พอไปถึง เห็นคนนั่งเป็นเงาๆเต็มใต้ถุน มีตะเกียงตั้งอยู่บนแคร่ พอให้เห็นว่ามีคนนั่งอยู่เป็นเงาๆ
........นั่งซุ่มกันตั้งนาน จนเวลาล่วงไปถึงเที่ยงคืน กลุ่มเงาคนที่นั่งอยู่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน
หัวหน้าโจรก็ให้ขัดใจ เลยคิดจะไม่รอแล้ว ก็แอบมาซุบซิบบอกคนอื่นว่า ปล้นมันทั้งแบบนี้แหละ ใครขัดขืนก็จัดการ
พอกำลังจะบุก เงาที่นั่งๆก็ลุกด้วย แต่ไม่ใช่ลุกธรรมดา พอเงานั้นเดินออกมาพ้นใต้ถุนบ้าน ก็ยืดตัวสูงขี้น สูงขึ้น จนจะเท่าต้นขนุนหน้าบ้าน
เห็นกันทั้งกลุ่มที่ไป แล้วก็เดินหายวูบ เข้าไปในต้นขนุนดื้อๆ ทำเอาเสือๆร้องลั่น แล้วพากันกระเจิดกระเจิงไปหมด
.... ( ต้นขนุน ต้นนั้นต้นใหญ่มาก ประมาณ2คนโอบ ณ ตอนเจ้าของกระทู้อยู่ ขนุนต้นนั้นก็ยังอยู่ ..แต่สภาพใกล้ตายเต็มที พอเจ้าของกระทู้รู้เรื่องนี้ ก็ไม่เคยเข้าใกล้อีกเลย ปัจจุบันไม่รู้ว่ายังอยู่อีกหรือเปล่า)
.....เฒ่าที่ผมคุยด้วยก็บอกว่า นั่นล่ะ ถ้าอยากรู้เรื่องผี ไปถามกับทวดผมนั่นล่ะ ไม่ต้องไปถามใครหรอก...
สมัยก่อน ไม่ใคร่มีใครอยากเดินเฉียดบ้านทวดผมตอนกลางคืนนักหรอก บางทีก็เห็นเป็นเงาคนตัวสูงใหญ่เทียมบ้านเดินวนไปวนมารอบบ้านบางทีก็เห็นเป็นเงาหมาตัวใหญ่เท่ารถนอนอยู่ บางคนก็บอก เห็นยืนตาโบ๋อยู่ริมรั้วแสยะยิ้มให้ในวันโกนก็มี
v
v
v
v
....แต่นั่นมันก็ในอดีต เพราะ ณ ตอนนั้น ผมเองก็เทียวเล่นเดินไปเดินมาบริเวณบ้านทวด ตอนกลางคืน ก็ไม่เคยเห็นอะไรน่ากลัว
ผมเองก็เคยนั่งคุยกับทวด ตอนช่วยทวด ปอกนุ่นออกจากฝักเอาใส่กระสอบ ที่แคร่ใต้ถุนบ้าน
ชวนทวดคุยไปต่างๆนาๆ แล้วก็วกไปที่เรื่องผี พอถามทวดว่า ที่คนเขาลือกันว่าทวดเลี้ยงผีไว้ จริงหรือเปล่า
ทวดก็จะหัวเราะใส่ แล้วก็เฉไฉ ไม่ยอมตอบ แต่จะเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ฟัง
.....แต่ผมก็เชื่อไปสนิทใจ ว่าทวดเลี้ยงผีแน่ๆ ยิ่งมาเจอเหตุการณ์ในวันที่ลูกของทวดคนนึง (น้องของยายผมอีกที) ผมเรียกแกว่ายายเหมือนกัน แต่ไปมีครอบครัวอยู่อุตรดิตถ์ เดินทางมาจากอุตรดิตถ์ เพื่อมารดน้ำดำหัวทวด ในช่วงสงกรานต์ คนอื่นๆก็สาละวนกันนั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน มียายแกนอนอยู่บนบ้านคนเดียว ข้างล่างกำลังพูดคุยกันสนุก ก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดดดดดดดดดดด ลั่นบ้านมาจากด้านบน (บ้านคนสมัยเก่าจะหลังใหญ่ๆ เสาทำจากซุงทั้งต้น)
แล้วก็มีเสียงวิ่งตึงๆๆๆ ก่อนจะเห็นยาย วิ่งลงบันไดมาแล้วก็เสียหลักพุ่งไปนอนที่ดงดาวเรือง ริมโคนต้นขนุนหน้าบ้านทวด ญาติๆก็กรูเข้าไปดู
....เห็นยายตัวสั่นงันงก ร้องแต่ว่ากลัวแล้ว กลัวแล้ว คือหน้าของยายเห็นได้ชัดว่า แกกลัวสุดขีด เลยช่วยกันพยุงแกมานั่งที่แคร่
ก็ช่วยกันปลอบ ถามว่ายายเป็นอะไร ร้องทำไมลั่นบ้าน แล้วก็วิ่งลงบันไดมาไม่กลัวตายแบบนั้น
ยายก็บอก นอนๆอยู่ ก็รู้สึกตัว จะลุก พอปรือๆตา ก็เห็นหน้าใครไม่รู้ หน้าตาน่ากลัว ผมยาวสยายกระจายไปข้างๆ ลอยตัวอยู่ตรงหน้า ขนานกับตัวแกที่นอนหงายอยู่ จ้องหน้าแกเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ แกกลัวก็เลยกรี๊ดออกมา แล้วก็ลุกขึ้นวิ่งลงมา
.......ลุงแก่ๆคนนึง ที่ผมไม่รู้จัก ที่มาด้วย แกก็ตะโกนขึ้นไปข้างบนว่า "ลูกหลานมาเยี่ยม อย่ามาหลอกมาหลอนกันได้ไม๊" อยากให้ลูกหลานช๊อคตายเหรอ ผมเองก็แอบสงสัย ว่าลุงตะโกนบอกใคร แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะบนบ้านของทวดนั้น ผมเคยขึ้นไปนับครั้งได้ เนื่องจาก กลัวรูปถ่ายคนตาย (ก็บรรพบุรุษผมนั่นล่ะ) ที่ติดเป็นพรืดอยู่บนบ้านทวด แถมยังมีโกศใส่กระดูกเล็กๆบนหลังตู้อีก เวลาทวดใช้ผมขึ้นไปเอาของบนบ้านทีไร ผมเหมือนจะร้องไห้ ไม่เคยเห็น แต่ก็ไม่อยากเจอ ถึงแม้จะอยากเห็นเป็นบุญตาสักครั้ง แต่ก็แอบภาวนาในใจตลอด ว่าถ้ามา อย่ามาหน้าเละแบบที่ผมจิตนาการเอาไว้เน้อ ขนาดแค่เห็นเงาตอไม้ตอนกลางคืน ผมยังเคยขาแข็งเยี่ยวแทบราดมาแล้ว ถ้ามาแบบที่ยายผมเจอ ผมคงหัวใจวายตายพอดี
....ผมเคยบอกเล่นๆกับทวดว่า ถ้าทวดตาย ช่วยมาหาผมด้วยนะ ผมอยากเห็นผี ทวดก็หัวเราะ
จนผมจากที่นั่นมาหลายปี ทวดก็เสียชีวิตไปทั้ง2คนในเวลาไล่เลี่ยกัน ผมเองก็ไม่ได้กลับไปเผาศพ
เพราะมีเหตุการณ์ขัดแย้งกับญาติๆบางอย่าง พอผมรู้ว่าทวดเสียชีวิต ผมก็ได้แต่นิ่งเสียใจเงียบๆ
ภาวนาจิตกล่าวขอโทษทวด ที่เหลนคนนี้ไม่ได้กลับไปเผาศพ และที่เหลนเคยบอกไปว่า ถ้าทวดตายให้มาหา ก็ขอว่าอย่ามาเลย
เหลนกลัว.....ขนาดฝันเห็นว่าแกมายืนส่งยิ้มให้ ผมยังกลัวเลย ก็ไม่รู้จะกลัวทำไม ทวดก็เคยบอกผมไว้ว่า
......อย่าไปกลัวเขาเลยผีน่ะ ผีก็คือเรา เขาก็เคยเป็นคน สักวันเราก็จะเป็นเหมือนเค้า ผีที่จะออกมาหักคอคนแบบในหนังมันไม่มีหรอก
อย่างเก่ง ก็ออกมาแสดงตนวูบๆวาบๆให้คนกลัวเล่นๆเท่านั้นล่ะ แต่ทำอะไรเราไม่ได้หรอก เขาแค่มาขอส่วนบุญ เท่านั้นเอง
ถ้าอยากเห็นผี ไม่ต้องพยายามไปหาดูที่ไหนหรอก มองไปข้างๆสิ หน้าเมียตอนมันล้างเครื่องสำอางออกแล้วนอนน้ำลายยืดกลางดึก ยังน่ากลัวกว่าบานเบอะ เชื่อเหอะ ผมเห็นบ่อยๆ คุณก็เช่นกัน............เรื่องผีของทวดที่ผมจะเล่าก็มีเพียงเท่านี้ ขอดวงวิญญาณของทวดไปสู่สุขคติ ระลึกถึงในบุญคุณเสมอ ++ขอบคุณครับ
หลอนจากสวรรคโลก(สุโขทัย) ตอน........ผีของทวด
.....หากจะมีใครสักคน ที่ ((อาจจะ)) เคยเจอผีจริงๆ แล้วมาเล่า รับประกันได้ว่า ต้องเคยเห็นประโยคด้านบนผ่านตาแน่ๆ
ใช่!!! ผมเห็นด้วยกับข้อความเหล่านั้น คุณมีสิทธิ์ในการคิดแบบนั้น ถ้าถามว่าตัวผม เคยเห็นผีหรือเปล่า เคยถ่ายรูปได้บ้างไม๊
จากประสบการณ์เด็กวัด3ปี บวชเณรอยู่วัดทุกปิดเทอม คลุกคลีอยู่กับวงการผีๆมาพอสมควร ผมกล้าพูดได้เลยว่า
v
v
v
v
"ไม่เคย"
หากจะว่าไปแล้ว ผีในความคิดผม ตอนเด็กๆ คือหน้าตาประมาณนี้
เรื่องนี้ เขียนจากประสบการณ์จริง สถานที่ บ้านหนองป่าตอ ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย
.........ความคิดผม ตอนเด็กๆ จิตนาการสำคัญกว่าความรู้ ความที่บ้านผมใกล้วัด วิถีชีวิตจึงผูกพันธ์กับวัดหนองป่าตอ และงานศพ
แล้วผมมีนิสัยเสียอย่างนึงคือ กลัวผี แต่เวลา เปิดโลงหน้าเมรุ ผมจะชอบเบียดแทรกผู้ใหญ่ เข้าไปเกาะขอบโลงเพื่อดูศพ
ยิ่งได้ข่าวว่าศพไหน ตายอนาถ ตายโหง ตายท่ายากมา มันเหมือนยิ่งเร้าใจผมว่า กูต้องดูให้ได้
.....พอดูเสร็จแล้วเป็นไงล่ะ ภาพมันติดตาไปยันตอนกินข้าว กลิ่นฟอร์มาลีนฉีดศพติดจมูก ถ้ากลับบ้าน เจอแกงเนื้อที่ยายแกงทีไร
ผมถึงกับกระเดือกไม่ลง เพราะจิตนาการไปว่า เนื้อในถ้วย คล้ายๆเนื้อศพที่ดูมาตะกี้เลย
.....ผมชอบยืนดูตอนเขาเผาศพนะ เพราะเคยได้ยินความเชื่อกรอกหูมาว่า อยากรู้ว่าใครไปนรก หรือ สวรรค์ ให้ดูที่ควันที่ออกจากปล่องเมรุ
หากควันลอยสูงขึ้นฟ้า แปลว่า วิญญาณนั้นไปสวรรค์
แต่หากควันนั้นลอยต่ำลงพื้น แปลว่า วิญญาณนั้นไปนรก
อีกความเชื่อ "นกแสก" ตอนนั้นผมเองก็ไม่เคยเห็นตัวจริงมันหรอก
แต่ตอนกลางคืน มันชอบบินผ่านหลังคาบ้านผม ส่งเสียกร้อง แซ้กกกก แซ้กกกกก เป็นที่ขนลุกอย่างมาก
ยายผมก็จะพูดกรอกหูผมทุกครั้งแล้วว่า "เอาอีกแล้ว จะมีคนตายอีกแล้ว"
v
v
v
แล้วก็ให้แปลกใจ คือ มีคนตายหลังจากนั้นไม่นานจริงๆ
........แต่พอผมยิ่งโต ผมเริ่มสงสัยว่าผีมันมีจริงๆหรอ พอสงสัยก็อยากหาคำตอบให้ตัวเอง ตามประสาคนเรียนมากขึ้น
ผมก็เริ่มไปสอบถาม จากคนแก่ๆ แลคนเฒ่าๆที่พอจะรู้จัก เพราะพวกท่านอยู่มานาน ถ้าผีมีจริง พวกท่านๆต้องเคยเจอบ้างล่ะ
แต่หลายๆเฒ่าที่ผมคุย ต่างก็บอกว่า อยากรู้เรื่องผี มืงก็อยู่ใกล้ๆแหล่งผีแล้ว ทำไมไม่ไปถามทวดมืงดูล่ะ
....ทวดผม ตอนนั้น อายุ80กว่าๆ แต่ยังแข็งแรงยิ้มแย้มแจ่มใส หูตาดี เดินถือไม้เท้าแต่ยังเดินไปวัดทุกวันพระได้สบายๆ
ทวดผู้หญิงของผมบางที แกยังปืนขึ้นไปนั่งสอยละมุดบนคาคบต้นละมุดสูง 3-4เมตรได้หน้าตาเฉย
....ผมก็ให้สงสัยว่า ทำไมผมต้องไปถามทวด เฒ่าที่ผมคุยด้วย ก็บอกว่า ทวดผมน่ะเลี้ยงผีไว้
แกก็เล่าให้ฟังว่า
... "มืงเคยสังเกตบ้างไม๊ ทำไมทวดมืง อายุป่านนี้แล้ว ยังปีนต้นละมุดได้สบายๆ ทั้งๆที่รุ่นเดียวกะทวดมืงถ้าไม่ตายก็นอนพะงาบๆหมดแล้ว"
>>>>>>"เพราะทวดผม ดูแลร่างกายดีหรือเปล่าตา"........"ใช่ที่ไหนล่ะผีที่ทวดมืงเลี้ยงไว้น่ะช่วยดูแลน่ะสิ"
นี่คือความคิดของคนเฒ่าคนแก่รุ่นเก่าๆ ที่เขาเชื่อเรื่องพวกนี้นะครับ
แล้วแกก็เล่าให้ฟังเพิ่มอีกว่า
.... สมัยก่อนน่ะโจรเยอะ บ้านไหนรวยๆ มีทรัพย์สินมาก โดนแทบทุกหลัง จนต้องเอาทรัพย์สินใส่ไหฝังดินหนีโจร
เฒ่าที่เล่าให้ฟังบอกว่า สมัยนั้นแกเองยังรุ่นๆ เพื่อนของแกอยู่ในกลุ่มโจรด้วย ก็เทียวมาชวนแกไปเข้ากลุ่มออกปล้น
แต่แกไม่เอาด้วย ทีนี้เพื่อนคนนี้ ไปปล้นที่ไหนมาในละแวก ท่าทอง คลองกระจง หนองชุมแสง วัดเกาะ
ก็เอาเงินเอาทองมาอวดแก ว่าแกไปปล้นบ้านนั้นบ้านนี้มา .. ข่มขืนลูกสาวบ้านไหนมา มันก็เอามาเล่าให้ฟังหมด
.......ทีนี้ไอ่เพื่อนของเฒ่านี้ก็มาบอกเฒ่าว่า จะเข้าปล้นบ้านทวดผม ด้วยความที่เฒ่าเอง แกก็รู้จักไปมาหาสู่กับทวดผมทั้ง2อยู่ตลอด
ก็เป็นห่วง เพราะตอนนั้นที่บ้านทวดผมก็มีพวกยายๆของผม ที่ยังเป็นเด็กอยู่ เลยแอบไปบอกทวดผมให้ระวังโจรมันจะเข้าปล้น
แกบอกว่า แทนที่ทวดผมจะแสดงอาการวิตก แต่แกกลับหัวเราะ แล้วบอก
"เออ ให้มันมาดู๊"
......พอเฒ่าได้เจอเพื่อนที่เป็นโจร แกก็พูดคุยซักถามว่า เป็นไงบ้าง ไปปล้นบ้านนั้นมา ได้อะไรมาบ้าง
..เพื่อนโจรก็เล่าให้ฟังแหยงๆว่า ได้แต่ผีน่ะสิ ผีเต็มบ้าน หนีกันกระเจิง เสียเสือหมด
.........เพื่อนโจรก็เล่าให้เฒ่าฟังว่า......
ไปซุ่มดูกันอยู่ในป่าข้างบ้าน ตั้งแต่4ทุ่ม พอไปถึง เห็นคนนั่งเป็นเงาๆเต็มใต้ถุน มีตะเกียงตั้งอยู่บนแคร่ พอให้เห็นว่ามีคนนั่งอยู่เป็นเงาๆ
........นั่งซุ่มกันตั้งนาน จนเวลาล่วงไปถึงเที่ยงคืน กลุ่มเงาคนที่นั่งอยู่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน
หัวหน้าโจรก็ให้ขัดใจ เลยคิดจะไม่รอแล้ว ก็แอบมาซุบซิบบอกคนอื่นว่า ปล้นมันทั้งแบบนี้แหละ ใครขัดขืนก็จัดการ
พอกำลังจะบุก เงาที่นั่งๆก็ลุกด้วย แต่ไม่ใช่ลุกธรรมดา พอเงานั้นเดินออกมาพ้นใต้ถุนบ้าน ก็ยืดตัวสูงขี้น สูงขึ้น จนจะเท่าต้นขนุนหน้าบ้าน
เห็นกันทั้งกลุ่มที่ไป แล้วก็เดินหายวูบ เข้าไปในต้นขนุนดื้อๆ ทำเอาเสือๆร้องลั่น แล้วพากันกระเจิดกระเจิงไปหมด
.... ( ต้นขนุน ต้นนั้นต้นใหญ่มาก ประมาณ2คนโอบ ณ ตอนเจ้าของกระทู้อยู่ ขนุนต้นนั้นก็ยังอยู่ ..แต่สภาพใกล้ตายเต็มที พอเจ้าของกระทู้รู้เรื่องนี้ ก็ไม่เคยเข้าใกล้อีกเลย ปัจจุบันไม่รู้ว่ายังอยู่อีกหรือเปล่า)
.....เฒ่าที่ผมคุยด้วยก็บอกว่า นั่นล่ะ ถ้าอยากรู้เรื่องผี ไปถามกับทวดผมนั่นล่ะ ไม่ต้องไปถามใครหรอก...
สมัยก่อน ไม่ใคร่มีใครอยากเดินเฉียดบ้านทวดผมตอนกลางคืนนักหรอก บางทีก็เห็นเป็นเงาคนตัวสูงใหญ่เทียมบ้านเดินวนไปวนมารอบบ้านบางทีก็เห็นเป็นเงาหมาตัวใหญ่เท่ารถนอนอยู่ บางคนก็บอก เห็นยืนตาโบ๋อยู่ริมรั้วแสยะยิ้มให้ในวันโกนก็มี
v
v
v
....แต่นั่นมันก็ในอดีต เพราะ ณ ตอนนั้น ผมเองก็เทียวเล่นเดินไปเดินมาบริเวณบ้านทวด ตอนกลางคืน ก็ไม่เคยเห็นอะไรน่ากลัว
ผมเองก็เคยนั่งคุยกับทวด ตอนช่วยทวด ปอกนุ่นออกจากฝักเอาใส่กระสอบ ที่แคร่ใต้ถุนบ้าน
ชวนทวดคุยไปต่างๆนาๆ แล้วก็วกไปที่เรื่องผี พอถามทวดว่า ที่คนเขาลือกันว่าทวดเลี้ยงผีไว้ จริงหรือเปล่า
ทวดก็จะหัวเราะใส่ แล้วก็เฉไฉ ไม่ยอมตอบ แต่จะเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ฟัง
.....แต่ผมก็เชื่อไปสนิทใจ ว่าทวดเลี้ยงผีแน่ๆ ยิ่งมาเจอเหตุการณ์ในวันที่ลูกของทวดคนนึง (น้องของยายผมอีกที) ผมเรียกแกว่ายายเหมือนกัน แต่ไปมีครอบครัวอยู่อุตรดิตถ์ เดินทางมาจากอุตรดิตถ์ เพื่อมารดน้ำดำหัวทวด ในช่วงสงกรานต์ คนอื่นๆก็สาละวนกันนั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน มียายแกนอนอยู่บนบ้านคนเดียว ข้างล่างกำลังพูดคุยกันสนุก ก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดดดดดดดดดดด ลั่นบ้านมาจากด้านบน (บ้านคนสมัยเก่าจะหลังใหญ่ๆ เสาทำจากซุงทั้งต้น)
แล้วก็มีเสียงวิ่งตึงๆๆๆ ก่อนจะเห็นยาย วิ่งลงบันไดมาแล้วก็เสียหลักพุ่งไปนอนที่ดงดาวเรือง ริมโคนต้นขนุนหน้าบ้านทวด ญาติๆก็กรูเข้าไปดู
....เห็นยายตัวสั่นงันงก ร้องแต่ว่ากลัวแล้ว กลัวแล้ว คือหน้าของยายเห็นได้ชัดว่า แกกลัวสุดขีด เลยช่วยกันพยุงแกมานั่งที่แคร่
ก็ช่วยกันปลอบ ถามว่ายายเป็นอะไร ร้องทำไมลั่นบ้าน แล้วก็วิ่งลงบันไดมาไม่กลัวตายแบบนั้น
ยายก็บอก นอนๆอยู่ ก็รู้สึกตัว จะลุก พอปรือๆตา ก็เห็นหน้าใครไม่รู้ หน้าตาน่ากลัว ผมยาวสยายกระจายไปข้างๆ ลอยตัวอยู่ตรงหน้า ขนานกับตัวแกที่นอนหงายอยู่ จ้องหน้าแกเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ แกกลัวก็เลยกรี๊ดออกมา แล้วก็ลุกขึ้นวิ่งลงมา
.......ลุงแก่ๆคนนึง ที่ผมไม่รู้จัก ที่มาด้วย แกก็ตะโกนขึ้นไปข้างบนว่า "ลูกหลานมาเยี่ยม อย่ามาหลอกมาหลอนกันได้ไม๊" อยากให้ลูกหลานช๊อคตายเหรอ ผมเองก็แอบสงสัย ว่าลุงตะโกนบอกใคร แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะบนบ้านของทวดนั้น ผมเคยขึ้นไปนับครั้งได้ เนื่องจาก กลัวรูปถ่ายคนตาย (ก็บรรพบุรุษผมนั่นล่ะ) ที่ติดเป็นพรืดอยู่บนบ้านทวด แถมยังมีโกศใส่กระดูกเล็กๆบนหลังตู้อีก เวลาทวดใช้ผมขึ้นไปเอาของบนบ้านทีไร ผมเหมือนจะร้องไห้ ไม่เคยเห็น แต่ก็ไม่อยากเจอ ถึงแม้จะอยากเห็นเป็นบุญตาสักครั้ง แต่ก็แอบภาวนาในใจตลอด ว่าถ้ามา อย่ามาหน้าเละแบบที่ผมจิตนาการเอาไว้เน้อ ขนาดแค่เห็นเงาตอไม้ตอนกลางคืน ผมยังเคยขาแข็งเยี่ยวแทบราดมาแล้ว ถ้ามาแบบที่ยายผมเจอ ผมคงหัวใจวายตายพอดี
....ผมเคยบอกเล่นๆกับทวดว่า ถ้าทวดตาย ช่วยมาหาผมด้วยนะ ผมอยากเห็นผี ทวดก็หัวเราะ
จนผมจากที่นั่นมาหลายปี ทวดก็เสียชีวิตไปทั้ง2คนในเวลาไล่เลี่ยกัน ผมเองก็ไม่ได้กลับไปเผาศพ
เพราะมีเหตุการณ์ขัดแย้งกับญาติๆบางอย่าง พอผมรู้ว่าทวดเสียชีวิต ผมก็ได้แต่นิ่งเสียใจเงียบๆ
ภาวนาจิตกล่าวขอโทษทวด ที่เหลนคนนี้ไม่ได้กลับไปเผาศพ และที่เหลนเคยบอกไปว่า ถ้าทวดตายให้มาหา ก็ขอว่าอย่ามาเลย
เหลนกลัว.....ขนาดฝันเห็นว่าแกมายืนส่งยิ้มให้ ผมยังกลัวเลย ก็ไม่รู้จะกลัวทำไม ทวดก็เคยบอกผมไว้ว่า
......อย่าไปกลัวเขาเลยผีน่ะ ผีก็คือเรา เขาก็เคยเป็นคน สักวันเราก็จะเป็นเหมือนเค้า ผีที่จะออกมาหักคอคนแบบในหนังมันไม่มีหรอก
อย่างเก่ง ก็ออกมาแสดงตนวูบๆวาบๆให้คนกลัวเล่นๆเท่านั้นล่ะ แต่ทำอะไรเราไม่ได้หรอก เขาแค่มาขอส่วนบุญ เท่านั้นเอง
ถ้าอยากเห็นผี ไม่ต้องพยายามไปหาดูที่ไหนหรอก มองไปข้างๆสิ หน้าเมียตอนมันล้างเครื่องสำอางออกแล้วนอนน้ำลายยืดกลางดึก ยังน่ากลัวกว่าบานเบอะ เชื่อเหอะ ผมเห็นบ่อยๆ คุณก็เช่นกัน............เรื่องผีของทวดที่ผมจะเล่าก็มีเพียงเท่านี้ ขอดวงวิญญาณของทวดไปสู่สุขคติ ระลึกถึงในบุญคุณเสมอ ++ขอบคุณครับ