🛩🛩🛩
ต้องบอกว่าที่ตัดสินใจดูหนังเรื่องนี้ช้ากว่าปกติ เป็นเพราะว่า ผมแทบจะจำเนื้อเรื่องของ Top Gun ไม่ได้แล้ว เพราะหนังมันตั้งแต่ปี 1986 ซึ่งผมได้ดูไปรอบเดียวตอนที่เริ่มโตและเริ่มดูหนังม้วนวีดิโอ เลยทำให้ตัดสินใจว่า ขอกลับไปดูภาคแรกก่อนเพื่อจะได้อินกับภาคสองให้มากขึ้น เพราะด้วยกระแสของหนังที่ดีมากๆ แทบจะทุกคนที่ดูบอกเหมือนกันว่าหนังดีสุดๆ ก็เลยขอดูภาคแรกเพื่อเก็บรายละเอียดก่อนดีกว่า
🛩🛩🛩
เรื่องราวต่อเนื่องจากภาคแรก หลังจากรับราชการเป็นนักบินระดับท็อปของกองทัพเรือมานานกว่า 30 ปี พีท “มาเวอริค” มิทเชลล์ กลับมาสู่ที่ซึ่งเหมาะสมกับเขา เขากลับมาเป็นนักบินทดสอบผู้กล้าหาญและหลีกหนีจากความก้าวหน้าทางการงาน และเขาก็ได้กลับมาฝึกหน่วยท็อปกันเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในรูปแบบที่ยังไม่เคยมีนักบินที่ยังมีชีวิตอยู่เคยเห็นมาก่อน มาเวอริคต้องเผชิญหน้ากับเรือโทแบรดลีย์ แบรดชอว์ หรือ “รูสเตอร์” ลูกชายของเรือโทนิค แบรดชอว์ หรือ “กูส” เพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาต้องพบกับอนาคตที่ไม่แน่นอนและอดีตที่ตามหลอกหลอน มาเวอริคต้องเผชิญกับความกลัวที่ฝังลึกอยู่ และปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งภารกิจนี้ผู้ที่ได้รับเลือกให้ร่วมบินต้องเสียสละอย่างที่สุด
🛩🛩🛩
ต้องบอกว่าพอได้ดูภาคแรกมาก่อนแล้ว จะทำให้เราเข้าใจบริบทอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น เพราะหนังในภาคแรกจะบอกถึงตัวตนและนิสัยของ มาเวอริค ได้เป็นอย่างดี มาภาคนี้ตอนต้นเรื่องก็มีการแสดงให้เห็นถึงความบ้าระห่ำของเขาอยู่ ซึ่งถ้าได้ดูภาคแรกมา จะรู้เลยว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันคือความเป็นตัวตนที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วของชายคนนี้ และเรายังได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ระหว่าง มาเวอริค กับ รูสเตอร์ อีกด้วย ซึ่งภาคแรกจะทำให้เรามาดูภาคสองแล้วอินมากขึ้นอีกด้วย
🛩🛩🛩
ในช่วงแรก หนังเหมือนกับจะบอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ มาเวอริค เพื่อให้คนดูรู้จักชายคนนี้ให้มากที่สุด หรืออาจจะเป็นการย้อนอดีตรำลึกความเป็น มาเวอริค ของหนัง ในรูปแบบของคนแก่ที่เริ่มจะถูกมองข้าม แต่เมื่อ มาเวอริค ได้รับหน้าที่เป็นครูฝึกของทีม หนังก็ใช้ความเป็น coming of age ที่แสดงให้เห็นถึงความเติบโตของตัวละครทุกตัว และการผสมผสานกันระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ที่จะมีการส่งไม้ต่อกันอีกด้วย
🛩🛩🛩
ด้วยความที่ในภาคแรกหนังเรื่องนี้เป็นหนังต่อสู้อากาศยานที่มันส์มากในยุคนั้น ทั้งๆ ที่หนังไม่มีเทคโนโลยีที่จะสร้าง special effect อะไรมากมาย ยังเป็นหนังที่ครองใจคนดูมาได้หลายสิบปี พอมาถึงยุคนี้ ในยุคที่หนังสามารถใช้เทคโนโลยีสรรสร้างอะไรได้มากขึ้น ทำให้หนังมีฉากเด็ดๆ ที่เสริมเติมเข้ามาให้หนังมันส์และทะลุจุดเดือดได้มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ฉากแต่ละฉากที่ทำออกมา ทำให้คนดูดูไปลุ้นไม่ติดเบาะไปกับภารกิจต่างๆ บนเครื่องบินขับไล่ได้อย่างเมามันส์ที่สุด
🛩🛩🛩
สำหรับนักแสดง Tom Cruise เรื่องนี้ครบรสมาก แสดงออกถึงคนแก่ที่ยังมีไฟได้เป็นอย่างดี เรื่องนี้ถึงเฮียจะดูสูงอายุกว่าเรื่องที่ผ่านๆ มา แต่มันคือคาแรคเตอร์ของ มาเวอริค ที่กำลังจะปลดเกษียณแต่ใจยังไม่ยอมเกษียณได้อย่างเยี่ยมยอด ตัวละครสำคัญอีกคนที่ต้องพูดถึงคือ รูสเตอร์ ที่รับบทโดย Miles Teller เป็นตัวละครที่มาตอกย้ำปมในใจของ มาเวอริค ที่มันค้ำคออยู่ตลอดให้หนังมันกระอักกระอ่วนได้ดีมากๆ แล้วหนังก็ขมวดปมปัญาหนี้ด้วยบทสรุปที่ดีมากเช่นกัน ส่วนตัวละครอีกตัวที่ในภาคแรกเป็นตัวละครที่ถูกพูดถึงเยอะมากแต่ไม่เคยโผล่ออกมาคือ เพนนี ที่ในภาคแรกเหมือนเป็นคนที่ทำให้ทุกคนล้อเลียน มาเวอริค ว่าแอบกิน เพนนี ลูกสาวนายพลใหญ่มาแล้ว ซึ่งภาคนี้เธอโผล่มาเป็นตัวละครคีย์หลักที่ทำให้ มาเวอริค ที่กำลังถอดใจ กลับเข้าสู่สมรภูมิได้อีกครั้ง รับบทโดย Jennifer Connelly สาวสวยสุดๆ คนหนึ่งของวงการ
🛩🛩🛩
ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ เป็นภาคต่อที่สมบูรณ์มากๆ ของ Top Gun เพราะมีทั้งความมันส์ ความสนุก ความเท่ และปมดราม่าต่างๆ ที่ถูกผูกโยงมาจากภาคแรก และมาปิดจบที่ภาคนี้ ก็ไม่รู้ว่ามันอาจจะเป็นการส่งไม้ต่อให้ Top Gun รุ่นต่อไปรึเปล่า แต่ส่วนตัวผมว่า ให้จบแบบนี้เลยจะประทับใจแฟนๆ อย่างสุดๆ
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] Top Gun Maverick - สุดยอดหนังเครื่องบินรบอากาศยานภาคต่อที่ครบทุกรสชาติ
🛩🛩🛩
ต้องบอกว่าที่ตัดสินใจดูหนังเรื่องนี้ช้ากว่าปกติ เป็นเพราะว่า ผมแทบจะจำเนื้อเรื่องของ Top Gun ไม่ได้แล้ว เพราะหนังมันตั้งแต่ปี 1986 ซึ่งผมได้ดูไปรอบเดียวตอนที่เริ่มโตและเริ่มดูหนังม้วนวีดิโอ เลยทำให้ตัดสินใจว่า ขอกลับไปดูภาคแรกก่อนเพื่อจะได้อินกับภาคสองให้มากขึ้น เพราะด้วยกระแสของหนังที่ดีมากๆ แทบจะทุกคนที่ดูบอกเหมือนกันว่าหนังดีสุดๆ ก็เลยขอดูภาคแรกเพื่อเก็บรายละเอียดก่อนดีกว่า
🛩🛩🛩
เรื่องราวต่อเนื่องจากภาคแรก หลังจากรับราชการเป็นนักบินระดับท็อปของกองทัพเรือมานานกว่า 30 ปี พีท “มาเวอริค” มิทเชลล์ กลับมาสู่ที่ซึ่งเหมาะสมกับเขา เขากลับมาเป็นนักบินทดสอบผู้กล้าหาญและหลีกหนีจากความก้าวหน้าทางการงาน และเขาก็ได้กลับมาฝึกหน่วยท็อปกันเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในรูปแบบที่ยังไม่เคยมีนักบินที่ยังมีชีวิตอยู่เคยเห็นมาก่อน มาเวอริคต้องเผชิญหน้ากับเรือโทแบรดลีย์ แบรดชอว์ หรือ “รูสเตอร์” ลูกชายของเรือโทนิค แบรดชอว์ หรือ “กูส” เพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาต้องพบกับอนาคตที่ไม่แน่นอนและอดีตที่ตามหลอกหลอน มาเวอริคต้องเผชิญกับความกลัวที่ฝังลึกอยู่ และปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งภารกิจนี้ผู้ที่ได้รับเลือกให้ร่วมบินต้องเสียสละอย่างที่สุด
🛩🛩🛩
ต้องบอกว่าพอได้ดูภาคแรกมาก่อนแล้ว จะทำให้เราเข้าใจบริบทอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น เพราะหนังในภาคแรกจะบอกถึงตัวตนและนิสัยของ มาเวอริค ได้เป็นอย่างดี มาภาคนี้ตอนต้นเรื่องก็มีการแสดงให้เห็นถึงความบ้าระห่ำของเขาอยู่ ซึ่งถ้าได้ดูภาคแรกมา จะรู้เลยว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันคือความเป็นตัวตนที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วของชายคนนี้ และเรายังได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ระหว่าง มาเวอริค กับ รูสเตอร์ อีกด้วย ซึ่งภาคแรกจะทำให้เรามาดูภาคสองแล้วอินมากขึ้นอีกด้วย
🛩🛩🛩
ในช่วงแรก หนังเหมือนกับจะบอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ มาเวอริค เพื่อให้คนดูรู้จักชายคนนี้ให้มากที่สุด หรืออาจจะเป็นการย้อนอดีตรำลึกความเป็น มาเวอริค ของหนัง ในรูปแบบของคนแก่ที่เริ่มจะถูกมองข้าม แต่เมื่อ มาเวอริค ได้รับหน้าที่เป็นครูฝึกของทีม หนังก็ใช้ความเป็น coming of age ที่แสดงให้เห็นถึงความเติบโตของตัวละครทุกตัว และการผสมผสานกันระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ที่จะมีการส่งไม้ต่อกันอีกด้วย
🛩🛩🛩
ด้วยความที่ในภาคแรกหนังเรื่องนี้เป็นหนังต่อสู้อากาศยานที่มันส์มากในยุคนั้น ทั้งๆ ที่หนังไม่มีเทคโนโลยีที่จะสร้าง special effect อะไรมากมาย ยังเป็นหนังที่ครองใจคนดูมาได้หลายสิบปี พอมาถึงยุคนี้ ในยุคที่หนังสามารถใช้เทคโนโลยีสรรสร้างอะไรได้มากขึ้น ทำให้หนังมีฉากเด็ดๆ ที่เสริมเติมเข้ามาให้หนังมันส์และทะลุจุดเดือดได้มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ฉากแต่ละฉากที่ทำออกมา ทำให้คนดูดูไปลุ้นไม่ติดเบาะไปกับภารกิจต่างๆ บนเครื่องบินขับไล่ได้อย่างเมามันส์ที่สุด
🛩🛩🛩
สำหรับนักแสดง Tom Cruise เรื่องนี้ครบรสมาก แสดงออกถึงคนแก่ที่ยังมีไฟได้เป็นอย่างดี เรื่องนี้ถึงเฮียจะดูสูงอายุกว่าเรื่องที่ผ่านๆ มา แต่มันคือคาแรคเตอร์ของ มาเวอริค ที่กำลังจะปลดเกษียณแต่ใจยังไม่ยอมเกษียณได้อย่างเยี่ยมยอด ตัวละครสำคัญอีกคนที่ต้องพูดถึงคือ รูสเตอร์ ที่รับบทโดย Miles Teller เป็นตัวละครที่มาตอกย้ำปมในใจของ มาเวอริค ที่มันค้ำคออยู่ตลอดให้หนังมันกระอักกระอ่วนได้ดีมากๆ แล้วหนังก็ขมวดปมปัญาหนี้ด้วยบทสรุปที่ดีมากเช่นกัน ส่วนตัวละครอีกตัวที่ในภาคแรกเป็นตัวละครที่ถูกพูดถึงเยอะมากแต่ไม่เคยโผล่ออกมาคือ เพนนี ที่ในภาคแรกเหมือนเป็นคนที่ทำให้ทุกคนล้อเลียน มาเวอริค ว่าแอบกิน เพนนี ลูกสาวนายพลใหญ่มาแล้ว ซึ่งภาคนี้เธอโผล่มาเป็นตัวละครคีย์หลักที่ทำให้ มาเวอริค ที่กำลังถอดใจ กลับเข้าสู่สมรภูมิได้อีกครั้ง รับบทโดย Jennifer Connelly สาวสวยสุดๆ คนหนึ่งของวงการ
🛩🛩🛩
ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ เป็นภาคต่อที่สมบูรณ์มากๆ ของ Top Gun เพราะมีทั้งความมันส์ ความสนุก ความเท่ และปมดราม่าต่างๆ ที่ถูกผูกโยงมาจากภาคแรก และมาปิดจบที่ภาคนี้ ก็ไม่รู้ว่ามันอาจจะเป็นการส่งไม้ต่อให้ Top Gun รุ่นต่อไปรึเปล่า แต่ส่วนตัวผมว่า ให้จบแบบนี้เลยจะประทับใจแฟนๆ อย่างสุดๆ
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้