เรื่องเป็นแบบนี้ค่ะ
ที่ทำงานล่าสุดของเรา 2 ที่ เราออกด้วยพล็อตเรื่องเหมือนกัน ซึ่งอาจจะเป็นดวงด้วยไหมไม่รู้ค่ะ

เรื่องคือในที่ทำงานแต่ละแห่ง เราทำงานมาเกือบปีแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร แต่อยู่ดีๆก็โดนหัวหน้ายัดข้อหาเพื่อบีบออก โดยแจ้งว่าเราทำงานไม่ได้ (ถ้าทำงานไม่ได้จริง เราคงอยู่มาไม่ได้จนเกือบครบปี โดยปราศจากการใบเตือนใดๆ) เราพยายามหาแรงจูงใจของหัวหน้า ว่าเขามีส่วนตัวอะไรกับเรา เพื่อประนีประนอม รวมทั้งหาคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยแต่ไม่สำเร็จ ไม่ทราบจริงๆว่าแรงจูงใจบีบออกของหัวหน้าคืออะไรกันแน่ทั้ง2 บริษัท

เราไม่มีทางเลือกจึงเก็บหลักฐาน นำส่งผู้ใหญ่ในองค์กร สุดท้ายจึงโดนจ้างออกพร้อมเงินชดเชยค่ะ เราเข้าใจว่าสถานการณ์แบบนี้ถ้าไกล่เกลี่ยประณีประนอมไม่ได้ ก็ไม่แปลกที่จะจบแบบนี้ เนื่องจากหากจ้างผู้จัดการออก จะใช้เงินมากกว่า และหาคนใหม่มาทำงานยากกว่าจ้างพนักงานตัวเล็กๆออก ผู้ใหญ่ก็ให้เงินชดเชยเรียบร้อยเพราะเราไม่ได้ผิดอะไรค่ะ 

คนกลางของบริษัทล่าสุด ก็แนะนำให้เรารีบหางานใหม่ อย่างน้อยก็ได้เงินชดเชยแล้ว เขาก็ปลอบว่ามันคงเป็นดวง เป็นเรื่องของเคมีระหว่างบุคคล ซึ่งพวกพี่ๆคนกลางที่ช่วยไกล่เกลี่ยก็จะช่วยเป็น referee ให้เราเมื่อสมัครงานใหม่ค่ะ

แต่ปัญหาคือ เราจะตอบคำถามสัมภาษณ์งานใหม่ยังไงดีค่ะ บริษัทก่อนหน้าโดนจ้างออก ตกงาน 3 เดือน จึงได้ที่บริษัทล่าสุด 
ส่วนบริษัทล่าสุดก็โดนจ้างออกเหมือนเดิมอีก พล็อตเรื่องอย่างกับละคร ซวยซ้ำซวยซ้อน หาทางประนีประนอมไม่ได้ หาคนกลางมาช่วยคุยก็ประนีประนอมไม่ได้อีกค่ะ

เรามักจะเจอคำถามว่า ทำไมถึงออกจากงาน แล้วทำไมถึงออกมาก่อนที่เราจะได้งานใหม่ เราควรตอบความจริงดีไหมคะ หรือตอบว่าอะไรถึงจะดูดีทั้งเราและบริษัทคะ