เนื่องจากตอนแรกเล่าเรื่องยาวไปหน่อยครับ ขอย่อเรื่องทั้งหมดลงเหลือแค่นี้ละกันครับ
ย้ายมาเช่าบ้านใหม่ครับ เข้ามาปุ๊ปหลังบ้านย้ายเข้าพร้อมกัน ปาร์ตี้ตั้งแต่ 3 โมงถึงตี 4 ครับ สองวันติด วันที่สองนี่มีตีกันด้วย วิ่งไล่กันทั่วหมู่บ้าน
หลังจากวันนั้นก็ปาร์ตี้น้อยลงครับ เหลือประมาณสัปดาห์ละสองครั้ง แต่ก็ยาว 3 โมงถึงตี 4 ทุกรอบ แถมแทบทุกวัน ถึงเขาจะไม่ปาร์ตี้กันเขาก็ย่างอาหารทะเลกันตลอด พอสักประมาณสองโมงจะมีกลิ่นกุ้งฟุ้งเต็มบ้านละครับ
บ้านข้างๆ มีลูกชายน่าจะเรียนมอปลายครับ พอสักประมาณช่วงบ่ายเขาก็จะเริ่มเล่นเกมออนไลน์กับเพื่อนๆ พร้อมกับตะโกนด่าทอฝั่งตรงข้ามอย่างเมามันส์ เขาตะโกนด่าด้วยคำหยาบคายจำนวนมากเลยครับ ระดับเสียงแผดเต็มที่และเป็นแบบนั้นต่อเนื่องกว่าสามชั่วโมง จากนั้นก็จะเงียบไปสักชั่วโมงนึงแล้วก็มาตะโกนต่อ บางวันพีคๆ ตี 4 ตี 5 ยังโวยวายอยู่เลยครับ (คำที่ใช้หยาบคายระดับที่ฟังแล้วค่อนข้างรู้สึกแย่ครับ ถ้าอยากให้ยกตัวอย่างก็บอกได้นะครับ)
เรื่องพีคสุดคือ รปภ. ครับ บ้านผมอยู่หน้าหมู่บ้าน ติดข้างๆ ป้อมยามเลยครับผม
ลุงแกเป็น รปภ. กะเย็น-ดึก พอสักประมาณ 4 โมงเย็น แกจะมาพร้อมโน๊ตบุ๊คและลำโพง 5.1 จัดเต็ม แกตั้งลำโพงหันเข้าบ้านผมและเปิดเพลงหมอลำแบบเบสบูส ระดับเสียงสูงสุด ต่อเนื่องจนถึงทุ่มกว่าๆ ครับ โดยทำแบบนี้ทุกวันครับ
หลังจากนั้นก็จะต่อด้วยการเปิดมวย หรือไม่ก็ข่าวยาวตลอดทั้งคืน เสียงเบากว่าเพลงนะครับ แต่เปิดตอนกลางคืนอัดเข้าบ้านผมอยู่ดี เที่ยงคืนยังต้องมาฟังมวยอยู่เลยครับ
หลังจากนั้นสักประมาณตี 1 แกจะปิดข่าวปิดมวยแล้วลุกขึ้นเดินไปเดินมาครับ แกจะเริ่มทำท่าคอเอียงๆ หน่อยแล้วก็สะบัดหัวแรงเหมือนกระทิงขวิดอ่ะครับ แล้วก็ร้องฮุ้ย! ฮุ้ย! อยู่เป็นจังหวะ พร้อมกับเดินตบเท้าแรงๆ เหมือนทหารครับ (แกเป็นทหารเก่าด้วยครับ)
จุดที่สำคัญที่สุดคือ แกไม่ได้เดินตัวเปล่าครับ แกถือดาบยาวไว้ในมือแล้วควงไปมาครับผม เดินควงดาบข้างบ้านผมเลยครับ
ยาวไปจนถึงสักตี 4 แกก็จะเข้าไปนอนในป้อมครับ
คือเจอแบบนี้ว่าน่ากลัวแล้วนะครับ บางวันก็ถีบรั้วกั้นที่เอาไว้กันรถเข้าหมู่บ้านทั้งคืน บางวันก็ร้องตะโกนด่าโวยวายหยาบคายตอนตี 1 ตี 2 แบบงงๆ
ที่สำคัญคือ แกเขม่นครอบครัวผมมากครับ ตั้งแต่เจอหน้ากันวันแรก แกจ้องหน้า ไม่พูดไม่จา เวลาผมกับแม่ต้องเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อกรอกน้ำดื่ม แกก็ไม่เปิดรั้วให้ครับ ผมกับแม่ก็ต้องขี่มอเตอร์ไซต์เลาะขอบเข้าเอา แต่พอบ้านอื่นขี่มอไซต์ออกมาบ้าง แกเลื่อนให้แล้วยิ้มคุยกันสนุกสนานเลยครับ
ล่าสุดคือผมกับแม่กับน้องคุยกันครับ ประมาณตอนสองทุ่ม พูดตามตรงเลยครับว่าเสียงไม่ได้ดังเลย เสียงแบบพูดคุยกันธรรมดา อยู่ๆ ก็มีเสียงทุบเหล็กดังมาจากข้างบ้านครับ พอชะโงกหน้าไปดูก็เห็นแกเพิ่งกลับไปนั่ง ในมือถือมีดสปาต้าอยู่ แม่ผมก็ใจเสียครับ บอกว่าแกเอามีดมาเคาะรั้วข้างบ้านผม ผมก็ยังพยายามคิดในแง่ดีว่าน่าจะไม่ใช่หรอก เลยลงไปถามย่าที่นอนตรงหน้าต่างข้างบ้านชั้นล่างครับ แกบอกว่ามาทุบจริงครับ แต่แกไม่กล้าพูดอะไรใส่ไป
***
ผมคิดทางออกอยู่หลายอย่างเลยครับ ถ้าปลอดภัยสุดก็ย้ายบ้านครับ แต่มันไม่ง่ายเลยครับ เนื่องจากบ้านผมมีของเยอะมาก (ขยะของย่ากับยายล้วนๆ ครับ แต่ทิ้งไม่ได้ แกหวง) และที่สำคัญที่สุดคือ เงินครับ ไม่มีเงินเลยครับ ถ้าย้ายออกตอนนี้ก็ไม่ได้เงินประกันคืน เงินที่จะไปวางล่วงหน้าเช่าบ้านใหม่ก็ไม่มี ค่าขนย้ายอีก ตอนนี้เลยได้แต่ทนและหวังว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นจนครบปีนะครับ จะได้หมดสัญญาแล้วย้ายออก
เคยคิดจะแจ้งนิติครับ แต่บอกเลยว่าไม่ได้ผลแน่นอน เห็นแกเป็น รปภ. (ไม่ได้ดูถูกอาชีพนะครับ) แต่อำนาจแกค้ำทั้งหมู่บ้านเลยครับ แกคุมแทบทุกธุรกิจในหมู่บ้านเอาไว้หมดเลยครับ ทุกการซ่อม ทุกการเช่า/ซื้อ ต้องผ่านแกและแกก็ได้เงินนายหน้า ได้เปอร์เซนต์ทุกงานครับ อำนาจแกที่ถึงขนาดแกไปต่อว่าประธานหมู่บ้านครับ ว่ามีงานซ่อมนึงไม่ผ่านแก ประธานหมู่บ้านเลยต้องจ่ายเงินให้แกเรื่องจะได้จบ คนระดับที่คุมประธานหมู่ได้ก็ไม่น่าจะให้นิติช่วยอะไรได้แล้วล่ะครับ
**ช่วงแรกๆ ที่เข้ามาอยู่ พ่อผมจะลงไปขอให้ลดเสียง แต่ก็ต้องคอตกกลับมาครับ แกไม่กล้าครับเนื่องจากไปเห็นคาตาเลยครับ ลุงยามแกกำลังเจาะลมยางรถยนตร์ของลูกบ้านในหมู่บ้าน เพราะมาจอดทับที่จอดรถแก ทั้งๆ ที่ตรงนั้นก็คือถนนของหมู่บ้านครับ ไม่ได้เป็นอะไรของแกเลยสักนิด
**อีกรอบก็คือตอนที่ทำกับข้าวอยู่หลังบ้านแล้วเห็นแกนั่งลับดาบลับมีดอยู่กลางถนนเลยครับ แบบโจ่งแจ้งไม่ปิดบงปิดบังเลยครับว่ามีอาวุธ
เคยคิดจะแจ้งตำรวจเหมือนกันนะครับ แต่อยากขอถามทุกคนเหมือนกันครับ
"คิดว่าตำรวจจะช่วยอะไรคุณได้เหรอครับ?"
"ปัญหาเล็กๆ แค่นี้ เข้าไปคุยประนีประนอมเองก่อน ค่อยมาแจ้ง"
"จับไม่ได้หรอก เขามีมีดมีดาบ แต่เขายังไม่ได้ไปทำร้ายใคร"
...ครับผม
***
สุดท้ายนี้คือสรุปได้แบบนี้ครับ ผมเพิ่งได้รู้จากแม่ผมครับ ว่าตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามา แม่ผมไปได้ยินแกโทรคุยกับป้ายาม ที่ดูแลกะกลางวันของหมู่บ้านครับ ป้ายามแกเป็นเมียลุงยามคนนี้ และเป็นคนแนะนำให้ครอบครัวผมเช่าบ้านนี้ครับ แต่ประโยคที่ได้ยินลุงแกพูดก็คือ
"จะให้ใครมาเช่า ทำไมไม่ปรึกษากูก่อน!?" แกโวยวายด่าทอใส่ป้ายามใหญ่เลยครับ
สรุปก็คือ แกไม่พอใจตั้งแต่ผมย้ายเข้ามาอยู่แล้วครับ แล้วเหตุผลก็คงเกิดจาก (อันนี้เดานะครับ แต่ความเป็นไปได้สูงมาก)
บ้านหลังนี้ ป้ายามกับลุงยามแกแอบใช้อาศัยด้วยครับ วันแรกที่เข้ามาดูบ้าน ตู้เย็นถูกเสียบปลั๊คเปิดใช้งานเอาไว้และมีน้ำกับขนมนิดหน่อยแช่อยู่ครับ วันก่อนที่ย้ายเข้ามีคนเปิดไฟห้องน้ำชั้นบนทิ้งไว้ครับ โดยที่ผมและแม่ที่มาทำความสะอาดไม่ได้เปิดอย่างแน่นอน ป้ายามบอกว่าเป็นแม่บ้านมาใช้ห้องน้ำแล้วลืมปิด..
???
คือ มีแม่บ้านเข้ามาใช้ห้องน้ำบ้านผม ทั้งที่พวกเขาเข้ามาทำความสะอาดตั้งแต่สองวันก่อน และวันก่อนผมก็มาทำซ้ำ แต่หลังจากผมกลับไป ก็มีคนเข้าบ้านผมไปใช้ห้องน้ำอีก... นี่บ้านผมเป็นห้องน้ำสาธารณะเหรอครับเนี่ย?
ผมคิดว่าตัวป้า ไม่ก็ลุงยามเองนั่นแหละครับ เป็นคนใช้ แต่คิดว่าเป็นลุงยาม เพราะไม่งั้นป้าแกไม่น่าเป็นคนชี้เป้าและทักตั้งแต่แรกว่า ไฟห้องน้ำลืมปิดนะ
สุดท้ายนี้ถึงเรื่องที่พิมพ์มาจะเหมือนการเล่าสู่กันฟังมากกว่าคำถาม แต่ก็ขอฝากคำถามถึงความคิดเห็นของทุกคนไว้ด้วยนะครับ ถ้าเป็นทุกคนจะทำอย่างไร ส่วนถ้าเป็นผม อย่างที่บอกไปครับ รอหมดสัญญาเช่าผมก็ไปที่อื่นดีกว่าครับ คับใจอยู่ยากครับแถมรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยด้วย
รปภ. หมู่บ้านก่อกวน บ้านข้างหลังย่างกุ้งทั้งวัน บ้านข้างๆ เล่นเกมแหกปากทั้งคืน
ย้ายมาเช่าบ้านใหม่ครับ เข้ามาปุ๊ปหลังบ้านย้ายเข้าพร้อมกัน ปาร์ตี้ตั้งแต่ 3 โมงถึงตี 4 ครับ สองวันติด วันที่สองนี่มีตีกันด้วย วิ่งไล่กันทั่วหมู่บ้าน
หลังจากวันนั้นก็ปาร์ตี้น้อยลงครับ เหลือประมาณสัปดาห์ละสองครั้ง แต่ก็ยาว 3 โมงถึงตี 4 ทุกรอบ แถมแทบทุกวัน ถึงเขาจะไม่ปาร์ตี้กันเขาก็ย่างอาหารทะเลกันตลอด พอสักประมาณสองโมงจะมีกลิ่นกุ้งฟุ้งเต็มบ้านละครับ
บ้านข้างๆ มีลูกชายน่าจะเรียนมอปลายครับ พอสักประมาณช่วงบ่ายเขาก็จะเริ่มเล่นเกมออนไลน์กับเพื่อนๆ พร้อมกับตะโกนด่าทอฝั่งตรงข้ามอย่างเมามันส์ เขาตะโกนด่าด้วยคำหยาบคายจำนวนมากเลยครับ ระดับเสียงแผดเต็มที่และเป็นแบบนั้นต่อเนื่องกว่าสามชั่วโมง จากนั้นก็จะเงียบไปสักชั่วโมงนึงแล้วก็มาตะโกนต่อ บางวันพีคๆ ตี 4 ตี 5 ยังโวยวายอยู่เลยครับ (คำที่ใช้หยาบคายระดับที่ฟังแล้วค่อนข้างรู้สึกแย่ครับ ถ้าอยากให้ยกตัวอย่างก็บอกได้นะครับ)
เรื่องพีคสุดคือ รปภ. ครับ บ้านผมอยู่หน้าหมู่บ้าน ติดข้างๆ ป้อมยามเลยครับผม
ลุงแกเป็น รปภ. กะเย็น-ดึก พอสักประมาณ 4 โมงเย็น แกจะมาพร้อมโน๊ตบุ๊คและลำโพง 5.1 จัดเต็ม แกตั้งลำโพงหันเข้าบ้านผมและเปิดเพลงหมอลำแบบเบสบูส ระดับเสียงสูงสุด ต่อเนื่องจนถึงทุ่มกว่าๆ ครับ โดยทำแบบนี้ทุกวันครับ
หลังจากนั้นก็จะต่อด้วยการเปิดมวย หรือไม่ก็ข่าวยาวตลอดทั้งคืน เสียงเบากว่าเพลงนะครับ แต่เปิดตอนกลางคืนอัดเข้าบ้านผมอยู่ดี เที่ยงคืนยังต้องมาฟังมวยอยู่เลยครับ
หลังจากนั้นสักประมาณตี 1 แกจะปิดข่าวปิดมวยแล้วลุกขึ้นเดินไปเดินมาครับ แกจะเริ่มทำท่าคอเอียงๆ หน่อยแล้วก็สะบัดหัวแรงเหมือนกระทิงขวิดอ่ะครับ แล้วก็ร้องฮุ้ย! ฮุ้ย! อยู่เป็นจังหวะ พร้อมกับเดินตบเท้าแรงๆ เหมือนทหารครับ (แกเป็นทหารเก่าด้วยครับ)
จุดที่สำคัญที่สุดคือ แกไม่ได้เดินตัวเปล่าครับ แกถือดาบยาวไว้ในมือแล้วควงไปมาครับผม เดินควงดาบข้างบ้านผมเลยครับ
ยาวไปจนถึงสักตี 4 แกก็จะเข้าไปนอนในป้อมครับ
คือเจอแบบนี้ว่าน่ากลัวแล้วนะครับ บางวันก็ถีบรั้วกั้นที่เอาไว้กันรถเข้าหมู่บ้านทั้งคืน บางวันก็ร้องตะโกนด่าโวยวายหยาบคายตอนตี 1 ตี 2 แบบงงๆ
ที่สำคัญคือ แกเขม่นครอบครัวผมมากครับ ตั้งแต่เจอหน้ากันวันแรก แกจ้องหน้า ไม่พูดไม่จา เวลาผมกับแม่ต้องเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อกรอกน้ำดื่ม แกก็ไม่เปิดรั้วให้ครับ ผมกับแม่ก็ต้องขี่มอเตอร์ไซต์เลาะขอบเข้าเอา แต่พอบ้านอื่นขี่มอไซต์ออกมาบ้าง แกเลื่อนให้แล้วยิ้มคุยกันสนุกสนานเลยครับ
ล่าสุดคือผมกับแม่กับน้องคุยกันครับ ประมาณตอนสองทุ่ม พูดตามตรงเลยครับว่าเสียงไม่ได้ดังเลย เสียงแบบพูดคุยกันธรรมดา อยู่ๆ ก็มีเสียงทุบเหล็กดังมาจากข้างบ้านครับ พอชะโงกหน้าไปดูก็เห็นแกเพิ่งกลับไปนั่ง ในมือถือมีดสปาต้าอยู่ แม่ผมก็ใจเสียครับ บอกว่าแกเอามีดมาเคาะรั้วข้างบ้านผม ผมก็ยังพยายามคิดในแง่ดีว่าน่าจะไม่ใช่หรอก เลยลงไปถามย่าที่นอนตรงหน้าต่างข้างบ้านชั้นล่างครับ แกบอกว่ามาทุบจริงครับ แต่แกไม่กล้าพูดอะไรใส่ไป
***
ผมคิดทางออกอยู่หลายอย่างเลยครับ ถ้าปลอดภัยสุดก็ย้ายบ้านครับ แต่มันไม่ง่ายเลยครับ เนื่องจากบ้านผมมีของเยอะมาก (ขยะของย่ากับยายล้วนๆ ครับ แต่ทิ้งไม่ได้ แกหวง) และที่สำคัญที่สุดคือ เงินครับ ไม่มีเงินเลยครับ ถ้าย้ายออกตอนนี้ก็ไม่ได้เงินประกันคืน เงินที่จะไปวางล่วงหน้าเช่าบ้านใหม่ก็ไม่มี ค่าขนย้ายอีก ตอนนี้เลยได้แต่ทนและหวังว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นจนครบปีนะครับ จะได้หมดสัญญาแล้วย้ายออก
เคยคิดจะแจ้งนิติครับ แต่บอกเลยว่าไม่ได้ผลแน่นอน เห็นแกเป็น รปภ. (ไม่ได้ดูถูกอาชีพนะครับ) แต่อำนาจแกค้ำทั้งหมู่บ้านเลยครับ แกคุมแทบทุกธุรกิจในหมู่บ้านเอาไว้หมดเลยครับ ทุกการซ่อม ทุกการเช่า/ซื้อ ต้องผ่านแกและแกก็ได้เงินนายหน้า ได้เปอร์เซนต์ทุกงานครับ อำนาจแกที่ถึงขนาดแกไปต่อว่าประธานหมู่บ้านครับ ว่ามีงานซ่อมนึงไม่ผ่านแก ประธานหมู่บ้านเลยต้องจ่ายเงินให้แกเรื่องจะได้จบ คนระดับที่คุมประธานหมู่ได้ก็ไม่น่าจะให้นิติช่วยอะไรได้แล้วล่ะครับ
**ช่วงแรกๆ ที่เข้ามาอยู่ พ่อผมจะลงไปขอให้ลดเสียง แต่ก็ต้องคอตกกลับมาครับ แกไม่กล้าครับเนื่องจากไปเห็นคาตาเลยครับ ลุงยามแกกำลังเจาะลมยางรถยนตร์ของลูกบ้านในหมู่บ้าน เพราะมาจอดทับที่จอดรถแก ทั้งๆ ที่ตรงนั้นก็คือถนนของหมู่บ้านครับ ไม่ได้เป็นอะไรของแกเลยสักนิด
**อีกรอบก็คือตอนที่ทำกับข้าวอยู่หลังบ้านแล้วเห็นแกนั่งลับดาบลับมีดอยู่กลางถนนเลยครับ แบบโจ่งแจ้งไม่ปิดบงปิดบังเลยครับว่ามีอาวุธ
เคยคิดจะแจ้งตำรวจเหมือนกันนะครับ แต่อยากขอถามทุกคนเหมือนกันครับ
"คิดว่าตำรวจจะช่วยอะไรคุณได้เหรอครับ?"
"ปัญหาเล็กๆ แค่นี้ เข้าไปคุยประนีประนอมเองก่อน ค่อยมาแจ้ง"
"จับไม่ได้หรอก เขามีมีดมีดาบ แต่เขายังไม่ได้ไปทำร้ายใคร"
...ครับผม
***
สุดท้ายนี้คือสรุปได้แบบนี้ครับ ผมเพิ่งได้รู้จากแม่ผมครับ ว่าตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามา แม่ผมไปได้ยินแกโทรคุยกับป้ายาม ที่ดูแลกะกลางวันของหมู่บ้านครับ ป้ายามแกเป็นเมียลุงยามคนนี้ และเป็นคนแนะนำให้ครอบครัวผมเช่าบ้านนี้ครับ แต่ประโยคที่ได้ยินลุงแกพูดก็คือ
"จะให้ใครมาเช่า ทำไมไม่ปรึกษากูก่อน!?" แกโวยวายด่าทอใส่ป้ายามใหญ่เลยครับ
สรุปก็คือ แกไม่พอใจตั้งแต่ผมย้ายเข้ามาอยู่แล้วครับ แล้วเหตุผลก็คงเกิดจาก (อันนี้เดานะครับ แต่ความเป็นไปได้สูงมาก)
บ้านหลังนี้ ป้ายามกับลุงยามแกแอบใช้อาศัยด้วยครับ วันแรกที่เข้ามาดูบ้าน ตู้เย็นถูกเสียบปลั๊คเปิดใช้งานเอาไว้และมีน้ำกับขนมนิดหน่อยแช่อยู่ครับ วันก่อนที่ย้ายเข้ามีคนเปิดไฟห้องน้ำชั้นบนทิ้งไว้ครับ โดยที่ผมและแม่ที่มาทำความสะอาดไม่ได้เปิดอย่างแน่นอน ป้ายามบอกว่าเป็นแม่บ้านมาใช้ห้องน้ำแล้วลืมปิด..
???
คือ มีแม่บ้านเข้ามาใช้ห้องน้ำบ้านผม ทั้งที่พวกเขาเข้ามาทำความสะอาดตั้งแต่สองวันก่อน และวันก่อนผมก็มาทำซ้ำ แต่หลังจากผมกลับไป ก็มีคนเข้าบ้านผมไปใช้ห้องน้ำอีก... นี่บ้านผมเป็นห้องน้ำสาธารณะเหรอครับเนี่ย?
ผมคิดว่าตัวป้า ไม่ก็ลุงยามเองนั่นแหละครับ เป็นคนใช้ แต่คิดว่าเป็นลุงยาม เพราะไม่งั้นป้าแกไม่น่าเป็นคนชี้เป้าและทักตั้งแต่แรกว่า ไฟห้องน้ำลืมปิดนะ
สุดท้ายนี้ถึงเรื่องที่พิมพ์มาจะเหมือนการเล่าสู่กันฟังมากกว่าคำถาม แต่ก็ขอฝากคำถามถึงความคิดเห็นของทุกคนไว้ด้วยนะครับ ถ้าเป็นทุกคนจะทำอย่างไร ส่วนถ้าเป็นผม อย่างที่บอกไปครับ รอหมดสัญญาเช่าผมก็ไปที่อื่นดีกว่าครับ คับใจอยู่ยากครับแถมรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยด้วย