ผมซื้อบ้านเดี่ยวหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ถึงแม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะไกลจากที่ทำงานแต่ก็เลือกเพราะเข้าใจว่า การจัดสรร การดูแล แม้กระทั่งด้วยราคาบ้านจะคัดกรองผู้อยู่อาศัยได้ระดับหนึ่ง แต่ผิดคาด เพื่อนบ้านตรงกันข้าม ชอบสังสรรค์ หรือพาเพื่อนจากข้างนอกมาสังสรรค์ ตอนเข้ามาอยู่ครั้งแรกเคยมีกระทบกระทั่งกันมารอบหนึ่งแล้ว หลังจากนั้นเริ่มลดน้อยลง แต่ผ่านไปปีกว่าๆบรรยากาศแบบเดิมกลับมาอีกแล้ว
เมื่อคืนล่าสุด ไม่ทราบว่านั่งกินกันตั้งแต่เวลาไหน แต่ผมเลิกงานกลับถึงบ้านสองทุ่ม เห็นนั่งกินกันแล้ว ผมก็เฉยๆนะ พอสามทุ่ม ครึ่งก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเลิกลา ผมเข้าห้องนอน ย้ายไปนอนห้องนอนด้านหลัง แต่เสียงเพลงเสียงการคุยกันก็ยังดังเข้ามา นี้ขนาดผมเป็นที่หูมีปัญหา ผมหูตึง ยังเสียงดัง จนสี่ทุ่มสิบนาทีตัดสินใจ ขับรถออกไปแจ้ง รปภ.หมู่บ้านให้มาบอก 22.30 เขาเลยพากันเลิกลา สิ่งที่ผมอยากบอกเขา
1. ปัจจุบันผมใช้ชีวิตเพื่อให้ชีวิตสิ้นสุดตามรอบกรรมเวร ไม่มีเป้าหมายในชีวิตอื่น ไม่มีคนข้างหลังให้ห่วง ไม่มีลูกไม่มีเมีย กลัวที่สุดคือพอแก่ตัวมาจะกลายเป็นภาระคนอื่น พูดตรงๆๆคือ พร้อมตายได้ทุกเวลา
2. คือผมไม่ยอมติดคุก
3. จะให้ขายบ้านหนี แล้วทิ้งปัญหาให้คนอื่นมาเผชิญผมไม่ทำ
4. ถ้าผมพร้อมตายได้ทุกเวลา ทำไมไม่ยิงตัวตายไปเลยละ ตายคนเดียวผมไม่ทำ และ หนึ่งต่อหนึ่งผมไม่ทำ ไม่คุ้ม ถ้าหนึ่งต่อสามต่อสี่ผมทำ
5. ถ้ามีข่าวเหตุร้ายเกิดขึ้นไม่อยากให้ไปนำสืบถึงสาเหตุ ว่าสาเหตุคืออะไร สาเหตุทั้งหมดมาจากความไม่รู้จักเกรงใจผู้อื่น
6. ถ้าจะไปบอกตรงๆๆว่าสิ่งที่พวกคุณทำ มันเป็นสาเหตุที่จะเร่งปฎิกิริยา ทางความคิดผมเร็วขึ้น ก็จะหาว่าผมขู่ แต่ถ้าไม่บอกเลย ก็จะหาว่าผมอำมหิต
ปัญหานี้แก้ไขได้ง่ายมาก
1. ต้องรู้จักขอบเขตเวลา
2. ถ้าคิดว่ากินแล้วติดลม ก็แค่ย้ายกันเข้าไปนั่งกินภายในบ้าน ปิดประตูบ้าน ก็จะลดเสียงลงได้ ต่อให้จะกินยันเช้าก็ไม่มีใครว่า ไม่ใช่มานั่งกินนอกบ้านริมรั้วให้เสียงไปรบกวนเพื่อนบ้าน
3. ถ้ารู้จักคำว่า " เกรงใจคนอื่น "
""""ทุกคนกำลังเดินสู่ความตายกันทุกคนจะช้าหรือเร็ว แค่ผมต้องการช่วงเวลาที่เดินหาความตายด้วยความสุขสงบ แต่เมื่อพยายามให้ชีวิตมันเดินตามรอบไม่ได้ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดแล้วละ
บางคนอาจจะบอกว่าผมโชคร้ายที่ได้เพื่อนบ้านไม่ดี แต่ผมจะบอกว่า ถ้าเขารู้ความคิดของผม เขาโชคร้ายกว่าผมพันๆเท่าที่มาได้คนบ้าที่พร้อมตายแบบผมเป็นเพื่อนบ้าน ................""""
เราจะมีวิธีเตือนเพื่อนบ้านให้รู้ตัวได้อย่างไรว่า การกระทำของเขาที่ชอบสังสรรค์เสียงดังรบกวน จนลิมิตเราถึงขีดสุดแล้ว
เมื่อคืนล่าสุด ไม่ทราบว่านั่งกินกันตั้งแต่เวลาไหน แต่ผมเลิกงานกลับถึงบ้านสองทุ่ม เห็นนั่งกินกันแล้ว ผมก็เฉยๆนะ พอสามทุ่ม ครึ่งก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเลิกลา ผมเข้าห้องนอน ย้ายไปนอนห้องนอนด้านหลัง แต่เสียงเพลงเสียงการคุยกันก็ยังดังเข้ามา นี้ขนาดผมเป็นที่หูมีปัญหา ผมหูตึง ยังเสียงดัง จนสี่ทุ่มสิบนาทีตัดสินใจ ขับรถออกไปแจ้ง รปภ.หมู่บ้านให้มาบอก 22.30 เขาเลยพากันเลิกลา สิ่งที่ผมอยากบอกเขา
1. ปัจจุบันผมใช้ชีวิตเพื่อให้ชีวิตสิ้นสุดตามรอบกรรมเวร ไม่มีเป้าหมายในชีวิตอื่น ไม่มีคนข้างหลังให้ห่วง ไม่มีลูกไม่มีเมีย กลัวที่สุดคือพอแก่ตัวมาจะกลายเป็นภาระคนอื่น พูดตรงๆๆคือ พร้อมตายได้ทุกเวลา
2. คือผมไม่ยอมติดคุก
3. จะให้ขายบ้านหนี แล้วทิ้งปัญหาให้คนอื่นมาเผชิญผมไม่ทำ
4. ถ้าผมพร้อมตายได้ทุกเวลา ทำไมไม่ยิงตัวตายไปเลยละ ตายคนเดียวผมไม่ทำ และ หนึ่งต่อหนึ่งผมไม่ทำ ไม่คุ้ม ถ้าหนึ่งต่อสามต่อสี่ผมทำ
5. ถ้ามีข่าวเหตุร้ายเกิดขึ้นไม่อยากให้ไปนำสืบถึงสาเหตุ ว่าสาเหตุคืออะไร สาเหตุทั้งหมดมาจากความไม่รู้จักเกรงใจผู้อื่น
6. ถ้าจะไปบอกตรงๆๆว่าสิ่งที่พวกคุณทำ มันเป็นสาเหตุที่จะเร่งปฎิกิริยา ทางความคิดผมเร็วขึ้น ก็จะหาว่าผมขู่ แต่ถ้าไม่บอกเลย ก็จะหาว่าผมอำมหิต
ปัญหานี้แก้ไขได้ง่ายมาก
1. ต้องรู้จักขอบเขตเวลา
2. ถ้าคิดว่ากินแล้วติดลม ก็แค่ย้ายกันเข้าไปนั่งกินภายในบ้าน ปิดประตูบ้าน ก็จะลดเสียงลงได้ ต่อให้จะกินยันเช้าก็ไม่มีใครว่า ไม่ใช่มานั่งกินนอกบ้านริมรั้วให้เสียงไปรบกวนเพื่อนบ้าน
3. ถ้ารู้จักคำว่า " เกรงใจคนอื่น "
""""ทุกคนกำลังเดินสู่ความตายกันทุกคนจะช้าหรือเร็ว แค่ผมต้องการช่วงเวลาที่เดินหาความตายด้วยความสุขสงบ แต่เมื่อพยายามให้ชีวิตมันเดินตามรอบไม่ได้ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดแล้วละ
บางคนอาจจะบอกว่าผมโชคร้ายที่ได้เพื่อนบ้านไม่ดี แต่ผมจะบอกว่า ถ้าเขารู้ความคิดของผม เขาโชคร้ายกว่าผมพันๆเท่าที่มาได้คนบ้าที่พร้อมตายแบบผมเป็นเพื่อนบ้าน ................""""