ดับโคตรสมิงทมิฬ
ล. วิลิศมาหรา
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือโคตรสมิงยังมีเสือทะยานเมฆ
ธงชัยต้องเตรียมตัวรับมือกับอุทัยในเวลาอันจำกัด เขาหมั่นฝึกปรือฝีมือการต่อสู้ เรียกความแข็งแกร่งของร่างกายให้กลับคืนมา รวมทั้งเรียนวิชากำลังเสือ พร้อมกันกับวิชาเสือทะยานเมฆ มีลุงเยี่ยมเป็นคนคอยสอนวิชาให้ โดยมีโทนเป็นคู่ซ้อมมือ ส่วนไพรรับหน้าที่คอยดูแลเรื่องอาหารการกิน
“เสียดายที่ข้าไม่อาจจะใช้วิชาเสือทะยานเมฆได้ จึงต้องรบกวนเจ้าให้ทำแทน หากเจ้าคิดว่าตัวเองพร้อมเมื่อไหร่ ก็ทดลองใช้กับเจ้าโทนดู” ลุงเยี่ยมบอกแก่ธงชัยในวันหนึ่ง แต่เขาก็ยังไม่กล้าทดลองใช้ เพราะความกลัวในวิชา และกลัวว่าจะพลั้งมือไปทำร้ายโทนเข้า
“ไม่เป็นไร เอาไว้ถึงคราวต้องใช้ เอ็งก็ต้องใช้มันอยู่ดี”
โทนตบบ่าเพื่อนอย่างเข้าใจ หลายวันที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ธงชัยและโทนก็กลายเป็นเพื่อนกันไป และธงชัยสังเกตเห็นอีกว่าสามพ่อลูกหลีกเลี่ยงที่จะล่าสัตว์ใหญ่มาเป็นอาหาร โดยเฉพาะไพรที่แทบจะไม่แตะต้องเนื้อสัตว์เลย เธอบอกเหตุผลกับเขาว่า
“ข้าต้องการจะกลับไปเป็นคนโดยสมบูรณ์ แต่ข้าก็ต้องฆ่าคนในถ้ำไปหลายคน ทำให้เป้าหมายของข้าต้องห่างไกลออกไปอีก”
“คนพวกนั้นมันเป็นคนเลว พวกมันสมควรตายแล้วล่ะ” ธงชัยพูดปลอบเธอ
“ชีวิตคนเราเมื่อเกิดมาแล้ว ไม่มีใครสมควรจะถูกฆ่าตายทั้งนั้นแหละ เพราะเราเป็นสัตว์ที่ประเสริฐกว่าสัตว์อื่น และเราไม่ได้ต้องการชีวิตพวกเดียวกันมาเป็นอาหาร เพื่อต่อชีวิตตัวเองให้ยาวนานสืบไป การฆ่ากันจึงไม่ควรจะเกิดขึ้น นอกจากเป็นการป้องกันตัว เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายมาทำร้ายเรา” ไพรพูดอย่างน่าสนใจ
“ก็ใช่น่ะสิ ผมเห็นว่าที่พวกคุณทำลงไป มันเป็นการป้องกันตัวนั่นแหละ และเพื่อช่วยเหลือผมด้วย”
ไพรยิ้มให้ชายหนุ่ม เธอรู้ว่าเขาพยายามพูดปลอบใจเธอ
“ขอบใจที่เจ้าเข้าใจพวกเรา แต่ก็อย่างที่บอก หากเป็นไปได้ข้าก็ไม่อยากฆ่าใครทั้งสิ้น” ขณะที่สองหนุ่มสาวกำลังพูดจากันอยู่นั้น ลุงเยี่ยมก็เดินเข้ามาบอกกับธงชัยว่า
“คืนนี้เราสามคนจะกลายเป็นเสือ เพราะกลิ่นตัวของเอ็งมันไปกระตุ้นความเป็นเสือของเรา ขณะที่เราเป็นเสืออยู่ เราจะไม่รับรู้ถึงมิตรภาพระหว่างเอ็งกับพวกเรา กลิ่นเนื้อของมนุษย์มีแต่จะเร่งให้เรากระหาย เอ็งเห็นต้นไม้ตันนั้นไหม”
ลุงเยี่ยมชี้ไปทางต้นประดู่ใหญ่ข้างกระท่อม
“คาคบของต้นนั้น เสือมันจะกระโจนขึ้นไปไม่ถึง แต่หากมันยังดื้อดึงจะไต่ขึ้นไปกินเอ็งให้ได้ ให้เอ็งใช้ตะกรุดยันต์กันเสือสมิงเส้นนี้ ผูกไว้ที่ปลายกระบอกปืน แล้วทิ่มลงไป เสือมันก็จะร่วงลงไปเอง ตัวข้าขณะเป็นเสือ ยังพอจะมีสติหลงเหลือห้ามปรามลูก ๆ ได้อยู่ เมื่อใกล้ฟ้าสาง พวกข้าถึงจะกลายร่างเป็นมนุษย์ดังเดิม แต่เอ็งจะลองวิชาเสือทะยานเมฆ ขึ้นเหยียบหัวเสือดูก็ได้นะ ข้าอนุญาต แต่ระวังอย่าพลาดให้เสือมันกระโดดตะปบเอาได้ก็แล้วกัน”
ลุงเยี่ยมพูดขำ ๆ ธงชัยยิ้มเจื่อน แม้จะสักยันต์และเรียนวิชากำลังเสือ พร้อมวิชาเสือทะยานเมฆมาเรียบร้อยแล้ว เขาก็ยังใจไม่กล้าพอจะทดลองวิชาอยู่ดี
ธงชัยจะสามารถนำวิชาที่เรียนมาจากลุงเยี่ยมสู้กับโคตรสมิงอย่างอุทัยได้หรือไม่ ติดตามตอนจบได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ
https://youtu.be/aRlfQhsDs_I
ดับโคตรสมิงทมิฬ
ธงชัยต้องเตรียมตัวรับมือกับอุทัยในเวลาอันจำกัด เขาหมั่นฝึกปรือฝีมือการต่อสู้ เรียกความแข็งแกร่งของร่างกายให้กลับคืนมา รวมทั้งเรียนวิชากำลังเสือ พร้อมกันกับวิชาเสือทะยานเมฆ มีลุงเยี่ยมเป็นคนคอยสอนวิชาให้ โดยมีโทนเป็นคู่ซ้อมมือ ส่วนไพรรับหน้าที่คอยดูแลเรื่องอาหารการกิน
“เสียดายที่ข้าไม่อาจจะใช้วิชาเสือทะยานเมฆได้ จึงต้องรบกวนเจ้าให้ทำแทน หากเจ้าคิดว่าตัวเองพร้อมเมื่อไหร่ ก็ทดลองใช้กับเจ้าโทนดู” ลุงเยี่ยมบอกแก่ธงชัยในวันหนึ่ง แต่เขาก็ยังไม่กล้าทดลองใช้ เพราะความกลัวในวิชา และกลัวว่าจะพลั้งมือไปทำร้ายโทนเข้า
“ไม่เป็นไร เอาไว้ถึงคราวต้องใช้ เอ็งก็ต้องใช้มันอยู่ดี”
โทนตบบ่าเพื่อนอย่างเข้าใจ หลายวันที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ธงชัยและโทนก็กลายเป็นเพื่อนกันไป และธงชัยสังเกตเห็นอีกว่าสามพ่อลูกหลีกเลี่ยงที่จะล่าสัตว์ใหญ่มาเป็นอาหาร โดยเฉพาะไพรที่แทบจะไม่แตะต้องเนื้อสัตว์เลย เธอบอกเหตุผลกับเขาว่า
“ข้าต้องการจะกลับไปเป็นคนโดยสมบูรณ์ แต่ข้าก็ต้องฆ่าคนในถ้ำไปหลายคน ทำให้เป้าหมายของข้าต้องห่างไกลออกไปอีก”
“คนพวกนั้นมันเป็นคนเลว พวกมันสมควรตายแล้วล่ะ” ธงชัยพูดปลอบเธอ
“ชีวิตคนเราเมื่อเกิดมาแล้ว ไม่มีใครสมควรจะถูกฆ่าตายทั้งนั้นแหละ เพราะเราเป็นสัตว์ที่ประเสริฐกว่าสัตว์อื่น และเราไม่ได้ต้องการชีวิตพวกเดียวกันมาเป็นอาหาร เพื่อต่อชีวิตตัวเองให้ยาวนานสืบไป การฆ่ากันจึงไม่ควรจะเกิดขึ้น นอกจากเป็นการป้องกันตัว เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายมาทำร้ายเรา” ไพรพูดอย่างน่าสนใจ
“ก็ใช่น่ะสิ ผมเห็นว่าที่พวกคุณทำลงไป มันเป็นการป้องกันตัวนั่นแหละ และเพื่อช่วยเหลือผมด้วย”
ไพรยิ้มให้ชายหนุ่ม เธอรู้ว่าเขาพยายามพูดปลอบใจเธอ
“ขอบใจที่เจ้าเข้าใจพวกเรา แต่ก็อย่างที่บอก หากเป็นไปได้ข้าก็ไม่อยากฆ่าใครทั้งสิ้น” ขณะที่สองหนุ่มสาวกำลังพูดจากันอยู่นั้น ลุงเยี่ยมก็เดินเข้ามาบอกกับธงชัยว่า
“คืนนี้เราสามคนจะกลายเป็นเสือ เพราะกลิ่นตัวของเอ็งมันไปกระตุ้นความเป็นเสือของเรา ขณะที่เราเป็นเสืออยู่ เราจะไม่รับรู้ถึงมิตรภาพระหว่างเอ็งกับพวกเรา กลิ่นเนื้อของมนุษย์มีแต่จะเร่งให้เรากระหาย เอ็งเห็นต้นไม้ตันนั้นไหม”
ลุงเยี่ยมชี้ไปทางต้นประดู่ใหญ่ข้างกระท่อม
“คาคบของต้นนั้น เสือมันจะกระโจนขึ้นไปไม่ถึง แต่หากมันยังดื้อดึงจะไต่ขึ้นไปกินเอ็งให้ได้ ให้เอ็งใช้ตะกรุดยันต์กันเสือสมิงเส้นนี้ ผูกไว้ที่ปลายกระบอกปืน แล้วทิ่มลงไป เสือมันก็จะร่วงลงไปเอง ตัวข้าขณะเป็นเสือ ยังพอจะมีสติหลงเหลือห้ามปรามลูก ๆ ได้อยู่ เมื่อใกล้ฟ้าสาง พวกข้าถึงจะกลายร่างเป็นมนุษย์ดังเดิม แต่เอ็งจะลองวิชาเสือทะยานเมฆ ขึ้นเหยียบหัวเสือดูก็ได้นะ ข้าอนุญาต แต่ระวังอย่าพลาดให้เสือมันกระโดดตะปบเอาได้ก็แล้วกัน”
ลุงเยี่ยมพูดขำ ๆ ธงชัยยิ้มเจื่อน แม้จะสักยันต์และเรียนวิชากำลังเสือ พร้อมวิชาเสือทะยานเมฆมาเรียบร้อยแล้ว เขาก็ยังใจไม่กล้าพอจะทดลองวิชาอยู่ดี
ธงชัยจะสามารถนำวิชาที่เรียนมาจากลุงเยี่ยมสู้กับโคตรสมิงอย่างอุทัยได้หรือไม่ ติดตามตอนจบได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ https://youtu.be/aRlfQhsDs_I