คิดว่า คนส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัดและไม่มีทะเบียนบ้านใน กทม ไม่สามารถลงคะแนนได้ สอดคล้องกับ ภาพของ คนที่มาทำงานโรงงาน ห้างร้านในกทม หรือแม้แต่ พนักงานบริการตามห้าง ที่ล้วนมาหางานทำใน กทม ทั้งสิ้น แต่ไม่ได้มีทะเบียนบ้านใน กทม
จุดสังเกตอีกอย่าง คือ สังเกตได้จาก ช่วงเวลาสงกรานต์ จะมีการเดินทางกลับ ตจว ครึ่งหนึ่งของคน ใน กทม ทั้งหมด มีผลให้ กรุงเทพ แทบจะเป็นแดนสวรรค์ของคน กทม ตัวจริง นั้นคือ กลุ่มคน ตจว ที่มาทำงาน ใน กทม และ ไม่มีทะเบียนบ้านใน กทม นั่นเองที่เดินทางกลับบ้านใน ตจว ซึ่งสอดคล้องกับย่อหน้าที่ 1
ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง ในช่วงสงกรานต์ มักจะนอนเล่นอยู่บ้าน ไม่เดินทางไปไหน หรือเดินห้าง ครึ่งหลัง นี่แหละ คือ คนที่มีทะเบียนบ้าน กทม และมีสิทธิเลือกผู้ว่า หากผู้สมัคร สามารถทำความเข้าใจ กลุ่มเป้าหมาย คนกทม ที่มีทะเบียนบ้านจริงๆ จะได้ประโยชน์มาก เพราะนั่นหมายถึงว่า เป้าหมายคะแนนเสียงตัวจริงเสียงจริง ล้วนๆ
กรุงเทพ เป็นเมืองที่โตเดี่ยว จึงเต็มไปด้วยประชากรแฝง เข้ามาหางานทำจำนวนมาก ต้องยอมรับว่า กรุงเทพ เป้นเมืองขนาดใหญ่ ที่ห่างจากเมืองชั้น 2-5 แบบหลายชั้นทีเดียว กรุงเทพ เป็นที่รวมของร้านค้า ห้าง ธุรกิจ และออฟฟิส สำนักงาน คนส่วนมากจะนิยมการแข่งขันการทำงาน เวลาเร่งรีบ ทำให้การใช้ชีวิตในกรุงเทพ สำหรับคน ตจว ที่ไม่ชินนัก จะรู้สึกว่า เป็นเมืองแห่งความวุ่นวาย คนไม่มีน้ำใจ เพราะทุกคน
สนใจเรื่องของตัวเองเท่านั้น และไม่ค่อยยอมเสียเวลากับคนอื่นที่ไม่รู้จัก นั่นเป็นเพราะว่า การอยู่ กรุงเทพ เวลามันสำคัญ และเป็นเงินเป็นทอง มากนั่นเอง
จุดสังเกตอีกอย่างว่า คนไหนเป็นคน กรุงเทพ แท้ ที่มีสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง นอกจากการเดินทางกลับ ตจว ในช่วงสงกรานต์, นิสัยชอบการแข่งขัน ความเร่งรีบเรื่องเวลา แล้ว ยังมีอีกจุดหนึ่งที่น่าสังเกตสำหรับ คน กรุงเทพ ที่มีทะเบียนบ้านใน กทม ก็คือ คนกรุงเทพ มักจะมีแนวโน้มของ
การไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่น มีนิสัยตัวใครตัวมัน แม้แต่ข้างบ้านกันก็ไม่เคยได้ทักทายกัน นั่นคือ นิสัยที่คน กรุงเทพ แท้ๆ เป็น
การเข้าถึง คนกรุงเทพ ของบรรดาผู้สมัคร ทั้งหลายที่กำลังหาเสียงเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม อยู่นั้น เป็นเรื่องไม่ง่ายเลย เพราะ
คนกรุงเทพแท้ๆ ส่วนใหญ่ มีแนวโน้มการเข้าถึงได้ยากอยู่แล้ว โดยทั้งนิสัยและพฤติกรรมที่ชอบความเป็นส่วนตัว ทำให้มีแนวโน้มว่า การเข้าถึงตัวผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม นั้น จะเป็นไปยากถึงยากมากทีเดียว เนื่องมาจาก คนกรุงเทพ มักไม่ค่อยแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา มีเล่ห์เหลี่ยม เนื่องจาก เป้นคนที่มีความรู้ การศึกษาสูง เข้าถึงข้อมูลทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง
ผมเคยไปเดินตลาดสดแห่งหนึ่งใน กทม มีรถหาเสียงของ ผู้สมัคร ผู้ว่า กทม พรรคส้ม มาจอดหาเสียงอยู่ ผมบอกได้ทันที ว่า กลุ่มเป้าหมายผิด 100%เลยครับ เพราะผมรู้จักพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนี้เป็นอย่างดี ผมรู้ว่า ในช่วงสงกรานต์ พ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้จะปิดร้าน กลับบ้าน ตจว กันหมด
แล้วคำถาม คือ คน กทม แท้ๆ 4 ล้านกว่าคน นั้นอยู่ที่ไหนกัน ?
บอกให้ก็ได้ คนกรุงเทพ อยู่ในห้างไง นิสัยคน กทม มีนิสัยหนึ่งที่ผมรู้ดี คือ ชอบทานอาหารในห้าง ส่วนใหญ่จะขับรถยนต์ส่วนตัวมาที่ห้าง มาเดินเล่นและทานอาหารไปด้วย ในช่วงเวลาราวๆ 2-3 ชั่วโมงก็กลับบ้านแล้ว หากคุณเห็นภาพ พ่อแม่ลูก ที่มาทานอาหารในห้างในเขต กรุงเทพ พร้อมกันเป็นครอบครัว เมื่อไหร่ นั่นคือ คนกทม แท้ๆเลยหละครับ ใครเข้าใจ นิสัยและพฤติกรรม คน กรุงเทพ ได้นี่ ผมเชื่อว่า ได้คะแนนเสียงเยอะเลย
ทำไม ผมรู้จัก คนกรุงเทพ ดีจังเลย ?
เหตุผลก็เพราะผมเป็นคนกรุงเทพ มาตั้งแต่เกิด ผมใช้ชีวิตในกรุงเทพมาโดยตลอด 30 กว่าปี และแทบไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ในจังหวัดอื่นเลย แม้มีช่วงหนึ่งที่ไปอยู่ต่างประเทศมาก็ตาม นิสัยแบบไหน คือ คนกรุงเทพ ผมรู้ดี ยิ่งกว่าใคร...
กรุงเทพ มีคนมากถึง 11 ล้านคน แต่มีคนมีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ได้แค่ 4 ล้านกว่าคน
จุดสังเกตอีกอย่าง คือ สังเกตได้จาก ช่วงเวลาสงกรานต์ จะมีการเดินทางกลับ ตจว ครึ่งหนึ่งของคน ใน กทม ทั้งหมด มีผลให้ กรุงเทพ แทบจะเป็นแดนสวรรค์ของคน กทม ตัวจริง นั้นคือ กลุ่มคน ตจว ที่มาทำงาน ใน กทม และ ไม่มีทะเบียนบ้านใน กทม นั่นเองที่เดินทางกลับบ้านใน ตจว ซึ่งสอดคล้องกับย่อหน้าที่ 1
ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง ในช่วงสงกรานต์ มักจะนอนเล่นอยู่บ้าน ไม่เดินทางไปไหน หรือเดินห้าง ครึ่งหลัง นี่แหละ คือ คนที่มีทะเบียนบ้าน กทม และมีสิทธิเลือกผู้ว่า หากผู้สมัคร สามารถทำความเข้าใจ กลุ่มเป้าหมาย คนกทม ที่มีทะเบียนบ้านจริงๆ จะได้ประโยชน์มาก เพราะนั่นหมายถึงว่า เป้าหมายคะแนนเสียงตัวจริงเสียงจริง ล้วนๆ
กรุงเทพ เป็นเมืองที่โตเดี่ยว จึงเต็มไปด้วยประชากรแฝง เข้ามาหางานทำจำนวนมาก ต้องยอมรับว่า กรุงเทพ เป้นเมืองขนาดใหญ่ ที่ห่างจากเมืองชั้น 2-5 แบบหลายชั้นทีเดียว กรุงเทพ เป็นที่รวมของร้านค้า ห้าง ธุรกิจ และออฟฟิส สำนักงาน คนส่วนมากจะนิยมการแข่งขันการทำงาน เวลาเร่งรีบ ทำให้การใช้ชีวิตในกรุงเทพ สำหรับคน ตจว ที่ไม่ชินนัก จะรู้สึกว่า เป็นเมืองแห่งความวุ่นวาย คนไม่มีน้ำใจ เพราะทุกคน สนใจเรื่องของตัวเองเท่านั้น และไม่ค่อยยอมเสียเวลากับคนอื่นที่ไม่รู้จัก นั่นเป็นเพราะว่า การอยู่ กรุงเทพ เวลามันสำคัญ และเป็นเงินเป็นทอง มากนั่นเอง
จุดสังเกตอีกอย่างว่า คนไหนเป็นคน กรุงเทพ แท้ ที่มีสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง นอกจากการเดินทางกลับ ตจว ในช่วงสงกรานต์, นิสัยชอบการแข่งขัน ความเร่งรีบเรื่องเวลา แล้ว ยังมีอีกจุดหนึ่งที่น่าสังเกตสำหรับ คน กรุงเทพ ที่มีทะเบียนบ้านใน กทม ก็คือ คนกรุงเทพ มักจะมีแนวโน้มของการไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่น มีนิสัยตัวใครตัวมัน แม้แต่ข้างบ้านกันก็ไม่เคยได้ทักทายกัน นั่นคือ นิสัยที่คน กรุงเทพ แท้ๆ เป็น
การเข้าถึง คนกรุงเทพ ของบรรดาผู้สมัคร ทั้งหลายที่กำลังหาเสียงเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม อยู่นั้น เป็นเรื่องไม่ง่ายเลย เพราะ คนกรุงเทพแท้ๆ ส่วนใหญ่ มีแนวโน้มการเข้าถึงได้ยากอยู่แล้ว โดยทั้งนิสัยและพฤติกรรมที่ชอบความเป็นส่วนตัว ทำให้มีแนวโน้มว่า การเข้าถึงตัวผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม นั้น จะเป็นไปยากถึงยากมากทีเดียว เนื่องมาจาก คนกรุงเทพ มักไม่ค่อยแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา มีเล่ห์เหลี่ยม เนื่องจาก เป้นคนที่มีความรู้ การศึกษาสูง เข้าถึงข้อมูลทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง
ผมเคยไปเดินตลาดสดแห่งหนึ่งใน กทม มีรถหาเสียงของ ผู้สมัคร ผู้ว่า กทม พรรคส้ม มาจอดหาเสียงอยู่ ผมบอกได้ทันที ว่า กลุ่มเป้าหมายผิด 100%เลยครับ เพราะผมรู้จักพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนี้เป็นอย่างดี ผมรู้ว่า ในช่วงสงกรานต์ พ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้จะปิดร้าน กลับบ้าน ตจว กันหมด
แล้วคำถาม คือ คน กทม แท้ๆ 4 ล้านกว่าคน นั้นอยู่ที่ไหนกัน ?
บอกให้ก็ได้ คนกรุงเทพ อยู่ในห้างไง นิสัยคน กทม มีนิสัยหนึ่งที่ผมรู้ดี คือ ชอบทานอาหารในห้าง ส่วนใหญ่จะขับรถยนต์ส่วนตัวมาที่ห้าง มาเดินเล่นและทานอาหารไปด้วย ในช่วงเวลาราวๆ 2-3 ชั่วโมงก็กลับบ้านแล้ว หากคุณเห็นภาพ พ่อแม่ลูก ที่มาทานอาหารในห้างในเขต กรุงเทพ พร้อมกันเป็นครอบครัว เมื่อไหร่ นั่นคือ คนกทม แท้ๆเลยหละครับ ใครเข้าใจ นิสัยและพฤติกรรม คน กรุงเทพ ได้นี่ ผมเชื่อว่า ได้คะแนนเสียงเยอะเลย
ทำไม ผมรู้จัก คนกรุงเทพ ดีจังเลย ?
เหตุผลก็เพราะผมเป็นคนกรุงเทพ มาตั้งแต่เกิด ผมใช้ชีวิตในกรุงเทพมาโดยตลอด 30 กว่าปี และแทบไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ในจังหวัดอื่นเลย แม้มีช่วงหนึ่งที่ไปอยู่ต่างประเทศมาก็ตาม นิสัยแบบไหน คือ คนกรุงเทพ ผมรู้ดี ยิ่งกว่าใคร...