ตอนก่อนหน้าตอนที่ 1
กัณฑ์ กาลิงครัฐ
กัณฑ์ บ้านขนมหวาน
เช้าวันต่อมาทั้งสี่พระองค์ออกเดินทางไปสู่เขาวงกตด้วยเกวียนที่องค์สีวิราชเตรียมให้ เมื่อ
ถึงบริเวณสระโบกขรณีอันเป็นพื้นที่ร่มรื่นมีพืชผลอุดมสมบูรณ์ พวกเขาก็ช่วยกันสร้างอาศรมหลัง
เล็ก ๆ โดยใช้ไม้ทำเป็นโครงแล้วมุงหลังคาด้วยใบไม้ขนาดใหญ่
หลังจากสี่พระองค์ค้างแรมได้เพียงคืนเดียวก็มีชาวบ้านจากแคว้นกาลิงคะและแคว้นมัททะ
ที่รู้ข่าว พากันมาขอทรัพย์สิน ของใช้ต่าง ๆ ไปคนละอย่างสองอย่าง จนเหลือแต่เพียงของใช้จำเป็น
เพื่อการยังชีพเท่านั้น
กลางดึกคืนหนึ่งพระนางมัทรีทรงพระสุบินว่า บนโต๊ะเสวยมีถาดซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องเมี่ยง
คำหลากชนิดจัดอยู่ในกระทงพร้อมด้วยน้ำราด พระองค์เห็นแล้วน้ำลายสอจึงใช้ช้อนตักส่วนผสม
ต่างๆ มาใส่ในใบชะพลูห่อได้สองชิ้น จากนั้นค่อยทยอยใส่เข้าปากอมโดยไม่ได้เคี้ยว ไม่นานนัก
ก็มือคู่หนึ่งยื่นเข้ามาง้างปากของเธอแล้วแย่งเอาเมี่ยงคำไป หญิงสาวพยายามเอื้อมมือทั้งสองไป
ไขว่คว้าแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย
วันต่อมามีหญิงชราคนหนึ่งมาแอบซุ่มดูหลังพุ่มไม้ใกล้กับที่พักของพระเวสสันดร
“เดี๋ยวฉันจะออกไปหาผลไม้นะพี่ ฝากดูแลลูกๆ ด้วยนะ” พระนางมัทรีกล่าวฝากฝังลูกทั้งสอง
ด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
“ได้จะ พี่จะดูแลเป็นอย่างดีไม่ต้องห่วงหรอก”
พอเธอเดินออกไปไกลแล้วหญิงแปลกหน้าค่อยเข้ามาหาราชบุตรและแสร้งพูดว่า
“พระเวสสันดรผู้มีน้ำใจอันประเสริฐ ดิฉันเห็นว่ามีผู้คนมากมายพากันมาขอสิ่งของต่างๆ จากพระองค์
มากมาย กรุณาประทานของให้แก่ดิฉันสักเล็กน้อยเถิดพระเจ้าค่ะ”
“เราให้ทรัพย์สินต่างๆ ไปมากจนไม่เหลืออันใดจะให้ใครแล้ว จะเหลือก็แต่ภรรยาและลูกทั้งสอง”
“ถ้าเช่นนั้นดิฉันขอบุตรธิดาของพระองค์ไปช่วยงานทำขนมที่บ้านของดิฉันได้หรือไม่เจ้าคะ”
พระองค์ตรองอยู่ก่อนเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “เราเองก็ไม่ขัดข้องอันใดหรอก แต่ลูกๆ
ทั้งสองของเราโตมาในพระราชวังสบายจนเคยตัว จะฝึกสอนให้ทำงานคงมิใช่เรื่องง่าย อีกอย่าง
ชายาของเราก็รักใคร่ทั้งสองดั่งแก้วตาดวงใจ หากเราให้ไปโดยมิได้ไถ่ถามเสียก่อนคงจะไม่เหมาะสม”
“การประทานทรัพย์สินอันมีค่าทั้งหลายของพระองค์เป็นมหาทานอันยิ่งใหญ่ ดั่งมหานทีที่ไหลไป
สร้างความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์แก่ผู้คนมากมาย แต่หากท่านประทานพระโอรสพระธิดาอันเป็นที่รักก็จะยิ่ง
ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น ดั่งโลกทั้งใบที่มีแผ่นดินเจ็ดทวีป โอบล้อมไปด้วยมหาสมุทรทั้งสี่ถึงเจ็ดสิบเอ็ด
เปอร์เซนต์ของผิวโลก นอกจากนี้ยังห่อหุ้มด้วยชั้นบรรยากาศอีกห้าชั้น และยังมีสนามแม่เหล็กซึ่งช่วย
ป้องกันรังสีและอนุภาคหลายชนิดที่เป็นอันตรายต่อสรรพชีวิตบนโลก จำนวนสิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลกมีมาก
มายมากกว่าหนึ่งล้านห้าแสนชนิด นักชีววิทยาจึงแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ห้ากลุ่มอันได้แก่ มอเนอรา
โพรทิสตา ฟังไจ พืช และสัตว์”
พระเวสสันดรยังไม่มีท่าทีที่จะยกกุมารทั้งสองให้เธอจึงสาธยายต่อไปว่า “โลกนั้นมีความยาวรอบ
วงหนึ่งหมื่นสองพันเจ็ดร้อยห้าสิบเจ็บกิโลเมตร หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูงสุดที่บริเวณเส้นศูนย์
สูตรด้วยความเร็วหนึ่งพันเจ็ดร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงหรือหนึ่งวันต่อรอบ ขณะ
เดียวกันก็เคลื่อนที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยความเร็วสามสิบกิโลเมตรต่อวินาที ใช้เวลาสามร้อยหกสิบ
ห้าจุดสองห้าวันซึ่งก็คือหนึ่งปี”
ราชบุตรนั่งลงกับพื้น
“หากท่านประทานบุตรธิดาให้กับดิฉัน ผู้คนทั้งหลายจะสรรเสริญน้ำพระทัยของพระองค์ที่แสน
ยิ่งใหญ่ไพศาลมีรัศมีอันเจิดจ้าดังดวงอาทิตย์ แผ่ไปยังดวงดาวต่างๆ ตั้งแต่พุธ ศุกร์ โลก อังคาร
พฤหัสบดีและเสาร์ ให้สว่างไสวและอบอุ่น” เขายังคงเงียบเฉยหญิงชราเลยบรรยายต่อว่า “ต่อมาเมื่อ
วิทยาการพัฒนามากขึ้นก็ได้มีการค้นพบดาวยูเรนัส เนปจูน และพลูโต ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ชั้นนอก
ของระบบสุริยจักรวาล ทว่าหลังจากนั้นสหพันธ์ดาราศาสตร์สากลได้วิเคราะห์ลักษณะของดาวพลูโต
แล้วก็พบว่า มีคุณสมบัติบางอย่างที่ไม่สามารถจัดเป็นดาวเคราะห์ได้จึงถูกลงลำดับให้เป็นดาวเคราะห์
แคระ”
พระเวสสันดรเริ่มหาวด้วยความเบื่อหน่าย “พอเถอะแม่เฒ่าเราไม่อยากฟังท่านต่อไปแล้ว
เราจะยกลูกทั้งสองให้ก็ได้ แต่ของให้ลูกทั้งสองของเราได้มีโอกาสบอกลากับแม่ของพวกเขาก่อนเถิด”
“ไม่นานมานี้หลังจากศึกษาวงโคจรของดาวเคราะห์ต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น นักดาราศาสตร์
ค้นพบว่าวงโคจรที่เป็นวงรีของดาวเคราะห์ต่างๆ เมื่อนำมารวมกันแล้ว มีน้ำหนักเอนเอียงไปทางด้าน
หนึ่งของดวงอาทิตย์มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด หลายๆ คนจึงมีข้อสันนิษฐานที่ว่า ยังมีดาวเคราะห์อีก
อย่างน้อยหนึ่งดวงโคจรอยู่วงนอกนอกเหนือจากดาวพลูโตไปแล้ว ซึ่งดาวเคราะห์ที่เหลือที่ยังไม่ค้นพบ
นี้น่าจะมีมวลมากพอๆ กับดาวดวงอื่นๆ นำมารวมกัน”
ถึงแม้ว่าเขาจะลุกขึ้นเดินหนีไปแล้วแต่เธอก็ยังตามไม่ลดละ
“นอกจากระบบสุริยะของเราก็ยังมีระบบแบบเดียวกันอีกมากมาย ระบบสุริยะที่ใกล้เรามากที่สุด
คือพร็อกซีมาเซนทอรี่ซึ่งห่างออกไปประมาณสี่จุดสองปีแสง นั่นก็หมายถึงว่า ถึงแม้ว่าเราจะเดินทาง
ได้ด้วยความเร็วเท่ากับแสง คือสองร้อยเก้าสิบเก้าล้านเจ็ดแสนเก้าหมื่นสองพันสี่ร้อยห้าสิบแปดเมตร
ต่อวินาที ก็ยังต้องใช้เวลาถึงสี่จุดสองปีในการเดินทางไปถึงที่นั่น”
“ชาลี กัณหา พวกเธออยู่ไหนกันรีบออกมาเถิดพ่อทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว” ราชบุตรตะโกน
เสียงดังออกมา
ทันใดนั้นเด็กชายก็ปรากฏตัวออกมาจากพุ่มไม้ก่อนจะเอื้อมมือไปจูงมือน้องสาวของตนตามมา
ด้วย “กระผมยอมไปกับแม่เฒ่าแล้ว”
ด้วยชาลีเป็นผู้มีความกตัญญูรู้คุณของบิดาจึงได้ขอเสนอตัวช่วยเหลือแต่โดยดี แต่กัณหากลับ
กอดอกทำหน้างอด้วยความไม่พอใจและคิดขุ่นเคืองในใจว่า ‘ท่านพ่อยกเราให้คนอื่นเช่นนี้ได้อย่างไร
คงจะไม่รักเราแล้วกระมัง’
หญิงชราเห็นดังนั้นจึงหยิบคุกกี้ออกมาจากย่ามก่อนจะยื่นให้สองกุมาร “ยายมีขนมแสนอร่อย
ให้คนละชิ้นนะ”
เด็กชายรับมาทานอย่างว่าง่ายทว่าเด็กหญิงกลับเบือนหน้าหนี้ แม่เฒ่าจึงนำขนมชิ้นนั้นมาจ่อ
ที่หน้าของเธอหวังจะให้กินจงได้ “ลองทานสักหน่อยเถิดแม่หนู คุกกี้สูตรนี้เป็นสูตรพิเศษไม่เหมือน
ที่อื่นใดในปฐพี อร่อยมากๆ เลยนะ”
กัณหารู้สึกรำคาญที่หญิงแปลกหน้าคะยั้นคะยอไม่ยอมเลิก เลยใช้มือปัดมันอย่างแรงจนตกลง
สู่พื้นและแตกออกเสี่ยงๆ
หญิงชราเห็นอย่างนั้นก็โมโหสีหน้าเปลี่ยนเป็นดุดันในทันที เธอคว้าแขนข้างหนึ่งของเด็กน้อย
มาตีที่หลังมือ “นี่แน่นางเด็กดื้อ ให้ขนมแล้วไม่ยอมกินแถมยังทำเสีย ถ้าเช่นนี้ก็จงรีบไปกับเราเสียอย่า
ได้ชักช้า”
ตามติดชีวิตพระเวสสันดร (มหาเวสสันดรฉบับแฟนฟิค) กัณฑ์2 บ้านขนมหวาน
กัณฑ์ บ้านขนมหวาน
เช้าวันต่อมาทั้งสี่พระองค์ออกเดินทางไปสู่เขาวงกตด้วยเกวียนที่องค์สีวิราชเตรียมให้ เมื่อ
ถึงบริเวณสระโบกขรณีอันเป็นพื้นที่ร่มรื่นมีพืชผลอุดมสมบูรณ์ พวกเขาก็ช่วยกันสร้างอาศรมหลัง
เล็ก ๆ โดยใช้ไม้ทำเป็นโครงแล้วมุงหลังคาด้วยใบไม้ขนาดใหญ่
หลังจากสี่พระองค์ค้างแรมได้เพียงคืนเดียวก็มีชาวบ้านจากแคว้นกาลิงคะและแคว้นมัททะ
ที่รู้ข่าว พากันมาขอทรัพย์สิน ของใช้ต่าง ๆ ไปคนละอย่างสองอย่าง จนเหลือแต่เพียงของใช้จำเป็น
เพื่อการยังชีพเท่านั้น
กลางดึกคืนหนึ่งพระนางมัทรีทรงพระสุบินว่า บนโต๊ะเสวยมีถาดซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องเมี่ยง
คำหลากชนิดจัดอยู่ในกระทงพร้อมด้วยน้ำราด พระองค์เห็นแล้วน้ำลายสอจึงใช้ช้อนตักส่วนผสม
ต่างๆ มาใส่ในใบชะพลูห่อได้สองชิ้น จากนั้นค่อยทยอยใส่เข้าปากอมโดยไม่ได้เคี้ยว ไม่นานนัก
ก็มือคู่หนึ่งยื่นเข้ามาง้างปากของเธอแล้วแย่งเอาเมี่ยงคำไป หญิงสาวพยายามเอื้อมมือทั้งสองไป
ไขว่คว้าแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย
วันต่อมามีหญิงชราคนหนึ่งมาแอบซุ่มดูหลังพุ่มไม้ใกล้กับที่พักของพระเวสสันดร
“เดี๋ยวฉันจะออกไปหาผลไม้นะพี่ ฝากดูแลลูกๆ ด้วยนะ” พระนางมัทรีกล่าวฝากฝังลูกทั้งสอง
ด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
“ได้จะ พี่จะดูแลเป็นอย่างดีไม่ต้องห่วงหรอก”
พอเธอเดินออกไปไกลแล้วหญิงแปลกหน้าค่อยเข้ามาหาราชบุตรและแสร้งพูดว่า
“พระเวสสันดรผู้มีน้ำใจอันประเสริฐ ดิฉันเห็นว่ามีผู้คนมากมายพากันมาขอสิ่งของต่างๆ จากพระองค์
มากมาย กรุณาประทานของให้แก่ดิฉันสักเล็กน้อยเถิดพระเจ้าค่ะ”
“เราให้ทรัพย์สินต่างๆ ไปมากจนไม่เหลืออันใดจะให้ใครแล้ว จะเหลือก็แต่ภรรยาและลูกทั้งสอง”
“ถ้าเช่นนั้นดิฉันขอบุตรธิดาของพระองค์ไปช่วยงานทำขนมที่บ้านของดิฉันได้หรือไม่เจ้าคะ”
พระองค์ตรองอยู่ก่อนเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “เราเองก็ไม่ขัดข้องอันใดหรอก แต่ลูกๆ
ทั้งสองของเราโตมาในพระราชวังสบายจนเคยตัว จะฝึกสอนให้ทำงานคงมิใช่เรื่องง่าย อีกอย่าง
ชายาของเราก็รักใคร่ทั้งสองดั่งแก้วตาดวงใจ หากเราให้ไปโดยมิได้ไถ่ถามเสียก่อนคงจะไม่เหมาะสม”
“การประทานทรัพย์สินอันมีค่าทั้งหลายของพระองค์เป็นมหาทานอันยิ่งใหญ่ ดั่งมหานทีที่ไหลไป
สร้างความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์แก่ผู้คนมากมาย แต่หากท่านประทานพระโอรสพระธิดาอันเป็นที่รักก็จะยิ่ง
ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น ดั่งโลกทั้งใบที่มีแผ่นดินเจ็ดทวีป โอบล้อมไปด้วยมหาสมุทรทั้งสี่ถึงเจ็ดสิบเอ็ด
เปอร์เซนต์ของผิวโลก นอกจากนี้ยังห่อหุ้มด้วยชั้นบรรยากาศอีกห้าชั้น และยังมีสนามแม่เหล็กซึ่งช่วย
ป้องกันรังสีและอนุภาคหลายชนิดที่เป็นอันตรายต่อสรรพชีวิตบนโลก จำนวนสิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลกมีมาก
มายมากกว่าหนึ่งล้านห้าแสนชนิด นักชีววิทยาจึงแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ห้ากลุ่มอันได้แก่ มอเนอรา
โพรทิสตา ฟังไจ พืช และสัตว์”
พระเวสสันดรยังไม่มีท่าทีที่จะยกกุมารทั้งสองให้เธอจึงสาธยายต่อไปว่า “โลกนั้นมีความยาวรอบ
วงหนึ่งหมื่นสองพันเจ็ดร้อยห้าสิบเจ็บกิโลเมตร หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูงสุดที่บริเวณเส้นศูนย์
สูตรด้วยความเร็วหนึ่งพันเจ็ดร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงหรือหนึ่งวันต่อรอบ ขณะ
เดียวกันก็เคลื่อนที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยความเร็วสามสิบกิโลเมตรต่อวินาที ใช้เวลาสามร้อยหกสิบ
ห้าจุดสองห้าวันซึ่งก็คือหนึ่งปี”
ราชบุตรนั่งลงกับพื้น
“หากท่านประทานบุตรธิดาให้กับดิฉัน ผู้คนทั้งหลายจะสรรเสริญน้ำพระทัยของพระองค์ที่แสน
ยิ่งใหญ่ไพศาลมีรัศมีอันเจิดจ้าดังดวงอาทิตย์ แผ่ไปยังดวงดาวต่างๆ ตั้งแต่พุธ ศุกร์ โลก อังคาร
พฤหัสบดีและเสาร์ ให้สว่างไสวและอบอุ่น” เขายังคงเงียบเฉยหญิงชราเลยบรรยายต่อว่า “ต่อมาเมื่อ
วิทยาการพัฒนามากขึ้นก็ได้มีการค้นพบดาวยูเรนัส เนปจูน และพลูโต ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ชั้นนอก
ของระบบสุริยจักรวาล ทว่าหลังจากนั้นสหพันธ์ดาราศาสตร์สากลได้วิเคราะห์ลักษณะของดาวพลูโต
แล้วก็พบว่า มีคุณสมบัติบางอย่างที่ไม่สามารถจัดเป็นดาวเคราะห์ได้จึงถูกลงลำดับให้เป็นดาวเคราะห์
แคระ”
พระเวสสันดรเริ่มหาวด้วยความเบื่อหน่าย “พอเถอะแม่เฒ่าเราไม่อยากฟังท่านต่อไปแล้ว
เราจะยกลูกทั้งสองให้ก็ได้ แต่ของให้ลูกทั้งสองของเราได้มีโอกาสบอกลากับแม่ของพวกเขาก่อนเถิด”
“ไม่นานมานี้หลังจากศึกษาวงโคจรของดาวเคราะห์ต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น นักดาราศาสตร์
ค้นพบว่าวงโคจรที่เป็นวงรีของดาวเคราะห์ต่างๆ เมื่อนำมารวมกันแล้ว มีน้ำหนักเอนเอียงไปทางด้าน
หนึ่งของดวงอาทิตย์มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด หลายๆ คนจึงมีข้อสันนิษฐานที่ว่า ยังมีดาวเคราะห์อีก
อย่างน้อยหนึ่งดวงโคจรอยู่วงนอกนอกเหนือจากดาวพลูโตไปแล้ว ซึ่งดาวเคราะห์ที่เหลือที่ยังไม่ค้นพบ
นี้น่าจะมีมวลมากพอๆ กับดาวดวงอื่นๆ นำมารวมกัน”
ถึงแม้ว่าเขาจะลุกขึ้นเดินหนีไปแล้วแต่เธอก็ยังตามไม่ลดละ
“นอกจากระบบสุริยะของเราก็ยังมีระบบแบบเดียวกันอีกมากมาย ระบบสุริยะที่ใกล้เรามากที่สุด
คือพร็อกซีมาเซนทอรี่ซึ่งห่างออกไปประมาณสี่จุดสองปีแสง นั่นก็หมายถึงว่า ถึงแม้ว่าเราจะเดินทาง
ได้ด้วยความเร็วเท่ากับแสง คือสองร้อยเก้าสิบเก้าล้านเจ็ดแสนเก้าหมื่นสองพันสี่ร้อยห้าสิบแปดเมตร
ต่อวินาที ก็ยังต้องใช้เวลาถึงสี่จุดสองปีในการเดินทางไปถึงที่นั่น”
“ชาลี กัณหา พวกเธออยู่ไหนกันรีบออกมาเถิดพ่อทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว” ราชบุตรตะโกน
เสียงดังออกมา
ทันใดนั้นเด็กชายก็ปรากฏตัวออกมาจากพุ่มไม้ก่อนจะเอื้อมมือไปจูงมือน้องสาวของตนตามมา
ด้วย “กระผมยอมไปกับแม่เฒ่าแล้ว”
ด้วยชาลีเป็นผู้มีความกตัญญูรู้คุณของบิดาจึงได้ขอเสนอตัวช่วยเหลือแต่โดยดี แต่กัณหากลับ
กอดอกทำหน้างอด้วยความไม่พอใจและคิดขุ่นเคืองในใจว่า ‘ท่านพ่อยกเราให้คนอื่นเช่นนี้ได้อย่างไร
คงจะไม่รักเราแล้วกระมัง’
หญิงชราเห็นดังนั้นจึงหยิบคุกกี้ออกมาจากย่ามก่อนจะยื่นให้สองกุมาร “ยายมีขนมแสนอร่อย
ให้คนละชิ้นนะ”
เด็กชายรับมาทานอย่างว่าง่ายทว่าเด็กหญิงกลับเบือนหน้าหนี้ แม่เฒ่าจึงนำขนมชิ้นนั้นมาจ่อ
ที่หน้าของเธอหวังจะให้กินจงได้ “ลองทานสักหน่อยเถิดแม่หนู คุกกี้สูตรนี้เป็นสูตรพิเศษไม่เหมือน
ที่อื่นใดในปฐพี อร่อยมากๆ เลยนะ”
กัณหารู้สึกรำคาญที่หญิงแปลกหน้าคะยั้นคะยอไม่ยอมเลิก เลยใช้มือปัดมันอย่างแรงจนตกลง
สู่พื้นและแตกออกเสี่ยงๆ
หญิงชราเห็นอย่างนั้นก็โมโหสีหน้าเปลี่ยนเป็นดุดันในทันที เธอคว้าแขนข้างหนึ่งของเด็กน้อย
มาตีที่หลังมือ “นี่แน่นางเด็กดื้อ ให้ขนมแล้วไม่ยอมกินแถมยังทำเสีย ถ้าเช่นนี้ก็จงรีบไปกับเราเสียอย่า
ได้ชักช้า”