สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คุณเคยทำมาก่อนจริงๆเหรอครับ หรือชอบกินข้าวมันไก่มั้ย?
คิดจะ standardize ให้เหมือนกันทุกจาน แต่ความอร่อยข้าวมันไก่มันอยู่ที่การ customize ได้ บางคนชอบหนังบางคนไม่ชอบ บางคนไม่เอาเลือด ไม่เอาแตงกวา ฯลฯ
ลูกน้องคุณพูดถูกแล้ว แล้วเค้าทำงานมานานกว่าคุณเยอะ ควรให้เครดิตเขาหน่อย เรื่องอื่นคุณอาจจะเรียนสูงกว่า แต่เรื่องนี้คุณสู้เขาไมไ่ด้
จะบริหารคนต้องมีทักษะ คนไม่ใช่เครื่องจักร และร้านข้าวมันไก่ก็ไม่ใช่โรงงาน
บริหารดีๆคุมต้นทุนก็อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้อง micromanage ทุกระเบียดนิ้ว
คิดจะ standardize ให้เหมือนกันทุกจาน แต่ความอร่อยข้าวมันไก่มันอยู่ที่การ customize ได้ บางคนชอบหนังบางคนไม่ชอบ บางคนไม่เอาเลือด ไม่เอาแตงกวา ฯลฯ
ลูกน้องคุณพูดถูกแล้ว แล้วเค้าทำงานมานานกว่าคุณเยอะ ควรให้เครดิตเขาหน่อย เรื่องอื่นคุณอาจจะเรียนสูงกว่า แต่เรื่องนี้คุณสู้เขาไมไ่ด้
จะบริหารคนต้องมีทักษะ คนไม่ใช่เครื่องจักร และร้านข้าวมันไก่ก็ไม่ใช่โรงงาน
บริหารดีๆคุมต้นทุนก็อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้อง micromanage ทุกระเบียดนิ้ว
ความคิดเห็นที่ 2
ระบบใหม่ที่คุณวางแผน คือ ระบบข้าวกล่องครับ ไม่มีหน้าร้าน ลูกค้าโทรสั่งอย่างเดียว หรือ สั่งทาง App
แล้วเสื้อสีต่างๆรับข้าวมันไก่ไปส่งลูกค้า ไม่เหมาะกับลูกค้านั่งกินที่ร้าน หรือ ซื้อกลับบ้าน ก็ตามอย่างท่านด้านบอกไว้
ขายแบบเดิมๆ ผมเอากำไรต่ำสุดมาคิด 1500 บาท/วัน เดือนหนึ่งมี 30 วัน ปิดร้านอาทิตย์ละวัน เหลือ 26 วัน/เดือน
1500 x 26 กำไรเนาะๆแบบต่ำสุด ก็เกือบสี่หมื่นบาท/เดือน ไม่ต้องเฝ้าร้านยังมีเงินเข้ากระเป๋าขนาดนึ้ เป็นผม ผมไม่เปลี่ยนระบบครับ
กลยุทธ์การมัดใจลูกค้าทั้ง ขาประจำ ขาจร (ที่ลูกน้องคุณทำอยู่ทุกวัน) รวมถึงการซื้อใจลูกน้อง รวมๆในร้านคุณ คือ ศิลปะการทำธุรกิจ
ยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป .... ผมว่ามีหลายเรื่องที่คุณต้องเรียนรู้อีกนะ หากอยากเปิดร้านข้าวมันไก่
แล้วเสื้อสีต่างๆรับข้าวมันไก่ไปส่งลูกค้า ไม่เหมาะกับลูกค้านั่งกินที่ร้าน หรือ ซื้อกลับบ้าน ก็ตามอย่างท่านด้านบอกไว้
ขายแบบเดิมๆ ผมเอากำไรต่ำสุดมาคิด 1500 บาท/วัน เดือนหนึ่งมี 30 วัน ปิดร้านอาทิตย์ละวัน เหลือ 26 วัน/เดือน
1500 x 26 กำไรเนาะๆแบบต่ำสุด ก็เกือบสี่หมื่นบาท/เดือน ไม่ต้องเฝ้าร้านยังมีเงินเข้ากระเป๋าขนาดนึ้ เป็นผม ผมไม่เปลี่ยนระบบครับ
กลยุทธ์การมัดใจลูกค้าทั้ง ขาประจำ ขาจร (ที่ลูกน้องคุณทำอยู่ทุกวัน) รวมถึงการซื้อใจลูกน้อง รวมๆในร้านคุณ คือ ศิลปะการทำธุรกิจ
ยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป .... ผมว่ามีหลายเรื่องที่คุณต้องเรียนรู้อีกนะ หากอยากเปิดร้านข้าวมันไก่
แสดงความคิดเห็น
ญาติผู้ใหญ่เสียชีวิต ต้องดูแลร้านข้าวต่อ ลูกน้องเดิมทัศนคติไม่ตรง ติดภาพเดิม ไล่ไปหางานใหม่จะโหดไปไหม
เราเองก็ทำเป็นตอนวัยรุ่น ก็ทำทุกอย่างแทนได้เช่นกัน
คือร้านจะปิดไปเลยก็ได้นะ เราไม่เดือดร้อนใดๆ แต่ถ้าขายยังพอได้กำไรสักวันละ 1500-2000 หักค่าลูกน้องแล้ว
เราจะบริหารแบบใหม่ คือใช้กล้อง IP ส่อง ใช้ QR จ่าย รับเงินสดเท่าที่จำเป็น
ทั้งร้านมีเมนูเดียว ข้าวมันไก่ 50 บ. ไม่มีพิเศษ ไม่มีไม่หนัง ไม่เอาเลือด ไม่มี ทุกจานได้เท่ากันหมด
มีแบบนี้แบบเดียวเท่านั้น เพราะมันง่ายต่อการบริหารโดยที่เราไม่ต้องเข้ามาดู
แต่ลูกน้องบอกว่าขายของต้องใส่ใจ บางคนเอาหนังเยอะ บางคนขอเลือดเพิ่ม ข้าวเยอะ และก็ดื้อให้เขา พอปิดร้านแต่ละวันชั่งน้ำหนักของมันก็เพี้ยน
ขู่ว่าจะให้ออก ก็บอกไม่มีที่ไป แต่ก็ดื้อเหมือนเดิม
ควรเอายังไงดีถ้าทำแบบนี้ต่อไป เราจะวัดของไม่ได้ เราจะทำให้แต่ละวันขายได้พอดี ไม่เหลือ ถ้าเหลือคือทิ้ง เอาไปขายข้ามวันไม่ได้ไม่อร่อย
ถ้าหาคนใหม่เงินเดือนอาจน้อยกว่าเดิมด้วย กำไรเราก็เยอะขึ้น หรือต่อให้ลูกน้องทำงานไม่ได้
ร้านต้องปิดเราก็ไม่ได้เดือดร้อน อย่างที่บอกเรามีงานอื่นอยู่แล้ว แค่อยากให้ร้านเปิดต่อไป มีกำไรนิดหน่อย
ลูกน้องมีหน้าที่แค่ ต้มไก่ หุงข้าว หั่น เสริฟ เก็บ ล้าง เปิด/ปิด ร้าน แค่นี้ ของมีเจ้าประจำมาสุ่งทุกวัน ไก่แบบพร้อมต้มทำมาแล้ว
ทุกอย่างมีสูตร มีจับเวลา และตวงทั้งหมด