ขอความคิดเห็นเพื่อนๆ หน่อยค่ะ ที่บริษัทฯ ไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ตบางจุด จึงแจ้งยกเลิกใช้บริการ ทรู อินเทอร์เน็ต พนักงานแจ้งว่าให้ส่งเอกสารทางเมล์จึงส่งไป แต่ปรากฎว่าเดือนถัดมายังมีบิลเรียกเก็บ พนักงาน Call Center แจ้งว่าค่าใช้จ่ายจะมีไปเรื่อยๆ จนกว่าลูกค้าจะเก็บอุปกรณ์ส่งคืน ที่บริษัทฯ ไม่มีแผนกไอที ตอนเปิดใช้บริการโทรไปหาทรู ก็มีทีมงานทรูนำอุปกรณ์มาติดตั้งให้ แต่เวลาจะยกเลิก ถูกบังคับแบบนี้ ทางเลขาก็ไม่ทราบว่าอุปกรณ์มีอะไรบ้าง ขอให้นำทีมงานมาเก็บ ก็ถูกปฎิเสธว่าลูกค้าต้องถอดมาส่งคืนเอง......
ส่วนตัว คิดว่าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับครอบครัวที่ลูกอยู่คนละจังหวัดกับพ่อแม่ ที่ขอให้ทรูติดตั้งเพื่อเชื่อมต่อกล้องวงจรปิด หรือมีเน็ตให้พ่อแม่ใช้ เวลายกเลิก ไม่ต้องให้พ่อแม่ที่มีอายุเยอะแล้วและอยู่คนละจังหวัด ไปถอดอุปกรณ์ที่อยู่สูง ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุตกลงมาหัวฟาดพื้น และลำบากหอบเอาไปให้ที่เคาร์เตอร์ทรู เพื่อยกเลิกใช้บริการ นี่คือสิ่งที่สงสัยว่าผู้บริหาร ทรู ใครเป็นคนคิดเงื่อนไขนี้ ช่างไม่สมเหตุสมผลเลย
ไม่ทราบใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างคะ ส่วนดิฉันตอนนี้กำลังปรึกษาทนายความว่า วิธีการเช่นนี้ เราในฐานะผู้บริโภคสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะรู้สึกถูกบังคับด้วยเงื่อนไขของทรู แน่นอนค่ะ ค่าที่ปรึกษาทนายความแพงกว่าบิลทรูหลายเท่า แต่ต้องการทราบว่าลูกค้าทุกคนต้องถูกปฎิบัติเช่นนี้หรืออย่างไร จึงขอใช้สิทธิ์สอบถามไปยังหน่วยงานกลาง เพื่อทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง แล้วผลเป็นอย่างไรจะมาแจ้งให้ทราบค่ะ
ใครมีประสบการณ์เรื่องนี้ ที่มีบิลเรียกเก็บเรื่อยๆ ทั้งที่แจ้งความประสงค์ขอยกเลิกไปนานแล้ว และอ้างเหตุผลว่าทรูยังไม่ได้รับอุปกรณ์คืน ทั้งที่เราขอนัดหมายให้เจ้าหน้าที่มาเก็บ ก็ไม่รับนัดและยืนกรานว่าจะยกเลิกได้ต่อเมื่อคืนอุปกรณ์เองเท่านั้น
True ผลักภาระให้ลูกค้าเหมือนบังคับไม่ให้ยกเลิกการใช้บริการ หากไม่เก็บอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตคืน ทั้งที่ทรูติดตั้งอุปกรณ์เอง
ส่วนตัว คิดว่าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับครอบครัวที่ลูกอยู่คนละจังหวัดกับพ่อแม่ ที่ขอให้ทรูติดตั้งเพื่อเชื่อมต่อกล้องวงจรปิด หรือมีเน็ตให้พ่อแม่ใช้ เวลายกเลิก ไม่ต้องให้พ่อแม่ที่มีอายุเยอะแล้วและอยู่คนละจังหวัด ไปถอดอุปกรณ์ที่อยู่สูง ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุตกลงมาหัวฟาดพื้น และลำบากหอบเอาไปให้ที่เคาร์เตอร์ทรู เพื่อยกเลิกใช้บริการ นี่คือสิ่งที่สงสัยว่าผู้บริหาร ทรู ใครเป็นคนคิดเงื่อนไขนี้ ช่างไม่สมเหตุสมผลเลย
ไม่ทราบใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างคะ ส่วนดิฉันตอนนี้กำลังปรึกษาทนายความว่า วิธีการเช่นนี้ เราในฐานะผู้บริโภคสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะรู้สึกถูกบังคับด้วยเงื่อนไขของทรู แน่นอนค่ะ ค่าที่ปรึกษาทนายความแพงกว่าบิลทรูหลายเท่า แต่ต้องการทราบว่าลูกค้าทุกคนต้องถูกปฎิบัติเช่นนี้หรืออย่างไร จึงขอใช้สิทธิ์สอบถามไปยังหน่วยงานกลาง เพื่อทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง แล้วผลเป็นอย่างไรจะมาแจ้งให้ทราบค่ะ
ใครมีประสบการณ์เรื่องนี้ ที่มีบิลเรียกเก็บเรื่อยๆ ทั้งที่แจ้งความประสงค์ขอยกเลิกไปนานแล้ว และอ้างเหตุผลว่าทรูยังไม่ได้รับอุปกรณ์คืน ทั้งที่เราขอนัดหมายให้เจ้าหน้าที่มาเก็บ ก็ไม่รับนัดและยืนกรานว่าจะยกเลิกได้ต่อเมื่อคืนอุปกรณ์เองเท่านั้น