ถ้าประเทศไทย มียุค สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา  หรือ Renaissance คิดว่ามันจะส่งผลอย่างไรบ้าง สมมุติว่า มันเริ่มขึ้นในสมัยอยุธยา ในช่วงเวลาน้น ได้มีพระมหากษัตริย์ที่ปกครองบ้านเมืองอย่างล่มเย็นเป็นสุขมีการค้าขายกับต่างชาติอย่างรุ่งเรืองทั้งจีน อินเดีย เปอร์เซีย และด้วยอยุธยาเป็นเมืองท่าทางการค้าทำให้มีผู้คนจากหลากหลายมาอยู่ และแล้วมันก็ได้เกิด การรวมตัวกันจนกลายเป็นยุคเรืองปัญญาอย่าง Renaissance นั้นคือ ไพร่ทาสเริ่มมีการศึกษา รวมถึงประชาชน มีการพัฒนาการแพทย์ที่หลากหลายและทันสมัยโดยการนำองค์ความรู้พื้นบ้านและจากชาติต่างมาผสมผสานเข้าด้วยกัน  มีการจดบันทึกและสร้างแท่นพิมพ์ ผลิตหนังสือ มีการสร้างโรงเรียนมหาลัยในอยุธยาและตามหัวเมืองต่างๆ เกิดแนวคิดมนุษย์นิยม และหลักการปกครองใหม่ๆ วิชาดาราศาสตร์พัฒนาจนมีความทันสมัย เกิดวิชาการต่อเรือ สมุทรศาสตร์และการเดินเรือที่ทำให้อออกเดินทางค้าขายกับเมืองต่างๆ  วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นราวกับดอกเห็ด การดนตรีมีการพัฒนามากขึ้นเข้าถึงทุกชนชั้นเกิดบทเพลงใหม่ๆ และมีระเบียบมากขึ้น

   นอกจากนี้ศิลปะวิทยานั้นของอยุธยาก็เริ่มเน้นความเป็นมนุษย์มากขึ้นคือมีการปั้รูปปั้นพระพุทธรูปและองค์เทพให้มีสรีระความเป็นมนุษย์มากขึ้น มีกล้ามเนือและรูปร่างหน้าตาที่เหมือนคนเป็น จิตรกรรมฝาผนังและรูปวาดนั้น เริ่มมีความสมจริงมากขึ้น นอกจากภาพพุทธประวัติก็มีภาพวิถีชีวิตทั่วไปของผู้คน รวมถึงมีความเจริญรุ่งเรืองของงานวรรณกรรมที่ไม่ได้พูกไว้กับชนชั้นสูงหรือราชสำนักแต่กระจายไปทั่วทุกชนชั้น   มีเหล่านักปราชญ์เมธีเกิดขึ้นมากมาย การทหารมีการพัฒนามากขึ้นมีการใช้ปืนคาบศิลาและปืนใหญ่ในการสงคราม

   มีการผสมผสานวัฒนธรรมจากอินเดีย จีน อาหรับ เปอร์เซีย และยุโรป   นอกจากนี้ยังมีขั้วอำนาจใหม่ในอาณาจักรเช่นพ่อค้า นักการเมืองหัวสมัยใหม่ และผู้คนหัวก้าวหน้าที่มีอำนาจในราชสำนัก และมีความมั่นคง เกิดการปกครองแบบใหม่ทั้งคณาธิปไตย สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยมากมายราวกับดอกเห็ด และยุค Renaissance กินเวลาไปถึง 600 ปี และมันได้ฝั่งลึกเข้าไปในสายเลือดของคนไทยจนถึงปัจจุบัน

คำถามคือ

-ถ้าประเทศไทยมียุค Renaissance คิดว่ามันจะส่งผลต่อปัจจุบันอย่างไรบ้าง เพราะในยุคนั้นประชาชนมีการศึกษาอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีนักปราชญ์เมธีผู้โด่งดังเกิดขึ้นมากมายเหมือนกับสมัยกรีก มีการผสมผสานวัฒฯธรรมจากชนดินแดนต่างไม่ว่าจะเป็น จีน อินเดีย เปอร์เซีย อาหรับและยุโรป  นอกจากนี้ยังมีนักมนุษย์วิทยา วิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ 

-พระพุทธศาสนาจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างถ้าประเทศไทยมียุค Renaissance หรือยุคเรืองปัญญา เพราะนอกจากมีนักปราชญ์เกิดขึ้นมากมายแล้ว ผู้คนในตอนนั้นเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตและความเป็นมนุษย์ ว่าเราเกิดมาทำไม ทำไมต้องมีการแบ่งแยกชนชั้นและสีผิว เราเหยียดยามกันเพื่ออะไร และคิดว่าการมียุค Renaissance จะทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองหรือไม่เพราะผู้ที่มาบวชนั้นต่างเต็มไปด้วยผู้คนหัวสมัยใหม่ที่ตั้งคำถามถึงสรรพสิ่งต่างๆ และคิดว่าจะมีพระนักปราชญ์ เกิดขึ้นมากมายสอนสั่งผู้คนด้วยปัญญา ใช้หลักเหตุและผลมากขึ้นหรือไม่ นอกจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพระพทุธรูป และภาพจิตรกรรมฝาผนังถูกทำให้สมจริงมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น คิดว่าจะมีการสังคยานาครั้งใหม่หรือไม่ในยุค Renaissance หรือไม่นอกจากนี้ยังมีมหาลัยสงฆ์เกิดขึ้นตามเมืองต่างไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง อยุธยา ลพบุรี นครศรีธรรมราช และปัตตานี รวมถึงหัวเมืองอื่นๆ มีการจดบันทักและตีพิมพ์พระไตรปิฏกและหลักคำสอนแจกจ่ายให้กับประชาชนทุกชนชั้น (ช่วงเวลานั้นไพร่ทาสเริ่มอ่านออกเขียนได้แล้ว) นอกจากนี้ประชาชนในช่วงเวลานั้น ไม่มีความหลงงมงายสิ่งใดทั้งสิ้น ทุกคนมีปัญญาในการตัดสิ้นด้วยเหตุผล และแยกแยะออกว่าอะไรจริงและปลอมอันไหนผิดหรือถูก

-ในช่วงที่ประเทศไทยรุ่งเรืองด้วยปัญญา ศิลปะวิทยา การเมืองการปกครอง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะส่งผลต่อประเทศโดยรอบอย่างไรบ้างในเอเชียทั้ง พม่า จีน ญี่ปุ่น ชวา อินเดีย อาหรับ และเปอร์เซีย คิดว่าความเจริญรุ่งเรืองของไทยจะแผ่ขยายไพศาลไปทั่วทวีปหรือไม่

-การที่ประเทศไทยเกิดยุค Renaissance สถาปัตยกรรมและงานศิลปะจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

-ประเทศไทยในยุคปัจจุบันจะเป็นอย่างไรเพราะ ในยุค Renaissance นั้นความรุ่งเรืองทางปัญญาและสิ่งต่างนั้นมันฝั่งอยู่ในหัวใจและสายเลือดของคนไทยจนถอนตัวไม่ได้แล้วคิดว่าประเทศไทยในวันนี้จะเจริญรุ่งเรืองด้วยวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และศิลปะหรือไม่