หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว "Kappo Kazunobu" โอมากาเสะอาหารญี่ปุ่นสไตล์คัปโปะเสิร์ฟสูงสุด 16 จานต่อคอร์ส เริ่มต้น 4,000฿++
กระทู้รีวิว
อาหารญี่ปุ่น
ร้านอาหาร
ร้านอาหารย่านสุขุมวิท
อาหารคาว
อาหาร
เงินเดือนเพิ่งออกก้อนใหญ่พร้อมโบนัสประจำไตรมาสแบบนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีๆซึ่งมีไม่ค่อยบ่อยนักเลยปรึกษากับคุณแฟนให้ช่วยค้นหาร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอมากาเสะที่อยากมาฉลองด้วยกันซึ่งตกลงและโทรจองคิวเรียบร้อย ชื่อว่า "Kappo Kazunobu" ได้คะแนนรีวิวจากทุกสำนักเฉลี่ย 4.2-4.6 เต็ม 5 ดาว นั้นถือว่าไม่ธรรมดา มีจุดเด่นไม่เหมือนใครตั้งแต่ประเภทของอาหารที่ยกมาเสิร์ฟภายในคอร์สที่เรียกว่า "Kappo" (คัปโปะ) ภาพรวมแล้วมีความคล้ายคลึงกับสไตล์ "Kaiseki" (ไคเซกิ) แต่เชฟจะค่อยๆแสดงการจัดเตรียมวัตถุดิบเริ่มต้นตั้งแต่การแล่/นึ่ง/ทอด/ย่างและประดับตกแต่งจานให้สวยงามก่อนวางขึ้นโต๊ะทีละจานตรงหน้าเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งทำให้เราเห็นถึงความตั้งใจอย่างละเมียดละไมในทุกๆขั้นตอนของการเปิดประสบการณ์สุดพิเศษครั้งนี้ตั้งแต่เริ่มจนจบ โดยแต่ละคอร์สจะเสิร์ฟอาหารให้ 13-16 เมนู ราคาเริ่มต้นที่ 4,000 บาท++ และสูงสุดที่ 7,000 บาท++ เปิดให้บริการ จ.-ศ. 2 รอบก็คือ 18.00 กับ 20.00 น. ส่วน ส.-อา. เพิ่มมาอีก 1 รอบในช่วง 12.30-14.30 น. (ไม่รับลูกค้า Walk In ทุกๆกรณี) ส่วนวิธีการเดินทางตั้งพิกัดมาที่โครงการนิฮอนมาชิชั้น 2 ตรงบันไดทางขึ้นพอดี ถ้าเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวมีลานจอดรถขนาดใหญ่ให้บริการ 3 ชั่วโมงแรกฟรีเมื่อมีประทับตราร้านเกินกว่านั้นคิดชั่วโมงละ 20 บาท ถ้าเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะแนะนำให้ลง BTS สถานีพร้อมพงษ์แล้วเรียกรถเข้ามาอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร จะพบกับหน้าร้านเป็นประตูกับกำแพงไม้สีดำสนิทพร้อมป้ายเขียนด้วยลายมือภาษาญี่ปุ่นแบบนี้แสดงว่ามาถูกแล้วครับ
มาถึงแจ้งชื่อกับน้องพนักงานที่หน้าประตูแล้วก็จะถูกเชิญเข้ามาข้างในเพื่อนั่งรอเชฟเตรียมวัตถุดิบสักครู่ภายในห้องรับรองพิเศษ มีเก้าอี้พร้อมโต๊ะทรงกลมตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นวางตรงกลางซึ่งด้านล่างเต็มไปด้วยหนังสือที่เกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มของญี่ปุ่นให้อ่านเพลินๆระหว่างรอ นอกจากนี้ฝั่งตรงข้ามที่เป็นโถงทางเดินยาวยังมีห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ให้บริการอีก 3 ห้องรองรับลูกค้าเป็นกลุ่มใหญ่ได้ประมาณ 8-10 คน โดยอาหารแต่ละจานจะถูกปรุงใหม่แล้วยกมาเสิร์ฟภายในห้องนี้ตามคอร์สของแต่ละคนที่จองมา ระหว่างทางก็มีขวดวิสกี้กับสาเกสุดพรีเมี่ยมราคาแพงนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นวางบนชั้นด้านในกระจกตามกำแพงไว้กระตุ้นความอยากของลูกค้าสายดื่มทั้งหลาย ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถูกเรียกเข้าไปด้านในห้องโถงหลักเนื่องจากเรามาถึงค่อนข้างช้าเพราะผมเพิ่งเลิกงานแล้วก็ต้องแวะไปรับคุณแฟนต่ออีกทั้งมีปริมาณรถยนต์บนถนนสุขุมวิทผ่านแยกอโศกในช่วงเย็นทำให้การจราจรเป็นอัมพาตหนักสุดๆ อีกทั้งยังมีความโชคดีที่วันนี้ไม่มีลูกค้าคนอื่นๆนอกจากโต๊ะของเราเท่านั้นจึงได้รับอนุญาตให้มาสายนิดหน่อยครับผม
เดินเข้ามาด้านในสุดผ่านผ้าม่านกั้นสีน้ำเงินเข้มก็จะพบกับห้องโถงหลักซึ่งมีจุดเด่นเลยก็คือเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่และยาวเป็นพิเศษที่สามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุดถึง 10 คนต่อรอบ ทำจากไม้เนื้อแข็งโทนสีสว่างเคลือบเงามันแวววาวพร้อมเก้าอี้แบบมีที่พักแขน (ส่วนคนตัวใหญ่อย่างเราขอแบบไม่มีที่พักแขนทางร้านก็จัดหามาให้) รองก้นด้วยเบาะนุ่มชวนให้นั่งสบายๆมองเห็นครัวขนาดเล็กที่เชฟใช้ในการเตรียมวัตถุดิบพร้อมปรุงอาหารต่างๆได้อย่างชัดเจนดี ตั้งแต่เข้ามาการตกแต่งภายในร้านก็เน้นสีดำสนิทมาตลอดตัดด้วยไม้โทนสีสว่างกับของตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นโบราณให้อารมณ์ดูหรูหราตามวิถีแห่งเซน เพิ่มความอบอุ่นด้วยแสงไฟโทนสีเหลืองอมส้มยกเว้นโซนอาหารปรุงร้อนภายในครัวที่ใช้หลอดไฟแสงสีขาวปกติพร้อมชั้นวางมีดไซส์ต่างๆเรียงบนชั้นไม่ไกลกันเพื่อบ่งบอกว่าตรงนี้เป็นครัวหลักที่จะปรุงอาหารเมนูพิเศษต่างๆให้วันนี้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลารีบนั่งเก้าอี้ที่จองไว้ก็พร้อมฟินกับมื้อสุดพิเศษนี้แล้วครับ
บนโต๊ะอุปกรณ์การทานต่างๆถูกเตรียมพร้อมเอาไว้ให้เกือบครบพร้อมอย่างยกเว้นบางเมนูที่เป็นน้ำซุปพนักงานจะค่อยหยิบช้อนออกมาให้จากชั้นด้านหลังประกอบไปด้วย 1. ถาดรองจานสำหรับวางอาหารที่เชฟเสิร์ฟทรงวงกลมตัดขอบสีทอง-ดำ 2. ตะเกียบพร้อมที่วางใช้คีบได้ทั้งสองด้าน 3. ผ้าสำหรับปูรองตักสีขาวสะอาดพิมพ์ลายชื่อร้านที่ถูกเขียนด้วยตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น 4. ที่รองแก้วทำจากกระดาษแข็งสีขาวพิมพ์ลายแบบเดียวกับผ้ารองตัก เมื่อมานั่งที่โต๊ะแล้วบริการเสริมอื่นๆก็ถูกยกตามมาเป็น "ผ้าเย็น" มีกลิ่นหอมละมุนม้วนใส่มาในถาดทรงยาวสไตล์ญี่ปุ่นเอาไว้สำหรับเช็ดมือหรือหน้าเพื่อเพิ่มความสดชื่นก่อนมื้ออาหารและ "Yuzu Mocktail" ใส่แก้วทรงกระบอกสูงแชมเปญมาเสิร์ฟก่อนเป็นอันดับแรก เป็นน้ำจากผลส้มยูสุแท้รสหวานอมเปรี้ยวมีกลิ่นหอมและซ่าเบาๆที่ปลายลิ้นพร้อมใส่น้ำแข็งเกล็ดเล็กเคี้ยวได้กรุบกรอบเย็นชื่นใจเหมือนเป็นการเปิดต่อมรับรสให้พร้อมก่อนจะเริ่มอาหารจานแรก โดยวันนี้ผมกับแฟนจองมาเป็นชุด 4,000 บาท++ กับ 7,000 บาท++ น้องพนักงานก็เอาใบรายการอาหารที่เราจะได้ทานมาให้ดูก่อน ถ้าใครมีประวัติการแพ้หรือไม่ทานวัตถุดิบตัวไหนเป็นพิเศษรบกวนบอกทางร้านตอนจองเพื่อที่เชฟจะได้จัดเตรียมเมนูจานอื่นทดแทนให้ตามดุลยพินิจของทางร้านและมาเป็นกลุ่มจะแชร์อาหารกันก็ได้ไม่มีกฎห้าม โดยปกติในโอมากาเสะที่อื่นเชฟจะหยิบวัตถุดิบออกมาใส่ถาดโชว์ก่อนแต่ที่นี่ไม่พูดเยอะกล่าวสวัสดีแล้วเริ่มปรุงจานแรกกันเลย
เพื่อป้องกันการสับสนเนื่องจากมื้อนี้ผมกับแฟนกินโอมากาเสะคนละราคากันจึงขอเริ่มรีวิวกันที่ 4,000 บาท++ จานแรกเสิร์ฟเป็น "Yaki Goma Tofu" เป็นเต้าหู้สดโฮมเมดทำจากงาขาวแทนถั่วเหลืองตามสูตรปกติมีเนื้อสัมผัสเข้มข้นเหนียวหนึบสู้ฟันหอมมันราวกับแป้งโมจิหอมงานำย่างลงบนเตาถ่านให้พอได้กลิ่นไหม้เกรียมติดด้านนอกนิดๆ ท็อปปิ้งด้วยอูนิหรือไข่หอยเม่นสายพันธุ์มุราซากิ/โกจิเบอรี่/กระเจี๊ยบและวาซาบิขูดสดจากต้น ราดด้วยซอสพิเศษที่ปรุงจากโชยุผสมดาชิปรุงรสให้เค็มหวานกลมกล่อมเข้ากับความหอมมันของเต้าหู้และวัตถุดิบต่างๆที่ใส่ลงไปได้เป็นอย่างดี ช่วยเปิดประสาทการรับรสให้ตื่นขึ้นพร้อมที่จะรับความอร่อยใหม่ที่จะมาเสิร์ฟเป็นจานถัดไป เมนูที่สองถูกนำมาวางต่อกันทันทีเมื่อจานแรกถูกพนักงานเก็บไปคือ "Ankimo Monaka Yuzu Miso" เป็นแผ่นแป้งเวเฟอร์สีชมพูรูปดอกซากุระมีชื่อว่าโมนากะของญี่ปุ่นที่มีสัมผัสกรอบนอกเหนียวหนึบเวลาเคี้ยวนิดๆ เข้ากันได้ดีกับไส้สุดแน่นตรงกลางทำจากตับปลาอังโกะบดผสมซอสยูสุมิโสะพร้อมฟักแฟงแตงอ่อนหั่นแบบลูกเต๋ากับต้นหอมซอย ได้ความหอมมันนวลเนียนและกรุบกรอบพร้อมกลิ่นอันสดชื่นหลากหลายมิติในคำเดียวจนทำให้น้ำย่อยในกระเพาะเริ่มทำงานครับ
เมนูต่อมาเป็นซุปใสสไตล์ญี่ปุ่นเพื่อล้างกลิ่นคาวจากตับปลาในปากก่อนหน้านี้นั่นคือ "Hotate Shinjo Soup" เป็นลูกชิ้นโฮมเมดสูตรพิเศษทำมาจากเนื้อหอยเชลล์โฮตาเตะฮอกไกโดคุณภาพสูงสับละเอียด แล้วจับนวดให้เข้ากับปลาเนื้อสีขาวตามอัตราส่วนจนได้ความนุ่มเด้งเนียนละเอียดพร้อมกลิ่นหอมละมุนในปากเวลาเคี้ยว ส่วนน้ำซุปใสได้มาจากการเคี่ยวโครงกระดูกของมากุโร่กับสาหร่ายคอมบุเน้นความกลมกล่อมช่วยเสริมรสชาติของลูกชิ้นที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษได้อย่างลงตัว ให้สัมผัสนุ่มนวลภายในปากตอนซดด้วยไข่ไก่นึ่งสุกพอนิ่มราวกับคัสตาร์ตชิ้นเล็กๆสับใส่ลงไปและเพิ่มความหอมสดชื่นด้วยผิวของส้มยุสุกับแตงกวาญี่ปุ่นเคี้ยวกรุบกรอบ โดยรวมเป็นซุปน้ำใสที่มีรายละเอียดปลีกย่อยที่บ่งบอกถึงประสบการณ์อันสูงภายในครัวของเชฟได้อย่างดีเยี่ยม เมนูต่อไปเป็นเหล่าโปรตีนเน้นๆจากเนื้อปลาที่ถูกคัดมาแล้วว่ามีรสชาติดีสุดภายในฤดูกาลนั้นๆก็คือ "Seasonnal Sashimi" ประกอบไปด้วย 1. Katsuo หรือปลาโอสดตระกูลเดียวกับมากุโร่เอามาย่างถ่านพอให้ข้างนอกสุกเกรียมด้านในสีแดงสดให้สองสัมผัสในคำเดียว 2. Kinmedai หรือปลากะพงแดงตาโตเป็นราชาแห่งปลาทะเลน้ำลึกจุดเด่นอยู่ตรงหนังสีแดงสดเด้ง/รสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นไขมันหอมเฉพาะตัว 3. Isaki หรืออิซากิเป็นปลาเนื้อขาวตัวแทนแห่งฤดูร้อนของดีประจำเมืองชิซึโอกะซึ่งมีจุดเด่นตรงเนื้อแน่นหวานเด้งสู้ฟันแบบเดียวกับที่ผสมในลูกชิ้นโฮตาเตะจานที่แล้ว ทานคู่กับโชยุผสมขิงขูด-วาซาบิและล้างคาวให้หมดจดด้วยยำต้นหอมซอยสูตรพิเศษแทนขิงดองน้ำผึ้งแบบที่เสิร์ฟในร้านซูชิก็อร่อยดีไปอีกแบบครับ
จานต่อไปก็ยังคงเป็นปลาแต่เสิร์ฟในรูปแบบของสเต๊กชิ้นใหญ่เคี้ยวฉ่ำเต็มก็คือ "Amadai Negi Sauce" เป็นเนื้ออามะไดหรือปลาไท่เนื้อหวานเต็มไปด้วยน้ำและไขมัน โดยเชฟได้แยกส่วนหนังออกไปทอดก่อนแบบไม่ขอดเกล็ดให้มีสีเหลืองทองสวยงามส่วนเนื้อเอาไปย่างบนเตาถ่านให้ได้ระดับความสุกและรักษาความชุ่มฉ่ำของเนื้อเอาไว้อย่างครบถ้วนด้วยประสบการณ์ในครัวชั้นสูง จากนั้นนำทั้งสองส่วนมาประกอบร่างกันวางบนซอสสีเขียวสัมผัสเข้มข้นทำจากต้นหอมญี่ปุ่นรสหวานเค็มกลมกล่อมแต่ไม่เหม็นเขียวเพราะถูกกำจัดออกไปจนหมดในความร้อน เสิร์ฟพร้อมกับรากบัวทอดกรอบราวกับขนมขบเคี้ยวและเมล็ดถั่วปากอ้าต้มในกาแฟให้ความหวานปนขมราวกับขนมเพื่อเตรียมเข้าสู่จานหลักเมนูถัดไปอันแสนเย็นสดชื่นก็คือ "Hanamaki Uni Inaniwa Udon" เป็นเส้นอูด้งที่เรียวเล็กพิเศษจากจังหวัดอาคิตะในประเทศญี่ปุ่น มีจุดเด่นตรงความเหนียวนุ่มหนึบเคี้ยวสู้ฟันและสามารถเข้ากับน้ำซุปแบบใสได้ดีกว่าอูด้งที่ขายในท้องตลาดทั่วไป ลวกให้สุกแล้วบีบน้ำส่วนเกินออกราดซอสโชยุผสมดาชิสูตรเข้มข้นผสมสาหร่ายสดที่มีกลิ่นหอมละมุน เพิ่มความหอมมันให้พิเศษยิ่งขึ้นด้วยเนื้ออูนิสายพันธุ์บาฟุนจากเกาะฮอกไกโดพร้อมตัดเลี่ยนด้วยวาซาบิขูดสดอีกหน่อย โดยเชฟแนะนำให้คลุกแล้วสูดเส้นเข้าไปเสียงดังๆแบบญี่ปุ่นก็จะได้ความอร่อยฟินขั้นสูงสุดครับ
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
ชื่อสินค้า:
Kappo Kazunobu
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
บอสพาชิม : Pari Izakayaสุดมินิมอล (Chiangmai,Thailand
บอสพาชิม : Pari Izakayaสุดมินิมอล (Chiangmai,Thailand) Pari น่าจะเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ฮอตที่สุดในเชียงใหม่ในเวลานี้ ปาริ เกิดจากหมู่บ้านปาริชาตในจังหวัดเชียงใหม่
EatLikeTheBOSS
สเปิร์มปลาแบบนุ่มๆ ในคอร์สโอมากาเสะ ที่คุ้มค่าทุกคำ 4500++ Yotsuha Sushi
พรีเมียมยิ่งกว่าที่ Yotsuha Sushi โอมากาเสะร้านลับ ที่เสิร์ฟโดยเชฟชาวญี่ปุ่นแท้ๆ มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี ในบรรยากาศที่เหมือนหลุดมาอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ
มิกิชวนกิน
😍🎀🐔🌺🥂@@...(*_*) ปีกไก่ย่างเทริยากิ(*_*)...@@😍🎀🐔🌺🥂
วันนี้ขอนำเสนอ เมนูอาหารญี่ปุ่นของที่บ้าน และยังเหมาะสำหรับเป็นเมนูสำหรับ งานเลี้ยงช่วงเทศกาลที่จะถึงนี้ ปีกไก่ย่างเทริยากิ เป็นเมนูที่ทำง่ายๆ ไม่ได้เคี่ยวซอสเทริยากิ ใช้แบบสำเร็จรูปมาผสม สะดวกรว
สมาชิกหมายเลข 3902534
บอสพาชิม : SOM’s Table 🍽(Prachuap khiri khan,Thailand🇹🇭)
SOM’s Table 🍽(Prachuap khiri khan,Thailand🇹🇭) The Place 🏠: ผมเดินเข้าซอยตามสายลมเเละเสียงคลื่นของหาดเขาเต่าเข้ามา เราก็จะพบกับบ้านไม้ขาวสองชั้นสะอาดตาท
Isle of Jura
บอสพาชิม : Zen🌟🌟🌟 (Singapore)
บอสพาชิม : Zen🌟🌟🌟 (Singapore,Thailand) ZEN ถือเป็น Mega ของอาหารสไตล์ Scandinavia ในเอเซีย ที่ต้อนรับนักชิมจากทั่วโลก ให้มาเยือนห้องอาหารเเห่งระดับ
EatLikeTheBOSS
รีวิวบุฟเฟ่ต์แบบจัดเต็มที่ร้าน"บ้านกลมกิ๊ก"ด้วยอาหารไทยสไตล์ HomeMade โดยครอบครัวตัวกลม"คุณซูโม่กิ๊ก"
เมื่อหลายปีก่อนหลายคนอาจจะจำได้ว่าเคยมีรายการทีวีช่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่าง"กลมกิ๊ก" ที่รูปแบบรายการนำแขกรับเชิญมาร่วมทำอาหารและรับประทานกันกับครอบครัวคุณซูโม่กิ๊ก จนเกิดกระแสทำให้เปิดร
Food Addicts
... ผัดกะเพราวุ้นเส้นหมูหมัก เมนูอาหารจานเดียวทำง่าย แต่อร่อยถูกปากมากเลยค่ะ ❤️🧡💚
.. วัตถุดิบและเครื่องปรุง - วุ้นเส้น - หมูหมัก- ไส้กรอก - พริกสดและกระเทียม - ใบกะเพรา - ซีอิ๊วขาว- ผงปรุงรส- ซอสหอยนางรม .. .. วิธีทำผัดกะเพราวุ้นเส้นหมูหมัก
Ananya Amy_1994
แวะกินข้างถนน รีวิว ร้าน Iron Age Korean Steak บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลี นนทบุรี
https://www.youtube.com/watch?v=jPvdC53RNFYCr. แวะกินข้างถนน เนื้อ ไอรอนเอจสเต็ก แผ่นใหญ่มาก เนื้อคุณภาพชิ้นใหญ่แต่นุ่มสุดๆ เนื้อ หรือหมูของร้านนี้ เป็นสเต็กคุณภาพค่ะ ชิ้นใหญ่ หมักกำลังพอดี เตาส
แวะกินข้างถนน
วิธีทำเมนู: ไข่ยัดไส้หมูสับตุ๋นซีอิ๊ว
วัตถุดิบ: 1. หมูสับ • ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและแป้งมันเล็กน้อย 2. ไข่ไก่ 5 ฟอง 3. ต้นหอมซอย สำหรับโรยหน้า 4. น้ำมันพืช สำหรับทอด 5. ซีอิ๊วขาว ป
สมาชิกหมายเลข 8552602
แวะกินข้างถนน รีวิว ครัวคุณแบงค์ แซ่บเว่อร์ พระราม 5
เอาจริงนะ ปกติแจนจะไม่ค่อยได้รีวิวอาหารอีสาน แต่ร้านนี้ไม่รีวิวไม่ได้จริงๆ เพราะอาหารเค้าไม่เหมือนใคร https://www.youtube.com/watch?v=znEXy-6y6fwCr. แวะกินข้างถนน ทั้งจิ้มจิ้ม ลาบเป็ด ตำหลวงพระบาง และ
แวะกินข้างถนน
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารญี่ปุ่น
ร้านอาหาร
ร้านอาหารย่านสุขุมวิท
อาหารคาว
อาหาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว "Kappo Kazunobu" โอมากาเสะอาหารญี่ปุ่นสไตล์คัปโปะเสิร์ฟสูงสุด 16 จานต่อคอร์ส เริ่มต้น 4,000฿++
มาถึงแจ้งชื่อกับน้องพนักงานที่หน้าประตูแล้วก็จะถูกเชิญเข้ามาข้างในเพื่อนั่งรอเชฟเตรียมวัตถุดิบสักครู่ภายในห้องรับรองพิเศษ มีเก้าอี้พร้อมโต๊ะทรงกลมตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นวางตรงกลางซึ่งด้านล่างเต็มไปด้วยหนังสือที่เกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มของญี่ปุ่นให้อ่านเพลินๆระหว่างรอ นอกจากนี้ฝั่งตรงข้ามที่เป็นโถงทางเดินยาวยังมีห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ให้บริการอีก 3 ห้องรองรับลูกค้าเป็นกลุ่มใหญ่ได้ประมาณ 8-10 คน โดยอาหารแต่ละจานจะถูกปรุงใหม่แล้วยกมาเสิร์ฟภายในห้องนี้ตามคอร์สของแต่ละคนที่จองมา ระหว่างทางก็มีขวดวิสกี้กับสาเกสุดพรีเมี่ยมราคาแพงนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นวางบนชั้นด้านในกระจกตามกำแพงไว้กระตุ้นความอยากของลูกค้าสายดื่มทั้งหลาย ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถูกเรียกเข้าไปด้านในห้องโถงหลักเนื่องจากเรามาถึงค่อนข้างช้าเพราะผมเพิ่งเลิกงานแล้วก็ต้องแวะไปรับคุณแฟนต่ออีกทั้งมีปริมาณรถยนต์บนถนนสุขุมวิทผ่านแยกอโศกในช่วงเย็นทำให้การจราจรเป็นอัมพาตหนักสุดๆ อีกทั้งยังมีความโชคดีที่วันนี้ไม่มีลูกค้าคนอื่นๆนอกจากโต๊ะของเราเท่านั้นจึงได้รับอนุญาตให้มาสายนิดหน่อยครับผม
เดินเข้ามาด้านในสุดผ่านผ้าม่านกั้นสีน้ำเงินเข้มก็จะพบกับห้องโถงหลักซึ่งมีจุดเด่นเลยก็คือเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่และยาวเป็นพิเศษที่สามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุดถึง 10 คนต่อรอบ ทำจากไม้เนื้อแข็งโทนสีสว่างเคลือบเงามันแวววาวพร้อมเก้าอี้แบบมีที่พักแขน (ส่วนคนตัวใหญ่อย่างเราขอแบบไม่มีที่พักแขนทางร้านก็จัดหามาให้) รองก้นด้วยเบาะนุ่มชวนให้นั่งสบายๆมองเห็นครัวขนาดเล็กที่เชฟใช้ในการเตรียมวัตถุดิบพร้อมปรุงอาหารต่างๆได้อย่างชัดเจนดี ตั้งแต่เข้ามาการตกแต่งภายในร้านก็เน้นสีดำสนิทมาตลอดตัดด้วยไม้โทนสีสว่างกับของตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นโบราณให้อารมณ์ดูหรูหราตามวิถีแห่งเซน เพิ่มความอบอุ่นด้วยแสงไฟโทนสีเหลืองอมส้มยกเว้นโซนอาหารปรุงร้อนภายในครัวที่ใช้หลอดไฟแสงสีขาวปกติพร้อมชั้นวางมีดไซส์ต่างๆเรียงบนชั้นไม่ไกลกันเพื่อบ่งบอกว่าตรงนี้เป็นครัวหลักที่จะปรุงอาหารเมนูพิเศษต่างๆให้วันนี้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลารีบนั่งเก้าอี้ที่จองไว้ก็พร้อมฟินกับมื้อสุดพิเศษนี้แล้วครับ
บนโต๊ะอุปกรณ์การทานต่างๆถูกเตรียมพร้อมเอาไว้ให้เกือบครบพร้อมอย่างยกเว้นบางเมนูที่เป็นน้ำซุปพนักงานจะค่อยหยิบช้อนออกมาให้จากชั้นด้านหลังประกอบไปด้วย 1. ถาดรองจานสำหรับวางอาหารที่เชฟเสิร์ฟทรงวงกลมตัดขอบสีทอง-ดำ 2. ตะเกียบพร้อมที่วางใช้คีบได้ทั้งสองด้าน 3. ผ้าสำหรับปูรองตักสีขาวสะอาดพิมพ์ลายชื่อร้านที่ถูกเขียนด้วยตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น 4. ที่รองแก้วทำจากกระดาษแข็งสีขาวพิมพ์ลายแบบเดียวกับผ้ารองตัก เมื่อมานั่งที่โต๊ะแล้วบริการเสริมอื่นๆก็ถูกยกตามมาเป็น "ผ้าเย็น" มีกลิ่นหอมละมุนม้วนใส่มาในถาดทรงยาวสไตล์ญี่ปุ่นเอาไว้สำหรับเช็ดมือหรือหน้าเพื่อเพิ่มความสดชื่นก่อนมื้ออาหารและ "Yuzu Mocktail" ใส่แก้วทรงกระบอกสูงแชมเปญมาเสิร์ฟก่อนเป็นอันดับแรก เป็นน้ำจากผลส้มยูสุแท้รสหวานอมเปรี้ยวมีกลิ่นหอมและซ่าเบาๆที่ปลายลิ้นพร้อมใส่น้ำแข็งเกล็ดเล็กเคี้ยวได้กรุบกรอบเย็นชื่นใจเหมือนเป็นการเปิดต่อมรับรสให้พร้อมก่อนจะเริ่มอาหารจานแรก โดยวันนี้ผมกับแฟนจองมาเป็นชุด 4,000 บาท++ กับ 7,000 บาท++ น้องพนักงานก็เอาใบรายการอาหารที่เราจะได้ทานมาให้ดูก่อน ถ้าใครมีประวัติการแพ้หรือไม่ทานวัตถุดิบตัวไหนเป็นพิเศษรบกวนบอกทางร้านตอนจองเพื่อที่เชฟจะได้จัดเตรียมเมนูจานอื่นทดแทนให้ตามดุลยพินิจของทางร้านและมาเป็นกลุ่มจะแชร์อาหารกันก็ได้ไม่มีกฎห้าม โดยปกติในโอมากาเสะที่อื่นเชฟจะหยิบวัตถุดิบออกมาใส่ถาดโชว์ก่อนแต่ที่นี่ไม่พูดเยอะกล่าวสวัสดีแล้วเริ่มปรุงจานแรกกันเลย
เพื่อป้องกันการสับสนเนื่องจากมื้อนี้ผมกับแฟนกินโอมากาเสะคนละราคากันจึงขอเริ่มรีวิวกันที่ 4,000 บาท++ จานแรกเสิร์ฟเป็น "Yaki Goma Tofu" เป็นเต้าหู้สดโฮมเมดทำจากงาขาวแทนถั่วเหลืองตามสูตรปกติมีเนื้อสัมผัสเข้มข้นเหนียวหนึบสู้ฟันหอมมันราวกับแป้งโมจิหอมงานำย่างลงบนเตาถ่านให้พอได้กลิ่นไหม้เกรียมติดด้านนอกนิดๆ ท็อปปิ้งด้วยอูนิหรือไข่หอยเม่นสายพันธุ์มุราซากิ/โกจิเบอรี่/กระเจี๊ยบและวาซาบิขูดสดจากต้น ราดด้วยซอสพิเศษที่ปรุงจากโชยุผสมดาชิปรุงรสให้เค็มหวานกลมกล่อมเข้ากับความหอมมันของเต้าหู้และวัตถุดิบต่างๆที่ใส่ลงไปได้เป็นอย่างดี ช่วยเปิดประสาทการรับรสให้ตื่นขึ้นพร้อมที่จะรับความอร่อยใหม่ที่จะมาเสิร์ฟเป็นจานถัดไป เมนูที่สองถูกนำมาวางต่อกันทันทีเมื่อจานแรกถูกพนักงานเก็บไปคือ "Ankimo Monaka Yuzu Miso" เป็นแผ่นแป้งเวเฟอร์สีชมพูรูปดอกซากุระมีชื่อว่าโมนากะของญี่ปุ่นที่มีสัมผัสกรอบนอกเหนียวหนึบเวลาเคี้ยวนิดๆ เข้ากันได้ดีกับไส้สุดแน่นตรงกลางทำจากตับปลาอังโกะบดผสมซอสยูสุมิโสะพร้อมฟักแฟงแตงอ่อนหั่นแบบลูกเต๋ากับต้นหอมซอย ได้ความหอมมันนวลเนียนและกรุบกรอบพร้อมกลิ่นอันสดชื่นหลากหลายมิติในคำเดียวจนทำให้น้ำย่อยในกระเพาะเริ่มทำงานครับ
เมนูต่อมาเป็นซุปใสสไตล์ญี่ปุ่นเพื่อล้างกลิ่นคาวจากตับปลาในปากก่อนหน้านี้นั่นคือ "Hotate Shinjo Soup" เป็นลูกชิ้นโฮมเมดสูตรพิเศษทำมาจากเนื้อหอยเชลล์โฮตาเตะฮอกไกโดคุณภาพสูงสับละเอียด แล้วจับนวดให้เข้ากับปลาเนื้อสีขาวตามอัตราส่วนจนได้ความนุ่มเด้งเนียนละเอียดพร้อมกลิ่นหอมละมุนในปากเวลาเคี้ยว ส่วนน้ำซุปใสได้มาจากการเคี่ยวโครงกระดูกของมากุโร่กับสาหร่ายคอมบุเน้นความกลมกล่อมช่วยเสริมรสชาติของลูกชิ้นที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษได้อย่างลงตัว ให้สัมผัสนุ่มนวลภายในปากตอนซดด้วยไข่ไก่นึ่งสุกพอนิ่มราวกับคัสตาร์ตชิ้นเล็กๆสับใส่ลงไปและเพิ่มความหอมสดชื่นด้วยผิวของส้มยุสุกับแตงกวาญี่ปุ่นเคี้ยวกรุบกรอบ โดยรวมเป็นซุปน้ำใสที่มีรายละเอียดปลีกย่อยที่บ่งบอกถึงประสบการณ์อันสูงภายในครัวของเชฟได้อย่างดีเยี่ยม เมนูต่อไปเป็นเหล่าโปรตีนเน้นๆจากเนื้อปลาที่ถูกคัดมาแล้วว่ามีรสชาติดีสุดภายในฤดูกาลนั้นๆก็คือ "Seasonnal Sashimi" ประกอบไปด้วย 1. Katsuo หรือปลาโอสดตระกูลเดียวกับมากุโร่เอามาย่างถ่านพอให้ข้างนอกสุกเกรียมด้านในสีแดงสดให้สองสัมผัสในคำเดียว 2. Kinmedai หรือปลากะพงแดงตาโตเป็นราชาแห่งปลาทะเลน้ำลึกจุดเด่นอยู่ตรงหนังสีแดงสดเด้ง/รสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นไขมันหอมเฉพาะตัว 3. Isaki หรืออิซากิเป็นปลาเนื้อขาวตัวแทนแห่งฤดูร้อนของดีประจำเมืองชิซึโอกะซึ่งมีจุดเด่นตรงเนื้อแน่นหวานเด้งสู้ฟันแบบเดียวกับที่ผสมในลูกชิ้นโฮตาเตะจานที่แล้ว ทานคู่กับโชยุผสมขิงขูด-วาซาบิและล้างคาวให้หมดจดด้วยยำต้นหอมซอยสูตรพิเศษแทนขิงดองน้ำผึ้งแบบที่เสิร์ฟในร้านซูชิก็อร่อยดีไปอีกแบบครับ
จานต่อไปก็ยังคงเป็นปลาแต่เสิร์ฟในรูปแบบของสเต๊กชิ้นใหญ่เคี้ยวฉ่ำเต็มก็คือ "Amadai Negi Sauce" เป็นเนื้ออามะไดหรือปลาไท่เนื้อหวานเต็มไปด้วยน้ำและไขมัน โดยเชฟได้แยกส่วนหนังออกไปทอดก่อนแบบไม่ขอดเกล็ดให้มีสีเหลืองทองสวยงามส่วนเนื้อเอาไปย่างบนเตาถ่านให้ได้ระดับความสุกและรักษาความชุ่มฉ่ำของเนื้อเอาไว้อย่างครบถ้วนด้วยประสบการณ์ในครัวชั้นสูง จากนั้นนำทั้งสองส่วนมาประกอบร่างกันวางบนซอสสีเขียวสัมผัสเข้มข้นทำจากต้นหอมญี่ปุ่นรสหวานเค็มกลมกล่อมแต่ไม่เหม็นเขียวเพราะถูกกำจัดออกไปจนหมดในความร้อน เสิร์ฟพร้อมกับรากบัวทอดกรอบราวกับขนมขบเคี้ยวและเมล็ดถั่วปากอ้าต้มในกาแฟให้ความหวานปนขมราวกับขนมเพื่อเตรียมเข้าสู่จานหลักเมนูถัดไปอันแสนเย็นสดชื่นก็คือ "Hanamaki Uni Inaniwa Udon" เป็นเส้นอูด้งที่เรียวเล็กพิเศษจากจังหวัดอาคิตะในประเทศญี่ปุ่น มีจุดเด่นตรงความเหนียวนุ่มหนึบเคี้ยวสู้ฟันและสามารถเข้ากับน้ำซุปแบบใสได้ดีกว่าอูด้งที่ขายในท้องตลาดทั่วไป ลวกให้สุกแล้วบีบน้ำส่วนเกินออกราดซอสโชยุผสมดาชิสูตรเข้มข้นผสมสาหร่ายสดที่มีกลิ่นหอมละมุน เพิ่มความหอมมันให้พิเศษยิ่งขึ้นด้วยเนื้ออูนิสายพันธุ์บาฟุนจากเกาะฮอกไกโดพร้อมตัดเลี่ยนด้วยวาซาบิขูดสดอีกหน่อย โดยเชฟแนะนำให้คลุกแล้วสูดเส้นเข้าไปเสียงดังๆแบบญี่ปุ่นก็จะได้ความอร่อยฟินขั้นสูงสุดครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น