JJNY : ป่วยใหม่21,808 เสียชีวิต128│เตือนรับมือ"สามแรง"หากกันโควิดไม่ดี│ราคาน้ำมันดิบเพิ่ม│สิระโวยกกต.ยกคำร้องเอาผิดอุตตม

โควิดยังทรง! พบป่วยใหม่ 21,808 ราย เสียชีวิต 128 ราย
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_3301858
 
 
 
โควิดยังทรง! พบป่วยใหม่ 21,808 ราย เสียชีวิต 128 ราย
 
เมื่อวันที่ 22 เมษายน สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวม 21,808 ราย หายป่วยกลับบ้าน 19,826 ราย หายป่วยสะสม 1,741,244 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 190,780 ราย เสียชีวิต 128 ราย จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,985 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 26 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 25.3
 
ขณะที่ ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากผลแอนติเจน เทสต์ คิท (เอทีเค) อีก 20,635 ราย อาการหนักใช้ท่อช่วยหายใจ 885 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 2,021 ราย โดยจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น ชลบุรี สมุทรปราการ ศรีสะเกษ สมุทรสาคร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม นครศรีธรรมราช นนทบุรี และนครปฐม
 


 
เตือนไทยรับมือ "สามแรง" หากป้องกันโควิดไม่ดี แนะจับตาสายพันธุ์ BA.2.12.1
https://www.thairath.co.th/news/society/2374080
  
วันที่ 22 เมษายน 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า 
 
22 เมษายน 2565 ทะลุ 507 ล้านไปแล้ว
  
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 779,573 คน ตายเพิ่ม 3,207 คน รวมแล้วติดไปรวม 507,605,202 คน เสียชีวิตรวม 6,235,307 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ อิตาลี และออสเตรเลีย
 
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 79.99 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 78.2
 
การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 24.23 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 17.3
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก
ทั้งนี้จำนวนคนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 23.24% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
 
...อัพเดตแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 ของ WHO
 
ล่าสุด 22 เมษายน 2565 มีการอัพเดตแนวทางการรักษาโควิด-19 เป็นการทบทวนครั้งที่ 10 โดยอิงหลักฐานวิชาการแพทย์จากงานวิจัยต่างๆ ที่ได้รับการยอมรับ
 
สาระสำคัญคือ การแนะนำอย่างมั่นใจ (strong recommendation) ให้ใช้ Paxlovid (Nirmatrelvir/ritonavir) ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีความเสี่ยงสูงต่อการป่วยจนต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล
 
ยาอื่นๆ ที่มีคำแนะนำในระดับอ่อนลงมาคือ Molnupiravir, Remdesivir ฯลฯ ดังรูป จึงเป็นข้อมูลระดับสากลที่ประเทศไทยควรนำมาใช้จัดบริการดูแลรักษาประชาชน ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาหรืออื่นๆ ที่ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ผ่านขั้นตอนการศึกษาวิจัยตามมาตรฐานสากล หรือยังไม่เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์
 
...สามแรง...ที่อาจมาพร้อมกันหากป้องกันไม่ดีพอ
 
แรงแรก...จากการระบาดต่อเนื่องจากเดิมทั้งในกลุ่มเสี่ยง คนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน รวมถึงที่ฉีดแล้วแต่ไม่ป้องกันตัว หนุนเสริมการระบาดมากขึ้นหลังช่วงเทศกาลที่ผ่านมา น่าจะเริ่มส่งผลให้เห็นได้ราวปลายเดือนนี้แต่จะต่อเนื่องไปในพฤษภาคม
 
แรงที่สอง...จากการติดเชื้อซ้ำในหมู่คนที่เคยติดมาก่อน ทั้งที่ได้หรือไม่ได้วัคซีน แต่ไม่ได้ป้องกันตัว
 
และแรงที่สาม...จากสายพันธุ์ย่อยใหม่ๆ ที่อาจเข้ามา เช่น BA.4 และ BA.5 ซึ่งมีคุณสมบัติหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้เพิ่มขึ้นกว่า BA.2 เดิม และอีกสายพันธุ์ที่น่าจับตาคือ BA.2.12.1
 
สุดท้ายแล้วที่จะเป็นปัญหาระยะยาวคือ สึนามิจาก Long COVID
 
ดังนั้นนโยบายและมาตรการระดับชาติจึงไม่ควรผลีผลาม ประชาชนในสังคมก็ควรตระหนักถึงสถานการณ์จริงว่าไม่ปลอดภัย ควรป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ติดเชื้อย่อมดีที่สุด...
 
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10224206161694222
  

  
ราคาน้ำมันดิบเพิ่ม หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบที่จำกัดจากการคว่ำบาตร
https://www.prachachat.net/economy/news-914851
 
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบที่จำกัดจากการคว่ำบาตร
 
วันที่ 22 เมษายน 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังสหภาพยุโรป (EU) ยังคงพิจารณาและหาอุปทานด้านพลังงานจากแหล่งอื่นนอกจากรัสเซีย เพื่อโน้มน้าวประเทศเยอรมนีและประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ในการร่วมคว่ำบาตรรัสเซียจากการบุกรุก หรือปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารในยูเครน โดยรัสเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก
 
บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียยังคงไม่สามารถกลับมาเปิดดำเนินงานผลิตน้ำมันดิบต่อได้ หลังประกาศเหตุสุดวิสัยที่บ่อน้ำมัน Al-Sharara เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเนื่องจากเหตุการประท้วงส่งผลให้ต้องระงับการผลิตน้ำมันดิบกว่า 0.55 ล้านบาร์เรลต่อวัน
 
กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ยังคงไม่สามารถเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบตามข้อตกลงการประชุมของกลุ่มได้ โดยมีประเทศซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์เป็นผู้ที่มีกำลังการผลิตสำรองสูงที่สุดของกลุ่ม ขณะที่น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงกว่า 8.0 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 413.7 ล้านบาร์เรล
  
ราคาน้ำมันเบนซิน
 
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดการณ์ตัวเลขการส่งออกน้ำมันเบนซินของเกาหลีใต้จะปรับตัวลดลงในเดือนหน้า จากอุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ท่ามกลางน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐที่ปรับตัวลดลงกว่า 768,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  
ราคาน้ำมันดีเซล
 
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซลในมาเลเซียมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากการกลับมาดำเนินงานของโรงกลั่นในประเทศ ท่ามกลางอุปสงค์การใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคฟื้นตัวขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างเมือง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่