สมาชิก ‘อาชีวะปกป้องสถาบัน’ ยอมรับทำร้ายสื่ออิสระ อ้างไม่แสดงตัว พูดหาเรื่อง และเรียกพวก
https://prachatai.com/journal/2022/04/98302
'เบญภกรณ์' สมาชิกอาชีวะปกป้องสถาบัน กล่าวในไลฟ์สดยอมรับทำร้าย ‘ณัฐพล’ สื่ออิสระ หน้าร้านแมคฯ สาขาราชดำเนิน เมื่อ 22 เม.ย. 65 อ้างป้องกันตัว เหตุสื่อไม่แสดงตัว พูดจาหาเรื่อง ท้าต่อย และกวักมือเรียกเพื่อน ด้าน เต้ แกนนำอาชีวะฯ ย้ำไม่รู้สึกผิด
• สมาชิกอาชีวะปกป้องสถาบัน ยอมรับทำร้ายนายณัฐพล สื่ออิสระ อ้างเพื่อป้องกันตัว เพราะถูกพูดจาหาเรื่องชวนท้าต่อย และมีการเรียกพรรคพวกให้ทำร้าย
• อาชีวะฯ ไม่เชื่อว่าณัฐพล เป็นสื่อมวลชน เนื่องจากไม่มีบัตรนักข่าว และหลักฐานอื่นๆ ที่ใช้ยืนยัน พร้อมปฏิเสธไม่ได้รุมทำร้ายอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง
• คนที่เข้าไปด่าแฟลชม็อบ ‘ทัวร์มูล่าผัว’ เมื่อ 22 เม.ย. 65 เป็นอดีตสมาชิกอาชีวะปกป้องสถาบัน
• อาชีวะฯ ไม่ปฏิเสธว่าใช้ดิ้วตีหัวและหลังของณัฐพล ช่างภาพอิสระ แต่ระบุไม่มีใครใส่เสื้อกั๊กสีดำเอากระบองตีณัฐพล
• สมาชิกอาชีวะฯ ยอมรับอยู่ดีๆ วิ่งเข้าไปต่อยประชาชนหน้าร้านแมคฯ สาขาราชดำเนิน เมื่อ 23.45 น. เพราะจำได้ว่าเป็นแนวหน้าปะทะ ตร.ในแฟลชม็อบ ‘ทัวร์มูล่าผัว’ และมีอาการเมา เลยต้องระงับเหตุ
• ระหว่างเกิดเหตุหน้าร้านแมคฯ เมื่อ 23.45 น. 'โอ' หนึ่งในสมาชิกอาชีวะฯ ยอมรับชักมีดออกมา อ้างป้องกันตัว เพราะกลัวคู่กรณีที่ถูก ‘เบน’ ต่อย จะหยิบอาวุธ แต่ไม่มีใครยืนยันได้ว่ามีทางคู่กรณีหยิบอาวุธจริง
สืบเนื่องจากเมื่อ 22 เม.ย. 65 เมื่อเวลา 21.35 น. ผู้สื่อข่าวได่รับรายงานว่า นาย
ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ ช่างภาพอิสระ ถูกกลุ่มชายนิรนาม 4 คน รุมทำร้ายด้วยดิ้ว หน้าร้านแมคโดนัลด์ สาขาราชดำเนิน หลังรายงานข่าวแฟลชม็อบ
'ทัวร์มูหาผัว' และผู้ถูกทำร้ายมีการไปแจ้งความที่ สน.ชนะสงคราม แล้ว
ล่าสุด เมื่อ 24 เม.ย. 65 กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน นำโดย นาย
อัคราวุธ ไกรศรีสมบัติ แกนนำ และพลพรรค ถ่ายทอดสดผ่าน
‘เฟซบุ๊ก’ เพจ
‘อาชีวะปกป้องสถาบันและภาคีทุกภาคส่วน’ เมื่อเวลา 17.36 น. ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยอมรับว่า นาย
เบญภกรณ์ วิคะบำเพิง หรือ
เบน หนึ่งในสมาชิกอาชีวะปกป้องสถาบัน ทำร้ายสื่ออิสระจริง โดยอ้างว่าเพราะสื่ออิสระไม่ยอมแสดงตัว พร้อมพูดจาหาเรื่อง และเรียกพวกจะมาทำร้ายก่อน
กลุ่มอาชีวะฯ ปฏิเสธคนในคลิปไม่ใช่สมาชิก
ประเด็นแรกที่
อัครวุธ แกนนำอาชีวะฯ กล่าวในไลฟ์คือ กรณีที่เพจเฟซบุ๊ก ‘
สำนักข่าวราษฎร’ ของ
‘โอปอ’ ณัฐพงศ์ มาลี มีการกล่าวหาว่าบุคคลที่เข้าไปทะเลาะกับผู้ชุมนุมแฟลชม็อบ ‘
ทัวร์มูล่าผัว’ ที่บริเวณฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อ 22 เม.ย. 65 ไม่ใช่สมาชิกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน แต่เคยเป็นสมาชิก และลาออกไปแล้วก่อนหน้านี้
ยอมรับทำร้ายสื่ออิสระ
ในไลฟ์ถ่ายทอดสด นาย
เบญภกรณ์ และ
อัครวุธ พูดคุยถึงเหตุการณ์หน้าร้านแมคฯ โดย
เบน ยอมรับว่าทำร้าย
ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ สื่ออิสระ หน้าร้านแมคฯ เวลาประมาณเกือบ 21.00 น. อ้างว่าทำไปเพราะป้องกันตัวเอง เนื่องจากทางสื่อมีการพูดจาท้าทาย ไม่ยอมแสดงตัวว่าเป็นสื่อ และเรียกพวกจะมาทำร้ายเขา
เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.00 น. กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ซึ่งรวมตัวที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ได้เปิดคลิปวิดีโอ มีเสียงพูดว่า
“-ูไม่ปฏิรูป -ูจะปฏิวัติ” ซึ่งความไม่พอใจต่อกลุ่มเป็นอย่างมาก เพราะมองว่าการพูดว่า จะปฏิวัติเท่ากับการล้มล้างการปกครอง ทำตัวเป็นกบฏ ประกอบกับ อ้างว่าถูกกลุ่มมังกรปฏิวัติท้าทาย สมาชิกจำนวน 8-10 คนจึงเดินทางไปที่ร้านแมคฯ สาขาราชดำเนิน แต่เวลานั้นไม่พบใคร
ขณะที่กำลังกลับ นายเบน หรือเบญภกรณ์ วิคะบำเพิง หนึ่งในสมาชิกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันที่ตามมาที่ร้านแมคฯ ทีหลัง พบว่ามีชายใส่เสื้อสีดำ หรือณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ ช่างภาพข่าวอิสระ ค่อมอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ และถามเขาว่า “
มองหน้าทำไม”
เบน ยืนยันด้วยว่า
ณัฐพล ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นสื่อแม้แต่คำเดียว
เบนจึงตอบกลับ
ณัฐพล ประมาณว่า ทำไมมองไม่ได้เหรอ เขามาหาเพื่อน และไล่ให้สื่ออิสระคนดังกล่าวกลับไป ทั้งนี้ เบน ระบุว่าการคุยดังกล่าวเป็นการใส่อารมณ์กัน และรู้สึกว่าถูกท้าทาย
“
จนเขาขับรถไปนิดหนึ่ง หันหน้ากลับมา และเขากวักมือเรียกเพื่อนจะมาทำร้ายร่างกายผม”
เบน อ้าง จึงเข้าไปต่อย
ณัฐพล โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันตัวนอกจากนี้
เบน ระบุด้วยว่า
ณัฐพลมีกระเป๋าคาดที่เอว ทำให้เขาไม่มั่นใจว่าตัวของ
ณัฐพล มีการพกอาวุธมาด้วยไหม
เบน กล่าวต่อว่า มีพรรคพวกจากกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน อีกจำนวน 4 คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้าย แต่จะมาห้ามปรามเขา ดังนั้น ไม่ได้เป็นการรุมทำร้าย
เบน ระบุว่า เขาไม่มองว่า
‘ณัฐพล’ เป็นนักข่าว เพราะว่าไม่มีบัตรนักข่าว หรือหลักฐานแสดงตัวยืนยัน มองว่าเป็นการบิดเบือนเพื่อใส่ความพวกเขา และประณามว่า การใช้ชื่อของณัฐพล ว่าเป็นสื่อ ถือว่าเป็นพวกหาแสง
เบน ระบุต่อว่า
ณัฐพลมีกระเป๋าคาดที่เอว เขาไม่มั่นใจว่าตัวของ
ณัฐพล มีการพกอาวุธมาด้วยไหม พวกเขาจึงระแวงกลัวถูกทำร้าย จึงเข้าไปต่อยสื่ออิสระ เพราะต้องการป้องกันตัว
“
ตามกฎหมายในการชกต่อยกัน ผมเป็นคนเริ่ม ผมยอมรับว่าผมผิด แน่นอน อันนี้ผมยอมรับ”
เบน กล่าว
ยอมรับต่อยประชาชนหน้าร้านแมคฯ
อัครวุธ ไกรศรีสมบัติ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เบญภกรณ์ต่อยหน้าของประชาชนที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ สาขาราชดำเนิน เมื่อ 22 เม.ย. 65 เวลาประมาณ 23.45 น. ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ มีแผลที่เปลือกตาซ้าย
สืบเนื่องจากทางกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันได้ดูไลฟ์สด และพบว่ามีการกล่าวหาถึงกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน จึงทางกลุ่มจึงเดินทางไปที่ร้านแมคฯ อีกครั้ง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ทำและมีการออกมาคุยกันด้านนอกร้านแมคฯ ต่อ
ระหว่างที่พูดคุยกัน มีประชาชนขับรถเข้ามาที่ร้านแมคฯ เป็นรถกระบะ 1 คัน และมอเตอร์ไซค์อีก 2-3 คัน และลงมาพูดคุยกับ เต้ อาชีวะปกป้องสถาบัน เพื่อสอบถามประเด็นกรณีการทำร้ายนักข่าว จากนั้น เบน หนึ่งกลุ่มอาชีวะฯ วิ่งเข้าไปต่อยคนที่กำลังคุยกับ
เต้ อาชีวะฯ
เบน กล่าวอ้างว่า คนที่เขาวิ่งเข้าไปต่อยประชาชนหน้าร้านแมคฯ อีกครั้งนั้น เนื่องจากจำได้ว่าประชาชนคนดังกล่าวเป็นแนวหน้าปะทะกับตำรวจ และมีอาการมึนเมา
“ผมว่าผมไม่ผิดนะ เพราะว่าผมไม่รู้ว่าเขามีอาวุธรึเปล่า เขาเมาด้วย อีกอย่าง เขาอยู่สายปะทะกับตำรวจ อย่างน้อยต้องมีอาวุธบ้าง และเขาเข้ามาเกือบประชิดตัว ก็ต้องขอระงับเหตุก่อน หยุดยั้งก่อน พี่อาชีวะเขาไม่ได้ไปรุมพวกคุณ เขาเข้ามาห้ามผม ดึงผมไว้ ผมก็หยุด รอ”
เบญภกรณ์ คุยกับ
อัครวุธ ในไลฟ์สด
หลังจากนั้น กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ไปที่โรงพัก และถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ให้การปฏิเสธ
ยอมรับชักมีดออกมา
อัครวุธ หันไปถามคนที่ชื่อ
‘โอ’ อีกหนึ่งสมาชิกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ในกรณีที่มีภาพเผยแพร่บนสื่อออนไลน์ว่า
‘โอ’ ถือมีดตอนเกิดเหตุทำร้ายร่างกายหน้าร้านแมคฯ เมื่อเวลา 23.45 น.
โอ ยอมรับว่า เป็นมีดจริง แต่ทำไปเพราะต้องการป้องกันตัว เพราะเห็นว่าคนที่โดนต่อยไปหยิบของคล้ายอาวุธในร้านแมคฯ ออกมา
“ผมเห็นว่าคล้ายอาวุธ ผมไม่ปรักปรำ ผมแค่มองว่าคล้ายอาวุธ ผมก็คงไม่เอามีดพก ที่ผมพกติดตัวมาปอกผลไม้ให้มัน- ผมไม่โลกสวย รอให้มันตีกูก่อน” โอ ยอมรับ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 17.17 น. ของวันที่ 24 เม.ย. 65 อาชีวะปกป้องสถาบัน ขอรับผิดชอบโดยการออกแถลงการณ์ยอมรับผิด และรับผิดชอบ โดยมีข้อความดังนี้
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 ทางกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันขอรับผิดชอบ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสมาชิกท่านหนึ่งที่เป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้สื่อข่าวออนไลน์ และกลุ่มมังกรปฏิวัติ
เหตุการณ์ทั้ง 2 เหตุการณ์ต่างกรรมต่างวาระ
คณะกรรมการได้มีมติความเห็นดังนี้
ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด 2 เหตุการณ์โดยต่างกรรมต่างวาระกันไป
ให้ผู้กระทำความผิด ออกมาแถลงความจริง จากการกระทำดังกล่าวต่อหน้าสื่อ โซเชียลมีเดียผ่านทาง “เพจ อาชีวะปกป้องสถาบัน และภาคีทุกภาคส่วน…”
ได้มีบทลงโทษสมาชิกก่อเหตุ โดยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันไว้จนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ อยากจะขอให้ผู้กระทำความผิดชี้แจงความจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเวลา 16.30 น. เราจะมาไลฟ์สดเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อนึ่ง ในระหว่างอ่านแถลงการณ์
เต้ กล่าวในไลฟ์สดว่า ขอแก้ในแถลงการณ์ในส่วนที่ทำร้ายสื่อออนไลน์ เนื่องจากไม่เชื่อว่า
ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ เป็นสื่อจริง และย้ำด้วยว่า กลุ่มตนเองไม่ได้รู้สึกผิดอะไรในเรื่องนี้
https://www.facebook.com/100673385205489/videos/532594764903267
เอกชนท่องเที่ยวจี้รัฐยกเลิกไทยแลนด์ พาส หลังผ่อนคลายเงื่อนไขเข้าประเทศ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3306466
เอกชนท่องเที่ยวจี้รัฐยกเลิกไทยแลนด์ พาส หลังผ่อนคลายเงื่อนไขเข้าประเทศ
นาย
ธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลผ่อนปรนยกเลิกการตรวจหาเชื้อผ่าน RT-PCR เมื่อเข้าไทย ถือว่าดีกว่าเดิม เพราะตอนนี้ผ่อนปรนต่างๆ เกือบหมดแล้ว เหลือเพียงระบบไทยแลนด์ พาสเท่านั้น ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องกรอกข้อมูล เพื่อเดินทางเข้าไทย อาทิ หลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว การทำประกันสุขภาพ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ถูกร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงมาก ว่าการกรอกข้อมูลในระบบสร้างความล่าช้า เพราะมีความสับสน และไม่เอื้อความสะดวกในการเข้าประเทศ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ จึงอยากให้ยกเลิกระบบไทยแลนด์ พาส ที่ถือเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ เพื่อความสะดวกในการเข้าประเทศมากที่สุด เพราะหากทำขั้นตอนการเข้าประเทศให้ง่าย รัฐบาลตัดสินใจได้เร็ว ก็จะช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวไทยได้มากขึ้น
“กำหนดเริ่มยกเลิกตรวจหาเชื้อผ่าน RT-PCR เมื่อเข้าไทย ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ คงต้องรอกลางพฤษภาคมไปแล้ว ประเมินว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทย จะมีเชื้อโควิดมากหรือน้อยอย่างไร ซึ่งหากมีเพิ่มขึ้นไม่มาก ก็อยากให้รัฐบาลตัดสินใจยกเลิกไทยแลนด์ พาสทันที เพราะตอนนี้ในเดือนพฤษภาคมนี้จะเข้าช่วงโลว์ซีซั่นแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวระยะไกลจะไม่เดินทางมาเที่ยวไทยเหมือนช่วงไฮซีซั่น เพราะสามารถเที่ยวประเทศในระยะใกล้ 3-4 ชั่วโมงได้ เนื่องจากอากาศเริ่มร้อนและดีกว่าเดิม ทำให้แม้มีการผ่อนคลายเงื่อนไขเข้าประเทศในตอนนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็คงไม่ได้เข้ามาเที่ยวไทยมากเท่าที่ควร โดยความจริงอยากให้ยกเลิกไทยแลนด์ พาสพร้อมกัน แต่เท่าที่คุยกับรัฐบาล ประเมินว่าน่าจะขยับไปอีกระยะหนึ่งคือ เดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้มั่นใจด้านสาธารณสุขอย่างเต็มที่ก่อน” นาย
ธเนศกล่าว
JJNY : ‘อาชีวะปกป้องสถาบัน’ ยอมรับทำร้ายสื่ออิสระ│จี้ยกเลิกไทยแลนด์ พาส│ชัชชาติลงพื้นที่ย่านโชคชัย4│กนกลาออกรองหน.ปชป
https://prachatai.com/journal/2022/04/98302
'เบญภกรณ์' สมาชิกอาชีวะปกป้องสถาบัน กล่าวในไลฟ์สดยอมรับทำร้าย ‘ณัฐพล’ สื่ออิสระ หน้าร้านแมคฯ สาขาราชดำเนิน เมื่อ 22 เม.ย. 65 อ้างป้องกันตัว เหตุสื่อไม่แสดงตัว พูดจาหาเรื่อง ท้าต่อย และกวักมือเรียกเพื่อน ด้าน เต้ แกนนำอาชีวะฯ ย้ำไม่รู้สึกผิด
• สมาชิกอาชีวะปกป้องสถาบัน ยอมรับทำร้ายนายณัฐพล สื่ออิสระ อ้างเพื่อป้องกันตัว เพราะถูกพูดจาหาเรื่องชวนท้าต่อย และมีการเรียกพรรคพวกให้ทำร้าย
• อาชีวะฯ ไม่เชื่อว่าณัฐพล เป็นสื่อมวลชน เนื่องจากไม่มีบัตรนักข่าว และหลักฐานอื่นๆ ที่ใช้ยืนยัน พร้อมปฏิเสธไม่ได้รุมทำร้ายอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง
• คนที่เข้าไปด่าแฟลชม็อบ ‘ทัวร์มูล่าผัว’ เมื่อ 22 เม.ย. 65 เป็นอดีตสมาชิกอาชีวะปกป้องสถาบัน
• อาชีวะฯ ไม่ปฏิเสธว่าใช้ดิ้วตีหัวและหลังของณัฐพล ช่างภาพอิสระ แต่ระบุไม่มีใครใส่เสื้อกั๊กสีดำเอากระบองตีณัฐพล
• สมาชิกอาชีวะฯ ยอมรับอยู่ดีๆ วิ่งเข้าไปต่อยประชาชนหน้าร้านแมคฯ สาขาราชดำเนิน เมื่อ 23.45 น. เพราะจำได้ว่าเป็นแนวหน้าปะทะ ตร.ในแฟลชม็อบ ‘ทัวร์มูล่าผัว’ และมีอาการเมา เลยต้องระงับเหตุ
• ระหว่างเกิดเหตุหน้าร้านแมคฯ เมื่อ 23.45 น. 'โอ' หนึ่งในสมาชิกอาชีวะฯ ยอมรับชักมีดออกมา อ้างป้องกันตัว เพราะกลัวคู่กรณีที่ถูก ‘เบน’ ต่อย จะหยิบอาวุธ แต่ไม่มีใครยืนยันได้ว่ามีทางคู่กรณีหยิบอาวุธจริง
สืบเนื่องจากเมื่อ 22 เม.ย. 65 เมื่อเวลา 21.35 น. ผู้สื่อข่าวได่รับรายงานว่า นายณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ ช่างภาพอิสระ ถูกกลุ่มชายนิรนาม 4 คน รุมทำร้ายด้วยดิ้ว หน้าร้านแมคโดนัลด์ สาขาราชดำเนิน หลังรายงานข่าวแฟลชม็อบ 'ทัวร์มูหาผัว' และผู้ถูกทำร้ายมีการไปแจ้งความที่ สน.ชนะสงคราม แล้ว
ล่าสุด เมื่อ 24 เม.ย. 65 กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน นำโดย นายอัคราวุธ ไกรศรีสมบัติ แกนนำ และพลพรรค ถ่ายทอดสดผ่าน ‘เฟซบุ๊ก’ เพจ ‘อาชีวะปกป้องสถาบันและภาคีทุกภาคส่วน’ เมื่อเวลา 17.36 น. ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยอมรับว่า นายเบญภกรณ์ วิคะบำเพิง หรือเบน หนึ่งในสมาชิกอาชีวะปกป้องสถาบัน ทำร้ายสื่ออิสระจริง โดยอ้างว่าเพราะสื่ออิสระไม่ยอมแสดงตัว พร้อมพูดจาหาเรื่อง และเรียกพวกจะมาทำร้ายก่อน
กลุ่มอาชีวะฯ ปฏิเสธคนในคลิปไม่ใช่สมาชิก
ประเด็นแรกที่อัครวุธ แกนนำอาชีวะฯ กล่าวในไลฟ์คือ กรณีที่เพจเฟซบุ๊ก ‘สำนักข่าวราษฎร’ ของ ‘โอปอ’ ณัฐพงศ์ มาลี มีการกล่าวหาว่าบุคคลที่เข้าไปทะเลาะกับผู้ชุมนุมแฟลชม็อบ ‘ทัวร์มูล่าผัว’ ที่บริเวณฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อ 22 เม.ย. 65 ไม่ใช่สมาชิกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน แต่เคยเป็นสมาชิก และลาออกไปแล้วก่อนหน้านี้
ยอมรับทำร้ายสื่ออิสระ
ในไลฟ์ถ่ายทอดสด นายเบญภกรณ์ และอัครวุธ พูดคุยถึงเหตุการณ์หน้าร้านแมคฯ โดยเบน ยอมรับว่าทำร้าย ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ สื่ออิสระ หน้าร้านแมคฯ เวลาประมาณเกือบ 21.00 น. อ้างว่าทำไปเพราะป้องกันตัวเอง เนื่องจากทางสื่อมีการพูดจาท้าทาย ไม่ยอมแสดงตัวว่าเป็นสื่อ และเรียกพวกจะมาทำร้ายเขา
เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.00 น. กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ซึ่งรวมตัวที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ได้เปิดคลิปวิดีโอ มีเสียงพูดว่า “-ูไม่ปฏิรูป -ูจะปฏิวัติ” ซึ่งความไม่พอใจต่อกลุ่มเป็นอย่างมาก เพราะมองว่าการพูดว่า จะปฏิวัติเท่ากับการล้มล้างการปกครอง ทำตัวเป็นกบฏ ประกอบกับ อ้างว่าถูกกลุ่มมังกรปฏิวัติท้าทาย สมาชิกจำนวน 8-10 คนจึงเดินทางไปที่ร้านแมคฯ สาขาราชดำเนิน แต่เวลานั้นไม่พบใคร
ขณะที่กำลังกลับ นายเบน หรือเบญภกรณ์ วิคะบำเพิง หนึ่งในสมาชิกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันที่ตามมาที่ร้านแมคฯ ทีหลัง พบว่ามีชายใส่เสื้อสีดำ หรือณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ ช่างภาพข่าวอิสระ ค่อมอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ และถามเขาว่า “มองหน้าทำไม”
เบน ยืนยันด้วยว่า ณัฐพล ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นสื่อแม้แต่คำเดียว เบนจึงตอบกลับณัฐพล ประมาณว่า ทำไมมองไม่ได้เหรอ เขามาหาเพื่อน และไล่ให้สื่ออิสระคนดังกล่าวกลับไป ทั้งนี้ เบน ระบุว่าการคุยดังกล่าวเป็นการใส่อารมณ์กัน และรู้สึกว่าถูกท้าทาย
“จนเขาขับรถไปนิดหนึ่ง หันหน้ากลับมา และเขากวักมือเรียกเพื่อนจะมาทำร้ายร่างกายผม” เบน อ้าง จึงเข้าไปต่อยณัฐพล โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันตัวนอกจากนี้ เบน ระบุด้วยว่า ณัฐพลมีกระเป๋าคาดที่เอว ทำให้เขาไม่มั่นใจว่าตัวของณัฐพล มีการพกอาวุธมาด้วยไหม
เบน กล่าวต่อว่า มีพรรคพวกจากกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน อีกจำนวน 4 คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้าย แต่จะมาห้ามปรามเขา ดังนั้น ไม่ได้เป็นการรุมทำร้าย
เบน ระบุว่า เขาไม่มองว่า ‘ณัฐพล’ เป็นนักข่าว เพราะว่าไม่มีบัตรนักข่าว หรือหลักฐานแสดงตัวยืนยัน มองว่าเป็นการบิดเบือนเพื่อใส่ความพวกเขา และประณามว่า การใช้ชื่อของณัฐพล ว่าเป็นสื่อ ถือว่าเป็นพวกหาแสง
เบน ระบุต่อว่า ณัฐพลมีกระเป๋าคาดที่เอว เขาไม่มั่นใจว่าตัวของณัฐพล มีการพกอาวุธมาด้วยไหม พวกเขาจึงระแวงกลัวถูกทำร้าย จึงเข้าไปต่อยสื่ออิสระ เพราะต้องการป้องกันตัว
“ตามกฎหมายในการชกต่อยกัน ผมเป็นคนเริ่ม ผมยอมรับว่าผมผิด แน่นอน อันนี้ผมยอมรับ” เบน กล่าว
ยอมรับต่อยประชาชนหน้าร้านแมคฯ
อัครวุธ ไกรศรีสมบัติ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เบญภกรณ์ต่อยหน้าของประชาชนที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ สาขาราชดำเนิน เมื่อ 22 เม.ย. 65 เวลาประมาณ 23.45 น. ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ มีแผลที่เปลือกตาซ้าย
สืบเนื่องจากทางกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันได้ดูไลฟ์สด และพบว่ามีการกล่าวหาถึงกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน จึงทางกลุ่มจึงเดินทางไปที่ร้านแมคฯ อีกครั้ง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ทำและมีการออกมาคุยกันด้านนอกร้านแมคฯ ต่อ
ระหว่างที่พูดคุยกัน มีประชาชนขับรถเข้ามาที่ร้านแมคฯ เป็นรถกระบะ 1 คัน และมอเตอร์ไซค์อีก 2-3 คัน และลงมาพูดคุยกับ เต้ อาชีวะปกป้องสถาบัน เพื่อสอบถามประเด็นกรณีการทำร้ายนักข่าว จากนั้น เบน หนึ่งกลุ่มอาชีวะฯ วิ่งเข้าไปต่อยคนที่กำลังคุยกับเต้ อาชีวะฯ
เบน กล่าวอ้างว่า คนที่เขาวิ่งเข้าไปต่อยประชาชนหน้าร้านแมคฯ อีกครั้งนั้น เนื่องจากจำได้ว่าประชาชนคนดังกล่าวเป็นแนวหน้าปะทะกับตำรวจ และมีอาการมึนเมา
“ผมว่าผมไม่ผิดนะ เพราะว่าผมไม่รู้ว่าเขามีอาวุธรึเปล่า เขาเมาด้วย อีกอย่าง เขาอยู่สายปะทะกับตำรวจ อย่างน้อยต้องมีอาวุธบ้าง และเขาเข้ามาเกือบประชิดตัว ก็ต้องขอระงับเหตุก่อน หยุดยั้งก่อน พี่อาชีวะเขาไม่ได้ไปรุมพวกคุณ เขาเข้ามาห้ามผม ดึงผมไว้ ผมก็หยุด รอ” เบญภกรณ์ คุยกับอัครวุธ ในไลฟ์สด
หลังจากนั้น กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ไปที่โรงพัก และถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ให้การปฏิเสธ
ยอมรับชักมีดออกมา
อัครวุธ หันไปถามคนที่ชื่อ ‘โอ’ อีกหนึ่งสมาชิกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ในกรณีที่มีภาพเผยแพร่บนสื่อออนไลน์ว่า ‘โอ’ ถือมีดตอนเกิดเหตุทำร้ายร่างกายหน้าร้านแมคฯ เมื่อเวลา 23.45 น.
โอ ยอมรับว่า เป็นมีดจริง แต่ทำไปเพราะต้องการป้องกันตัว เพราะเห็นว่าคนที่โดนต่อยไปหยิบของคล้ายอาวุธในร้านแมคฯ ออกมา
“ผมเห็นว่าคล้ายอาวุธ ผมไม่ปรักปรำ ผมแค่มองว่าคล้ายอาวุธ ผมก็คงไม่เอามีดพก ที่ผมพกติดตัวมาปอกผลไม้ให้มัน- ผมไม่โลกสวย รอให้มันตีกูก่อน” โอ ยอมรับ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 17.17 น. ของวันที่ 24 เม.ย. 65 อาชีวะปกป้องสถาบัน ขอรับผิดชอบโดยการออกแถลงการณ์ยอมรับผิด และรับผิดชอบ โดยมีข้อความดังนี้
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 ทางกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันขอรับผิดชอบ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสมาชิกท่านหนึ่งที่เป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้สื่อข่าวออนไลน์ และกลุ่มมังกรปฏิวัติ
เหตุการณ์ทั้ง 2 เหตุการณ์ต่างกรรมต่างวาระ
คณะกรรมการได้มีมติความเห็นดังนี้
ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด 2 เหตุการณ์โดยต่างกรรมต่างวาระกันไป
ให้ผู้กระทำความผิด ออกมาแถลงความจริง จากการกระทำดังกล่าวต่อหน้าสื่อ โซเชียลมีเดียผ่านทาง “เพจ อาชีวะปกป้องสถาบัน และภาคีทุกภาคส่วน…”
ได้มีบทลงโทษสมาชิกก่อเหตุ โดยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันไว้จนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ อยากจะขอให้ผู้กระทำความผิดชี้แจงความจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเวลา 16.30 น. เราจะมาไลฟ์สดเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อนึ่ง ในระหว่างอ่านแถลงการณ์ เต้ กล่าวในไลฟ์สดว่า ขอแก้ในแถลงการณ์ในส่วนที่ทำร้ายสื่อออนไลน์ เนื่องจากไม่เชื่อว่า ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ เป็นสื่อจริง และย้ำด้วยว่า กลุ่มตนเองไม่ได้รู้สึกผิดอะไรในเรื่องนี้
https://www.facebook.com/100673385205489/videos/532594764903267
เอกชนท่องเที่ยวจี้รัฐยกเลิกไทยแลนด์ พาส หลังผ่อนคลายเงื่อนไขเข้าประเทศ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3306466
เอกชนท่องเที่ยวจี้รัฐยกเลิกไทยแลนด์ พาส หลังผ่อนคลายเงื่อนไขเข้าประเทศ
นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลผ่อนปรนยกเลิกการตรวจหาเชื้อผ่าน RT-PCR เมื่อเข้าไทย ถือว่าดีกว่าเดิม เพราะตอนนี้ผ่อนปรนต่างๆ เกือบหมดแล้ว เหลือเพียงระบบไทยแลนด์ พาสเท่านั้น ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องกรอกข้อมูล เพื่อเดินทางเข้าไทย อาทิ หลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว การทำประกันสุขภาพ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ถูกร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงมาก ว่าการกรอกข้อมูลในระบบสร้างความล่าช้า เพราะมีความสับสน และไม่เอื้อความสะดวกในการเข้าประเทศ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ จึงอยากให้ยกเลิกระบบไทยแลนด์ พาส ที่ถือเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ เพื่อความสะดวกในการเข้าประเทศมากที่สุด เพราะหากทำขั้นตอนการเข้าประเทศให้ง่าย รัฐบาลตัดสินใจได้เร็ว ก็จะช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวไทยได้มากขึ้น
“กำหนดเริ่มยกเลิกตรวจหาเชื้อผ่าน RT-PCR เมื่อเข้าไทย ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ คงต้องรอกลางพฤษภาคมไปแล้ว ประเมินว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทย จะมีเชื้อโควิดมากหรือน้อยอย่างไร ซึ่งหากมีเพิ่มขึ้นไม่มาก ก็อยากให้รัฐบาลตัดสินใจยกเลิกไทยแลนด์ พาสทันที เพราะตอนนี้ในเดือนพฤษภาคมนี้จะเข้าช่วงโลว์ซีซั่นแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวระยะไกลจะไม่เดินทางมาเที่ยวไทยเหมือนช่วงไฮซีซั่น เพราะสามารถเที่ยวประเทศในระยะใกล้ 3-4 ชั่วโมงได้ เนื่องจากอากาศเริ่มร้อนและดีกว่าเดิม ทำให้แม้มีการผ่อนคลายเงื่อนไขเข้าประเทศในตอนนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็คงไม่ได้เข้ามาเที่ยวไทยมากเท่าที่ควร โดยความจริงอยากให้ยกเลิกไทยแลนด์ พาสพร้อมกัน แต่เท่าที่คุยกับรัฐบาล ประเมินว่าน่าจะขยับไปอีกระยะหนึ่งคือ เดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้มั่นใจด้านสาธารณสุขอย่างเต็มที่ก่อน” นายธเนศกล่าว