ยอดยังสูง ไทยป่วยโควิดใหม่ 20,052 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 129 คน
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3303988
ยอดยังสูง ไทยป่วยโควิดใหม่ 20,052 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 129 คน
เมื่อวันที่ 23 เมษายน ศูนย์ข้อมูลโควิด 19 รายงานสถานการณ์โรคโควิด ประจำวันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2565 รวม 20,052 ราย จำแนกเป็น
ผู้ป่วยจากในประเทศ 20,004 ราย
ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 48 ราย
ผู้ป่วยสะสม 1,924,655 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 22,361 ราย
หายป่วยสะสม 1,763,605 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
ผู้ป่วยกำลังรักษา 188,342 ราย
เสียชีวิต 129 ราย
จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ
รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,962 ราย
เฉลี่ยจังหวัดละ 25 ราย
อัตราครองเตียง ร้อยละ 25.0
โรงแรมภูธรยอดบุ๊กกิ้งเดี้ยง จี้รัฐฟื้นนักท่องเที่ยวต่างชาติ
https://www.prachachat.net/local-economy/news-915809
โรงแรมต่างจังหวัดโอดหลังสงกรานต์จบ ยอดบุ๊กกิ้ง-การเข้าพักเดี้ยง นายกโรงแรมไทยภาคเหนือชี้หน้าฝนเข้าโลว์ซีซั่นเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวเงียบ “ชะอำ-หัวหิน” ประคองระยะสั้น “อีสาน-ใต้” ไม่คึกคัก วอนรัฐคลายล็อกมาตรการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยพลิกฟื้นให้ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมกลับมาคึกคักขึ้น สะท้อนจากยอดการจอง การเข้าพัก ของโรงแรมต่าง ๆ ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญจะมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้น แต่ล่าสุด หลังจากเทศกาลสิ้นสุดลง ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะที่เงียบเหงาอีกครั้งหนึ่ง
เหนือเริ่มกลับมาเงียบ
นาง
ละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์โรงแรมเชียงใหม่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีอัตราการเข้าพัก 60% คึกคักกว่าปีที่ผ่านมามาก
โดยเฉพาะโรงแรมใหญ่ระดับ 4-5 ดาว ที่ขายห้องพักในราคาที่ปรับลด 70-90% หรือเฉลี่ยไม่เกิน 2,500-3,000 บาท/ห้อง หากนักท่องเที่ยวใช้สิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันจะจ่ายไม่เกิน 2,000 บาท/ห้อง ขณะที่โรงแรมระดับ 3 ดาว ปรับลดราคาลงมาเหลือเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น
แต่หลังจากเทศกาลสงกรานต์ การท่องเที่ยวของเชียงใหม่ก็กลับมาเงียบเหงาอีกครั้ง ประกอบกับสิ้นสุดโครงการเราเที่ยวด้วยกัน คาดว่าเดือนเมษายน 2565 อัตราการเข้าพักจะเฉลี่ย 40% ส่วนเดือนพฤษภาคมยังคาดการณ์ไม่ได้เพราะยังไม่มียอดจองเข้ามา
นาย
วิวัฒน์ ธาราวิวัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า อัตราการเข้าพักในสุโขทัยช่วงสงกรานต์กว่า 70-80% แต่ขณะนี้การบุ๊กกิ้งค่อนข้างนิ่ง คาดว่าอัตรการเข้าพักเดือนพฤษภาคมคงไม่เกิน 30% และหลังจากนี้ไปจะเริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นด้วย หากรัฐบาลมีการคลายล็อกมาตรการไม่ต้องตรวจ RT-PCR นักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น
“หลังหมดเทศกาลสงกรานต์ผู้ประกอบการก็เริ่มทำการตลาด ลดราคาที่พักทันที แข่งขันกันอย่างคึกคัก เช่น จากเดิม 1,500 ลดเหลือ 999 บาท/คืน”
“ตอนนี้บริษัททัวร์หลายแห่ง พบว่าเริ่มเห็นสัญญาณการจองห้องพักจากนักท่องเที่ยวโซนยุโรป ในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค. อัตราการจอง20-30% คาดว่าสถานการณ์น่าจะดีกว่าเดือนพ.ค.นี้”
ชะอำ-หัวหิน ธุรกิจดีระยะสั้น
นาง
วาสนา ศรีกาญจนา เจ้าของโรงแรมหัวหินไวท์วิลลา ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา โรงแรมทุกระดับถูกจองเต็มหมด 80-100% และส่วนใหญ่ 80% เป็นนักท่องเที่ยวคนไทย
นอกจากนี้ยังมีลูกค้าอีกจำนวนหนึ่งที่วอล์กอินเข้ามาใช้บริการของกลุ่มโรงแรม SMEs อย่างไรก็ตาม ภาพรวมไตรมาส 2 นี้ คาดว่าธุรกิจนี้จะได้รับผลดีเพียงเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่มีวันหยุดติดต่อกัน หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวจะเบาบางลง
“ปกติไฮซีซั่นของหัวหิน-ชะอำอยู่ในเดือนม.ค.-เม.ย. มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 80% เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับไป จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยก็เข้ามาแทนในเดือนเม.ย.-พ.ค. จากนั้นเดือนมิ.ย.-ก.ย.จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นตั้งแต่เกิดโควิด-19 แทบไม่มีชาวต่างชาติ”
ตะวันออกจี้ผ่อนปรนมาตรการ
นาย
ธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการแทนประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า อัตราการจองโรงแรมเริ่มชะลอตัวหลังสงกรานต์ และจะเริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งนักท่องเที่ยวยุโรปมักไม่มีการเดินทาง และยังมีผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนด้วย ตอนนี้ตลาดที่มีความหวังหลัก ๆ คงเป็นอินเดีย และการผ่อนคลายมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)
“ปัจจุบันในชลบุรีมีโรงแรมเปิดกิจการ 50% ปิดกิจการชั่วคราว 50% ตอนนี้ราคาห้องพักต่ำมาก เช่น โรงแรม 3 ดาว 500-600 บาท/คืน แม้จะมีการจัดโปรโมชั่นเสริมก็มีลูกค้าไม่มาก ตอนนี้หลายประเทศปลดล็อกเงื่อนไข การเดินทางทำได้ง่ายขึ้นแล้ว ถ้าหากประเทศไทยปลดล็อกได้หมดก็น่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ดีกว่านี้ เพราะตอนนี้มีเพียงนักท่องเที่ยวคนไทยมาเที่ยวเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น”
อีสาน-ใต้ ไม่คึกคัก
นาย
เสมาชัย ปลื้มใจ ประธานชมรมโรงแรมจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า ภาคอีสานยังไม่เห็นภาพการท่องเที่ยวมากนัก ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ผู้คนจะเดินทางกลับบ้านมากกว่า อย่างในจังหวัดบุรีรัมย์ผู้คนก็กลับบ้านและพักที่บ้านตัวเอง นักท่องเที่ยวต่างถิ่นหรือต่างชาติยังไม่เห็นและเงียบอยู่
ตอนนี้ธุรกิจโรงแรมที่ในจังหวัดบุรีรัมย์จะมีเพียงไม่กี่โรงแรมที่มีลูกค้าเข้าพัก เพราะมีแข่งขันฟุตบอล นอกจากนั้นก็มีลูกค้าปะปายเพราะนักท่องเที่ยวยังชะลอตัวเพราะสถานการณ์โควิด
โครงการเราเที่ยวด้วยกันก็ช่วยไม่ได้มากนัก หลังจากนี้คาดว่าน่าจะมีกลุ่มลูกค้าประชุมสัมมนาเข้ามาบ้างและต้องรอดูภาครัฐว่าจะผ่อนคลายหรือปลดล็อกมาตรการอย่างไร ซึ่งยังคงคาดการณ์และคาดหวังไม่ได้
ด้านนาย
สมบูรณ์ พงศ์เลิศนภากรณ์ ผู้จัดการ เจ้าของโรงแรมเอเชียนหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ย้ำว่า ภาพรวมของธุรกิจโรงแรม จ.สงขลา ยังวิกฤตต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมา การเปิดชายแดนไทย-มาเลเซีย เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ก็ยังมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาไม่มากนัก สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโควิด-19 เพิ่มขึ้นประมาณ 5,000-6,000 บาท/คน
นาย
กมล สุทธิวรรณโนภาส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เจ้าของผู้จัดการโรงแรมไชน่าการ์เด้นหาดใหญ่ กล่าวเสริมว่า การเปิดด่านชายแดนไทย-มาเลเซียยังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่มากนัก ชาวมาเลเซียที่เข้ามาส่วนใหญ่คนที่ทำธุรกิจอยู่ในไทยและมีครอบครัวในไทย ดังนั้น ธุรกิจการค้า โรงแรม การท่องเที่ยว ฯลฯ จึงยังไม่ได้รับอานิสงส์จากการเปิดด่านในช่วงนี้เท่าที่ควร
ร้อนใจมาก! จุรีพร รุดคืน รองเท้าแบรนด์เนม ลั่น เดินหน้าสู้คดีคลิปหวย
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7012580
จุรีพร รุด คืน รองเท้าแบรนด์เนม ให้ต้นสังกัด หวั่น ผิดกฎหมาย ป.ป.ช. ขอบคุณ นิพิฏฐ์ ให้คำแนะนำ เผย รู้สึกร้อนใจมาก ลั่น เดินหน้าสู้คดีคลิปหวย
จากกรณี นาง
จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ แถลงข่าวกรณีคลิปหวย 15 ล้านบาท ที่เป็นบทสนทนากับ นาย
เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยนำรองเท้าแบรนด์เนมกุชชี แบบหญิง และรองเท้าแบรนด์เนมหลุยส์ วิตตอง แบบชาย ออกมาโชว์ เพื่อเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้น วันรู้จักกับนาย
กิ๊ก ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนอัดคลิปฉาวดังกล่าวว่าได้นำรองเท้าดังกล่าวมาให้ อ่านข่าว :
‘สมชัย’ ถาม ‘ประยุทธ์’ รู้ยัง! มีขรก.การเมือง รับรองเท้าหรูเกิน 3 พัน ผิดกม.ป.ป.ช.
จึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นาง
จุรีพรอาจกระทำการขัดกฎหมาย ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าพนักงานของรัฐ ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2563 ข้อ 6 (1) กำหนดมูลค่าในการรับจากบุคคลอื่นที่มิใช่ญาติ ไม่เกิน 3,000 บาท
ข้อ 7 ระบุเพิ่มเติมว่า หากรับมาแล้ว ต้องทำรายงานรายละเอียดแจ้งผู้บังคับบัญชาภายใน 30 วัน เพื่อวินิจฉัยว่าเหมาะสมหรือไม่ และควรเก็บรักษาไว้หรือไม่ หากไม่กระทำ ถือเป็นความผิดตามมาตรา 128 ของ พ.ร.ป. ป.ป.ช. โทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กระทั่ง เมื่อเวลา 15.40 น.ของวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา นาง
จุรีพร ได้เดินทางมายังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อนำรองเท้าแบรนด์เนมที่ได้รับจาก นาย
สุดสยาม มากแก้ว หรือ นาย
กิ๊ก มาคืน ที่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่ายังอยู่ในกรอบระยะเวลาที่กำหนด จึงไม่เป็นการผิดมาตรฐานจริยธรรม
โดยนาง
จุรีพร ระบุว่า เมื่อเรื่องเกิดขึ้นรู้สึกร้อนใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เมื่อได้รับคำแนะนำจาก นาย
นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จึงรีบจองตั๋วเครื่องบินจาก จ.ร้อยเอ็ด นำสิ่งของทั้งหมดมาคืนยังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีต้นสังกัด
“ต้องขอบพระคุณ คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่ออกมาโพสต์ข้อความแนะนำ ถือเป็นพระคุณอย่างสูง และจะจำเรื่องราวทั้งหมดไว้เป็นบทเรียน จากนี้จะเดินหน้าติดตามคดีเรื่องการปล่อยคลิปเสียงทำให้ตัวเองเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อไป” นาง
จุรีพร กล่าว
JJNY : ป่วยใหม่ 20,052 เสียชีวิต129│โรงแรมภูธรยอดบุ๊กกิ้งเดี้ยง│จุรีพรรุดคืนรองเท้า│ศูนย์พัฒนาเมืองจุฬาจ่อฟ้องลูกอัศวิน
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3303988
ยอดยังสูง ไทยป่วยโควิดใหม่ 20,052 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 129 คน
เมื่อวันที่ 23 เมษายน ศูนย์ข้อมูลโควิด 19 รายงานสถานการณ์โรคโควิด ประจำวันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2565 รวม 20,052 ราย จำแนกเป็น
ผู้ป่วยจากในประเทศ 20,004 ราย
ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 48 ราย
ผู้ป่วยสะสม 1,924,655 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 22,361 ราย
หายป่วยสะสม 1,763,605 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
ผู้ป่วยกำลังรักษา 188,342 ราย
เสียชีวิต 129 ราย
จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ
รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,962 ราย
เฉลี่ยจังหวัดละ 25 ราย
อัตราครองเตียง ร้อยละ 25.0
โรงแรมภูธรยอดบุ๊กกิ้งเดี้ยง จี้รัฐฟื้นนักท่องเที่ยวต่างชาติ
https://www.prachachat.net/local-economy/news-915809
โรงแรมต่างจังหวัดโอดหลังสงกรานต์จบ ยอดบุ๊กกิ้ง-การเข้าพักเดี้ยง นายกโรงแรมไทยภาคเหนือชี้หน้าฝนเข้าโลว์ซีซั่นเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวเงียบ “ชะอำ-หัวหิน” ประคองระยะสั้น “อีสาน-ใต้” ไม่คึกคัก วอนรัฐคลายล็อกมาตรการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยพลิกฟื้นให้ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมกลับมาคึกคักขึ้น สะท้อนจากยอดการจอง การเข้าพัก ของโรงแรมต่าง ๆ ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญจะมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้น แต่ล่าสุด หลังจากเทศกาลสิ้นสุดลง ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะที่เงียบเหงาอีกครั้งหนึ่ง
เหนือเริ่มกลับมาเงียบ
นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์โรงแรมเชียงใหม่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีอัตราการเข้าพัก 60% คึกคักกว่าปีที่ผ่านมามาก
โดยเฉพาะโรงแรมใหญ่ระดับ 4-5 ดาว ที่ขายห้องพักในราคาที่ปรับลด 70-90% หรือเฉลี่ยไม่เกิน 2,500-3,000 บาท/ห้อง หากนักท่องเที่ยวใช้สิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันจะจ่ายไม่เกิน 2,000 บาท/ห้อง ขณะที่โรงแรมระดับ 3 ดาว ปรับลดราคาลงมาเหลือเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น
แต่หลังจากเทศกาลสงกรานต์ การท่องเที่ยวของเชียงใหม่ก็กลับมาเงียบเหงาอีกครั้ง ประกอบกับสิ้นสุดโครงการเราเที่ยวด้วยกัน คาดว่าเดือนเมษายน 2565 อัตราการเข้าพักจะเฉลี่ย 40% ส่วนเดือนพฤษภาคมยังคาดการณ์ไม่ได้เพราะยังไม่มียอดจองเข้ามา
นายวิวัฒน์ ธาราวิวัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า อัตราการเข้าพักในสุโขทัยช่วงสงกรานต์กว่า 70-80% แต่ขณะนี้การบุ๊กกิ้งค่อนข้างนิ่ง คาดว่าอัตรการเข้าพักเดือนพฤษภาคมคงไม่เกิน 30% และหลังจากนี้ไปจะเริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นด้วย หากรัฐบาลมีการคลายล็อกมาตรการไม่ต้องตรวจ RT-PCR นักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น
“หลังหมดเทศกาลสงกรานต์ผู้ประกอบการก็เริ่มทำการตลาด ลดราคาที่พักทันที แข่งขันกันอย่างคึกคัก เช่น จากเดิม 1,500 ลดเหลือ 999 บาท/คืน”
“ตอนนี้บริษัททัวร์หลายแห่ง พบว่าเริ่มเห็นสัญญาณการจองห้องพักจากนักท่องเที่ยวโซนยุโรป ในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค. อัตราการจอง20-30% คาดว่าสถานการณ์น่าจะดีกว่าเดือนพ.ค.นี้”
ชะอำ-หัวหิน ธุรกิจดีระยะสั้น
นางวาสนา ศรีกาญจนา เจ้าของโรงแรมหัวหินไวท์วิลลา ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา โรงแรมทุกระดับถูกจองเต็มหมด 80-100% และส่วนใหญ่ 80% เป็นนักท่องเที่ยวคนไทย
นอกจากนี้ยังมีลูกค้าอีกจำนวนหนึ่งที่วอล์กอินเข้ามาใช้บริการของกลุ่มโรงแรม SMEs อย่างไรก็ตาม ภาพรวมไตรมาส 2 นี้ คาดว่าธุรกิจนี้จะได้รับผลดีเพียงเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่มีวันหยุดติดต่อกัน หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวจะเบาบางลง
“ปกติไฮซีซั่นของหัวหิน-ชะอำอยู่ในเดือนม.ค.-เม.ย. มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 80% เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับไป จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยก็เข้ามาแทนในเดือนเม.ย.-พ.ค. จากนั้นเดือนมิ.ย.-ก.ย.จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นตั้งแต่เกิดโควิด-19 แทบไม่มีชาวต่างชาติ”
ตะวันออกจี้ผ่อนปรนมาตรการ
นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการแทนประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า อัตราการจองโรงแรมเริ่มชะลอตัวหลังสงกรานต์ และจะเริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งนักท่องเที่ยวยุโรปมักไม่มีการเดินทาง และยังมีผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนด้วย ตอนนี้ตลาดที่มีความหวังหลัก ๆ คงเป็นอินเดีย และการผ่อนคลายมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)
“ปัจจุบันในชลบุรีมีโรงแรมเปิดกิจการ 50% ปิดกิจการชั่วคราว 50% ตอนนี้ราคาห้องพักต่ำมาก เช่น โรงแรม 3 ดาว 500-600 บาท/คืน แม้จะมีการจัดโปรโมชั่นเสริมก็มีลูกค้าไม่มาก ตอนนี้หลายประเทศปลดล็อกเงื่อนไข การเดินทางทำได้ง่ายขึ้นแล้ว ถ้าหากประเทศไทยปลดล็อกได้หมดก็น่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ดีกว่านี้ เพราะตอนนี้มีเพียงนักท่องเที่ยวคนไทยมาเที่ยวเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น”
อีสาน-ใต้ ไม่คึกคัก
นายเสมาชัย ปลื้มใจ ประธานชมรมโรงแรมจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า ภาคอีสานยังไม่เห็นภาพการท่องเที่ยวมากนัก ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ผู้คนจะเดินทางกลับบ้านมากกว่า อย่างในจังหวัดบุรีรัมย์ผู้คนก็กลับบ้านและพักที่บ้านตัวเอง นักท่องเที่ยวต่างถิ่นหรือต่างชาติยังไม่เห็นและเงียบอยู่
ตอนนี้ธุรกิจโรงแรมที่ในจังหวัดบุรีรัมย์จะมีเพียงไม่กี่โรงแรมที่มีลูกค้าเข้าพัก เพราะมีแข่งขันฟุตบอล นอกจากนั้นก็มีลูกค้าปะปายเพราะนักท่องเที่ยวยังชะลอตัวเพราะสถานการณ์โควิด
โครงการเราเที่ยวด้วยกันก็ช่วยไม่ได้มากนัก หลังจากนี้คาดว่าน่าจะมีกลุ่มลูกค้าประชุมสัมมนาเข้ามาบ้างและต้องรอดูภาครัฐว่าจะผ่อนคลายหรือปลดล็อกมาตรการอย่างไร ซึ่งยังคงคาดการณ์และคาดหวังไม่ได้
ด้านนายสมบูรณ์ พงศ์เลิศนภากรณ์ ผู้จัดการ เจ้าของโรงแรมเอเชียนหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ย้ำว่า ภาพรวมของธุรกิจโรงแรม จ.สงขลา ยังวิกฤตต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมา การเปิดชายแดนไทย-มาเลเซีย เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ก็ยังมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาไม่มากนัก สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโควิด-19 เพิ่มขึ้นประมาณ 5,000-6,000 บาท/คน
นายกมล สุทธิวรรณโนภาส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เจ้าของผู้จัดการโรงแรมไชน่าการ์เด้นหาดใหญ่ กล่าวเสริมว่า การเปิดด่านชายแดนไทย-มาเลเซียยังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่มากนัก ชาวมาเลเซียที่เข้ามาส่วนใหญ่คนที่ทำธุรกิจอยู่ในไทยและมีครอบครัวในไทย ดังนั้น ธุรกิจการค้า โรงแรม การท่องเที่ยว ฯลฯ จึงยังไม่ได้รับอานิสงส์จากการเปิดด่านในช่วงนี้เท่าที่ควร
ร้อนใจมาก! จุรีพร รุดคืน รองเท้าแบรนด์เนม ลั่น เดินหน้าสู้คดีคลิปหวย
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7012580
จุรีพร รุด คืน รองเท้าแบรนด์เนม ให้ต้นสังกัด หวั่น ผิดกฎหมาย ป.ป.ช. ขอบคุณ นิพิฏฐ์ ให้คำแนะนำ เผย รู้สึกร้อนใจมาก ลั่น เดินหน้าสู้คดีคลิปหวย
จากกรณี นางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ แถลงข่าวกรณีคลิปหวย 15 ล้านบาท ที่เป็นบทสนทนากับ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยนำรองเท้าแบรนด์เนมกุชชี แบบหญิง และรองเท้าแบรนด์เนมหลุยส์ วิตตอง แบบชาย ออกมาโชว์ เพื่อเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้น วันรู้จักกับนายกิ๊ก ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนอัดคลิปฉาวดังกล่าวว่าได้นำรองเท้าดังกล่าวมาให้ อ่านข่าว : ‘สมชัย’ ถาม ‘ประยุทธ์’ รู้ยัง! มีขรก.การเมือง รับรองเท้าหรูเกิน 3 พัน ผิดกม.ป.ป.ช.
จึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นางจุรีพรอาจกระทำการขัดกฎหมาย ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าพนักงานของรัฐ ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2563 ข้อ 6 (1) กำหนดมูลค่าในการรับจากบุคคลอื่นที่มิใช่ญาติ ไม่เกิน 3,000 บาท
ข้อ 7 ระบุเพิ่มเติมว่า หากรับมาแล้ว ต้องทำรายงานรายละเอียดแจ้งผู้บังคับบัญชาภายใน 30 วัน เพื่อวินิจฉัยว่าเหมาะสมหรือไม่ และควรเก็บรักษาไว้หรือไม่ หากไม่กระทำ ถือเป็นความผิดตามมาตรา 128 ของ พ.ร.ป. ป.ป.ช. โทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กระทั่ง เมื่อเวลา 15.40 น.ของวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา นางจุรีพร ได้เดินทางมายังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อนำรองเท้าแบรนด์เนมที่ได้รับจาก นายสุดสยาม มากแก้ว หรือ นายกิ๊ก มาคืน ที่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่ายังอยู่ในกรอบระยะเวลาที่กำหนด จึงไม่เป็นการผิดมาตรฐานจริยธรรม
โดยนางจุรีพร ระบุว่า เมื่อเรื่องเกิดขึ้นรู้สึกร้อนใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เมื่อได้รับคำแนะนำจาก นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จึงรีบจองตั๋วเครื่องบินจาก จ.ร้อยเอ็ด นำสิ่งของทั้งหมดมาคืนยังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีต้นสังกัด
“ต้องขอบพระคุณ คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่ออกมาโพสต์ข้อความแนะนำ ถือเป็นพระคุณอย่างสูง และจะจำเรื่องราวทั้งหมดไว้เป็นบทเรียน จากนี้จะเดินหน้าติดตามคดีเรื่องการปล่อยคลิปเสียงทำให้ตัวเองเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อไป” นางจุรีพร กล่าว