กระทู้ที่เกี่ยวข้อง:
ก่อนเข้าสู่เนื้อหาของกระทู้นี้ ผมอยากให้ทุกคนพิจารณา 2 รูปนี้ แล้วสังเกตว่าเห็นอะไรเหมือนกันอีกนอกจากที่มีเหนือกับพอร์ชอยู่ในรูป
ผมกำลังจะให้ทุกคนลองถอดรหัส 2 รูปนี้ครับ จริง ๆ แล้วผมน่าจะวิเคราะห์ตีความ 2 รูปนี้เองในกระทู้ถอดรหัส “รุ้งสีเทา”ฯ ที่จั่วไว้บนหัวกระทู้นี้ แต่เนื่องจาก 2 รูปนี้ไม่ได้ปรากฏอยู่ในเรื่อง ผมจึงคิดว่าเอามาพูดในกระทู้นี้ดีกว่า แถมยังเข้ากับเนื้อหากระทู้พอดีด้วย
รูปแรก เป็นโปสเตอร์โฆษณาซีรีส์ ผมนำรูปจากกระทู้
https://ppantip.com/topic/35128725 มา ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ เรื่องนี้ทำโปสเตอร์แตกต่างจากทุกเรื่องในซีรีส์ชุดมิติรักผ่านเลนส์ คือมีลักษณะเป็น 2 รูปซ้อนกันอยู่ด้านบนและด้านล่างในกรอบเดียวกัน ในขณะที่เรื่องอื่น ๆ เป็นแบบ 1 รูปในกรอบเดียวกัน
ถ้าจะบอกว่าก็รุ้งสีเทาเป็นเรื่องราวความรักระหว่างชาย-ชาย ต่างจากเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นความรักระหว่างชาย-หญิง เลยต้องทำให้แตกต่างด้วยวิธีการนี้ ตรงนี้ผมว่าไม่จำเป็นนะ ทำให้เป็นรูปเดียวในกรอบเดียวเหมือนเรื่องอื่น ๆ ก็สื่อความหมายว่าเป็นความรักระหว่างชาย-ชายได้เหมือนกัน แต่ที่รุ้งสีเทาทำโปสเตอร์แบบนี้ ผมมองว่าเป็นเพราะต้องการสื่อให้เห็นว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับโลก 2 ใบ (ที่ไม่ได้แปลว่ามีแฟน 2 คน) ที่ซ้อนอยู่ในเรื่องเดียวกัน
โลก 2 ใบที่ว่าคือโลกเหนือจริงที่พอร์ชรับรู้กับโลกสมจริงที่เหนือและตัวละครอื่น ๆ (รวมทั้งพอร์ช) ดำรงชีวิตอยู่ จะเห็นว่ารูปด้านบนพอร์ชหันหน้าออกมาให้คนดูเห็นมากกว่าเหนือ สื่อให้เห็นว่านี่คือโลกเหนือจริงที่พอร์ชรับรู้ (แล้วก็อยู่เหนือรูปด้านล่างซะด้วย) ส่วนรูปด้านล่างเหนือหันหน้าออกมาให้คนดูเห็นมากกว่า ก็สื่อว่านี่คือโลกสมจริงที่เหนือและตัวละครตัวอื่น ๆ ดำรงชีวิตอยู่ (ซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจของโลกเหนือจริงที่พอร์ชรับรู้ ถ้าอยากเข้าใจมากกว่านี้ให้ไปอ่านกระทู้ถอดรหัสรุ้งสีเทาข้อที่ 1 ของผมนะครับ) และการที่เรื่องนี้นำรูปด้านล่างมาขึ้นต้นช่วงที่ 2-5 ของทุก ep. ก็เป็นการบอกคนดูย้ำ ๆ ว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในโลกสมจริงหรือโลกแห่งความเป็นจริงในซีรีส์รุ้งสีเทา ไม่ใช่เรื่องที่พอร์ชมโนไปเอง
ส่วนรูปที่ 2 ผมนำรูปมาจากเพจมิติรักผ่านเลนส์ รูปนี้คล้ายกับฉากวันที่เหนือและพอร์ชนั่งรถไฟกลับเชียงใหม่หลังเปิดเผยความรู้สึกต่อกันในคืนก่อนหน้านั้น แต่ในเรื่องใบหน้าพอร์ชจะอยู่ใกล้ทางรถไฟมากกว่า ส่วนรูปนี้ใบหน้าเหนืออยู่ใกล้ทางรถไฟมากกว่า ทำไมแอดมินถึงเลือกนำรูปนี้มาลงเพจแทนฉากที่อยู่ในเรื่อง ตรงนี้ผมมองว่าทางรถไฟเปรียบเสมือนเส้นทางชีวิตของคนเรา มีต้นทางและปลายทาง รถไฟก็เหมือนพลังที่ขับเคลื่อนตัวเราให้ใช้ชีวิตไปตามเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้ หากต้นทางของชีวิตคนเราคือการเกิด ปลายทางของชีวิตคนเราก็คือความตาย ผมว่ารูปนี้แอดมินต้องการบอกคนดูเป็นนัย ๆ ว่าเหนือกำลังจะตายนะ เหนือเหลือเวลาชีวิตของตัวเองอีกไม่มาก เหนือเข้าใกล้ปลายทางของชีวิตแล้วนะ
ทั้ง 2 รูปที่ผมพูดถึงนี้ ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เหมือนที่เหนือพูดกับพอร์ชว่า “บนโลกนี้ (เรื่องรุ้งสีเทา) ไม่มีความบังเอิญหรอก ทุกอย่างถูกกำหนดไว้หมดแล้ว” จากกระทู้ถอดรหัสรุ้งสีเทาที่ผมตั้งไว้ ถ้าใครได้อ่านจนจบ จะเห็นว่าทีมงานได้แทรกสัญลักษณ์ ใส่รายละเอียดสำคัญที่หากดูรอบแรกเราอาจจะมองข้ามหรือมองไม่เห็น แต่พอดูรอบที่ 2 เป็นต้นไปอย่างละเอียด จะเห็นว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ธรรมดา เข้าขั้นงานศิลปะชั้นดีที่ทำออกมาได้อย่างมีชั้นเชิง จนผมไม่อยากเก็บสิ่งที่ตัวเองรับรู้และเข้าใจไว้คนเดียว จึงต้องมาแบ่งปันกับทุกคนนี่แหละครับ
ทางรถไฟในรูปที่ 2 จะเห็นว่ามีรางเหล็กขนานกัน 2 รางทางด้านซ้ายและด้านขวา ตรงนี้ผมมองว่าก็สื่อถึงเรื่องโลก 2 ใบ หรือโลกคู่ขนานที่อยู่ในเรื่องด้วยเช่นกัน และตรงนี้แหละที่ผมจะนำทุกคนเข้าสู่กระทู้นี้
จะเป็นไปได้หรือไม่ถ้าคนดูอยากให้มีการรีเมครุ้งสีเทาเป็นอีก 1 เวอร์ชั่น เป็นเสมือนโลกคู่ขนานกับเวอร์ชั่นเดิมที่มีเหตุการณ์เหมือนกัน หรือคล้ายกัน แต่ตอนจบต่างกัน คนดูจะหวังให้สิ่งดังกล่าวเกิดขึ้นได้หรือไม่ ตามคำโปรยของเรื่องรุ้งสีเทาในเพลง
รักตกกระทบ LIGHT VERSION >>
https://www.youtube.com/watch?v=a8C3H4rfZos ที่บอกว่า
ก่อนหน้านี้ หลังซีรีส์ฉายจบช่วงแรก ๆ มีกระแสจากแฟน ๆ ว่าอยากให้ทำภาค 2 ทางเพจซีรีส์มิติรักผ่านเลนส์เลยถามคนดูว่าถ้ารุ้งสีเทาทำภาค 2 อยากเห็นอะไรบ้าง มีหลายคนตอบว่าอยากให้เรื่องที่เหนือตายเป็นเพียงฝันไป แต่ผมกลับมองว่าถ้าภาค 2 พอร์ชตื่นขึ้นมาในวันแต่งงานแล้วแต่เหนือไม่ได้ตาย ยังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาเรื่อย ๆ แก่นเรื่องหลักหรือสาระสำคัญของเรื่องที่ผู้กำกับต้องการสื่อสารกับคนดูในภาคแรกว่าจง "ให้ความสำคัญและเวลากับคนรักมากขึ้น" ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะเราไม่รู้ว่าคนเราจะตายวันตายพรุ่ง ทุกสิ่งเป็นอนิจจัง มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จงใช้ชีวิตโดยตั้งอยู่ในความไม่ประมาท จงมีมรณานุสติอยู่เสมอ จงเตรียมพร้อมรับความตายเสมอ และทำใจยอมรับอย่างสงบว่าความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ความตายเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเกิดขึ้นกับทุกชีวิต จะถูกทำลายชนิดที่ว่าพังพินาศทันที และความพยายามของผู้กำกับ ทีมงาน และนักแสดงที่ต้องการสื่อสาระสำคัญดังกล่าวก็จะสูญเปล่า เพราะคนดูจะรู้สึกว่า อ้าว ก็แค่ฝันไปนี่หว่า แค่ความฝันอะ เหนือไม่ได้ตายจริงซะหน่อย ฉะนั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าควรให้เวลาและความสำคัญกับคนที่ฉันรักมากขนาดนั้นก็ได้ ยังไงทุกคนก็ยังอยู่กับฉันต่อไปอีกนานอยู่ดี ดังนั้นผมว่าไม่ทำภาคต่อแบบนี้ดีแล้วครับ
ว่ากันว่าเรื่องราวที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรมมักเป็นที่จดจำมากกว่าสุขนาฏกรรม ผมว่าจริงนะ ก็เหมือนที่ผมพูดในกระทู้ถอดรหัสรุ้งสีเทาว่าไม่มีใครอยากจดจำวินาทีหรือภาพที่คนรักของตัวเองตายหรอก แต่ที่เรายังลบมันออกไปจากใจได้ยากเพราะความตายเป็นสิ่งที่สั่นสะเทือนจิตใจเราอย่างรุนแรง ความเศร้าทำงานกับจิตใจเรามากกว่าความรู้สึกอื่น ๆ เราจึงยังรู้สึกอยู่กับมันนาน กว่าจะจัดการให้ความเศร้าทุเลาลงได้ต้องใช้เวลาสักระยะ
แต่ในเวอร์ชั่นรีเมคที่ผมอยากนำเสนอให้ทำ ผมไม่ได้อยากให้เปลี่ยนตอนจบนะ ถ้าจบแบบว่าอยู่ด้วยกันจนแก่ ไม่ได้มีใครตายจากกัน มันก็จะไปไม่ถึงปลายทางของชีวิตเหมือนคู่รักชายหญิงคู่อื่น ๆ ที่ต้องตายจากกันอยู่ดี ผมอยากให้ชีวิตคู่ของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศไปถึงจุดนั้นได้เหมือนกัน และจบตรงที่คนที่ตายทีหลังไม่ตายอย่างโดดเดี่ยว แต่ยังมีลูกหลานและคนที่รักคอยดูแลในวาระสุดท้ายเหมือนคู่รักชายหญิงคู่อื่น ๆ
ในรุ้งสีเทาเวอร์ชั่นปัจจุบัน พอร์ชเล่าเรื่องนำขึ้นมาว่า
“กฎของโลกกำหนดไว้ว่าให้ผู้ชายกับผู้หญิงจงรักกัน แต่งงานกัน ดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้คงอยู่ตลอดไป แต่ถ้ามีมนุษย์คู่หนึ่งยกมือประกาศต่อโลกว่าเราเป็นผู้ชายที่คู่กับผู้ชาย โลกนี้จะตัดสินความรักของเขาอย่างไร”
จริงอยู่ที่ว่าประโยคนำเรื่องอาจจะไม่ใช่ประโยคที่สื่อถึงสาระสำคัญของเรื่อง แต่ก็เป็นประโยคที่บอกผู้ชมให้รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอะไร หากจะมีการรีเมคทำเวอร์ชั่นใหม่ ผมอยากให้ทีมงานเปลี่ยนแก่นเรื่องหลักหรือสาระสำคัญของเรื่องเป็นแนวคิดสามัญธรรมดาว่า “รักแท้ย่อมไม่แพ้อุปสรรค” เหมือนที่พอร์ชเขียนข้อความใส่จรวดกระดาษส่งไปบอกเหนือว่า “รักไม่มีอุปสรรค ไม่ใช่รักแท้” อยากให้เปลี่ยนมาสื่อสาระสำคัญตรงนี้เป็นหลัก ส่วนเรื่องการให้เวลาและความสำคัญกับคนรักมากขึ้นเป็นแก่นเรื่องรอง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้เหนือกับพอร์ชใช้ชีวิตอย่างประมาทเลินเล่อนะครับ ก็ยังคงให้เหนือกับพอร์ชตระหนักว่าชีวิตคู่ของพวกเขามีค่า การที่พวกเขาได้รักกัน เป็นคู่ชีวิต เป็นคู่แท้ของกันและกันเป็นสิ่งสำคัญ วันเวลาที่ล่วงเลยไปในแต่ละวันนั้นทั้งสองจะใช้มันอย่างคุ้มค่าที่สุด และพร้อมฝ่าฟันทุกอุปสรรคชีวิตของคู่รักแบบกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศที่มักพบเจออุปสรรคมากกว่าคู่รักชายหญิงทั่วไปด้วยกันด้วยหัวใจที่เชื่อมั่นในกันและกัน คอยส่งเสริมให้กำลังใจกัน เข้าอกเข้าใจกันจนเอาชนะทุกอุปสรรคไปได้ ผมว่าเรื่องธรรมดาสามัญแบบนี้ก็ทำให้คนดูอิ่มอกอิ่มใจได้เหมือนกันนะครับ ไม่ต้องสอดแทรกปรากฏการณ์มหัศจรรย์หรือโลกเหนือจริงเข้ามาเหมือนเวอร์ชั่นปัจจุบันหรอกครับ เล่าเรื่อง “ปกติทั่วไป” แบบที่สามารถเกิดขึ้นได้จริงบนโลกแห่งความเป็นจริงอะครับ ผมว่าเรื่องธรรมดาแบบนี้โลกก็จำเหมือนกันนะครับ
รูปข้างบนนี้ผมนำมาจากคอมเมนต์หนึ่งในเพจซีรีส์มิติรักผ่านเลนส์ครับ ต้องขออนุญาตเจ้าของรูปด้วยครับที่นำมาลงที่นี่ ที่แอดมินบอกว่ารุ้งสีเทาเป็นเรื่องราวความรักที่พบได้ทั่ว ๆ ไป ถ้าเป็นคู่ชายหญิงเรื่องก็จะเป็นแบบนี้แน่นอน ใช่ครับ แน่นอนว่าในตอนจบคงเป็นแบบเดียวกัน พระเอกตายเหมือนกัน คนดูเข้าถึงสาระสำคัญของเรื่องเหมือนกัน แต่เรื่องราวก่อนที่พระเอกจะตาย อุปสรรคความรักระหว่างคู่รักหญิงชายคงไม่ได้มากมาย และเส้นทางความรักคงไม่ได้ขรุขระเท่าคู่รักชาย-ชายหรอกครับ เรื่องนี้คนที่เป็นเกย์อย่างผมและกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศน่าจะรู้สึกเหมือนกันว่าเหนือกับพอร์ชเป็นเหมือนเพื่อนและตัวแทนคู่รัก LGBTQIA+ ที่เราคอยเอาใจช่วยให้เขาฝ่าด่านความรักต่าง ๆ ที่ยากเย็นไปได้ แต่พอถึงเป้าหมายสูงสุดของคนรักกันอย่างการแต่งงานตามที่พอร์ชบอก ก็เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งให้เหนือตายในวันแต่งงานทันที ทิ้งให้พอร์ชเลี้ยงแตงอ่อนและดูแลปางช้างอย่างเดียวดายไปจนถึงบั้นปลายชีวิต
ภาพโปสเตอร์ซีรีส์รุ้งสีเทาถ่ายที่สถานีรถไฟขุนตาน เพลง “รักตกกระทบ” เปรียบเทียบความรักเหมือนแสงที่ส่องลงมาในหัวใจ ความรักของเหนือกับพอร์ชในวันที่เริ่มผลิบานก็เหมือนทั้งคู่กำลังนั่งรถไฟมาถึงหน้าอุโมงค์ขุนตาน แสงสว่างจากภายนอกเปรียบเสมือนห้วงแห่งความรักที่ทำให้พวกเขารู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย แต่เมื่อตกลงใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแล้ว ก็เหมือนพวกเขาได้เข้าไปในอุโมงขุนตานอันมืดมิด มีเพียงแสงสว่างในใจคือความเชื่อมั่นในกันและกันเท่านั้นที่สามารถนำทางพวกเขาให้ไปถึงปลายทางได้ แต่แล้วจู่ ๆ เหนือตายกะทันหัน รถไฟเสียกลางทาง แสงสว่างในใจเหนือหายไป แสงสว่างในใจพอร์ชสลัวลง พอร์ชลงจากรถไฟ แล้วเดินโซซัดโซเซท่ามกลางอุโมงค์มืดดำไปยังปลายอุโมงค์เพียงลำพัง
อยากให้รีเมค "รุ้งสีเทา" เป็นซีรีย์ขนาดยาวเพื่อนำทางความรักของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศไปถึงแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
ผมกำลังจะให้ทุกคนลองถอดรหัส 2 รูปนี้ครับ จริง ๆ แล้วผมน่าจะวิเคราะห์ตีความ 2 รูปนี้เองในกระทู้ถอดรหัส “รุ้งสีเทา”ฯ ที่จั่วไว้บนหัวกระทู้นี้ แต่เนื่องจาก 2 รูปนี้ไม่ได้ปรากฏอยู่ในเรื่อง ผมจึงคิดว่าเอามาพูดในกระทู้นี้ดีกว่า แถมยังเข้ากับเนื้อหากระทู้พอดีด้วย
รูปแรก เป็นโปสเตอร์โฆษณาซีรีส์ ผมนำรูปจากกระทู้ https://ppantip.com/topic/35128725 มา ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ เรื่องนี้ทำโปสเตอร์แตกต่างจากทุกเรื่องในซีรีส์ชุดมิติรักผ่านเลนส์ คือมีลักษณะเป็น 2 รูปซ้อนกันอยู่ด้านบนและด้านล่างในกรอบเดียวกัน ในขณะที่เรื่องอื่น ๆ เป็นแบบ 1 รูปในกรอบเดียวกัน