วันนี้เราเลื่อนเฟสแล้วเจอเฟสเพื่อนที่เคยสนิทที่สุดของเรา ซึ่งเราไม่ได้คุยกับเขามา7-8ปีละ วันนี้เห็นรูปเขาแล้วเรารู้สึกคิดถึงเขามาก แต่ไม่กล้าทัก เลยลองพิมพ์ในกูเกิ้ล ประมาณว่าคิดถึงเพื่อนเก่า เลื่อนไปเลื่อนมา มาเจอกระทู้นึง เกี่ยวกับเพื่อนสมัยมัธยม เราอยากตอบกระทู้ของเขา ละทีนี้เราพิมพ์เรื่องราวยาวมากกกก แต่แล้วจู่ๆแบตทรศ.เราก็หมด ละที่เราพิมพ์ไปทั้งหมดนั้นก็หายไป
ทีนี้เราเลยตัดสินใจมาตั้งกระทู้เล่าเรื่องราวของเราเองเลยดีกว่า มันติดอยู่ในใจมานานละ ไม่เคยพูดที่ไหนเลย
เรารู้จักเธอคนนั้นมาตั้งแต่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำได้ว่าตอนนั้นตีกัน แย่งเพื่อนกัน พอขึ้นชั้นอนุบาลเธอก็มาบีบแผลที่แขนเรา ปัจจุบันนี้ยังมีรอยแผลเป็นอยู่ และวาร์ปมาจนถึงป.5 เราได้มานั่งโต๊ะคู่กัน ได้มาเริ่มดีกันจนพัฒนาจากเพื่อนร่วมห้องไปเป็นเพื่อนสนิทกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน กินข้าวด้วยกัน ที่ไหนมีเรา ที่นั่นมีเธอช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากก ที่นี้ช่วงมัธยมต้นได้เริ่มขึ้นแล้ว เพื่อนต่างโรงเรียนได้ย้ายเข้ามามากมาย เรามีเพื่อนเพิ่มขึ้นเยอะมากเลย ไปไหนมาไหนเดินกันไปกลุ่มใหญ่ๆ แต่เธอคนนั้นเราก็ไม่ได้ทิ้งยังเกาะหนึบเหมือนเดิม นั้งโต๊ะคู่กันเหมือนเดิม เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด^^ และแล้ววันหนึ่งเราก็มีแฟน เป็นรุ่นพี่เราปีนึง เขาเป็นหนุ่มเนื้อหอม ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องเข้าหามากมายทั้งๆที่คบกับเราอยู่ เพื่อนผญ.ของเขาไม่ถูกกับเรา รุ่นน้อง ผญ.ของเขาก็ไม่ถูกกับเราซักคน ตอนนั้นคิดว่าแฟนเราฮอต สาวๆคงอิจฉาเรา เราก็ไม่ได้สนใจ ใช้ชีวิตอยู่กับกลุ่มเพื่อน อยู่มาวันนึงเกิดเรื่องกับโรงอาหารที่รร.เรา เด็กท้องเสียกันเกือบทั้งรร. รวมทั้งเราด้วย เราเพื่อนสนิทและเพื่อนอีกคนที่เป็นทั้งญาติและเพื่อนในคนเดียวกัน นัดกันว่าจะห่อข้าวมากินตอนเที่ยงกัน ห่อมากินกันได้ระยะนึง เพื่อนกลุ่มใหญ่ของเราก็เริ่มห่างๆกันไปทีละคนสองคน ในที่สุดเราเหลือกันห้าคน มีเพื่อนที่เพิ่งย้ายมาตอนม.1 2 คน ญาติเรา เพื่อนสนิทเรา และเรา 2คนที่เพิ่งย้ายมาไม่ได้ห่อข้าวมากินกับเรา3คนนะ และแล้ววันนึงเพื่อน2คนนั้นก็โดนเพื่อนอีกกลุ่มที่แยกตัวไปชวนเข้ากลุ่ม ซึ่งกลุ่มนั้นมีสมาชิกร่วมสิบคน เธอ2คนนั้นก็ได้เดินจากเราไป ในที่สุดเราก็เหลือกันเพียง3คน
ต่อมาเราก็ได้มีเฟสบุ๊คเป็นของตัวเอง แฟนเราก็ฮอตเช่นเดิม มีอยู่คืนนึงเราแชทไปคุยเล่นกับเพื่อน ผช. เราว่ารุ่นน้องที่มาคุยกับแฟนเราไปประโยคนึง แล้วเราก็ใช้ให้เพื่อนผช.ไปจีบรุ่นน้องคนนั้นที แล้วเพื่อนผช.คนนั้นก็แคปที่เราคุยกัน ส่งไปให้เพื่อนกลุ่มใหญ่กลุ่มนั้น ต่อมาเราโนแบน โดนแซะ โดนโพสด่า โดนครูล้อว่าเพื่อนไม่คบ โดนผู้ปกครองฝั่งนั้นชี้หน้า ทั้งๆที่เราว่าน้องผญ.ที่มาคุยกับแฟนเรา ไม่ได้เกี่ยวกับคนกลุ่มนั้นเลย แต่คำที่ใช้สองพยางค์แรกดันไปเหมือนชื่อแก็งค์ของคนกลุ่มนั้น เขาเลยคิดว่าเราด่าพวกเขา ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่แย่มาก เราไม่มีความสุขกับการไปรร.เลย ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่ คือเพื่อนสนิทเรายังคงอยู่กับเราไม่ทิ้งไปไหนเลย ต่อให้โดนพาลเพื่อนไม่คบไปกับเราด้วย เขาก็ไม่ทิ้งเราไป วันนั้นเรากับญาติไม่ได้ไปรร. เพื่อนสนิทว่าเราทำไมไม่บอกว่าจะหยุด ไม่มีใครคุยด้วยเลย นั่งกินข้าวคนเดียว ตอนนั้นพวกเรากลับไปกินข้าวที่โรงอาหารแบบเดิมแล้ว
(เรื่องราวต่อจากนี้ขอยกญาติที่เป็นทั้งญาติเเละเพื่อนในคนเดียวกันไว้มุมห้องก่อนนะ เพราะช่วงเวลานั้นเรารู้สึกสนิทกับเพื่อนที่นั่งโต๊ะคู่กับเรามากกว่า)
เวลาผ่านไปแฟนเราใกล้จบม.3 เพื่อนสนิทเราส่งรูปแฟนเราจับมือกับเพื่อนผญ.ห้องเขามาให้เราดู เพื่อนเอารูปมาจากญาติที่อยู่ห้องเดียวกับแฟนเราอีกที ประจวบเหมาะกับช่วงนั้นเราทะเลาะกับแฟนด้วย เลยเลิกกันไป ละเราก็ดันไปคิดโทษเพื่อนสนิทของเราว่าทำให้เราเลิกกับแฟน ต่อมาเราก็เริ่มตีตัวออกห่างจากเพื่อนสนิทโดยที่ไม่ได้บอกอะไรด้วยซ้ำ เราเริ่มเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มที่เขาเคยแซะเรา ทำเป็นลืมเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น กอดคอแสร้งเสียน้ำตาเพราะหนึ่งในคนกลุ่มนั้นอกหัก พยายามทำให้ตัวเองมีตัวตนขึ้นมา ให้ลอกการบ้าน ฝืนทุกอย่างที่เป็นตัวเองทิ้งให้เพื่อนที่เคยสนิทเดินตามหลัง
มีอยู่วันนึง เราเล่นบอลกับเพื่อนกลุ่มใหม่ จู่ๆก็ล้มพับเกือบจะเป็นลม เราเลยขอน้ำดื่ม เพื่อนกลุ่มใหม่ที่เราพยายามพาตัวเองเข้าไปได้แต่ยืนมุง แต่เพื่อนที่เคยสนิทของเราคนนั้นกลับวิ่งไปกดน้ำแล้วยื่นมาให้เรา เรากินเสร็จเขาก็วิ่งเอาแก้วไปเก็บให้ ส่วนเราอ่ะคำขอบคุณยังไม่เคยพูดกับเขาเลย ยังคงเมินเขาต่อไป ปล่อยให้เขาเดินตามหลังต่อไป และที่แย่ไปกว่านั้น เราร่วมกับเพื่อนกลุ่มใหม่โพสแซะ พูดแซะเพื่อนที่เคยสนิท คนที่ไม่เคยทิ้งเราไปไหน เราไม่เคยคิดถึงความรู้สึกเขาเลย
ทั้งๆที่เราพาตัวเองไปอยู่กลุ่มนั้น เราก็ไม่ได้มีความสุขอะไรเลย อึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง รู้สึกว่ามีแค่มิตรภาพจอมปลอม แต่ตอนนั้นทำไมเราไม่กลับไปดีกับเพื่อนที่เคยสนิทที่สุดก็ไม่รู้ เราฝืนใช้ชีวิตไปจนจบม.3 สุดท้ายก็หลุดพ้นกันไป แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนเฟส ไม่เหลือใคร เรียนต่อที่ไหนก็ไม่เจอใครที่สนิทใจได้เท่าเพื่อนคนนั้น คนที่เราทำตัวแย่ใส่ มีแต่คบเพียงเพื่อผ่าน มาคิดได้ก็ตอนที่ไม่ได้คุยกันแล้ว
วันนี้มีโอกาสส่องเฟสเขา เขายังชอบดอกไม้ ชอบพระเครื่องเหมือนเดิมเลย ส่องไปก็ยิ้มไป เราได้เห็นเขาโตขึ้นโดยที่ไม่ได้ละทิ้งความชอบเลย แถมยังดูเหมือนเขาพัฒนาความชอบโดยการขายต้นไม้เพิ่มไปอีก ตอกย้ำไปอีกว่าชอบจริงๆ
เมื่อก่อนเคยเห็นเฟสเขาผ่านๆก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่วันนี้ยิ่งเห็นรูปเขายิ่งคิดถึง อยากทักแต่ใจไม่กล้า ยิ่งคิดย้อนกลับไป ตอนนั้นเราใช้นิสัยแย่มากเลย
ตอนนี้ยังจะกลับไปคุยกันได้อีกไหมนะ ไม่รู้ว่าความทรงจำที่มีต่อเราจะจัดอยู่ในโซนแย่หรือเป็นภัยต่อความทรงจำ หรือลบทิ้งไปหมดแล้วก็ไม่รู้
เพื่อนๆชาวพันทิปคิดว่า เราที่เคยใช้นิสัยแบบนั้นกับเขา ยังคิดที่จะติดต่อเพื่อนคนนั้นได้ไหมคะ
รู้สึกคิดถึงเพื่อนที่เคยสนิทที่สุด
ทีนี้เราเลยตัดสินใจมาตั้งกระทู้เล่าเรื่องราวของเราเองเลยดีกว่า มันติดอยู่ในใจมานานละ ไม่เคยพูดที่ไหนเลย
เรารู้จักเธอคนนั้นมาตั้งแต่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำได้ว่าตอนนั้นตีกัน แย่งเพื่อนกัน พอขึ้นชั้นอนุบาลเธอก็มาบีบแผลที่แขนเรา ปัจจุบันนี้ยังมีรอยแผลเป็นอยู่ และวาร์ปมาจนถึงป.5 เราได้มานั่งโต๊ะคู่กัน ได้มาเริ่มดีกันจนพัฒนาจากเพื่อนร่วมห้องไปเป็นเพื่อนสนิทกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน กินข้าวด้วยกัน ที่ไหนมีเรา ที่นั่นมีเธอช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากก ที่นี้ช่วงมัธยมต้นได้เริ่มขึ้นแล้ว เพื่อนต่างโรงเรียนได้ย้ายเข้ามามากมาย เรามีเพื่อนเพิ่มขึ้นเยอะมากเลย ไปไหนมาไหนเดินกันไปกลุ่มใหญ่ๆ แต่เธอคนนั้นเราก็ไม่ได้ทิ้งยังเกาะหนึบเหมือนเดิม นั้งโต๊ะคู่กันเหมือนเดิม เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด^^ และแล้ววันหนึ่งเราก็มีแฟน เป็นรุ่นพี่เราปีนึง เขาเป็นหนุ่มเนื้อหอม ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องเข้าหามากมายทั้งๆที่คบกับเราอยู่ เพื่อนผญ.ของเขาไม่ถูกกับเรา รุ่นน้อง ผญ.ของเขาก็ไม่ถูกกับเราซักคน ตอนนั้นคิดว่าแฟนเราฮอต สาวๆคงอิจฉาเรา เราก็ไม่ได้สนใจ ใช้ชีวิตอยู่กับกลุ่มเพื่อน อยู่มาวันนึงเกิดเรื่องกับโรงอาหารที่รร.เรา เด็กท้องเสียกันเกือบทั้งรร. รวมทั้งเราด้วย เราเพื่อนสนิทและเพื่อนอีกคนที่เป็นทั้งญาติและเพื่อนในคนเดียวกัน นัดกันว่าจะห่อข้าวมากินตอนเที่ยงกัน ห่อมากินกันได้ระยะนึง เพื่อนกลุ่มใหญ่ของเราก็เริ่มห่างๆกันไปทีละคนสองคน ในที่สุดเราเหลือกันห้าคน มีเพื่อนที่เพิ่งย้ายมาตอนม.1 2 คน ญาติเรา เพื่อนสนิทเรา และเรา 2คนที่เพิ่งย้ายมาไม่ได้ห่อข้าวมากินกับเรา3คนนะ และแล้ววันนึงเพื่อน2คนนั้นก็โดนเพื่อนอีกกลุ่มที่แยกตัวไปชวนเข้ากลุ่ม ซึ่งกลุ่มนั้นมีสมาชิกร่วมสิบคน เธอ2คนนั้นก็ได้เดินจากเราไป ในที่สุดเราก็เหลือกันเพียง3คน
ต่อมาเราก็ได้มีเฟสบุ๊คเป็นของตัวเอง แฟนเราก็ฮอตเช่นเดิม มีอยู่คืนนึงเราแชทไปคุยเล่นกับเพื่อน ผช. เราว่ารุ่นน้องที่มาคุยกับแฟนเราไปประโยคนึง แล้วเราก็ใช้ให้เพื่อนผช.ไปจีบรุ่นน้องคนนั้นที แล้วเพื่อนผช.คนนั้นก็แคปที่เราคุยกัน ส่งไปให้เพื่อนกลุ่มใหญ่กลุ่มนั้น ต่อมาเราโนแบน โดนแซะ โดนโพสด่า โดนครูล้อว่าเพื่อนไม่คบ โดนผู้ปกครองฝั่งนั้นชี้หน้า ทั้งๆที่เราว่าน้องผญ.ที่มาคุยกับแฟนเรา ไม่ได้เกี่ยวกับคนกลุ่มนั้นเลย แต่คำที่ใช้สองพยางค์แรกดันไปเหมือนชื่อแก็งค์ของคนกลุ่มนั้น เขาเลยคิดว่าเราด่าพวกเขา ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่แย่มาก เราไม่มีความสุขกับการไปรร.เลย ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่ คือเพื่อนสนิทเรายังคงอยู่กับเราไม่ทิ้งไปไหนเลย ต่อให้โดนพาลเพื่อนไม่คบไปกับเราด้วย เขาก็ไม่ทิ้งเราไป วันนั้นเรากับญาติไม่ได้ไปรร. เพื่อนสนิทว่าเราทำไมไม่บอกว่าจะหยุด ไม่มีใครคุยด้วยเลย นั่งกินข้าวคนเดียว ตอนนั้นพวกเรากลับไปกินข้าวที่โรงอาหารแบบเดิมแล้ว
(เรื่องราวต่อจากนี้ขอยกญาติที่เป็นทั้งญาติเเละเพื่อนในคนเดียวกันไว้มุมห้องก่อนนะ เพราะช่วงเวลานั้นเรารู้สึกสนิทกับเพื่อนที่นั่งโต๊ะคู่กับเรามากกว่า)
เวลาผ่านไปแฟนเราใกล้จบม.3 เพื่อนสนิทเราส่งรูปแฟนเราจับมือกับเพื่อนผญ.ห้องเขามาให้เราดู เพื่อนเอารูปมาจากญาติที่อยู่ห้องเดียวกับแฟนเราอีกที ประจวบเหมาะกับช่วงนั้นเราทะเลาะกับแฟนด้วย เลยเลิกกันไป ละเราก็ดันไปคิดโทษเพื่อนสนิทของเราว่าทำให้เราเลิกกับแฟน ต่อมาเราก็เริ่มตีตัวออกห่างจากเพื่อนสนิทโดยที่ไม่ได้บอกอะไรด้วยซ้ำ เราเริ่มเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มที่เขาเคยแซะเรา ทำเป็นลืมเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น กอดคอแสร้งเสียน้ำตาเพราะหนึ่งในคนกลุ่มนั้นอกหัก พยายามทำให้ตัวเองมีตัวตนขึ้นมา ให้ลอกการบ้าน ฝืนทุกอย่างที่เป็นตัวเองทิ้งให้เพื่อนที่เคยสนิทเดินตามหลัง
มีอยู่วันนึง เราเล่นบอลกับเพื่อนกลุ่มใหม่ จู่ๆก็ล้มพับเกือบจะเป็นลม เราเลยขอน้ำดื่ม เพื่อนกลุ่มใหม่ที่เราพยายามพาตัวเองเข้าไปได้แต่ยืนมุง แต่เพื่อนที่เคยสนิทของเราคนนั้นกลับวิ่งไปกดน้ำแล้วยื่นมาให้เรา เรากินเสร็จเขาก็วิ่งเอาแก้วไปเก็บให้ ส่วนเราอ่ะคำขอบคุณยังไม่เคยพูดกับเขาเลย ยังคงเมินเขาต่อไป ปล่อยให้เขาเดินตามหลังต่อไป และที่แย่ไปกว่านั้น เราร่วมกับเพื่อนกลุ่มใหม่โพสแซะ พูดแซะเพื่อนที่เคยสนิท คนที่ไม่เคยทิ้งเราไปไหน เราไม่เคยคิดถึงความรู้สึกเขาเลย
ทั้งๆที่เราพาตัวเองไปอยู่กลุ่มนั้น เราก็ไม่ได้มีความสุขอะไรเลย อึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง รู้สึกว่ามีแค่มิตรภาพจอมปลอม แต่ตอนนั้นทำไมเราไม่กลับไปดีกับเพื่อนที่เคยสนิทที่สุดก็ไม่รู้ เราฝืนใช้ชีวิตไปจนจบม.3 สุดท้ายก็หลุดพ้นกันไป แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนเฟส ไม่เหลือใคร เรียนต่อที่ไหนก็ไม่เจอใครที่สนิทใจได้เท่าเพื่อนคนนั้น คนที่เราทำตัวแย่ใส่ มีแต่คบเพียงเพื่อผ่าน มาคิดได้ก็ตอนที่ไม่ได้คุยกันแล้ว
วันนี้มีโอกาสส่องเฟสเขา เขายังชอบดอกไม้ ชอบพระเครื่องเหมือนเดิมเลย ส่องไปก็ยิ้มไป เราได้เห็นเขาโตขึ้นโดยที่ไม่ได้ละทิ้งความชอบเลย แถมยังดูเหมือนเขาพัฒนาความชอบโดยการขายต้นไม้เพิ่มไปอีก ตอกย้ำไปอีกว่าชอบจริงๆ
เมื่อก่อนเคยเห็นเฟสเขาผ่านๆก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่วันนี้ยิ่งเห็นรูปเขายิ่งคิดถึง อยากทักแต่ใจไม่กล้า ยิ่งคิดย้อนกลับไป ตอนนั้นเราใช้นิสัยแย่มากเลย
ตอนนี้ยังจะกลับไปคุยกันได้อีกไหมนะ ไม่รู้ว่าความทรงจำที่มีต่อเราจะจัดอยู่ในโซนแย่หรือเป็นภัยต่อความทรงจำ หรือลบทิ้งไปหมดแล้วก็ไม่รู้
เพื่อนๆชาวพันทิปคิดว่า เราที่เคยใช้นิสัยแบบนั้นกับเขา ยังคิดที่จะติดต่อเพื่อนคนนั้นได้ไหมคะ