สวัสดีค่ะ เจ้าของกระทู้อายุ16ปีแล้ว และนิสัยที่กำลังจะตั้งคำถามต่อไปนี้ก็เป็นมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนเด็กๆเราติดเกมมากถึงขั้นอดอาหาร มันไม่ใช่ติดเกมหรอกค่ะ เป็นการติดมือถือเพราะเป็นอะไรที่หาความสุขนั้นได้ ตอนเด็กเราไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ตอนนั้นเรามีกลุ่มแก๊งกับเพื่อน4คน เพื่อนที่เล่นด้วยแต่ไม่ใช่คนในกลุ่มก็หนึ่งคน นิสัยส่วนตัวของเราคือร้องไห้ง่ายมาก รู้สึกว่าตัวเองอ่อนไหวง่าย แต่ไม่รู้ว่าพฤติกรรมเลวๆที่มันขึ้นมาในหัวสมองมันขึ้นมาได้ไง อยู่ที่โรงเรียนเราจะร่วมกลุ่มกับเพื่อน และเล่นโทรศัพท์กันเราจะดูเงียบๆ ไม่ค่อยจะพูดและไม่ค่อยจะเข้าสังคม ในห้องเรามีเพื่อน26คน เรามีเพื่อน4คนก็เห็นชัดแล้ว มีเพื่อนคนนึง เขาเป็นเด็กพิเศษ เขาบ้านจนเข้ามาเรียนได้เพราะเงินแม่เรา(ขอเรียกว่า อ. นะคะ) ถือว่าญาติกันก็ไม่ใช่ค่ะ ตอนนั้นเกลียดคนคนนั้นมาก เพราะทุกครั้งก่อนไปโรงเรียน แม่จะให้เงินติดตัวไปเพื่อซื้ออาหารกิน เราได้20บาท ส่วน อ. จะได้50บาท ตอนนั้นเราเคืองมาก แต่พอเวลาผ่านไปเราก็เริ่มไม่ปกติ และเริ่มจากนั้นเราก็แกล้งคนคนนั้นมาตลอด เธอเป็นคนดูแลตัวเองไม่เป็น เหมือนกับความคิดไม่โตแต่ตัวโตไปก่อน เราจึงล้อเธอว่าหัวสกปรก ตัวชุบขี้ควาย ตอนนั้น อ. คนนั้นเงียบมาก ด้วยความที่แม่เราอะ ไม่ใช่คนที่อ่อนโยนกับเรานัก ตอนอายุ8ขวบ เราที่ดื้อมากตามประสาเด็ก ทั้งๆที่พูดสอนเราได้และเราทำตามและรับฟังทุกอย่าง แต่แม่ของเราแก้ปัญหาด้วยการตี พ่อไม่ช่วยอะไร แถมยังหัวเราะเหมือนเป็นเรื่องตลกทั้งๆที่ลูกตัวเองกำลังถูกเชือกรัดคออยู่ เคยวันนึงที่เราร้องไห้จนตื่นไปไม่ทันโรงเรียน แม่ด่าเราว่าไม่พึ่งตัวเองและตีเราอีกครั้ง อีกวันต่อมาเรากินข้าวกำลังจะไปโรงเรียน เราแต่งตัวเสร็จแล้ว แต่เพราะเราชอบใส่เสื้อแขนยาวตัวใหญ่จึงทำให้มันปิดชุดนักเรียน แม่พูดประชดเราว่า "วันนี้คงไม่ไปเรียนไม่ได้แล้วมั้ง เอาแต่ชักช้า การเรียนก็ไม่เคยจะดี ดูอย่างXXX(ลูกเพื่อนแม่)สิ"แม่เราพูดเปรียบเทียบกับลูกของเพื่อน เราญาติดีกันตลอดเพราะเป็นเพื่อนร่วมลำดับ ทำไมแม่ถึงพูดกับเราขนาดนั้น ทั้งๆที่เราก็เรียนได้ตั้งที่2รองจากลูกเพื่อนแม่มานิดเดียว
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราหดหู่ที่สุด นิสัยเราเริ่มเปลี่ยนแล้วค่ะ เราเริ่มทำร้ายร่างกายโดยการจิกหนังของรุ่นน้องที่ทำให้เราไม่พอใจ และจิกหัว อ. และเช็ดมือเพราะไม่อยากเปื้อนสิ่งสกปรก ทุกคืนเราร้องไห้ตลอด เราคิดว่าอะไรที่เขาไม่ดีเขาปลับแก้ได้โดยเฉพาะเรื่องเรียน ตอนนั้นเขาไม่มีสมาธิเรียน พอขึ้นอายุ9ขวบ เราเริ่มจะขาดเรียนเพราะไม่มีกำลังใจ แม่บอกสู้ๆแต่ไม่ได้พูดกับเรา พูดกับ อ. เพื่อนเราก็รู้สึกว่าชอบบูลลี่คนอื่นเหมือนกันค่ะ ดารานักร้องนักแสดงบูลลี่มาหมด เราที่เป็นติ่งก็ได้แต่เงียบ บอกเขาหน้าตาไม่ดีไม่มองดูตัวเอง ตอนนั้นเราเป็นหัวหน้ากลุ่มเพราะตัวสูงที่สุด เราจึงด่าออกไปแต่ด้วยความเป็นเพื่อนกัน มันจึงคิดว่าเราเล่นจึงด่ากลับ เราจึงจิกหนังศีรษะมันเงยขึ้น แค่นั้นเราก็ปล่อย ยิ่งโตเรายิ่งชอบหงุดหงิดอะไรนิดๆหน่อยๆ อย่างเช่นไฟดับ เน็ตหลุด เสียงร้อง เสียงเรียก และเสียงอะไรที่ดังต่อเนื่องรอบกาย เรารู้สึกรำคาญไปหมด ตอนนั้นเป็นช่วงอยากอยู่เงียบๆคนเดียวและชินกับความเงียบ ยิ่งมาเจอเสียงอะไรน่ารำคาญก็ยิ่งทำให้เราหงุดหงิดและสางหัวมันขึ้นแทบอยากทำให้หัว และผมสวยๆทำทรงมาอย่างดีหลุดจากหัว
เสียงเรียกกินข้าวและเสียงเรียกซ้ำยิ่งทำให้เราหงุดหงิด ไม่มีที่ระบายอารมณ์เขาก็ระบายกับตัวเองโดยการจิกหัวและต่อยกำแพง ถ้าหากมีคนอยู่ด้วยก็กลายเป็นเครื่องมือรองรับอารมณ์ของเขา เขาอยากหยุดความคิดเลวๆแต่เขาก็ทำไม่ได้
นับวันยิ่งติดโทรศัพท์ นับวันยิ่งอยากแกล้งคนคนนั้น พอเป็นแบบนั้นแล้ว พ่อแม่ที่เอาแต่โอ๋หลานใหม่(ลูกชายน้องแม่)ก็ตีเขาอย่างหนัก เขากักเก็บความรู้สึกหงุดหงิดและเกลียดเอาไว้ในใจไม่พูดออกมา เราไม่ไปโรงเรียนแค่วันเดียว และขอแม่ว่าอยากลาไม่อยากไปโรงเรียนก็ถูกด่าและตีอีก เราถูกยึดโทรศัพท์ ตอนนั้นเรารู้สึกทรมานมาก อยากแหกปากร้องดังๆ แต่ไม่มีความกล้า เราได้แต่ทำท่าทางน้ำตาคลอให้แม่และเจ้าบ้านได้สมเพชและเข้าห้องตัวเองไป เราร้องไห้และ
กรีดร้องแบบไม่มีเสียงนานหลายครั้ง อยากจะตัดสิ่งน่ารำคาญและอยู่เงียบๆคนเดียว นับวันเราก็ยิ่งเฉยชา เราไม่พูด ไม่รับรู้ รู้สึกมองอะไรไม่เห็น รู้สึกหายใจลำบาก รู้สึกไม่อยากอยู่ เราป่วย แม่ไม่พาไปหาหมอ เราไม่กินข้าวและเป็นโรคกระเพราะ ไม่พาไปหาหมอ เราทำอะไรเจ็บๆแม่ก็โทษแต่ว่าเราเล่นโทรศัพท์ เราเคยเป็นเด็กเกเรชอบลองชอบรู้ เลยเคยขโมยของมาก่อน จึงทำให้เวลาของหายหรือเงินหาย แม่จะโทษเขาก่อนเป็นคนแรกและค้นตัวเขา ตอนนั้นเขาใจเสียมากที่แม่ไม่เคยเชื่อใจอะไร ยายเองก็เป็น
เราเคยมือสั่นอยากตบเด็กและรุ่นพี่ขึ้นมา เพราะช่วงเวลานั้น มีแต่คนเสียงดังและชอบกวนคนอื่นเวลาตั้งใจทำงาน
เราเคยหงุดหงิดเลื้อยไปเลื้อยมาเพราะอยากบันเทาการปวดหัว เพราะรู้สึกหงุดหงิด
อาจจะมีคำผิด ขอตัวค่ะ!
แก้ยังไง หรือแก้ไม่ได้ต้องกลายเป็นคนเลว?
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราหดหู่ที่สุด นิสัยเราเริ่มเปลี่ยนแล้วค่ะ เราเริ่มทำร้ายร่างกายโดยการจิกหนังของรุ่นน้องที่ทำให้เราไม่พอใจ และจิกหัว อ. และเช็ดมือเพราะไม่อยากเปื้อนสิ่งสกปรก ทุกคืนเราร้องไห้ตลอด เราคิดว่าอะไรที่เขาไม่ดีเขาปลับแก้ได้โดยเฉพาะเรื่องเรียน ตอนนั้นเขาไม่มีสมาธิเรียน พอขึ้นอายุ9ขวบ เราเริ่มจะขาดเรียนเพราะไม่มีกำลังใจ แม่บอกสู้ๆแต่ไม่ได้พูดกับเรา พูดกับ อ. เพื่อนเราก็รู้สึกว่าชอบบูลลี่คนอื่นเหมือนกันค่ะ ดารานักร้องนักแสดงบูลลี่มาหมด เราที่เป็นติ่งก็ได้แต่เงียบ บอกเขาหน้าตาไม่ดีไม่มองดูตัวเอง ตอนนั้นเราเป็นหัวหน้ากลุ่มเพราะตัวสูงที่สุด เราจึงด่าออกไปแต่ด้วยความเป็นเพื่อนกัน มันจึงคิดว่าเราเล่นจึงด่ากลับ เราจึงจิกหนังศีรษะมันเงยขึ้น แค่นั้นเราก็ปล่อย ยิ่งโตเรายิ่งชอบหงุดหงิดอะไรนิดๆหน่อยๆ อย่างเช่นไฟดับ เน็ตหลุด เสียงร้อง เสียงเรียก และเสียงอะไรที่ดังต่อเนื่องรอบกาย เรารู้สึกรำคาญไปหมด ตอนนั้นเป็นช่วงอยากอยู่เงียบๆคนเดียวและชินกับความเงียบ ยิ่งมาเจอเสียงอะไรน่ารำคาญก็ยิ่งทำให้เราหงุดหงิดและสางหัวมันขึ้นแทบอยากทำให้หัว และผมสวยๆทำทรงมาอย่างดีหลุดจากหัว
เสียงเรียกกินข้าวและเสียงเรียกซ้ำยิ่งทำให้เราหงุดหงิด ไม่มีที่ระบายอารมณ์เขาก็ระบายกับตัวเองโดยการจิกหัวและต่อยกำแพง ถ้าหากมีคนอยู่ด้วยก็กลายเป็นเครื่องมือรองรับอารมณ์ของเขา เขาอยากหยุดความคิดเลวๆแต่เขาก็ทำไม่ได้
นับวันยิ่งติดโทรศัพท์ นับวันยิ่งอยากแกล้งคนคนนั้น พอเป็นแบบนั้นแล้ว พ่อแม่ที่เอาแต่โอ๋หลานใหม่(ลูกชายน้องแม่)ก็ตีเขาอย่างหนัก เขากักเก็บความรู้สึกหงุดหงิดและเกลียดเอาไว้ในใจไม่พูดออกมา เราไม่ไปโรงเรียนแค่วันเดียว และขอแม่ว่าอยากลาไม่อยากไปโรงเรียนก็ถูกด่าและตีอีก เราถูกยึดโทรศัพท์ ตอนนั้นเรารู้สึกทรมานมาก อยากแหกปากร้องดังๆ แต่ไม่มีความกล้า เราได้แต่ทำท่าทางน้ำตาคลอให้แม่และเจ้าบ้านได้สมเพชและเข้าห้องตัวเองไป เราร้องไห้และ
กรีดร้องแบบไม่มีเสียงนานหลายครั้ง อยากจะตัดสิ่งน่ารำคาญและอยู่เงียบๆคนเดียว นับวันเราก็ยิ่งเฉยชา เราไม่พูด ไม่รับรู้ รู้สึกมองอะไรไม่เห็น รู้สึกหายใจลำบาก รู้สึกไม่อยากอยู่ เราป่วย แม่ไม่พาไปหาหมอ เราไม่กินข้าวและเป็นโรคกระเพราะ ไม่พาไปหาหมอ เราทำอะไรเจ็บๆแม่ก็โทษแต่ว่าเราเล่นโทรศัพท์ เราเคยเป็นเด็กเกเรชอบลองชอบรู้ เลยเคยขโมยของมาก่อน จึงทำให้เวลาของหายหรือเงินหาย แม่จะโทษเขาก่อนเป็นคนแรกและค้นตัวเขา ตอนนั้นเขาใจเสียมากที่แม่ไม่เคยเชื่อใจอะไร ยายเองก็เป็น
เราเคยมือสั่นอยากตบเด็กและรุ่นพี่ขึ้นมา เพราะช่วงเวลานั้น มีแต่คนเสียงดังและชอบกวนคนอื่นเวลาตั้งใจทำงาน
เราเคยหงุดหงิดเลื้อยไปเลื้อยมาเพราะอยากบันเทาการปวดหัว เพราะรู้สึกหงุดหงิด
อาจจะมีคำผิด ขอตัวค่ะ!