💚มาลาริน/ผ่านฉลุยทุกด่านรัฐบาลมาถูกทาง...หอการค้าไทย หนุนไทยวางตัวเป็นกลางสงครามรัสเซีย - ยูเครน

กระทู้คำถาม
เพี้ยนแคปเจอร์หอการค้าไทย หนุนไทยวางตัวเป็นกลางสงครามรัสเซีย - ยูเครน



หอการค้าไทย ชี้ไทยเดินถูกทาง วางตัวเป็นกลาง ความขัดแย้งรัสเซีย - ยูเครน จี้รัฐเร่งขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% เปิดทางกู้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจแนะปรับโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย วาง 4 แนวทาง ฟื้นภาคธุรกิจ
 
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวในรายการ THE BIG ISSUE 2022 ฝ่าไฟสงคราม รับมือวิกฤติเศรษฐกิจ ทางออก ทางรอดธุรกิจไทยหลังไฟสงคราม  ที่จัดโดย นสพ.กรุงเทพธุรกิจ และ นสพ.ฐานเศรษฐกิจ  ว่า ...👨‍💻👩‍💻🧑‍💻

สงครามรัสเซีย และยูเครนนั้น ประเทศไทยเดินมาถูกทางแล้วนั่นคือ การเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพราะเราต้องอาศัยนักท่องเที่ยว นักลงทุน ซึ่งไทยวางตัวในจุดนี้ถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตามหอการค้าไทย อยากให้รัฐบาลขยายเพดานหนี้สาธารณะจาก 60% ไปเป็น 70% ซึ่ง ครม.เห็นชอบแล้วแต่ยังช้าอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏร  โดยการขยายหนี้สาธารณะเพื่อกู้เงินถือเป็นเรื่องจำเป็นในการนำเงินมาเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ  นอกจากนี้ยังมีความเป็นห่วงภาวะ Stagflation เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยไม่โต ดังนั้นรัฐบาลต้องเข้ามาดูแล

ทั้งนี้ภาคเอกชนต้องการให้รัฐปรับโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นให้เร็วขึ้น ซึ่งไม่ต้องรอไปจนถึงเดือนก.ค.ถึงจะประกาศ เพราะจะทำให้เราเสียเปรียบ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโอมิครอนจะสูงสุดในช่วงสงกรานต์ จากนั้นก็จะลดลง โดยประเทศต่างๆ เห็นโอมิครอนเป็นเพียงแค่ไข้หวัดธรรมดา สามารถรักษาและควบคุมได้ บางประเทศก็เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว และนักลงทุนแล้ว เช่น มัลดีฟส์ ทำเศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ดี ดังนั้นหากไทยสามารถเปิดประเทศ และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้ก็จะสร้างความได้เปรียบ แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์เป็นระยะด้วย ภาคเอกชนเข้าใจว่าการเปิดประเทศไม่ควรเสี่ยงแต่การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวนักลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
 
ด้านราคาสินค้าซึ่งได้รับผลกระทบราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลต่อราคาวัตถุดิบ ซึ่งหอการค้าไทย ได้ส่งสัญญาณการปรับราคาสินค้ามาตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ว่าปีนี้ราคาสินค้าจะขยับตัวสูงขึ้นแน่จากต้นทุนที่สูงขึ้น โดยขณะที่ประเมินนั้นยังไม่มี สงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่ช่วงนั้นยังไม่สามารถปรับราคาได้ เพราะหากขึ้นราคาก็อาจขายไม่ได้ เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี วันนี้สต็อกที่มีอยู่เดิมหมดไปแล้วต้องซื้อวัตถุดิบที่มีราคาแพงขึ้นจะส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นแน่นอน ขณะที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นกว่า100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก็ทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก มีการแย่งซื้อสินค้าเข้าไปเก็บในสต็อก  ซึ่งนักธุรกิจเราต้องไม่ประมาทเร่งซื้อวัตถุดิบเก็บไว้ให้มากที่สุดเพื่อผลิตสินค้าในล็อตต่อไป เพื่อป้องกันการขาดแคลนในอนาคต นอกจากต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้นแล้วดีมานด์ในตลาดก็มากขึ้น แต่ภาครัฐ และภาคเอกชนก็ร่วมมือกันตรึงราคาสินค้า แต่ในระยะกลาง และยาวสินค้าบางอย่างขึ้นแน่นอน
 
นายสนั่น  กล่าวว่า ในด้านเศรษฐกิจ หอการค้าไทย วางแนวทางไว้การฟื้นตัวและกลยุทธ์การปรับตัวของภาคธุรกิจไทย  4 แนวทาง คือ...👇

1.Restart การสร้างใหม่ต่อยอดจากจุดแข็งเดิม เช่น เศรษฐกิจหมุนเวียนหรือBCG  พัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพ

2.Reimagine คิดใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่า  เช่น รถยนต์ EV  อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ธุรกิจทางการแพทย์ โรโบติกส์ อาหาร การเกษตรและชีวเคมี   

3.Recover  หาแนวทางเพื่อพลิกฟื้น ให้ธุรกิจกลับมา ทั้งธุรกิจการท่องเที่ยวและธุรกิจการบิน ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องหาแหล่งเงินทุนให้กับธุรกิจเหล่านี้เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด ประกอบกับหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ที่ผ่านมาหอการค้าไทยได้ร่วมมือกับภาคเอกชนสามารถกู้เงินได้

4.Reform Enablers ตื่นตัวเพื่อปรับให้เร็วโดยเฉพาะการปรับตัวสู่ธุรกิจดิจิทัล การศึกษา ซึ่งหอการค้าไทย ได้ขอให้รัฐบาลเร่งรัดการแก้กฎหมายด้านเศรษฐกิจที่ล้าสมัย

https://www.bangkokbiznews.com/business/995362

นานาโอเค  ภาคเอกชนสนับสนุนรัฐบาลแทบทุกเรื่อง

ผ่านฉลุยทุกด่าน  ถือว่ารัฐบาลทำงานไม่ผิดพลาดแน่นอนค่ะ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ไม่จำเป็นต้องแสดงตัวเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะปัญหาความขัดแย้งมีความซับซ้อนมาก และประเทศไทยก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงจากปัญหาดังกล่าว การสนับสนุนสันติภาพ การวางตัวเป็นกลาง การรักษาสมดุลสำคัญที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่