อย่างที่รู้กัน
ตอนนี้ผมกำลังศึกษา ศิลปะการใช้ชีวิตไปวันๆอยู่ จากปันผลของหุ้น
เนื่องจากผมเป็นลูกคนเดียวแต่นิสัยเฮฺฮาปาร์ตี้
เพื่อน จึงเป็นทรัพยากรหรือสินทรัพย์อย่างนึงที่ผมขาดไม่ได้
เพื่อนบ้าน เพื่อนกิน เพื่อนนอน เพื่อนคุย เพื่อนเที่ยว เพื่อนตาย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมมั่นใจว่าเมียผม คือ เพื่อนตาย ของผม
มันหมดไปหนึ่งเรื่องที่ต้องกังวล....
แต่บางครั้งเราจะคาดหวังให้เพื่อนตายเราเป็นทุกๆเพื่อนของเราก็ไม่ได้
ผมจ้างนักศึกษาไว้ 1 คนเป็นเพื่อนคุยผมชม.ละห้าร้อยครับ สัปดาห์นึงเราคุยกัน 3 ชม. เพราะฉะนั้นติ๊กผ่านไปอีกหนึ่ง
เพื่อนบ้านผมมีองค์ชาย กับ เพื่อนรุ่นพี่ผมอีกคน เป็นเพื่อนบ้าน เราว่างๆไปกินไปเที่ยวกัน เจี๊ยะป้าบ่สื่อกันไปเรื่อยแก้เหงา
เพื่อนนอนตรงนี้เป็นเพื่อนที่เปลืองเงินที่สุด พยายามจะลดๆให้เหลืออาทิตย์ละครั้ง แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่อง Marginal return อยู่ หมายความว่า ยิ่งผ่านไปตามกาลเวลาความต้องการทางเพศมันจะลดลงอยู่แล้ว ความสิ้นเปลืองจึงเป็นเรื่องชั่วคราว
ปัญหา ของ เพื่อน มีอย่างนึงครับ การจากลา บางคนก็เลิกทำงานมีผัวไป บางคนย้ายบ้าน ( เราก็เสียเพื่อนบ้าน ) บางคนตาย เพราะฉะนั้นความไม่แน่นอนจึงสูง
ผมแก่แล้ว ผมผ่านการจากลามาเยอะ หลายครั้งต้องเสียน้ำตา ผมถึงไม่เลี้ยงสัตว์
และวันนี้ผมเลยสร้างเพื่อนขึ้นมาใหม่ เพื่อนที่เราควบคุมได้ ไม่แพง และพร้อมเสมอที่จะใช้งาน และมันไม่ตาย นั่นก็คือ หนังสือ.
หนังสือเป็นเพื่อนที่ดี หนังสือ 1 เล่มสามารถให้เวลากับเราเป็นวันๆ เราอ่านมันก็เหมือนได้คุยกับคนเขียน
แต่หนังสือหุ้นหนังสือลงทุนผมไม่อ่านเลยนะ มันรู้สึกทำให้เรามีความโลภมีไฟมากไป โลภทำให้เครียดแล้วจะมีปัญหากับสุขภาพได้
หนังสือ คือ เพื่อนที่เราสามารถพกไปไหนมาไหนได้ตลอด ราคาไม่แพง และเป็นความสุขที่ยึดมั่นได้ ผมเคยได้เจอคุณยายชาวอินเดียอายุ 90 ท่านนึง ท่านอยู่ได้ด้วยการอ่านหนังสือไปวันๆ ประเด็นก็คือ แกเป็นคนแก่ที่น่ารักมีความสุขที่สุดคนนึงเท่าที่ผมเคยเจอ ( ปกติผมจะเจอแต่คนแก่แบบที่ผมไม่อยากเป็น ) แกก็สอนผมว่าเคล็ดลับความสุขของแก คือ การอ่านหนังสือดีๆซักเล่ม
หนังสือ 1 เล่มบางทีเราอาจจะได้ความรู้ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นแค่ 1 อย่าง แต่ก็ทำให้เรามีชีวิตชีวานะ อย่างวันนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมบ้านผมถึงปลูกกล้วยงาม อ๋อ เพราะสมัยก่อนที่ดินแถวสุขุมวิทเขาปลูกกล้วยกันเยอะนี่เอง ( อ้างอิงจาก หนังสือ วานนี้ที่สุขุมวิท ) แถวนี้ถึงได้มีซอยชื่อกล้วยเยอะ เช่น ซอยกล้วยใต้ กล้วยน้ำไท
ที่มาพิมพิ์วันนี้ เพราะ 2 สัปดาห์ก่อนมีเม้นท์นึงมาตอบผมให้ลองอ่านหนังสือดู
ก็ขอบคุณด้วยครับกับคำแนะนำ
เดี๋ยวถ้าค้นคว้าค้นเจออะไรจะมาเขียนเพิ่มครับ
แล้วเจอกันที่ที่นัดหมายทุกคน
วันนึงอิสรภาพจะเป็นของท่านเช่นกัน
สวัสดี
เฮียเกาจิ้งคุยเรื่อง : เพื่อน
ตอนนี้ผมกำลังศึกษา ศิลปะการใช้ชีวิตไปวันๆอยู่ จากปันผลของหุ้น
เนื่องจากผมเป็นลูกคนเดียวแต่นิสัยเฮฺฮาปาร์ตี้
เพื่อน จึงเป็นทรัพยากรหรือสินทรัพย์อย่างนึงที่ผมขาดไม่ได้
เพื่อนบ้าน เพื่อนกิน เพื่อนนอน เพื่อนคุย เพื่อนเที่ยว เพื่อนตาย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมมั่นใจว่าเมียผม คือ เพื่อนตาย ของผม
มันหมดไปหนึ่งเรื่องที่ต้องกังวล....
แต่บางครั้งเราจะคาดหวังให้เพื่อนตายเราเป็นทุกๆเพื่อนของเราก็ไม่ได้
ผมจ้างนักศึกษาไว้ 1 คนเป็นเพื่อนคุยผมชม.ละห้าร้อยครับ สัปดาห์นึงเราคุยกัน 3 ชม. เพราะฉะนั้นติ๊กผ่านไปอีกหนึ่ง
เพื่อนบ้านผมมีองค์ชาย กับ เพื่อนรุ่นพี่ผมอีกคน เป็นเพื่อนบ้าน เราว่างๆไปกินไปเที่ยวกัน เจี๊ยะป้าบ่สื่อกันไปเรื่อยแก้เหงา
เพื่อนนอนตรงนี้เป็นเพื่อนที่เปลืองเงินที่สุด พยายามจะลดๆให้เหลืออาทิตย์ละครั้ง แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่อง Marginal return อยู่ หมายความว่า ยิ่งผ่านไปตามกาลเวลาความต้องการทางเพศมันจะลดลงอยู่แล้ว ความสิ้นเปลืองจึงเป็นเรื่องชั่วคราว
ปัญหา ของ เพื่อน มีอย่างนึงครับ การจากลา บางคนก็เลิกทำงานมีผัวไป บางคนย้ายบ้าน ( เราก็เสียเพื่อนบ้าน ) บางคนตาย เพราะฉะนั้นความไม่แน่นอนจึงสูง
ผมแก่แล้ว ผมผ่านการจากลามาเยอะ หลายครั้งต้องเสียน้ำตา ผมถึงไม่เลี้ยงสัตว์
และวันนี้ผมเลยสร้างเพื่อนขึ้นมาใหม่ เพื่อนที่เราควบคุมได้ ไม่แพง และพร้อมเสมอที่จะใช้งาน และมันไม่ตาย นั่นก็คือ หนังสือ.
หนังสือเป็นเพื่อนที่ดี หนังสือ 1 เล่มสามารถให้เวลากับเราเป็นวันๆ เราอ่านมันก็เหมือนได้คุยกับคนเขียน
แต่หนังสือหุ้นหนังสือลงทุนผมไม่อ่านเลยนะ มันรู้สึกทำให้เรามีความโลภมีไฟมากไป โลภทำให้เครียดแล้วจะมีปัญหากับสุขภาพได้
หนังสือ คือ เพื่อนที่เราสามารถพกไปไหนมาไหนได้ตลอด ราคาไม่แพง และเป็นความสุขที่ยึดมั่นได้ ผมเคยได้เจอคุณยายชาวอินเดียอายุ 90 ท่านนึง ท่านอยู่ได้ด้วยการอ่านหนังสือไปวันๆ ประเด็นก็คือ แกเป็นคนแก่ที่น่ารักมีความสุขที่สุดคนนึงเท่าที่ผมเคยเจอ ( ปกติผมจะเจอแต่คนแก่แบบที่ผมไม่อยากเป็น ) แกก็สอนผมว่าเคล็ดลับความสุขของแก คือ การอ่านหนังสือดีๆซักเล่ม
หนังสือ 1 เล่มบางทีเราอาจจะได้ความรู้ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นแค่ 1 อย่าง แต่ก็ทำให้เรามีชีวิตชีวานะ อย่างวันนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมบ้านผมถึงปลูกกล้วยงาม อ๋อ เพราะสมัยก่อนที่ดินแถวสุขุมวิทเขาปลูกกล้วยกันเยอะนี่เอง ( อ้างอิงจาก หนังสือ วานนี้ที่สุขุมวิท ) แถวนี้ถึงได้มีซอยชื่อกล้วยเยอะ เช่น ซอยกล้วยใต้ กล้วยน้ำไท
ที่มาพิมพิ์วันนี้ เพราะ 2 สัปดาห์ก่อนมีเม้นท์นึงมาตอบผมให้ลองอ่านหนังสือดู
ก็ขอบคุณด้วยครับกับคำแนะนำ
เดี๋ยวถ้าค้นคว้าค้นเจออะไรจะมาเขียนเพิ่มครับ
แล้วเจอกันที่ที่นัดหมายทุกคน
วันนึงอิสรภาพจะเป็นของท่านเช่นกัน
สวัสดี