เรื่องมีอยู่ว่าพ่อผมตอนนี้เข้ารพ. เนื่องด้วยอาการไม่รู้สึกตัวพูดจาไม่รู้เรื่อง แต่พอไปตรวจพบว่าค่าไตเหลือแค่ 10% มีภาวะแทรกซ้อนและตรวจพบโควิดด้วย มีอาการความดันต่ำร่วมมีโรคประจำตัวเรื่องความดัน

ตอนแรกที่พาไปรพ. พ่อยังรู้สึกได้ถึงเขาจะไม่ค่อยพูด ก็พารักษาตามปกติติดต่อหมอทุกวันเพราะทางรพ.ไม่ให้เยี่ยม (ช่วงโควิดหมอบอกห้ามเข้าเยี่ยม) อาการพ่อก็เริ่มดีขึ้น ๆ แต่พอวัน 2 วันนี้พ่อกลับอาการแย่ลง หมอบอกพ่อเริ่มไม่กินอาหาร เรียกตอบไม่รู้สึกตัว ความดันตก เกิดภาวะไตวายและมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ด้วย หมอเขาบอกถ้าล้างไตจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะมาก ซึ่งคนหาเช้ากินค่ำแบบผมไม่รู้จะทำยังไงกับค่าใช้จ่ายนี้

ผมเลยตัดสินใจลองให้เขาล้างไตรอบแรก ตอนนี้พ่อของผมต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ที่รพ. หมอบอกว่าถ้าไม่ล้างไตคงเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว ผมนึกภาพเห็นพ่อใส่ท่อระโยงระยางแบบนั้นมันต้องทรมานแค่ไหน ไม่รู้ว่ามีใครคิดแบบผมมั้ย แต่ผมไม่อยากให้เขาต้องทรมานแบบนี้อีกแล้ว อีกอย่างพ่อผมอายุ 85 ซึ่งก็แก่มาก หมอบอกอาการมันจะไม่มีทางดีขึ้นเหมือนเดิม มีแต่ทรงกับทรุดอย่างเดียว ตอนนี้ผมปรึกษากับพวกญาติ ๆ และคนรู้จักแล้วทุกคนบอกให้ผมทำใจเพราะเขาแก่แล้ว 

ผมนึกภาพไม่ออกถ้าผมไม่มีเขา จะบอกว่าผมทำใจได้ก็คงใช่ และคนเป็นโควิดไม่สามารถนำร่างมาทำพิธีทางศาสนาได้ ถ้าพ่อผมเป็นอะไรไปผมคงไม่ได้สั่งเสียเขาแน่ ๆ อย่างน้อยก็อยากเห็นหน้าเขาสักครั้งได้บอกได้สั่งเสียก็ยังดี แต่ที่ห่วงคือน้องสาวที่มีครอบครัวทางฝั่งแฟน และอาม่าแฟนต้องมาป่วยหนัก แถมเจอเรื่องพ่อด้วยมันหนักถึง 2 ต่อเลยครับ

ทุกคนมีวิธีทำใจแบบไหนบ้างครับ ส่วนตัวผมพอทำใจได้บ้าง แต่อยากถามถึงผู้มีประสบการณ์ว่าผมควรจะยื้อต่อไหม หรือควรจะให้เขาไปแบบไม่ทรมาน พร้อมรับทุกอย่างทุกประดาเข้ามา คิดว่าทุกอย่างคงไม่เหมือนเดิม (พ่อผมไม่ใช้ผู้ป่วยติดเตียงนะครับ ก่อนป่วยหนักเดินได้ปกติ หมอบอกเป็นที่โควิดทำให้ภูมิคุ้มกันในตัวมันลดลง)

อยากถามผู้มีประสบการณ์ครับ ขอบคุณมากครับ