🇹🇭มาลาริน❤13มี.ค.ไม่ติดTop10โลก/ป่วย21,162คน หาย23,159คน ตาย65คน/คนค่อนข้างกลัวโอมิครอน พอใจรบ.มากขึ้น/ร.พ.ติดอันดับ


https://www.bangkokbiznews.com/social/992082

https://www.bangkokbiznews.com/social/993313

https://www.thaipost.net/covid-19-news/103184/


https://siamrath.co.th/n/330531

นานาเรียนติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ

วันนี้หายป่วยมากกว่าติดเชื้อใหม่ ผู้เสียชีวิตทรงตัว

โพลชี้คนค่อนข้างกลัว โอมิครอน แต่ที่ติดเชื้อมากเพราะประมาท เพราะเหตุทราบว่าความรุนแรงน้อย

ประชาชนเชื่อมั่นการทำงานรัฐบาลมากขึ้น

นายกฯปลื้มโรงพยาบาลไทยติดอันดับดีที่สุดในโลก ประชาชนอย่างดิฉันก็ปลื้มด้วยค่ะ

....💓💓
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 12 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 125,862,893 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,973 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 997.3 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (114.6%)

(12 มีนาคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,973 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 21.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 556 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 216 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 997.3 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (95% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 358.8 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 12 มีนาคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 125,862,893 โดส

ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,973 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1) ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 12 มีนาคม 2565  
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 125,862,893 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 54,299,065 โดส (82% ของประชากร)
-เข็มสอง 49,965,129 โดส (75.5% ของประชากร)
-เข็มสาม 21,598,699 โดส (32.6% ของประชากร)

2) อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 12 มี.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว  125,862,893 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 273,832 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 173,312 โดส/วัน

3) อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,908,555 โดส
- เข็มที่ 2 3,599,767 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,926,824 โดส
- เข็มที่ 2 28,495,595 โดส
- เข็มที่ 3 5,161,433 โดส

วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,552,674 โดส
- เข็มที่ 2 7,244,264 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 9,151,185 โดส
- เข็มที่ 2 9,757,601 โดส
- เข็มที่ 3 13,068,933 โดส

วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 759,827 โดส
- เข็มที่ 2 867,902 โดส
- เข็มที่ 3 3,368,333 โดส

4) 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. ภูเก็ต เข็มที่1 92.3% เข็มที่2 87.4% เข็มที่3 80.8%
2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 114.6% เข็มที่2 105.2% เข็มที่3 65.8%
3. นนทบุรี เข็มที่1 82.5% เข็มที่2 78.6% เข็มที่3 59.1%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 92.6% เข็มที่2 81.3% เข็มที่3 57.1%
5. อยุธยา เข็มที่1 75.1% เข็มที่2 71.9% เข็มที่3 42%
6. ระยอง เข็มที่1 85.5% เข็มที่2 81.1% เข็มที่3 41.7%
7. ลำพูน เข็มที่1 81.9% เข็มที่2 78.2% เข็มที่3 40.6%
8. ชลบุรี เข็มที่1 83.7% เข็มที่2 79.5% เข็มที่3 37.5%
9. นครปฐม เข็มที่1 78.1% เข็มที่2 76.6% เข็มที่3 35.3%
10. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 82.7% เข็มที่2 70% เข็มที่3 35.1%

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. นราธิวาส เข็มที่1 55.9% เข็มที่2 45% เข็มที่3 6.6%
2. ปัตตานี เข็มที่1 57.4% เข็มที่2 45.7% เข็มที่3 6.7%
3. ยะลา เข็มที่1 63.4% เข็มที่2 52.5% เข็มที่3 9.5%
4. บึงกาฬ เข็มที่1 65.2% เข็มที่2 56.7% เข็มที่3 9.8%
5. หนองบัวลำภู  เข็มที่1 63.9% เข็มที่2 58.3% เข็มที่3 11.2%
6. สตูล เข็มที่1 66.2% เข็มที่2 60.3% เข็มที่3 11.7%
7. สกลนคร เข็มที่1 67.3% เข็มที่2 60.2% เข็มที่3 12.6%
8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 60% เข็มที่2 50.8% เข็มที่3 13.1%
9. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 67.8% เข็มที่2 60.7% เข็มที่3 13.4%
10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 71.5% เข็มที่2 65.4% เข็มที่3 13.5%

5) ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 997,309,783 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 358,861,860 โดส (70.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 199,277,592 โดส (81.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 138,008,339 โดส (56.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca  
4. ไทย จำนวน 125,862,893 โดส (82%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 68,064,755 โดส (83.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac  
6. พม่า จำนวน 45,658,400 โดส (44.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 37,302,729 โดส (87.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,651,279 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9.  ลาว จำนวน 9,580,326 โดส (70.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 1,041,610 โดส (95%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม

6) จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.70%
2. ยุโรป 10.07%
3. อเมริกาเหนือ 8.55%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.19%
5. แอฟริกา 3.87%
6. โอเชียเนีย 0.62%

7) ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,180.06 ล้านโดส (224.8% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,798.26 ล้านโดส (130.4%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 556.30 ล้านโดส (165.9%)
4. บราซิล จำนวน 400.54 ล้านโดส (189.1%)
5. อินโดนีเซีย  จำนวน 358.86 ล้านโดส (130.1%)

8) ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (309.8%) (ฉีดวัคซีนของ  Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (261.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (254.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. มัลดีฟส์ (241.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
5. กาตาร์ (240.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
6. บรูไน (236.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)  
7. ฝรั่งเศส (235%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna, J&J และ AstraZeneca/Oxford)
8. สิงคโปร์ (231.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)  
9. บาห์เรน (231.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
10. เกาหลีใต้  (231.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ  Moderna)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/275054348149338
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่