ข่าวดีในรอบ 17 ปี ซาอุฯ ประกาศยกเลิกแบนสินค้าสัตว์ปีก จากไทยแล้ว
ดร.เฉลิมชัย” ประกาศข่าวดีในรอบ 17 ปี นายกรัฐมนตรี เจรจาสำเร็จ ซาอุฯ ประกาศยกเลิกแบนสินค้าสัตว์ปีก จากไทยแล้ว
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ปฎิบัติภารกิจเดินทางเยือนประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันที่ 25-26 มกราคม 2565 เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ หารือความสัมพันธ์ด้านการทูตและความร่วมมือทางด้านต่างๆ ครอบคลุมในด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ความมั่นคงและความปลอดภัยอาหาร
ด้านพลังงาน ด้านสาธารณสุข และด้านเทคโนโลยีดิจิทัล โดยร่วมกันผลักดันให้เกิดความร่วมมือทั้งสองประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะประเด็นการเสริมสร้างบทบาทของไทยในฐานะ “ครัวโลก” เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งล่าสุดถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทยและผู้ส่งออกสินค้าสัตว์ปีกของไทย นั้น
รัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2565 ได้รับรายงานแจ้งว่า นายสธน เกษมสันต์ ณ อยุธยา อุปทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด และ นายอภิชาติ ประเสริฐสุด ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์ เข้าพบ ผู้บริหารสำนักงานอาหารและยาของซาอุดีอาระเบีย (SFDA) Mr. Sami Saad N. Al Sager, Vice President for Operations Sector เพื่อหารือและรับทราบผลการพิจารณาการยกเลิกห้ามนำเข้าสินค้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากประเทศไทย
ตามที่ก่อนหน้านี้ ฝ่ายไทยโดยกรมปศุสัตว์ได้ลงนามและส่งเอกสาร Minutes of the Health and Technical Requirement for the Import of Poultry Meat and its Products มายัง SFDA โดยสินค้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากประเทศไทย ถูกทางการซาอุดีอาระเบียระงับและห้ามการนำเข้า มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถือเป็นข่าวดีด้านการส่งออกปศุสัตว์ไทยอย่างยิ่ง เป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ปี 2565 ของความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดิอาระเบียอีกครั้ง เพราะ SFDA แจ้งผลการพิจารณาว่า จะยกเลิกการห้ามนำเข้าสินค้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากประเทศไทย โดยภายหลังจบการหารือ ทางเว็บไซต์ SFDA ได้เปลี่ยนสถานะการนำเข้าสินค้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากประเทศไทย
จาก "Banned" เป็น "Permitted" โดยรายชื่อสถานประกอบการส่งออกที่อนุญาตขึ้นทะเบียนจำนวน 11 แห่ง ประกอบด้วย โรงฆ่าสัตว์ปีก โรงตัดแต่ง และโรงงานแปรรูป สามารถดูข้อมูลได้ที่
https://www.sfda.gov.sa/en/list_countries ทั้งนี้ ความสำเร็จครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสทำหรับสองประเทศในการร่วมมือเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีต่อไป
https://www.thansettakij.com/economy/517300
ซาอุฯ" เดินทางถึงไทยแล้ว ร่วมประชุมวิชาการกระชับความร่วมมือจัดส่งแรงงาน
ซาอุฯ" เดินทางถึงไทยแล้ว ร่วมประชุมวิชาการกระชับความร่วมมือจัดส่ง "แรงงานฝีมือ" พร้อมการนำเสนอระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในการจ้างงานและการออกวีซ่าของซาอุดิอารเบีย
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2565 ดร.อัฎนัน อับดุลลาห์ อัล-นาอีม (Dr. ADNAN ABDULLAH M. ALNUIM) Deputy of minister for International affair กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย และคณะทางวิชาการของซาอุดีอาระเบีย หรือ "ซาอุฯ" ได้เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ด้วยสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR838
โดยมี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน ร่วมให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด -19 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.กำหนดอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาเยือนประเทศไทย ของคณะทางวิชาการซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 12-16 มีนาคมนี้ เพื่อมาปฏิบัติภารกิจสำคัญในการประชุมเชิงวิชาการเกี่ยวกับการจัดหางานแรงงานระหว่างกระทรวงแรงงานของไทย
และกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดี การนำเสนอระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการจ้างงานและการออกวีซ่าของซาอุดีอาระเบีย การประชุมหารือระหว่างสำนักงาน บริษัทจัดหางานไทยและซาอุดี รวมทั้งการเยี่ยมชมการฝึกอบรมและทดสอบฝีมือแรงงานอีกด้วย
ซึ่งเป็นนิมิตรหมายอันดี ที่จะกระชับสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความร่วมมือด้านแรงงานให้แน่นเฟ้นมากยิ่งขึ้น ถือเป็นความคืบหน้าสำคัญอีกก้าวหนึ่งที่จะทำให้ทั้งสองประเทศสามารถจัดส่งแรงงานไปทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
และเป็นธรรมส่งผลให้ "แรงงาน" มีรายได้และได้รับการคุ้มครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย
https://www.komchadluek.net/news/508231
ไทยเรายังมีตัวช่วยที่เข้ามาตอนวิกฤตนะคะ
ขอบคุณรัฐบาล ขอบคุณนายกฯลุงตู่ที่สร้างโอกาสอันดีให้ประเทศไทย
จารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ยุคนายกฯลุงตู่ที่เชื่อมไมตรีกับทั่วโลก
เศรษฐกิจไทยได้ไปต่อค่ะ
💛มาลาริน/ล้านโทนีก็ทำไม่ได้...ข่าวดีในรอบ 17 ปี ซาอุฯ ประกาศยกเลิกแบนสินค้าสัตว์ปีกจากไทย/คณะซาอุฯ" เดินทางถึงไทยแล้ว
ดร.เฉลิมชัย” ประกาศข่าวดีในรอบ 17 ปี นายกรัฐมนตรี เจรจาสำเร็จ ซาอุฯ ประกาศยกเลิกแบนสินค้าสัตว์ปีก จากไทยแล้ว
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ปฎิบัติภารกิจเดินทางเยือนประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันที่ 25-26 มกราคม 2565 เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ หารือความสัมพันธ์ด้านการทูตและความร่วมมือทางด้านต่างๆ ครอบคลุมในด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ความมั่นคงและความปลอดภัยอาหาร
ด้านพลังงาน ด้านสาธารณสุข และด้านเทคโนโลยีดิจิทัล โดยร่วมกันผลักดันให้เกิดความร่วมมือทั้งสองประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะประเด็นการเสริมสร้างบทบาทของไทยในฐานะ “ครัวโลก” เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งล่าสุดถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทยและผู้ส่งออกสินค้าสัตว์ปีกของไทย นั้น
รัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2565 ได้รับรายงานแจ้งว่า นายสธน เกษมสันต์ ณ อยุธยา อุปทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด และ นายอภิชาติ ประเสริฐสุด ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์ เข้าพบ ผู้บริหารสำนักงานอาหารและยาของซาอุดีอาระเบีย (SFDA) Mr. Sami Saad N. Al Sager, Vice President for Operations Sector เพื่อหารือและรับทราบผลการพิจารณาการยกเลิกห้ามนำเข้าสินค้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากประเทศไทย
ตามที่ก่อนหน้านี้ ฝ่ายไทยโดยกรมปศุสัตว์ได้ลงนามและส่งเอกสาร Minutes of the Health and Technical Requirement for the Import of Poultry Meat and its Products มายัง SFDA โดยสินค้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากประเทศไทย ถูกทางการซาอุดีอาระเบียระงับและห้ามการนำเข้า มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถือเป็นข่าวดีด้านการส่งออกปศุสัตว์ไทยอย่างยิ่ง เป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ปี 2565 ของความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดิอาระเบียอีกครั้ง เพราะ SFDA แจ้งผลการพิจารณาว่า จะยกเลิกการห้ามนำเข้าสินค้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากประเทศไทย โดยภายหลังจบการหารือ ทางเว็บไซต์ SFDA ได้เปลี่ยนสถานะการนำเข้าสินค้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากประเทศไทย
จาก "Banned" เป็น "Permitted" โดยรายชื่อสถานประกอบการส่งออกที่อนุญาตขึ้นทะเบียนจำนวน 11 แห่ง ประกอบด้วย โรงฆ่าสัตว์ปีก โรงตัดแต่ง และโรงงานแปรรูป สามารถดูข้อมูลได้ที่ https://www.sfda.gov.sa/en/list_countries ทั้งนี้ ความสำเร็จครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสทำหรับสองประเทศในการร่วมมือเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีต่อไป
https://www.thansettakij.com/economy/517300
ซาอุฯ" เดินทางถึงไทยแล้ว ร่วมประชุมวิชาการกระชับความร่วมมือจัดส่งแรงงาน
ซาอุฯ" เดินทางถึงไทยแล้ว ร่วมประชุมวิชาการกระชับความร่วมมือจัดส่ง "แรงงานฝีมือ" พร้อมการนำเสนอระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในการจ้างงานและการออกวีซ่าของซาอุดิอารเบีย
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2565 ดร.อัฎนัน อับดุลลาห์ อัล-นาอีม (Dr. ADNAN ABDULLAH M. ALNUIM) Deputy of minister for International affair กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย และคณะทางวิชาการของซาอุดีอาระเบีย หรือ "ซาอุฯ" ได้เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ด้วยสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR838
โดยมี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน ร่วมให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด -19 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.กำหนดอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาเยือนประเทศไทย ของคณะทางวิชาการซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 12-16 มีนาคมนี้ เพื่อมาปฏิบัติภารกิจสำคัญในการประชุมเชิงวิชาการเกี่ยวกับการจัดหางานแรงงานระหว่างกระทรวงแรงงานของไทย
และกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดี การนำเสนอระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการจ้างงานและการออกวีซ่าของซาอุดีอาระเบีย การประชุมหารือระหว่างสำนักงาน บริษัทจัดหางานไทยและซาอุดี รวมทั้งการเยี่ยมชมการฝึกอบรมและทดสอบฝีมือแรงงานอีกด้วย
ซึ่งเป็นนิมิตรหมายอันดี ที่จะกระชับสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความร่วมมือด้านแรงงานให้แน่นเฟ้นมากยิ่งขึ้น ถือเป็นความคืบหน้าสำคัญอีกก้าวหนึ่งที่จะทำให้ทั้งสองประเทศสามารถจัดส่งแรงงานไปทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
และเป็นธรรมส่งผลให้ "แรงงาน" มีรายได้และได้รับการคุ้มครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย
https://www.komchadluek.net/news/508231
ไทยเรายังมีตัวช่วยที่เข้ามาตอนวิกฤตนะคะ
ขอบคุณรัฐบาล ขอบคุณนายกฯลุงตู่ที่สร้างโอกาสอันดีให้ประเทศไทย
จารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ยุคนายกฯลุงตู่ที่เชื่อมไมตรีกับทั่วโลก
เศรษฐกิจไทยได้ไปต่อค่ะ