โดยปกติ สินค้าญี่ปุ่น มีคุณภาพสูงมาก โดยเฉพาะตู้เย็น ไม่เคยใช้ตู้เย็นแล้วเสียเลย แต่ละตู้ที่เคยใช้ไม่ต่ำกว่า 10-20 ปี และปกติก็ประกันคอมเพรสเซอร์กันนาน 10 ปีอยู่แล้ว
เมื่อ 4 ปีก่อน พอดีย้ายบ้าน เลยไปซื้อตู้เย็นใหม่ อยากได้ตู้เย็นที่รูปลักษณ์ดูทันสมัย สวยงาม ก็ไปสะดุดตากับตู้เย็นนำเข้าจากญี่ปุ่น made in Japan อยู่ 2 ยี่ห้อ คือ Mitsubishi กับ Hitachi ซึ่งมี 6 ประตู และขนาดประมาณ 25.6 คิวเท่ากัน ด้วยความที่คิดว่า 2 ยี่ห้อนี้คงเหมือนๆกัน อายุการใช้งานก็คงไม่มีปัญหา เลยเลือกจากรูปลักษณ์เป็นหลัก ก็ตกลงซื้อ Hitachi น่าจะรุ่น R-ZXC740KT ซึ่งตอนนั้นราคา 13x,xxx บาท ลดราคาแล้วก็เหลือ 12x,xxx บาท (หนึ่งแสนสองหมื่นกว่าบาท) ซึ่งถือว่าแพงเพราะสามารถซื้อตู้เย็นทั่วไปราคา 2 หมื่นกว่าบาทได้ถึง 5 เครื่อง แต่ไม่เป็นไร เพราะคิดว่า ตู้เย็นก็เหมือนเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน เราก็อยากให้บ้านดูสวย ก็เลยตัดสินใจซื้อ
ตู้เย็น Hitachi R-ZXC740KT นี้ขนาด 25.6 คิว มี 6 ประตู เป็นระบบอัตโนมัติ เปิดปิดประตูโดยการสัมผัส โดยมีระบบสั่งงานที่ฝาประตู ซึ่งเมนูมันดับไฟเพื่อซ่อนได้ ทำให้รูปลักษณ์ดูทันสมัยมาก โดยปกติที่บ้านไม่ได้เป็นร้านค้า เป็นที่พักอาศัยธรรมดา ไม่ได้มีการใช้งานตู้เย็นแตกต่างไปจากทั่วไปเลย แล้วคนในบ้านก็อาศัยกันอยู่แค่ 6 คน โดยเป็นเด็กเล็กที่เปิดตู้เย็นไม่ได้ 1 คน มีคนที่ใช้งานเพียง 5 คน
หลังใช้งานมาได้ 3 ปี พบว่าตัวทำน้ำแข็งอัตโนมัติเสีย ต้องมาซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ จำไม่ได้ว่าเสียเงินไปเท่าไหร่
พอใช้งานไปอีกครึ่งปี ลิ้นชักตู้เย็นปิดไม่ได้ มันชอบเด้งออกมาเอง เรียกช่างมาซ่อม ก็ต้องเปลี่ยนตัวเซ็นเซอร์ เสียเงินไปอีกจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่เช่นกัน หลังจากเปลี่ยนไปไม่กี่วันก็เสียอีก ซ่อมอีกรอบ T___T
ถัดมาอีกครึ่งปี (รวมอายุตู้เย็นแค่ 4 ปี) ทีนี้ตู้เย็นไม่เย็น แล้วแผงควบคุมมีไฟกระพริบ เลยเรียกช่างมาอีก บอกแผงวงจรควบคุมและคอมเพรสเซอร์เสีย (มันก็ไม่น่าจะบังเอิญเสียพร้อมๆกัน แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว) แต่ขอโทษ เนื่องจากเป็นตู้เย็น Made in Japan นำเข้าไม่มีอะไหล่ ต้องรออะไหล่ 1 เดือน T____T
ในช่วงสัปดาห์แรกรออย่างทุลักทุเล บ้านคนธรรมดาที่ไหนมันจะไปมีตู้เย็นสำรองอีกตู้ ทีนี้ของที่ต้องแช่ freeze ทำไง ก็ต้องไปซื้อน้ำแข็งมาแช่ในกล่องโฟม เปลี่ยนน้ำแข็งทุกวัน ทาง Hitachi ก็ไม่มีบริการส่งตู้เย็นสำรองมาให้ยืมใช้ด้วย สุดท้ายการซื้อน้ำแข็งมาแช่ของทุกวันก็ไม่ไหว ต้องทะยอยทิ้งของเน่าเสียไปเรื่อยๆจนตัดสินใจไปซื้อตู้เย็น 11.9 คิวมาใหม่ (ยี่ห้ออื่น) ราคา 13,xxx บาท เอา point ลดแล้วลดอีกเหลือ 9,2xx บาท มันก็ต้องจำใจซื้อมาใช้ไปพลางๆก่อนแหละ เพราะจะไปทิ้งตู้เย็นราคาแสนกว่าไม่ซ่อมก็คงไม่ได้
สุดท้าย หลังจากรอมาหลายสัปดาห์ วันนี้ 9/3/65 ช่างก็เข้ามาซ่อม ตัวคอมเพรสเซอร์ยังอยู่ในประกันก็จริง แต่ต้องเสียค่าน้ำยา และก็เปลี่ยนแผงวงจร รวมค่าใช้จ่ายอีกทั้งสิ้นอีก 8,500 บาท ซึ่งก็เป็นราคาที่ซื้อตู้เย็นใหม่ได้เลยเช่นกัน
ที่อยากแชร์ประสบการณ์คือ เข็ดแล้วกับตู้เย็นราคาเกินแสน ใช้งานไม่คุ้ม เสียหลายรอบ ค่าอะไหล่แพง แถมรออะไหล่นาน แล้วไม่มีระบบการส่งตู้เย็นสำรองมาให้ใช้งานระหว่างรอซ่อมด้วย บอกตรงๆ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ จะไม่ซื้อ และเข็ดกับยี่ห้อนี้ไปอีกนาน
*แก้ไขรุ่นตู้เย็น เป็น Hitachi R-ZXC740KT 25.6 คิว (น่าจะรุ่นนี้ครับ พอดีไม่ได้เปิดดูใบคู่มือ อาศัยดูรูปจากในเน็ตว่าเหมือนที่บ้าน และดูราคา)
แชร์ประสบการณ์การใช้งานตู้เย็น Hitachi ราคาแสนสองหมื่นบาท T___T
เมื่อ 4 ปีก่อน พอดีย้ายบ้าน เลยไปซื้อตู้เย็นใหม่ อยากได้ตู้เย็นที่รูปลักษณ์ดูทันสมัย สวยงาม ก็ไปสะดุดตากับตู้เย็นนำเข้าจากญี่ปุ่น made in Japan อยู่ 2 ยี่ห้อ คือ Mitsubishi กับ Hitachi ซึ่งมี 6 ประตู และขนาดประมาณ 25.6 คิวเท่ากัน ด้วยความที่คิดว่า 2 ยี่ห้อนี้คงเหมือนๆกัน อายุการใช้งานก็คงไม่มีปัญหา เลยเลือกจากรูปลักษณ์เป็นหลัก ก็ตกลงซื้อ Hitachi น่าจะรุ่น R-ZXC740KT ซึ่งตอนนั้นราคา 13x,xxx บาท ลดราคาแล้วก็เหลือ 12x,xxx บาท (หนึ่งแสนสองหมื่นกว่าบาท) ซึ่งถือว่าแพงเพราะสามารถซื้อตู้เย็นทั่วไปราคา 2 หมื่นกว่าบาทได้ถึง 5 เครื่อง แต่ไม่เป็นไร เพราะคิดว่า ตู้เย็นก็เหมือนเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน เราก็อยากให้บ้านดูสวย ก็เลยตัดสินใจซื้อ
ตู้เย็น Hitachi R-ZXC740KT นี้ขนาด 25.6 คิว มี 6 ประตู เป็นระบบอัตโนมัติ เปิดปิดประตูโดยการสัมผัส โดยมีระบบสั่งงานที่ฝาประตู ซึ่งเมนูมันดับไฟเพื่อซ่อนได้ ทำให้รูปลักษณ์ดูทันสมัยมาก โดยปกติที่บ้านไม่ได้เป็นร้านค้า เป็นที่พักอาศัยธรรมดา ไม่ได้มีการใช้งานตู้เย็นแตกต่างไปจากทั่วไปเลย แล้วคนในบ้านก็อาศัยกันอยู่แค่ 6 คน โดยเป็นเด็กเล็กที่เปิดตู้เย็นไม่ได้ 1 คน มีคนที่ใช้งานเพียง 5 คน
หลังใช้งานมาได้ 3 ปี พบว่าตัวทำน้ำแข็งอัตโนมัติเสีย ต้องมาซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ จำไม่ได้ว่าเสียเงินไปเท่าไหร่
พอใช้งานไปอีกครึ่งปี ลิ้นชักตู้เย็นปิดไม่ได้ มันชอบเด้งออกมาเอง เรียกช่างมาซ่อม ก็ต้องเปลี่ยนตัวเซ็นเซอร์ เสียเงินไปอีกจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่เช่นกัน หลังจากเปลี่ยนไปไม่กี่วันก็เสียอีก ซ่อมอีกรอบ T___T
ถัดมาอีกครึ่งปี (รวมอายุตู้เย็นแค่ 4 ปี) ทีนี้ตู้เย็นไม่เย็น แล้วแผงควบคุมมีไฟกระพริบ เลยเรียกช่างมาอีก บอกแผงวงจรควบคุมและคอมเพรสเซอร์เสีย (มันก็ไม่น่าจะบังเอิญเสียพร้อมๆกัน แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว) แต่ขอโทษ เนื่องจากเป็นตู้เย็น Made in Japan นำเข้าไม่มีอะไหล่ ต้องรออะไหล่ 1 เดือน T____T
ในช่วงสัปดาห์แรกรออย่างทุลักทุเล บ้านคนธรรมดาที่ไหนมันจะไปมีตู้เย็นสำรองอีกตู้ ทีนี้ของที่ต้องแช่ freeze ทำไง ก็ต้องไปซื้อน้ำแข็งมาแช่ในกล่องโฟม เปลี่ยนน้ำแข็งทุกวัน ทาง Hitachi ก็ไม่มีบริการส่งตู้เย็นสำรองมาให้ยืมใช้ด้วย สุดท้ายการซื้อน้ำแข็งมาแช่ของทุกวันก็ไม่ไหว ต้องทะยอยทิ้งของเน่าเสียไปเรื่อยๆจนตัดสินใจไปซื้อตู้เย็น 11.9 คิวมาใหม่ (ยี่ห้ออื่น) ราคา 13,xxx บาท เอา point ลดแล้วลดอีกเหลือ 9,2xx บาท มันก็ต้องจำใจซื้อมาใช้ไปพลางๆก่อนแหละ เพราะจะไปทิ้งตู้เย็นราคาแสนกว่าไม่ซ่อมก็คงไม่ได้
สุดท้าย หลังจากรอมาหลายสัปดาห์ วันนี้ 9/3/65 ช่างก็เข้ามาซ่อม ตัวคอมเพรสเซอร์ยังอยู่ในประกันก็จริง แต่ต้องเสียค่าน้ำยา และก็เปลี่ยนแผงวงจร รวมค่าใช้จ่ายอีกทั้งสิ้นอีก 8,500 บาท ซึ่งก็เป็นราคาที่ซื้อตู้เย็นใหม่ได้เลยเช่นกัน
ที่อยากแชร์ประสบการณ์คือ เข็ดแล้วกับตู้เย็นราคาเกินแสน ใช้งานไม่คุ้ม เสียหลายรอบ ค่าอะไหล่แพง แถมรออะไหล่นาน แล้วไม่มีระบบการส่งตู้เย็นสำรองมาให้ใช้งานระหว่างรอซ่อมด้วย บอกตรงๆ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ จะไม่ซื้อ และเข็ดกับยี่ห้อนี้ไปอีกนาน
*แก้ไขรุ่นตู้เย็น เป็น Hitachi R-ZXC740KT 25.6 คิว (น่าจะรุ่นนี้ครับ พอดีไม่ได้เปิดดูใบคู่มือ อาศัยดูรูปจากในเน็ตว่าเหมือนที่บ้าน และดูราคา)