ชาวโคราชโอด ราคาน้ำมันพุ่ง เกือบลิตรละ 50 บาท เดือดร้อนหนัก ต้องขายข้าวมาเติม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6930818
ชาวโคราชโอด ราคาน้ำมันพุ่ง เกือบลิตรละ 50 บาท เดือดร้อนหนัก ต้องขายข้าวในยุ้งฉางมาเติมน้ำมัน จี้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหา ประชาชนกระทบมาก
วันที่ 9 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตามปั๊มน้ำมันต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังคงมีประชาชนที่ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ แวะมาเติมน้ำมันไม่ขาดสาย แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาน้ำมันในตลาดโลก
ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาดอนขวาง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน แวะเข้ามาเติมน้ำมันเป็นระยะ แต่ถือว่าเบาบางกว่าทุกวัน เนื่องจากวันนี้ (9 มี.ค.65) ทางปั๊มได้ปรับราคาน้ำมันขึ้นทุกรายการ เช่น น้ำมันดีเซล ลิตรละ 30.25 บาท, แก๊สโซฮอลล์ E20 ลิตรละ 38.55 บาท, แก๊สโซฮอลล์ 91 ลิตรละ 39.39 บาท, แก๊สโซฮอลล์ 95 ลิตรละ 39.66 บาท และน้ำมันเบนซิน ลิตรละ 47.07 บาท
จากการสอบถาม นาย
ประเวช วรรณพันธ์ อายุ 46 ปี ประชาชนที่มาเติมน้ำมัน กล่าวว่า ตอนนี้ตนเองได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จากราคาน้ำมันที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะตนเองต้องใช้รถยนต์เพื่อเดินทางจาก อ.ห้วยแถลง มาส่งพ่อไปฟอกไตที่โรงพยาบาลในตัวเมืองนครราชสีมา สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
ปกติรถของตนต้องเติมน้ำมันเบนซิน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1,000 บาท แต่ตอนนี้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นไม่หยุด ทำให้ต้องใช้เงินเติมน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยบาท
ขณะที่เศรษฐกิจก็ไม่ดี รายได้ก็ลดลง จากผลกระทบของการระบาดไวรัสโควิด-19 พืชผลทางการเกษตรก็ตกต่ำ สวนทางกับราคาปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ข้าวของเครื่องใช้อุปโภคบริโภค ก็แพงขึ้นทุกอย่าง ตอนนี้ตนเองก็จำเป็นต้องขายข้าวในยุ้งฉาง เพื่อมาใช้เติมน้ำมันพาพ่อมารักษาตัว จึงอยากให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันให้ถูกลงหน่อย เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนไปมากกว่านี้
เดือดร้อนถ้วนหน้า แม่ค้าอาหารตามสั่งโอด มะนาวแพง ต้นทุนสูงขึ้นกระทบหนัก
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6930496
เดือดร้อนถ้วนหน้า แม่ค้าอาหารตามสั่งโอด มะนาวแพง ต้นทุนพุ่งสูงขึ้น กระทบหนัก อยากให้หน่วยงานเข้ามาดูแลราคา
วันที่ 8 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการปรับราคามะนาวขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน ล่าสุดพบว่ามีการปรับราคาขึ้นกก.ละ 120 บาท และมีแนวโน้มที่จะปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง 60-70% จากปัญหาภัยแล้งและอากาศที่แปรปรวนทำให้มะนาวออกลูกน้อยกว่าปกติ ส่งผลกระทบทำให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก
นาง
บังอร คำพยอม อายุ 53 ปี แม่ค้าอาหารตามสั่ง ในย่านอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ราคามะนาวที่ช่วงนี้แพงมาก ส่งผลกระทบกับต้นทุนการปรุงอาหารอย่างมาก โดยมะนาวที่ซื้อจากตลาดเมื่อเช้านี้ ลูกละ 6 บาท บางลูกซื้อมาบีบแล้วไม่มีน้ำออกมา กำไรก็น้อยอยู่แล้ว มาเจอมะนาวแพงก็ลำบากไปอีก
โดยที่ปริมาณอาหารไม่สามารถลดได้ ซึ่งต้มยำชามหนึ่งต้องใส่มะมาว 1- 2 ลูก บ้างทีเจอมะนาวลูกเล็กจาก 1-2 ลูก ก็ต้องเป็น 3 ลูก ต้นทุนก็สูงกว่าเดิม จึงอยากให้หน่วยงานเข้ามาดูแลราคามะนาว เนื่องจากราคาหน้าสวนกับที่ตลาดมันต่างกันมาก อยากรู้ว่ามันแพงจากตรงไหน
เหตุที่มะนาวแพง ที่สูงถึงลูกละ 6 บาท แถมบางลูกไม่มีน้ำ ส่งผลกระทบต่อแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้มะนาว เป็นส่วนประกอบในการทำอาหาร ทำให้ต้นทุนการประกอบอาหารพุ่งสูงขึ้น แต่ต้องขายในราคาเท่าเดิม ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น ในช่วงหน้าแล้ง เป็นประจำทุกปี
นายก ส.ธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตชี้ ‘รัสเซีย’ งดบิน-แซงก์ชั่น ศก.ทำจังหวัดอ่วม นทท.หายไปกว่า 70%
https://www.matichon.co.th/region/news_3223101
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ตระบุ ‘รัสเซีย’ งดบินบวกกับแซงก์ชั่นเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบท่องเที่ยวภูเก็ต
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นาย
ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตั้งแต่เปิด Phuket Sandbox และเปิด Test&Go เป็นต้นมา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 จนถึงวันนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 3,000 คน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวรัสเซียเฉลี่ย 500-600 คน ขึ้นกับไฟลต์บินจากรัสเซียแต่ละวันเช่นกัน ประเด็นคือ เมื่อสายการบิน Siberia Airlines (S7) และสายการบิน Aeroflot สายการบินแห่งชาติของรัสเซียงดทำการบิน ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา ตอนนี้จาก 100% ในอดีตจะเหลือประมาณ 25-30% โดยต้องบินผ่านทรานซิท (Transit) เมืองใดเมืองหนึ่งของตะวันออกกลาง อาทิ ดูไบ อบูดาบี โดฮา อิสตันบลู ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการเดินทาง
นาย
ภูมิกิตติ์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่มา 100 คน ใน 100% จะมาจากแถบฟาร์อีส ที่อยู่ติดกับเกาหลี กับไซบีเรียที่อยู่ตรงกลางประเทศประมาณ 49-51% ดังนั้น ตรงฟาร์อีสกับไซบีเรียไม่สามารถบินต่อไปยังมิดเดิลอีสต์ หรือไปต่อเครื่องได้ จะต้องอ้อม ดังนั้น นักท่องเที่ยวรัสเซียที่เดินทางเข้ามาภูเก็ตตั้งแต่วันนี้ (9 มี.ค.) เป็นต้นไป ของรัสเซียจาก 100 คนในอดีต จะเหลือไม่เกิน 25-30% อีกทั้งการแซงก์ชั่นทางเศรษฐกิจยิ่งมีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา
“ตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมา ภูเก็ตมีการเติมเต็มจากนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด ซึ่งตั้งแต่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น นักท่องเที่ยวรัสเซียยังเข้ามา แต่เมื่อไม่มีเที่ยวบินเข้ามา ทำให้เขามาไม่ได้ ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะหายไปอย่างน้อย 70% ขณะที่กลุ่มยุโรปกระทบเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อัตราค่าเชื้อเพลิงในการบินทำให้เครื่องบินมีแนวโน้มขึ้นราคาเพิ่มขึ้น
“นักท่องเที่ยวยุโรปที่บินเข้ามาดูเหมือนมีกำลังในการซื้อน้อยลง รวมถึงรัสเซียตัดท่อก๊าซ ทำให้ยุโรปต้องไปหาพลังงานใหม่ จะมีต้นทุนที่สูงขึ้น มองว่าถ้าใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่ยุโรปทำต่อรัสเซีย ยิ่งนานไปสุดท้ายยุโรปจะมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจอีกระดับหนึ่ง เหมือนกับจะส่งผลทำให้การเดินทางการท่องเที่ยวทางไกลน่าจะหดตัวลง ภูเก็ตก็จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน” นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกล่าว
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกล่าวอีกว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการท่องเที่ยวภูเก็ตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่ใช่ภูเก็ตที่เดียว ทั้งประเทศไทยจะมีปัญหานี้เช่นกัน เพียงแต่ภูเก็ตได้รับนักท่องเที่ยวเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย ปัจจุบันได้รับผลกระทบค่อนข้างเยอะ ขณะที่จีนยังไม่มา รัสเซียมีปัญหา ยุโรปน่าจะมีผลกระทบ ส่วนตลาดที่จะมาเป็นการทดแทน ตอนนี้สายการบินไทยสมายล์จะบินจากมุมไบตรงเข้าภูเก็ตในวันที่ 19 มีนาคมเป็นไฟลต์แรก และต่อด้วยนิวเดลีบินเข้าภูเก็ต ดูเหมือนอินเดียจะเป็นตลาดที่จะเข้ามา รวมถึงจะไปทำตลาดที่ออสเตรเลีย เป็นประเทศที่ได้มีเงื่อนไขการเข้าออกประเทศที่ง่ายขึ้น รวมถึงตลาดตะวันออกกลางเพราะช่วงโลว์ซีซั่นของภูเก็ตจะเป็นหน้าร้อนของตะวันออกกลาง ให้เขามาเล่นน้ำฝนกับเรา อีกทั้งซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศเป้าหมายของปีนี้ ขณะที่รัฐบาลพยายามโปรโมตความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย
นาย
ภูมิกิตติ์กล่าวว่า ภูเก็ตยืนได้ด้วยเศรษฐกิจการท่องเที่ยว มีคนต่างชาติกับคนไทย ซึ่งคนไทยยังคงเดินทางเข้ามา อัตราคนไทยเข้ามาวิสัยปกติ แม้ว่าการระบาดจะเพิ่มขึ้นทั้งประเทศ แต่การเดินทางเข้ามาเที่ยวบินในประเทศยังปกติ จะเห็นว่าในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ตจะหนาแน่นทั้งคนไทยและต่างชาติ สำหรับการส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของภูเก็ตได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน EXPO 2028 ที่จะมีการตัดสินในปีหน้า และในระหว่างวันที่ 8-11 มิ.ย.นี้ ภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงานเจรจาการค้าการท่องเที่ยวไทยแลนด์ทราเวลมาร์ทของ ททท. เราพยายามจะทำให้ต่อเนื่องเรื่องเศรษฐกิจกับการท่องเที่ยว
“ความยากคือเศรษฐกิจของเราพึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างเดียว จะกระทบไปทุกส่วน นโยบายที่ประกาศของจังหวัด รวมถึงหลายคนที่จะหาอุตสาหกรรมเสริมในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ดิจิทัล สมุนไพร อาหารการกิน เหล่านี้ล้วนแต่ช่วยให้โครงสร้างเศรษฐกิจภูเก็ตปรับตัวแม้จะเจอปัญหาการท่องเที่ยวในอนาคต
“ปัญหาคือโลกใบนี้ไม่มีเหมือนเดิมตรงที่สถานการณ์ปรับเปลี่ยนเร็วมาก เรามีการวางแผน แต่ต้องปรับไปตามสภาพ อย่างรัสเซียก็ไม่เคยคิดว่าจะมีความขัดแย้งลุกลามมาขนาดนี้ เราพยายามทำความสมดุลเรื่องตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และเฝ้าติดตามเรื่องสภาพเศรษฐกิจทางยุโรปและรัสเซีย ตลาดเอเชียตลาดใกล้บ้านที่น่าสนใจ เช่น เกาหลีใต้ โดยเฉพาะญี่ปุ่นน่าสนใจมาก เพราะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเริ่มพลิกกลับมาฟื้นตัวอย่างช้าๆ แล้ว ขอให้กำลังใจผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกคนว่าต้องสู้กันต่อไป” นาย
ภูมิกิตติ์กล่าว
JJNY : ชาวโคราชโอด ราคาน้ำมันพุ่ง│แม่ค้าตามสั่งโอด มะนาวแพง│ส.ธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตชี้จังหวัดอ่วม│กมธ.ประชุม ไพบูลย์ลา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6930818
ชาวโคราชโอด ราคาน้ำมันพุ่ง เกือบลิตรละ 50 บาท เดือดร้อนหนัก ต้องขายข้าวในยุ้งฉางมาเติมน้ำมัน จี้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหา ประชาชนกระทบมาก
วันที่ 9 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตามปั๊มน้ำมันต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังคงมีประชาชนที่ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ แวะมาเติมน้ำมันไม่ขาดสาย แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาน้ำมันในตลาดโลก
ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาดอนขวาง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน แวะเข้ามาเติมน้ำมันเป็นระยะ แต่ถือว่าเบาบางกว่าทุกวัน เนื่องจากวันนี้ (9 มี.ค.65) ทางปั๊มได้ปรับราคาน้ำมันขึ้นทุกรายการ เช่น น้ำมันดีเซล ลิตรละ 30.25 บาท, แก๊สโซฮอลล์ E20 ลิตรละ 38.55 บาท, แก๊สโซฮอลล์ 91 ลิตรละ 39.39 บาท, แก๊สโซฮอลล์ 95 ลิตรละ 39.66 บาท และน้ำมันเบนซิน ลิตรละ 47.07 บาท
จากการสอบถาม นายประเวช วรรณพันธ์ อายุ 46 ปี ประชาชนที่มาเติมน้ำมัน กล่าวว่า ตอนนี้ตนเองได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จากราคาน้ำมันที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะตนเองต้องใช้รถยนต์เพื่อเดินทางจาก อ.ห้วยแถลง มาส่งพ่อไปฟอกไตที่โรงพยาบาลในตัวเมืองนครราชสีมา สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
ปกติรถของตนต้องเติมน้ำมันเบนซิน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1,000 บาท แต่ตอนนี้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นไม่หยุด ทำให้ต้องใช้เงินเติมน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยบาท
ขณะที่เศรษฐกิจก็ไม่ดี รายได้ก็ลดลง จากผลกระทบของการระบาดไวรัสโควิด-19 พืชผลทางการเกษตรก็ตกต่ำ สวนทางกับราคาปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ข้าวของเครื่องใช้อุปโภคบริโภค ก็แพงขึ้นทุกอย่าง ตอนนี้ตนเองก็จำเป็นต้องขายข้าวในยุ้งฉาง เพื่อมาใช้เติมน้ำมันพาพ่อมารักษาตัว จึงอยากให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันให้ถูกลงหน่อย เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนไปมากกว่านี้
เดือดร้อนถ้วนหน้า แม่ค้าอาหารตามสั่งโอด มะนาวแพง ต้นทุนสูงขึ้นกระทบหนัก
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6930496
เดือดร้อนถ้วนหน้า แม่ค้าอาหารตามสั่งโอด มะนาวแพง ต้นทุนพุ่งสูงขึ้น กระทบหนัก อยากให้หน่วยงานเข้ามาดูแลราคา
วันที่ 8 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการปรับราคามะนาวขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน ล่าสุดพบว่ามีการปรับราคาขึ้นกก.ละ 120 บาท และมีแนวโน้มที่จะปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง 60-70% จากปัญหาภัยแล้งและอากาศที่แปรปรวนทำให้มะนาวออกลูกน้อยกว่าปกติ ส่งผลกระทบทำให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก
นางบังอร คำพยอม อายุ 53 ปี แม่ค้าอาหารตามสั่ง ในย่านอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ราคามะนาวที่ช่วงนี้แพงมาก ส่งผลกระทบกับต้นทุนการปรุงอาหารอย่างมาก โดยมะนาวที่ซื้อจากตลาดเมื่อเช้านี้ ลูกละ 6 บาท บางลูกซื้อมาบีบแล้วไม่มีน้ำออกมา กำไรก็น้อยอยู่แล้ว มาเจอมะนาวแพงก็ลำบากไปอีก
โดยที่ปริมาณอาหารไม่สามารถลดได้ ซึ่งต้มยำชามหนึ่งต้องใส่มะมาว 1- 2 ลูก บ้างทีเจอมะนาวลูกเล็กจาก 1-2 ลูก ก็ต้องเป็น 3 ลูก ต้นทุนก็สูงกว่าเดิม จึงอยากให้หน่วยงานเข้ามาดูแลราคามะนาว เนื่องจากราคาหน้าสวนกับที่ตลาดมันต่างกันมาก อยากรู้ว่ามันแพงจากตรงไหน
เหตุที่มะนาวแพง ที่สูงถึงลูกละ 6 บาท แถมบางลูกไม่มีน้ำ ส่งผลกระทบต่อแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้มะนาว เป็นส่วนประกอบในการทำอาหาร ทำให้ต้นทุนการประกอบอาหารพุ่งสูงขึ้น แต่ต้องขายในราคาเท่าเดิม ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น ในช่วงหน้าแล้ง เป็นประจำทุกปี
นายก ส.ธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตชี้ ‘รัสเซีย’ งดบิน-แซงก์ชั่น ศก.ทำจังหวัดอ่วม นทท.หายไปกว่า 70%
https://www.matichon.co.th/region/news_3223101
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ตระบุ ‘รัสเซีย’ งดบินบวกกับแซงก์ชั่นเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบท่องเที่ยวภูเก็ต
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตั้งแต่เปิด Phuket Sandbox และเปิด Test&Go เป็นต้นมา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 จนถึงวันนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 3,000 คน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวรัสเซียเฉลี่ย 500-600 คน ขึ้นกับไฟลต์บินจากรัสเซียแต่ละวันเช่นกัน ประเด็นคือ เมื่อสายการบิน Siberia Airlines (S7) และสายการบิน Aeroflot สายการบินแห่งชาติของรัสเซียงดทำการบิน ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา ตอนนี้จาก 100% ในอดีตจะเหลือประมาณ 25-30% โดยต้องบินผ่านทรานซิท (Transit) เมืองใดเมืองหนึ่งของตะวันออกกลาง อาทิ ดูไบ อบูดาบี โดฮา อิสตันบลู ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการเดินทาง
นายภูมิกิตติ์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่มา 100 คน ใน 100% จะมาจากแถบฟาร์อีส ที่อยู่ติดกับเกาหลี กับไซบีเรียที่อยู่ตรงกลางประเทศประมาณ 49-51% ดังนั้น ตรงฟาร์อีสกับไซบีเรียไม่สามารถบินต่อไปยังมิดเดิลอีสต์ หรือไปต่อเครื่องได้ จะต้องอ้อม ดังนั้น นักท่องเที่ยวรัสเซียที่เดินทางเข้ามาภูเก็ตตั้งแต่วันนี้ (9 มี.ค.) เป็นต้นไป ของรัสเซียจาก 100 คนในอดีต จะเหลือไม่เกิน 25-30% อีกทั้งการแซงก์ชั่นทางเศรษฐกิจยิ่งมีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา
“ตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมา ภูเก็ตมีการเติมเต็มจากนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด ซึ่งตั้งแต่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น นักท่องเที่ยวรัสเซียยังเข้ามา แต่เมื่อไม่มีเที่ยวบินเข้ามา ทำให้เขามาไม่ได้ ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะหายไปอย่างน้อย 70% ขณะที่กลุ่มยุโรปกระทบเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อัตราค่าเชื้อเพลิงในการบินทำให้เครื่องบินมีแนวโน้มขึ้นราคาเพิ่มขึ้น
“นักท่องเที่ยวยุโรปที่บินเข้ามาดูเหมือนมีกำลังในการซื้อน้อยลง รวมถึงรัสเซียตัดท่อก๊าซ ทำให้ยุโรปต้องไปหาพลังงานใหม่ จะมีต้นทุนที่สูงขึ้น มองว่าถ้าใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่ยุโรปทำต่อรัสเซีย ยิ่งนานไปสุดท้ายยุโรปจะมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจอีกระดับหนึ่ง เหมือนกับจะส่งผลทำให้การเดินทางการท่องเที่ยวทางไกลน่าจะหดตัวลง ภูเก็ตก็จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน” นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกล่าว
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกล่าวอีกว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการท่องเที่ยวภูเก็ตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่ใช่ภูเก็ตที่เดียว ทั้งประเทศไทยจะมีปัญหานี้เช่นกัน เพียงแต่ภูเก็ตได้รับนักท่องเที่ยวเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย ปัจจุบันได้รับผลกระทบค่อนข้างเยอะ ขณะที่จีนยังไม่มา รัสเซียมีปัญหา ยุโรปน่าจะมีผลกระทบ ส่วนตลาดที่จะมาเป็นการทดแทน ตอนนี้สายการบินไทยสมายล์จะบินจากมุมไบตรงเข้าภูเก็ตในวันที่ 19 มีนาคมเป็นไฟลต์แรก และต่อด้วยนิวเดลีบินเข้าภูเก็ต ดูเหมือนอินเดียจะเป็นตลาดที่จะเข้ามา รวมถึงจะไปทำตลาดที่ออสเตรเลีย เป็นประเทศที่ได้มีเงื่อนไขการเข้าออกประเทศที่ง่ายขึ้น รวมถึงตลาดตะวันออกกลางเพราะช่วงโลว์ซีซั่นของภูเก็ตจะเป็นหน้าร้อนของตะวันออกกลาง ให้เขามาเล่นน้ำฝนกับเรา อีกทั้งซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศเป้าหมายของปีนี้ ขณะที่รัฐบาลพยายามโปรโมตความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย
นายภูมิกิตติ์กล่าวว่า ภูเก็ตยืนได้ด้วยเศรษฐกิจการท่องเที่ยว มีคนต่างชาติกับคนไทย ซึ่งคนไทยยังคงเดินทางเข้ามา อัตราคนไทยเข้ามาวิสัยปกติ แม้ว่าการระบาดจะเพิ่มขึ้นทั้งประเทศ แต่การเดินทางเข้ามาเที่ยวบินในประเทศยังปกติ จะเห็นว่าในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ตจะหนาแน่นทั้งคนไทยและต่างชาติ สำหรับการส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของภูเก็ตได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน EXPO 2028 ที่จะมีการตัดสินในปีหน้า และในระหว่างวันที่ 8-11 มิ.ย.นี้ ภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงานเจรจาการค้าการท่องเที่ยวไทยแลนด์ทราเวลมาร์ทของ ททท. เราพยายามจะทำให้ต่อเนื่องเรื่องเศรษฐกิจกับการท่องเที่ยว
“ความยากคือเศรษฐกิจของเราพึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างเดียว จะกระทบไปทุกส่วน นโยบายที่ประกาศของจังหวัด รวมถึงหลายคนที่จะหาอุตสาหกรรมเสริมในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ดิจิทัล สมุนไพร อาหารการกิน เหล่านี้ล้วนแต่ช่วยให้โครงสร้างเศรษฐกิจภูเก็ตปรับตัวแม้จะเจอปัญหาการท่องเที่ยวในอนาคต
“ปัญหาคือโลกใบนี้ไม่มีเหมือนเดิมตรงที่สถานการณ์ปรับเปลี่ยนเร็วมาก เรามีการวางแผน แต่ต้องปรับไปตามสภาพ อย่างรัสเซียก็ไม่เคยคิดว่าจะมีความขัดแย้งลุกลามมาขนาดนี้ เราพยายามทำความสมดุลเรื่องตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และเฝ้าติดตามเรื่องสภาพเศรษฐกิจทางยุโรปและรัสเซีย ตลาดเอเชียตลาดใกล้บ้านที่น่าสนใจ เช่น เกาหลีใต้ โดยเฉพาะญี่ปุ่นน่าสนใจมาก เพราะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเริ่มพลิกกลับมาฟื้นตัวอย่างช้าๆ แล้ว ขอให้กำลังใจผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกคนว่าต้องสู้กันต่อไป” นายภูมิกิตติ์กล่าว