สวัสดีครับในหัวข้อนี้ผมจะมาขอแบ่งปันเรื่องราวของผมครับ สำหรับการเยียวยาจิตใจหลังเลิกกันกับแฟนที่รักมากมาได้ 2 เดือนแล้วครับ เข้าเรื่องเลยแล้วกันครับ สาเหตุของการเลิกรากันผมไม่จะไม่ขอพูดถึงแล้วนะครับ สามารถ
ดูได้จากกระทู้ก่อนหน้าก็ได้ ผมว่าในการเลิกกันไม่มีใครถูกและใครผิดหรอกครับ มันอยู่ที่ความไม่เข้าใจกันมากกว่า ความคิดไม่ตรงกัน เหตุผลไม่ตรงกัน อะไรพวกนี้เป็นต้นครับ
ผมรู้สึกเสียใจมากที่สุดที่ต้องมาเลิกกับแฟนที่คบกันมาในระยะเวลา 3 ปี มันทั้งรักและผูกพันมาก เราอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตด้วยกัน สุขด้วยกัน ทุกข์ด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน กว่าจะปรับจูนเข้าหากันได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยครับ แต่เราก็ผ่านกันมาแล้ว สุดท้ายสิ่งที่บอกมาข้างต้นนั้น มันก็หายไปหมดเหลือเพียงตัวเราคนเดียวครับ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมานั้น มันหายไปหมดในพริบตาเพียงชั่วข้ามคืนครับ เพราะว่าเราเลิกกันครับ
หลังจากที่เลิกกัน ผมเสียใจเป็นอย่างมากครับ รู้สึกเศร้าใจ ท้อใจ หดหู่ ไม่อยากทำอะไรเลย นั่งนิ่งเศร้าๆ แล้วก็ร้องไห้ออกมาเกือบทุกวันครับ พร้อมทั้งได้แต่โทษตัวเองว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันเป็นเพราะตัวเราเอง ตอนเรามีโอกาสเราไม่ทำ กว่าจะมาคิดได้เราก็เสียสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเราไปแล้ว มันสายไปแล้วและมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ผมไม่น่าทำอะไรแบบนี้เลย ถ้าไม่ทำการเลิกราของเราคงไม่เกิดขึ้น ตอนนี้ผมมองเห็นปัญหาและสาเหตุทุกอย่างหมดแล้ว ผมก็ต้องเก็บไว้เป็นบทเรียนรักครั้งหน้าจะไม่ให้มันพังแบบนี้อีก การเลิกกันของเราผมว่ามันไม่มีใครผิดใครถูกเลย เป็นเพราะเรานั่น ความคิดไม่ตรงกัน ความเข้าใจไม่ตรงกัน เหตุผลในการเข้าใจของคนรักมันมีไม่มากพอครับ มันเลยต้องจบลงแบบนี้
ผมร้องไห้ฟูมฟาย ซึมเศร้าอยู่เกือบ 1 เดือนครับ โทรไปหาเธอก็แล้ว โทรไปคุยกับเธอก็แล้ว ว่าอยากกลับไป อยากกลับไปแก้ไขสิ่งที่ทำพลาดมา อยากพัฒนาความสัมพันธ์เราดีไปได้ไกล มีอนาคตครับ คำตอบที่ได้คือ เธอก็ไม่อยากกลับมาคบกับผมอีกแล้ว ผมก็พยายามคุยนะครับ แต่ไม่เป็นผลเลย มันสายเกินไปแล้วละ
ผมตั้งสติใหม่วิคราะห์ถึงสาเหตุและปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น จึงสรุปได้ว่า เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น มันมาจากทั้งตัวเราเองและตัวเขาเองครับ มันไม่มีใครผิด ใครถูกหรอกครับ มันไม่เข้าใจกันหลายๆอย่างมากกว่า มันไม่พอดีกันอะครับ
ดังนั้น ผมจึงมาคิดวิธีเยียวยาดูแลรักษาใจตัวเองดีกว่า เพราะเราก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งผมกลับมาเยียวยาตัวเองด้วยดังนี้
1. ผมหันมารักตัวเองโดยการใส่ใจสุขภาพผมครับ ผมเข้ายิมออกกำลังกาย 6 วันต่อสัปดาห์ เล่นเวทเทรนนิ่งก่อน 1 ชั่วโมง และไปคาดิโออีก 40-50 นาทีครับ เป็นแบบนี้ 6 วัน ผลที่ได้คือ ข้อ A.ผมได้อยู่กับตัวเองพัฒนาในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน รู้สึกจิตใจผมดีขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับครับ ข้อ B.สุขภาพดีขึ้น น้ำหนักตัวผมลดลงจาก 77 เหลือ 76 ในระยะเวลา 1 เดือนครับ ไขมันลดลง มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ใส่เสื้อผ้ากางเกงได้เยอะขึ้นครับ โดยรวมแล้วขั้นแรกถือว่า ร่างกายและสุขภาพผมดีขึ้นมากครับ ตอนนี้ผมก็ยังคงออกกำลังกายแบบนี้ไปอยู่เป็นประจำครับ
2. ผมสวดมนต์ก่อนนนอน และขอโอโหสิกรรมต่างๆ และนั่งสมาธิก่อนนอน พร้อมทั้งสุดท้ายผมจะอวยพรให้แฟนเก่าของผมโชคดีมีความสุขเสมอ ผมจะรักเธออยู่ในที่ของผมตรงนี้ครับ ผมรักเธอได้เท่านี้จริงๆ ผลจากข้อที่ 2 คือทำให้ผมมีจิตใจดีขึ้นครับ นอนหลับไม่ร้อนรนกระวนกระวายใจคิดถึงแต่เธอครับ ไม่ร้องไห้ จิตใตเข้มแข็งและนิ่งขึ้นเยอะ ถามว่าตอนนี้ยังคิดถึงแฟนเก่าผมไหม ตอบเลย ผมคิดถึงทุกวันครับ แต่ไม่ร้องไห้ ไม่ร้อนรนอยากจะไปหา โทรไปหา แล้วครับ คิดถึงได้ลืมไม่ได้ ก็ได้แต่อวยพร ขอผลบุญกุศลจากการสวดมนต์ นั่งสมาธิ ส่งผลให้เธอมีแต่ความสุขครับ ผมคิดแบบนี้นะ แล้วมันก็ทำให้จิตใจเราดีขึ้นครับ
3. ผมออกไปเที่ยว ออกไปขี่รถมอเตอร์ไซด์เที่ยว แคมป์ปิ้ง กางเต้นท์ ทำในสิ่งที่ตอนเรามีแฟนเราไม่เคยได้ทำครับ ออกไปใช้ชีวิตของตัวเอง อยากไปไหนก็หาที่เที่ยวเอง จองตั๋วเครื่องบินเอง ซื้อแพ๊กเกตเอง ของที่พักเอง ทำเองหมดทุกอย่าง (เมื่อก่อนแฟนทำให้ไง เราจ่ายเงินอย่างเดียว 55+) ตอนนี้ผม Plan เที่ยวกับเพื่อนและคนเดียวแถบเกือบๆทุกๆเดือนครับ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวกางเต้นท์ครับ เพราะไม่เน้นหรู ตอนไปกับแฟนก็หรูๆดีๆเยอะ เลยตอนนี้ขอแบบธรรมดา ธรรมชาติบ้างครับ
4. ผมควบคุมอาหารอย่างจริงจังไม่ถึงกับคลีนนะครับ งดของทอด ของหวาน ขนมหวานของจุกจิกอะไรพวกนี้ลดหมดครับ ของมัน หันมาทำอาหารกินเอง ซื้อวัตถุดิบที่ตลาดไว้ แล้วก็ทำแบ่งกินได้หลายวันครับ ไม่คลีน 100% แต่ก็งดพวก เรื่องทอด หวาน มัน ไปได้เยอะครับ และสิ่งที่ได้ผมทำอาหารกินเองได้เยอะขึ้น เก่งขึ้นครับ และก็ประหยัดเงินค่ากินผมได้เยอะมากครับ แต่เหนื่อยตอนล้างจานหน่อย 55+ อีกข้อก็คือ สุขภาพดีขึ้นเหมือนที่กล่าวมาแล้วในข้อที่ 1 ครับ
5. ผมอยากได้อะไรผมก็ซื้อเลยโดยไม่ต้องถาม และไม่ต้องคอยเอาเงินมาใช้จ่ายกับแฟนอีกแล้วครับ เพราะผมตัวคนเดียว ผมซื้อความสุขตัวเองเต็มที่ครับ ผลที่ได้คือได้สิ่งของที่เราอยากได้ครับ และเก็บเงินได้ครับ
สรุปได้ว่าการเยียวยาของผม คือ อยู่กับตัวเองทำในสิ่งที่เรายังเหลืออยู่ครับ ทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ ทำในสิ่งที่เราอยากจะพัฒนาเพื่อตัวเราเองจะได้เติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นครับ เราเลิกกับเขาแล้วเรามองตัวเองอย่างไร จะเป็นขยะที่เขาทิ้ง หรือ ทำตัวเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีครับ เราเลือกได้ครับว่าเราต้องการให้มันเป็นแบบไหน สิ่งไม่ดีเราเก็บไว้เป็นบทเรียนเพื่อนำมาพัฒนาตัวเราให้ดีขึ้นครับ อะไรที่ทำพลาดไปอย่าไปทำให้มันเกิดขึ้นอีกครับ
เราทุกคนสามารถพัฒนาตัวเองให้เราดีขึ้นและเติบโตขึ้นได้ครับ ขึ้นอยู่กับตัวเราเลือกเอง การเลิกราไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิติครับ ยังมีอะไรอีกมากในโลกใบนี้ที่รอให้เราไปทำอยู่พร้อมกับพัฒนาตัวเองต่อไป อะไรดีก็รักษามันไว้ อะไรไม่ดีเราพัฒนาให้มันดีได้ครับ
สำหรับตัวผมเองตอนนี้ผ่านมา 2 เดือนแล้ว ถามผมว่า ผมลืมเธอได้ไหม ผมตอบเลยไม่ได้ครับ ผมรักแฟนผมมาก แต่มันทำอะไรไม่ได้แล้ว สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้คือ พัฒนาตัวเองต่อไปครับให้เป็นคนที่ดีมากขึ้น อะไรไม่ดีก็แก้ไปมันเพื่อให้เราเติบโตขึ้นครับ แฟนเก่าลืมไม่ได้ไม่เป็นไร ผมก็ได้แต่แค่บอกว่า เราจะรักเธออยู่ตรงนี้อยู่ในที่ของเรา และเราก็จะคอยอวยพรให้เธอพบเจอแต่สิ่งที่ดีๆมีความสุขนะ ผมรักเธอเสมอครับ
สุดท้ายใครที่กำลังอกหักอยู่ เลิกกับแฟน ผมขอเอาใจช่วยให้ทุกคนผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้นะครับ เยียวยาจิตใจตัวเอง หาอะไรทำพัฒนาตัวเองครับ สุดท้ายผมอยากให้ทุกคนเป็นเมล็กพันธุ์นะครับ เติบโตแข็งแกร่งในทางที่ดีขึ้นนะครับ ขอให้ทุกคนโชคดีและผ่านมันไปให้ได้ครับ
รีวิวการเหยียวยาใจตัวเองหลังเลิกรากับแฟนมาได้ 2 เดือน
ดูได้จากกระทู้ก่อนหน้าก็ได้ ผมว่าในการเลิกกันไม่มีใครถูกและใครผิดหรอกครับ มันอยู่ที่ความไม่เข้าใจกันมากกว่า ความคิดไม่ตรงกัน เหตุผลไม่ตรงกัน อะไรพวกนี้เป็นต้นครับ
ผมรู้สึกเสียใจมากที่สุดที่ต้องมาเลิกกับแฟนที่คบกันมาในระยะเวลา 3 ปี มันทั้งรักและผูกพันมาก เราอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตด้วยกัน สุขด้วยกัน ทุกข์ด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน กว่าจะปรับจูนเข้าหากันได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยครับ แต่เราก็ผ่านกันมาแล้ว สุดท้ายสิ่งที่บอกมาข้างต้นนั้น มันก็หายไปหมดเหลือเพียงตัวเราคนเดียวครับ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมานั้น มันหายไปหมดในพริบตาเพียงชั่วข้ามคืนครับ เพราะว่าเราเลิกกันครับ
หลังจากที่เลิกกัน ผมเสียใจเป็นอย่างมากครับ รู้สึกเศร้าใจ ท้อใจ หดหู่ ไม่อยากทำอะไรเลย นั่งนิ่งเศร้าๆ แล้วก็ร้องไห้ออกมาเกือบทุกวันครับ พร้อมทั้งได้แต่โทษตัวเองว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันเป็นเพราะตัวเราเอง ตอนเรามีโอกาสเราไม่ทำ กว่าจะมาคิดได้เราก็เสียสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเราไปแล้ว มันสายไปแล้วและมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ผมไม่น่าทำอะไรแบบนี้เลย ถ้าไม่ทำการเลิกราของเราคงไม่เกิดขึ้น ตอนนี้ผมมองเห็นปัญหาและสาเหตุทุกอย่างหมดแล้ว ผมก็ต้องเก็บไว้เป็นบทเรียนรักครั้งหน้าจะไม่ให้มันพังแบบนี้อีก การเลิกกันของเราผมว่ามันไม่มีใครผิดใครถูกเลย เป็นเพราะเรานั่น ความคิดไม่ตรงกัน ความเข้าใจไม่ตรงกัน เหตุผลในการเข้าใจของคนรักมันมีไม่มากพอครับ มันเลยต้องจบลงแบบนี้
ผมร้องไห้ฟูมฟาย ซึมเศร้าอยู่เกือบ 1 เดือนครับ โทรไปหาเธอก็แล้ว โทรไปคุยกับเธอก็แล้ว ว่าอยากกลับไป อยากกลับไปแก้ไขสิ่งที่ทำพลาดมา อยากพัฒนาความสัมพันธ์เราดีไปได้ไกล มีอนาคตครับ คำตอบที่ได้คือ เธอก็ไม่อยากกลับมาคบกับผมอีกแล้ว ผมก็พยายามคุยนะครับ แต่ไม่เป็นผลเลย มันสายเกินไปแล้วละ
ผมตั้งสติใหม่วิคราะห์ถึงสาเหตุและปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น จึงสรุปได้ว่า เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น มันมาจากทั้งตัวเราเองและตัวเขาเองครับ มันไม่มีใครผิด ใครถูกหรอกครับ มันไม่เข้าใจกันหลายๆอย่างมากกว่า มันไม่พอดีกันอะครับ
ดังนั้น ผมจึงมาคิดวิธีเยียวยาดูแลรักษาใจตัวเองดีกว่า เพราะเราก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งผมกลับมาเยียวยาตัวเองด้วยดังนี้
1. ผมหันมารักตัวเองโดยการใส่ใจสุขภาพผมครับ ผมเข้ายิมออกกำลังกาย 6 วันต่อสัปดาห์ เล่นเวทเทรนนิ่งก่อน 1 ชั่วโมง และไปคาดิโออีก 40-50 นาทีครับ เป็นแบบนี้ 6 วัน ผลที่ได้คือ ข้อ A.ผมได้อยู่กับตัวเองพัฒนาในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน รู้สึกจิตใจผมดีขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับครับ ข้อ B.สุขภาพดีขึ้น น้ำหนักตัวผมลดลงจาก 77 เหลือ 76 ในระยะเวลา 1 เดือนครับ ไขมันลดลง มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ใส่เสื้อผ้ากางเกงได้เยอะขึ้นครับ โดยรวมแล้วขั้นแรกถือว่า ร่างกายและสุขภาพผมดีขึ้นมากครับ ตอนนี้ผมก็ยังคงออกกำลังกายแบบนี้ไปอยู่เป็นประจำครับ
2. ผมสวดมนต์ก่อนนนอน และขอโอโหสิกรรมต่างๆ และนั่งสมาธิก่อนนอน พร้อมทั้งสุดท้ายผมจะอวยพรให้แฟนเก่าของผมโชคดีมีความสุขเสมอ ผมจะรักเธออยู่ในที่ของผมตรงนี้ครับ ผมรักเธอได้เท่านี้จริงๆ ผลจากข้อที่ 2 คือทำให้ผมมีจิตใจดีขึ้นครับ นอนหลับไม่ร้อนรนกระวนกระวายใจคิดถึงแต่เธอครับ ไม่ร้องไห้ จิตใตเข้มแข็งและนิ่งขึ้นเยอะ ถามว่าตอนนี้ยังคิดถึงแฟนเก่าผมไหม ตอบเลย ผมคิดถึงทุกวันครับ แต่ไม่ร้องไห้ ไม่ร้อนรนอยากจะไปหา โทรไปหา แล้วครับ คิดถึงได้ลืมไม่ได้ ก็ได้แต่อวยพร ขอผลบุญกุศลจากการสวดมนต์ นั่งสมาธิ ส่งผลให้เธอมีแต่ความสุขครับ ผมคิดแบบนี้นะ แล้วมันก็ทำให้จิตใจเราดีขึ้นครับ
3. ผมออกไปเที่ยว ออกไปขี่รถมอเตอร์ไซด์เที่ยว แคมป์ปิ้ง กางเต้นท์ ทำในสิ่งที่ตอนเรามีแฟนเราไม่เคยได้ทำครับ ออกไปใช้ชีวิตของตัวเอง อยากไปไหนก็หาที่เที่ยวเอง จองตั๋วเครื่องบินเอง ซื้อแพ๊กเกตเอง ของที่พักเอง ทำเองหมดทุกอย่าง (เมื่อก่อนแฟนทำให้ไง เราจ่ายเงินอย่างเดียว 55+) ตอนนี้ผม Plan เที่ยวกับเพื่อนและคนเดียวแถบเกือบๆทุกๆเดือนครับ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวกางเต้นท์ครับ เพราะไม่เน้นหรู ตอนไปกับแฟนก็หรูๆดีๆเยอะ เลยตอนนี้ขอแบบธรรมดา ธรรมชาติบ้างครับ
4. ผมควบคุมอาหารอย่างจริงจังไม่ถึงกับคลีนนะครับ งดของทอด ของหวาน ขนมหวานของจุกจิกอะไรพวกนี้ลดหมดครับ ของมัน หันมาทำอาหารกินเอง ซื้อวัตถุดิบที่ตลาดไว้ แล้วก็ทำแบ่งกินได้หลายวันครับ ไม่คลีน 100% แต่ก็งดพวก เรื่องทอด หวาน มัน ไปได้เยอะครับ และสิ่งที่ได้ผมทำอาหารกินเองได้เยอะขึ้น เก่งขึ้นครับ และก็ประหยัดเงินค่ากินผมได้เยอะมากครับ แต่เหนื่อยตอนล้างจานหน่อย 55+ อีกข้อก็คือ สุขภาพดีขึ้นเหมือนที่กล่าวมาแล้วในข้อที่ 1 ครับ
5. ผมอยากได้อะไรผมก็ซื้อเลยโดยไม่ต้องถาม และไม่ต้องคอยเอาเงินมาใช้จ่ายกับแฟนอีกแล้วครับ เพราะผมตัวคนเดียว ผมซื้อความสุขตัวเองเต็มที่ครับ ผลที่ได้คือได้สิ่งของที่เราอยากได้ครับ และเก็บเงินได้ครับ
สรุปได้ว่าการเยียวยาของผม คือ อยู่กับตัวเองทำในสิ่งที่เรายังเหลืออยู่ครับ ทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ ทำในสิ่งที่เราอยากจะพัฒนาเพื่อตัวเราเองจะได้เติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นครับ เราเลิกกับเขาแล้วเรามองตัวเองอย่างไร จะเป็นขยะที่เขาทิ้ง หรือ ทำตัวเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีครับ เราเลือกได้ครับว่าเราต้องการให้มันเป็นแบบไหน สิ่งไม่ดีเราเก็บไว้เป็นบทเรียนเพื่อนำมาพัฒนาตัวเราให้ดีขึ้นครับ อะไรที่ทำพลาดไปอย่าไปทำให้มันเกิดขึ้นอีกครับ
เราทุกคนสามารถพัฒนาตัวเองให้เราดีขึ้นและเติบโตขึ้นได้ครับ ขึ้นอยู่กับตัวเราเลือกเอง การเลิกราไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิติครับ ยังมีอะไรอีกมากในโลกใบนี้ที่รอให้เราไปทำอยู่พร้อมกับพัฒนาตัวเองต่อไป อะไรดีก็รักษามันไว้ อะไรไม่ดีเราพัฒนาให้มันดีได้ครับ
สำหรับตัวผมเองตอนนี้ผ่านมา 2 เดือนแล้ว ถามผมว่า ผมลืมเธอได้ไหม ผมตอบเลยไม่ได้ครับ ผมรักแฟนผมมาก แต่มันทำอะไรไม่ได้แล้ว สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้คือ พัฒนาตัวเองต่อไปครับให้เป็นคนที่ดีมากขึ้น อะไรไม่ดีก็แก้ไปมันเพื่อให้เราเติบโตขึ้นครับ แฟนเก่าลืมไม่ได้ไม่เป็นไร ผมก็ได้แต่แค่บอกว่า เราจะรักเธออยู่ตรงนี้อยู่ในที่ของเรา และเราก็จะคอยอวยพรให้เธอพบเจอแต่สิ่งที่ดีๆมีความสุขนะ ผมรักเธอเสมอครับ
สุดท้ายใครที่กำลังอกหักอยู่ เลิกกับแฟน ผมขอเอาใจช่วยให้ทุกคนผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้นะครับ เยียวยาจิตใจตัวเอง หาอะไรทำพัฒนาตัวเองครับ สุดท้ายผมอยากให้ทุกคนเป็นเมล็กพันธุ์นะครับ เติบโตแข็งแกร่งในทางที่ดีขึ้นนะครับ ขอให้ทุกคนโชคดีและผ่านมันไปให้ได้ครับ