เรากับแฟนคบกันมา 2 ปี
เราสองคนไม่เคยห่างกันเลย ใช้ชีวิตด้วยกัน
ฮีลกัน หัวเราะร้องไห้ด้วยกัน จับมือกันผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน ปีแรกมันเป็นอะไรที่วิเศษมาก
แต่พอก้าวเข้าปีที่สอง อะไรก็เปลี่ยนไป เราไม่ค่อยมีเวลาให้กัน แฟนเราเป็นบาริสต้าครับและเขารักสายอาชีพของเขามาก เขาทุ่มเทกับงานเขา ซึ่งเราเองก็พยายามซัพพอร์ตเขา เราถึงกับเป็นคนพูดว่า "ไม่ต้องทุ่มเทกับเราก็ได้ไม่เป็นไร พยายามเข้านะคนดี เราเป็นกำลังใจให้เธอ" ตอนที่พูดก็ไม่คิดว่ามันจะลงเอยแบบนี้ . . แฟนเราไปทำงานก่อนใคร และกลับหลังคนอื่นเสมอ(08.30-20.30บางทีก็ดึกกว่านั้น) วันหยุดบางครั้งก็ยังไปช่วยที่ทำงาน ใจของเราคือแบบ เธอ
โคตรเก่ง เราภูมิใจในตัวเขาแบบที่เราเองก็ไม่สามารถภูมิใจในตัวเองได้(เราก็เป็นบาริสเหมือนกัน) . . แต่อีกใจนึงเราก็คิดถึง เขากลับมามีเวลาแค่นั่งกินข้าวด้วยกัน แต่เขาก็ยังวนเวียนกับที่ทำงานในไลน์(เหมือนงานไม่จบ555) บางทีก็นั่งกินกันเงียบๆ ทั้งที่เมื่อก่อนตอนกินข้าวกัน เราทั้งคู่ต่างคนต่างไม่จับโทรศัพท์ด้วยซ้ำ :') เราเองก็ไม่หนักแน่น เรางี่เง่า น้อยใจเขาบ่อย บางทีก็รู้ว่าเขาเหนื่อยกับงานแล้ว ก็รู้สึกผิดที่จะต้องมาเหนื่อยกับเราอีก จนในที่สุด เราบอกเขาว่า เราลองแยกกันมั้ย อาจจะเป็นเพราะเราไม่เคยห่างกัน เราเลยไม่มีเวลาคิดถึงกันเท่าไหร่ ถ้าลองแยกกันดูอาจจะดีขึ้น ทีแรกเขาก็ไม่หรอก แต่เป็นเพราะเราเอง เราคะยั้นคะยอจนเขายอม แต่เขาก็ยังย้ำว่า เราไม่ได้เลิกกันนะ เราห่างกันเพื่อนให้เรากลับมารักกัน แต่เอาจริงๆใจเรา มันอ่อนไหวมากเลยตอนนั้น เราช่วยเขาจัดแจงย้ายของเข้าห้องจนเสร็จ ทำธุระนู่นนี่ให้ ช่วยเตรียมตัวเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ (เพราะเขาย้ายออกจากบ้านเรา แปลว่าเขาจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอีก เราไม่อยากให้เขาลำบาก) แต่ก็นั่นแหละ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป :') งานยังคงมาที่1 ซึ่งเราไม่มีปัญหา ปัญหาคือ.. ทำไมเรายังไม่คิดถึงกัน เราใช้เวลาถามตัวเองบ่อยมาก ' หรือจะเป็นที่เราวะ เราไปทำอะไรให้เขาเปลี่ยนไปรึเปล่า ' 'หรือเขามีคนอื่นวะ ทำไมเขาไม่สนใจเลย' คิดไปเรื่อย ดูงี่เง่าใช่มั้ยครับ เราก็ว่าเรางี่เง่าแหละ จนเราบอกเลิกเขา เพราะอารมณ์ของตัวเองล้วนๆเลยครับผสมกับความน้อยใจที่อัดอั้นมานาน พอเลิกกันก็เลิกไม่ขาด เราห่วงเขา ห่วงมาก ทางมันเปลี่ยวจะกลับดึกมั้ย ซักผ้ารึยัง กินข้าวรึยัง เป็นผู้หญิงอยู่ห้องคนเดียวมันอันตราย เราเลยยังติดต่อกับเขาอยู่ แต่ก็ในสถานะที่มันครึ่งๆกลางๆ เราบอกเขาว่า เราจะรอเขา จะรอจนกว่าใจเขาจะกลับมาเริ่มรักเราได้บ้าง เขาก็ถามว่าจะไหวหรอ ดูทรมานนะ (ทั้งที่เราบอกเลิกเขาเอง ใช่ครับ เรามันงี่เง่า) แล้วก็วนลูป เขาทำงาน เราน้อยใจ แต่คราวนี้เรารู้สึกว่า อืม มันก็ทรมานจริงๆนั่นแหละ และในที่สุด. . ใช่ครับ เราบอกเขาว่าครั้งนี้เราจะไปจริงๆ เพราะหลังจากที่ผ่านมาหลายอาทิตย์ เขาก็อยู่ได้ เขาโอเค เขาดูแลตัวเองได้ดี เราอาจจะ over protecting ไปเอง เราเลยขอไปเอง ก่อนจะหายไปเราไปหาเขาที่คอนโด ก็ต่างคนต่างร้องไห้ มันพังกันทั้งคู่ เราโทษตัวเองเสมอ เราไม่หนักแน่นเอง เราทำให้ทุกอย่างพังแบบนี้เอง เขาเองก็หนัก ถึงเขาจะไม่แสดงออกมาเราก็พอจะรู้จักนัยตาเขา นั่นมันยิ่งทำให้เราต้องถอย ไม่มีเราสักคน เราคิดว่าเขาจะสบายใจมากขึ้น โฟกัสของเขาจะไปที่งานและความฝันของเขา ..... เธอ ถ้าเธอได้มาอ่าน จะด้วยความบังเอิญมั้ย เราก็ไม่รู้ แต่เราก็หวังให้เธอเห็นนะ เรารักเธอ และเธอจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน :') ที่ผ่านมาเราขอโทษนะ เธอทำเต็มที่แล้ว เราเองก็อาจจะทำเธอเหนื่อยหน่อย ขอโทษจริงนะคนดี สู้ต่อไปนะเธอ !!!
ขอบคุณที่ให้พื้นเราระบายครับ 🙏
เลิกกับแฟน เพราะความงี่เง่าของตัวเอง
เราสองคนไม่เคยห่างกันเลย ใช้ชีวิตด้วยกัน
ฮีลกัน หัวเราะร้องไห้ด้วยกัน จับมือกันผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน ปีแรกมันเป็นอะไรที่วิเศษมาก
แต่พอก้าวเข้าปีที่สอง อะไรก็เปลี่ยนไป เราไม่ค่อยมีเวลาให้กัน แฟนเราเป็นบาริสต้าครับและเขารักสายอาชีพของเขามาก เขาทุ่มเทกับงานเขา ซึ่งเราเองก็พยายามซัพพอร์ตเขา เราถึงกับเป็นคนพูดว่า "ไม่ต้องทุ่มเทกับเราก็ได้ไม่เป็นไร พยายามเข้านะคนดี เราเป็นกำลังใจให้เธอ" ตอนที่พูดก็ไม่คิดว่ามันจะลงเอยแบบนี้ . . แฟนเราไปทำงานก่อนใคร และกลับหลังคนอื่นเสมอ(08.30-20.30บางทีก็ดึกกว่านั้น) วันหยุดบางครั้งก็ยังไปช่วยที่ทำงาน ใจของเราคือแบบ เธอโคตรเก่ง เราภูมิใจในตัวเขาแบบที่เราเองก็ไม่สามารถภูมิใจในตัวเองได้(เราก็เป็นบาริสเหมือนกัน) . . แต่อีกใจนึงเราก็คิดถึง เขากลับมามีเวลาแค่นั่งกินข้าวด้วยกัน แต่เขาก็ยังวนเวียนกับที่ทำงานในไลน์(เหมือนงานไม่จบ555) บางทีก็นั่งกินกันเงียบๆ ทั้งที่เมื่อก่อนตอนกินข้าวกัน เราทั้งคู่ต่างคนต่างไม่จับโทรศัพท์ด้วยซ้ำ :') เราเองก็ไม่หนักแน่น เรางี่เง่า น้อยใจเขาบ่อย บางทีก็รู้ว่าเขาเหนื่อยกับงานแล้ว ก็รู้สึกผิดที่จะต้องมาเหนื่อยกับเราอีก จนในที่สุด เราบอกเขาว่า เราลองแยกกันมั้ย อาจจะเป็นเพราะเราไม่เคยห่างกัน เราเลยไม่มีเวลาคิดถึงกันเท่าไหร่ ถ้าลองแยกกันดูอาจจะดีขึ้น ทีแรกเขาก็ไม่หรอก แต่เป็นเพราะเราเอง เราคะยั้นคะยอจนเขายอม แต่เขาก็ยังย้ำว่า เราไม่ได้เลิกกันนะ เราห่างกันเพื่อนให้เรากลับมารักกัน แต่เอาจริงๆใจเรา มันอ่อนไหวมากเลยตอนนั้น เราช่วยเขาจัดแจงย้ายของเข้าห้องจนเสร็จ ทำธุระนู่นนี่ให้ ช่วยเตรียมตัวเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ (เพราะเขาย้ายออกจากบ้านเรา แปลว่าเขาจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอีก เราไม่อยากให้เขาลำบาก) แต่ก็นั่นแหละ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป :') งานยังคงมาที่1 ซึ่งเราไม่มีปัญหา ปัญหาคือ.. ทำไมเรายังไม่คิดถึงกัน เราใช้เวลาถามตัวเองบ่อยมาก ' หรือจะเป็นที่เราวะ เราไปทำอะไรให้เขาเปลี่ยนไปรึเปล่า ' 'หรือเขามีคนอื่นวะ ทำไมเขาไม่สนใจเลย' คิดไปเรื่อย ดูงี่เง่าใช่มั้ยครับ เราก็ว่าเรางี่เง่าแหละ จนเราบอกเลิกเขา เพราะอารมณ์ของตัวเองล้วนๆเลยครับผสมกับความน้อยใจที่อัดอั้นมานาน พอเลิกกันก็เลิกไม่ขาด เราห่วงเขา ห่วงมาก ทางมันเปลี่ยวจะกลับดึกมั้ย ซักผ้ารึยัง กินข้าวรึยัง เป็นผู้หญิงอยู่ห้องคนเดียวมันอันตราย เราเลยยังติดต่อกับเขาอยู่ แต่ก็ในสถานะที่มันครึ่งๆกลางๆ เราบอกเขาว่า เราจะรอเขา จะรอจนกว่าใจเขาจะกลับมาเริ่มรักเราได้บ้าง เขาก็ถามว่าจะไหวหรอ ดูทรมานนะ (ทั้งที่เราบอกเลิกเขาเอง ใช่ครับ เรามันงี่เง่า) แล้วก็วนลูป เขาทำงาน เราน้อยใจ แต่คราวนี้เรารู้สึกว่า อืม มันก็ทรมานจริงๆนั่นแหละ และในที่สุด. . ใช่ครับ เราบอกเขาว่าครั้งนี้เราจะไปจริงๆ เพราะหลังจากที่ผ่านมาหลายอาทิตย์ เขาก็อยู่ได้ เขาโอเค เขาดูแลตัวเองได้ดี เราอาจจะ over protecting ไปเอง เราเลยขอไปเอง ก่อนจะหายไปเราไปหาเขาที่คอนโด ก็ต่างคนต่างร้องไห้ มันพังกันทั้งคู่ เราโทษตัวเองเสมอ เราไม่หนักแน่นเอง เราทำให้ทุกอย่างพังแบบนี้เอง เขาเองก็หนัก ถึงเขาจะไม่แสดงออกมาเราก็พอจะรู้จักนัยตาเขา นั่นมันยิ่งทำให้เราต้องถอย ไม่มีเราสักคน เราคิดว่าเขาจะสบายใจมากขึ้น โฟกัสของเขาจะไปที่งานและความฝันของเขา ..... เธอ ถ้าเธอได้มาอ่าน จะด้วยความบังเอิญมั้ย เราก็ไม่รู้ แต่เราก็หวังให้เธอเห็นนะ เรารักเธอ และเธอจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน :') ที่ผ่านมาเราขอโทษนะ เธอทำเต็มที่แล้ว เราเองก็อาจจะทำเธอเหนื่อยหน่อย ขอโทษจริงนะคนดี สู้ต่อไปนะเธอ !!!
ขอบคุณที่ให้พื้นเราระบายครับ 🙏