การเสนอขายสินค้าหรือบริการในลักษณะที่เข้าถึงตัวผู้บริโภคโดยตรง ที่ไม่ใช่สถานที่ ประกอบการค้าปกติ เรียกว่า “ธุรกิจขายตรง” ส่วนการเสนอขายในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ในรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ โทรศัพท์ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ เรียกว่า“ธุรกิจตลาดแบบตรง”

     ซึ่งการเสนอขายสินค้าหรือบริการในลักษณะดังกล่าว ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 และที่แก้เพิ่มเติม หากการซื้อขายสินค้าหรือบริการจากการขายตรงหรือจากการขายผ่านตลาดแบบตรง ผู้บริโภคสามารถใช้สิทธิเลิกสัญญาหรือขอคืนสินค้าหรือบริการได้ตามที่กฎหมายกำหนด โดยการส่งหนังสือแสดงเจตนาภายในเวลาเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับสินค้าหรือบริการไปยังผู้ประกอบธุรกิจขายตรงหรือผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง สำหรับธุรกิจขายตรง ผู้บริโภคสามารถแจ้งไปยังผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงที่เกี่ยวข้องได้

     เมื่อผู้บริโภคใช้สิทธิเลิกสัญญาหรือขอคืนสินค้าหรือบริการ ผู้จำหน่ายอิสระตัวแทนขายตรงผู้ประกอบธุรกิจขายตรง หรือผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ผู้บริโภคจ่ายไปเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการ ภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแสดงเจตนาเลิกสัญญาจากผู้บริโภค หากไม่คืนเงิน ตามจำนวนและภายในระยะเวลาที่กำหนดจะต้องชำระเบี้ยปรับตามอัตราที่คณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรงประกาศกำหนด คือ เบี้ยปรับให้คิดในอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าชั้นดีรายย่อย (Minimum Retail Rate) ของธนาคารกรุงไทย จากัด (มหาชน) บวกสิบ (MRR.+10) ต่อปี ของจำนวนเงินที่ผู้บริโภคจ่ายไป