เมื่อพูดถึงธุรกิจขายตรง ส่วนใหญ่จะมีแผนการตลาดแบบขายตรงหลายชั้น หรือธุรกิจเครือข่าย หรือ Multi Level Marketing หรือ MLM
พรบ. ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ได้ให้ความหมายไว้คือ
การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการนำเสนอขายต่อผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของผู้อื่น หรือสถานที่อื่นที่มิใช่สถานที่ประกอบการค้าเป็นปกติธุระ โดยผ่านตัวแทนขายตรงหรือผู้จำหน่ายอิสระชั้นเดียวหรือหลายชั้น
ยกตัวอย่างธุรกิจขายตรงที่เคยทุกคนคุ้นเคยกันเช่น แอมเวย์ กิฟฟารีน เป็นต้น โดยตัวแทนขายสินค้าเหล่านี้จะต้องเป็นสมาชิกของบริษัท และไปเสนอขายสินค้าต่อผู้บริโภคโดยตรง เหมือนไม่ผ่านคนกลาง ข้อดีคือ ไม่ต้องสต็อกสินค้า ถือได้ว่า ต้นทุนน้อยมากๆ
ส่วนแชร์ลูกโซ่ นั้น จะมีลักษณะของการชักชวนให้บุคคลอื่นเข้าร่วมเป็นเครือข่าย แล้วมีข้อตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่าย โดยคำนวณจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น
ข้อแตกต่างคือ
ธุรกิจที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ แบบนี้จะไม่เน้นการขายสินค้า ถึงจะมีสินค้าจริง ก็มีสินค้าไม่กี่ประเภท
มีการเรียกเก็บเงินค่าสมัครสมาชิกแพงมากๆ
เน้นให้หาสมาชิกมาสมัครเยอะๆ โดยไม่สนใจในเรื่องการขายสินค้า
ธุรกิจเครือข่าย กับแชร์ลูกโซ่ ต่างกันอย่างไร
พรบ. ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ได้ให้ความหมายไว้คือ
การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการนำเสนอขายต่อผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของผู้อื่น หรือสถานที่อื่นที่มิใช่สถานที่ประกอบการค้าเป็นปกติธุระ โดยผ่านตัวแทนขายตรงหรือผู้จำหน่ายอิสระชั้นเดียวหรือหลายชั้น
ยกตัวอย่างธุรกิจขายตรงที่เคยทุกคนคุ้นเคยกันเช่น แอมเวย์ กิฟฟารีน เป็นต้น โดยตัวแทนขายสินค้าเหล่านี้จะต้องเป็นสมาชิกของบริษัท และไปเสนอขายสินค้าต่อผู้บริโภคโดยตรง เหมือนไม่ผ่านคนกลาง ข้อดีคือ ไม่ต้องสต็อกสินค้า ถือได้ว่า ต้นทุนน้อยมากๆ
ส่วนแชร์ลูกโซ่ นั้น จะมีลักษณะของการชักชวนให้บุคคลอื่นเข้าร่วมเป็นเครือข่าย แล้วมีข้อตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่าย โดยคำนวณจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น
ข้อแตกต่างคือ
ธุรกิจที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ แบบนี้จะไม่เน้นการขายสินค้า ถึงจะมีสินค้าจริง ก็มีสินค้าไม่กี่ประเภท
มีการเรียกเก็บเงินค่าสมัครสมาชิกแพงมากๆ
เน้นให้หาสมาชิกมาสมัครเยอะๆ โดยไม่สนใจในเรื่องการขายสินค้า